102 - เราแค่อยากช่วยคนแต่ทำไมต้องเกิดความเข้าใจผิดทุกครั้ง
102 - เราแค่อยากช่วยคนแต่ทำไมต้องเกิดความเข้าใจผิดทุกครั้ง
หลี่อั้งกรีดร้องอย่างหวาดกลัวและอยากจะลุกหนีจากที่นี่ เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจะนอนอยู่ที่นี่ทั้งคืน เกิดอะไรขึ้น และทำไมเขาถึงมาอยู่ในห้องผู้ป่วยทางจิต
พวกเขาทำอะไรกับฉัน
แต่สิ่งที่เขาหวาดกลัวยิ่งกว่าได้เกิดขึ้นแล้ว
“ขาฉัน ทำไมขาฉันขยับไม่ได้”
"ช่วยด้วย"
หลินฟ่านและเหล่าจางมองหน้ากัน พวกเขาไม่รู้ว่าทำไมหลี่อั้ง ถึงกลัวมากขนาดนี้
เราไม่ได้ทำอะไรเกินเลยกับคุณ มิหนำซ้ำยังช่วยคุณอีกด้วย
พวกเราเห็นคุณนอนอยู่บนพื้นเพราะความเหน็ดเหนื่อยมากเกินไปพวกเราจึงอุ้มคุณขึ้นมานอนบนเตียง จากนั้นจึงให้เหล่าจางฝังเข็มให้คุณเป็นการส่วนตัว
หลี่อั้งจับขาของเขาและมันไม่มีความรู้สึกอะไรเลย
ขาของเขาพิการอย่างสมบูรณ์!
ขาของเขาถูกทำลายโดยผู้ป่วยทางจิตไปแล้ว
พยาบาลและแพทย์ที่อยู่ด้านนอกต่างตกใจกับเสียงร้องไห้ที่น่าสลดใจนี้
“ไม่ต้องกลัว เราช่วยคุณแล้ว” หลินฟ่านกล่าว
“ใช่ ผมให้การฝังเข็มและรมยาแก่คุณแล้ว คุณไม่มีอะไรที่ต้องห่วง” เหล่าจางกล่าวเสริม
หลี่อั้งไม่สามารถฟังคำพูดใดๆในเวลานี้ เขาพยายามดิ้นรนลุกขึ้น และสีหน้าของเขาก็หวาดผวาอย่างถึงที่สุด
ทันทีหลังจากนั้น
กลุ่มแพทย์และพยาบาลบุกเข้ามา พวกเขามีความกลัวตามธรรมชาติต่อ วอร์ด 666 ซึ่งเป็นแผนกที่อันตรายที่สุดในโรงพยาบาลจิตเวชชิงซาน
“หลี่อั้ง คุณมาอยู่ที่นี่ทำไม ผมตามหาคุณมาตลอดทั้งคืนแล้ว” ซุนเหิงกล่าวพร้อมกับรอยคล้ำใต้ตา
เมื่อเห็นหลี่อั้งนอนอยู่บนเตียงของผู้ป่วยด้วยเสื้อผ้าที่เลอะเทอะ เขาก็ปิดปากด้วยความตกใจทันที เขาไม่กล้าพูดอะไรอีก เพราะเขาเห็นความหมายในดวงตาของหลี่อั้ง
หลี่อั้งกลายเป็นของเล่นของผู้ป่วยทางจิตตลอดทั้งคืน ความบอบช้ำทางจิตใจของเขาจะมากแค่ไหนเป็นที่รู้ได้?
"ช่วยผม ช่วยผมด้วย"
หลี่อั้งเป็นเหมือนผู้หญิงตัวเล็กๆที่ถูกรังแกและน้ำตาก็กำลังจะไหลออกมา
หลินฟ่านและเหล่าจางมองหลี่อั้งอย่างลึกลับ จากนั้นพวกเขาก็ต้องการพูดคุยกับพยาบาลและแพทย์เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
พวกเขาก้าวไปข้างหน้าแต่หมอหลายคนต่างก็รีบถอยหลังด้วยความกลัว
หนึ่งในนั้นรีบโทรไปหาผอ. สถานการณ์ปัจจุบันซับซ้อนมาก มีเพียงผอ.เท่านั้นที่สามารถช่วยชีวิตหลี่อั้ง มิฉะนั้นด้วยความสามารถของพวกเขา พวกเขาเกรงว่าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้ป่วยจิตเวชทั้งสอง
สำนักงาน.
ผอ.ฮ่าวกำลังดื่มชาและไล่ตามละครเรื่องล่าสุด ดวงตาของเขาขยับตามการเคลื่อนไหวของนักแสดงสมทบ
ละครเรื่องนี้แย่มาก ถ้าไม่ใช่ว่าเขาไม่มีอะไรทำจริงๆเขาคงไม่มีทางดูมันอย่างแน่นอน
ในขณะนั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้นและเขากดรับสายอย่างรวดเร็ว
“ผอ.มีบางอย่างเกิดขึ้นหลี่อั้ง เขาตกเป็นของเล่นของคนไข้ทั้งสอง ไม่... คนไข้ทั้งสองเล่นกับหลี่อั้งตลอดทั้งคืน ช่วยมาที่นี่หน่อยครับพวกเราไม่ไหวแล้ว”
ผอ.ฮ่าวไม่แสดงสีหน้าใดๆ เขาคุ้นเคยกับมันมานานแล้ว ปฏิกิริยาทางอารมณ์มากเกินไปอาจทำให้อายุขัยสั้นลงโดยไม่จำเป็น ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะแสดงความเฉยเมยออกมาแทน
แพทย์และพยาบาลไม่ได้เริ่มการช่วยเหลือโดยไม่ได้ตั้งใจ
ในการเผชิญหน้าของผู้ป่วยที่อันตรายที่สุดสองคนในโรงพยาบาลจิตเวชชิงซาน
แม้ว่าพวกเขาจะคิดว่าตนเองมีความเชี่ยวชาญดี แต่เมื่อได้มีส่วนร่วมกับผู้ป่วยสองคนนี้แล้ว พวกเขารู้สึกว่าสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปนั้นไร้ประโยชน์
หลี่อั้งมองไปที่สายตาของเพื่อนร่วมงานและเริ่มร้องไห้ขึ้นอีกครั้ง พวกเขาบอกว่าจะเป็นเพื่อนที่ดีของกันและกันตลอดชีวิต แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นคนพวกนั้นกลับทอดทิ้งเขาอย่างเย็นชา
“คุณติดต่อผอ.หรือยัง”
"ติดต่อแล้ว"
“ตอนนี้เรื่องนี้สามารถแก้ไขได้โดยผอ.เท่านั้น มันเกินกำลังความสามารถของเรา”
ขณะที่ผอ.กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ เขาก็เดินไปที่วอร์ด แม้ว่าเขาจะไม่พูดอะไรมากแต่สายโทรศัพท์ของเขาก็ต่อตรงไปยังแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลกลางแล้ว
วอร์ด. 666
“ผอ.อยู่นี่ครับ”
เมื่อพยาบาลเห็นร่างของผอ. เขาก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันใด แม้ว่าจะเป็นเพียงคนธรรมดา แต่ในสายตาของพวกเขา ผอ.ฮ่าวเปรียบเสมือนเทพผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่มีผู้ใดเทียบ
“ผอ. ดูสถานการณ์นี้สิ” นางพยาบาลกล่าว
ผอ.ฮ่าวยกมือขึ้นเพื่อระบุว่าไม่จำเป็นต้องพูด ผมรู้แล้วว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไร สิ่งนี้เขาสามารถแก้ไขได้ง่ายๆด้วยวิชาชีพของเขานั่นเอง
เมื่อเข้าไปถึงจุดเกิดเหตุ
ผอ.ฮ่าว สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อคืนนี้หลี่อั้งทำอะไรกับคนไข้ทั้งสอง หรือผู้ป่วยทั้งสองทำอะไรกับหลี่อั้ง
“นั่งตรงนี้ได้ไหม”
ผอ.ฮ่าวบอกความต้องการของเขาด้วยวิธีการสื่อสารที่เท่าเทียมกัน และพูดอย่างอ่อนโยนที่สุด
"ตกลง" หลินฟ่านกล่าว
"ผมด้วย" เหล่าจางพยักหน้า
พวกเขานั่งบนเตียงอีกข้างอย่างเชื่อฟังและมองไปที่ ผอ.ฮ่าว อย่างเงียบ ๆ
เมื่อเผชิญกับรอยยิ้มและดวงตาเช่นนี้ ผอ.ฮ่าวก็ยิ้มกลับอย่างระมัดระวัง รอยยิ้มของพวกเขาทำให้คนรู้สึกใจสั่นจริงๆ
จากนั้นเขาก็โบกมือให้พยาบาลเคลื่อนย้ายหลี่อั้งออกไปก่อน
หลี่อั้งไม่สามารถขยับขาของเขาได้ เมื่อเห็นผอ.ฮ่าวเสี่ยงที่จะช่วยชีวิตเขา น้ำตาก็ของเขาก็ไหลออกมาและเริ่มร้องไห้คร่ำครวญอีกครั้ง
จนกระทั่งหลี่อั้งถูกย้ายออกจากวอร์ด ผอ.ฮ่าวก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
นับประสาอะไรกับพยาบาลธรรมดาๆที่ทำหน้าที่ลาดตะเวนเท่านั้น แม้แต่ตัวเขาที่เป็นผอของโรงพยาบาลจิตเวชมาหลายปีเขาก็ยังรู้สึกถึงความกดดันครั้งใหญ่
“พวกคุณพักผ่อนต่อเถอะ”
ผอ.ฮ่าวกล่าวด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินไปที่ประตูถ้ำกลางเสียงปรบมือของหมอและพยาบาลทุกคน
"ผอ.ครับ ผมขอบคุณจริงๆ"
หลี่อั้งหลั่งน้ำตาจับมือผอ. ก่อนหน้านี้ไม่มีใครกล้าที่จะขยับตัวด้วยซ้ำ มีเพียงผอ.คนเดียวเท่านั้นที่เดินเข้ามาอย่างกล้าหาญและช่วยเหลือเขาออกจากสถานการณ์อันเลวร้าย
ผอ.ฮ่าว ตบไหล่หลี่อั้งและพูดอย่างมีความหมาย
“ผมไม่สนใจว่าคุณจะอยากเล่นกับพวกเขามากแค่ไหน แต่ในฐานะหมอและคนไข้ พวกเราควรมีเส้นแบ่งที่ชัดเจน”
หลี่อั้งมองไปที่ผอ.ด้วยความตกใจดูเหมือนว่าจะมีปัญหากับสิ่งนี้
“ผอ.ผมไม่ได้” หลี่อั้งกล่าว
วี้หว่อ วี้หว่อ วี้หว่อ
เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น แล้วร่างที่คุ้นเคยก็ดันเปลฉุกเฉินเข้ามา
ผอ.ฮ่าว ยิ้มให้หลี่อั้งด้วยความหมายที่ชัดเจน ขอให้คุณเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นบทเรียนและอย่าให้มันเกิดขึ้นอีก
หลี่อั้ง พบว่าเพื่อนร่วมงานรอบตัวเขากำลังชี้มาที่เขา
เขารู้ว่ามันต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิด
เขาต้องการที่จะอธิบาย
เขาเปิดปากพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง และสุดท้ายก็ส่ายหัวด้วยรอยยิ้มขมขื่น
ในเมื่อเพื่อนร่วมงานไม่มีใครสนใจคำพูดของเขาอยู่แล้ว เขาคงทำได้เพียงแค่ระบายให้กับนางฟ้าของเขาฟัง
ในที่สุดเขาก็ถูกพาตัวไปโดยบุคลากรของโรงพยาบาลกลาง
ภายใน 666 วอร์ด
หลินฟ่านและเหล่าจางนอนอยู่ริมหน้าต่างและมองทิวทัศน์ภายนอก ลมเย็นที่พัดมาทำให้พวกเขารู้สึกสบายมาก
“ดูเหมือนเราจะล้มเหลว” หลินฟ่านกล่าว
"มันน่าจะเป็นแบบนั้น ผมแค่ต้องการช่วยเหลือคนอื่นแต่กลับทำให้ผู้คนเข้าใจผิดมากขึ้น" เหล่าจางกล่าวว่า
ทั้งสองสบตากัน และพวกเขาเห็นความขุ่นเคืองในดวงตาของฝ่ายตรงข้าม
การสื่อสารเป็นเรื่องยากจริงๆ
“ดูนาฬิกาผมสิ” ผู้เฒ่าจางเปิดแขนเสื้อและกางแขนของตัวเองและแสดงให้หลินฟ่านดู
“มันเป็นนาฬิกาที่สวยงาม” หลินฟ่านกล่าว
“ผมก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน ผมบอกว่าจะซื้อให้คุณ ผมกำลังพยายามประหยัดเงินและจะซื้อให้คุณอย่างแน่นอน” เหล่าจางกล่าวอย่างหนักแน่น
(ดึกๆลงเพิ่มอีก 2 ตอนนะครับ)