ตอนที่ 567+568 การลงนามในเอกสาร
ตอนที่ 567 การลงนามในเอกสาร
อาจารย์เตือนเจียงเหยาในการกระทำของเธอด้วยความหวังดี เพราะมีคนมากมายรอดูความล้มเหลวของเธออยู่
เธออายุเพียงสิบเก้าปี อาจารย์กลัวว่าเธอจะรับคำวิจารณ์และคำดูถูกในภายหลังไม่ได้
“ขอบคุณที่เป็นห่วงค่ะ” เธอเข้าใจว่าการจู้จี้เป็นไปเพื่อประโยชน์ของเธอและเธอก็พูดกลับอาจารย์ด้วยความสุภาพ “อย่าห่วงไปเลยค่ะอาจารย์ หนูตามบทเรียนที่ขาดเรียนไปทั้งหมดเรียบร้อยค่ะ หนูจะไม่ทำให้อาจารย์ต้องผิดหวังในการสอบที่จะถึง โปรดเข้าใจว่ามีบางอย่างที่หนูต้องไปทำจริง ๆ ในบ่ายวันนี้ด้วยเถอะค่ะ หนูขอแค่เวลาของบ่ายวันนี้นะคะอาจารย์”
“สามีของคุณเหรอ” อาจารย์ถามพลางขมวดคิ้ว
“เปล่าคะ เป็นเรื่องส่วนตัว” เจียงเหยาตอบ
เห็นได้ชัดว่าอาจารย์ไม่เชื่อเจียงเหยา แต่ไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้ นอกจากอนุมัติให้เธอลาได้ เนื่องจากเธอยืนกรานที่จะขอลาในช่วงบ่ายวันนี้ อธิการบดีเหวินกล่าวว่าพวกเขาควรปฏิบัติต่อเรื่องของเจียงเหยาแตกต่างออกไปจากนักศึกษาอื่นเล็กน้อย รวมไปถึงการลาของเธอด้วย
หลังจากที่เจียงเหยาออกไปพร้อมกับใบอนุมัติ อาจารย์ก็ถอนหายใจและกล่าวว่า “นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาไม่ควรสนับสนุนให้นักศึกษาแต่งงานเร็ว ถ้าต้องเกี่ยวกับครอบครัว พวกเธอแทบจะไม่มีเวลาเรียนเลยเมื่อต้องเป็นกังวลเกี่ยวกับครอบครัว”
แน่นอนว่าเจียงเหยาไม่ทราบความคิดเห็นของอาจารย์ เธอออกจากมหาวิทยาลัยทันทีด้วยรถของเธอ
ทั้งมหาวิทยาลัยรู้ว่าเจียงเหยามีทั้งโทรศัพท์มือถือและขับรถมาเรียน พวกเขาไม่แน่ใจภูมิหลังของเธอนัก แต่หลายคนคาดเดาว่าเธอแต่งงานกับเศรษฐี หรือเธอเป็นลูกสาวของครอบครัวที่ร่ำรวยมาก ๆ
เนื่องจากเจียงเหยาทิ้งความประทับใจที่ดีให้กับหลายคนตอนที่เธอเพิ่งเข้าเรียน จึงไม่มีใครให้ความเห็นเกี่ยวกับรูปแบบการใช้ชีวิตที่ฟุ่มเฟือยของเธอ
เจียงเหยาได้พบกับเหลียงเยวื่อจือที่ดาดฟ้าท่ามกลางบรรยากาศอันอบอุ่นสบาย
เมื่อเข้าไป เธอเห็นเหลียงเยวื่อจือกำลังดื่มชากับทนายความหนุ่มใหญ่ที่นั่งลงตรงข้ามกับเขา
“พี่เหลียง ทำไมพี่ถึงมาคนเดียวล่ะคะ” เจียงเหยาต้องการถามว่าทำไมเขาถึงไม่พาหลัวเหลาหรุนมาด้วย เพราะเธออยากจะมาเที่ยวเมืองหนานเจียงมาโดยตลอด “เหลาหรุนเธอยุ่งอยู่งั้นเหรอคะ?”
เหลียงเยวื่อจือพยักหน้าและพูดว่า “ฉันมาเพื่อดูว่าเธอต้องการความช่วยเหลืออะไรไหม เซ็นเอกสารก่อนเถอะ”
เจียงเหยาทักทายทนายความ “ขอโทษที่รบกวนให้คุณต้องมาถึงหนานเจียงนะคะ”
“อย่าพูดอย่างนั้นเลยครับคุณนายลู่ นี่มันเป็นงานของผม” ทนายเจียงอายุเกินสี่สิบ สวมแว่นหนา เขาแต่งตัวแบบคนหัวโบราณและดูเหมือนจะเป็นคนที่เอาจริงเอาจังอยู่ไม่น้อย
เขาหยิบเอกสารจากกระเป๋าเอกสารของเขาออกมาแล้วยื่นให้กับเจียงเหยาโดยไม่พูดอะไรอีก “นี่คือรายงานทรัพย์สินทั้งหมดของคุณลู่ครับ อ่านรายละเอียดก่อนแล้วเซ็นเอกสารในหน้าสุดท้ายได้เลยครับ เมื่อลงนามแล้ว ก็ถือว่ามีผลทางกฎหมายเลยครับ”
เจียงเหยาถือเอกสารในมือ เธอสังเกตเห็นเหลียงเยวื่อจือจ้องมองเธอ เธอยิ้มให้เขาและเปิดเอกสาร
เธอรู้ว่าลู่ชิงสีเป็นคนมีฐานะร่ำรวย แต่ก่อนที่จะเปิดเอกสารนี้ เธอไม่เคยรู้ว่าเขาร่ำรวยแค่ไหนมาก่อนเลย
__
ตอนที่ 568 ชิงสีไว้ใจเธอ
เหวยฉีพูดถูก ลู่ชิงสีหลงใหลในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์
ลู่ชิงสีมีสมบัติไม่น้อยในเมืองจินโดที่เป็นชื่อของเขา นอกเหนือจากบ้านที่เขามอบโจวเหวยฉี ยังมีเพ้นท์เฮาส์ที่เมืองคินแล้ว เขายังมีวิลล่าขนาดใหญ่อีกสองหลัง มีบ้านอีกห้า-หกหลังหลัง และมีสำนักงานให้เช่าอีกสองแห่ง ซึ่งทั้งหมดตั้งอยู่ในเมืองจินโด
นอกจากนั้น เขายังมีทรัพย์สินสองแห่งในเมืองจิน แม้แต่เจียงเหยาก็ไม่รู้ว่ามีพวกมันอยู่ด้วย
นอกจากนี้ เขายังลงทุนในพันธบัตร กองทุน และหุ้น ที่มีผลการลงทุนที่น่าประทับใจ
“ว้าว! ฉันไม่ได้คิดมาก่อนเลยว่าชิงสีจะรวยขนาดนี้” เจียงเหยากล่าว เธออ่านเอกสารไม่จบแต่พลิกไปที่หน้าสุดท้ายและลงชื่อทันที
“ด้วยสมองที่เขามี เขาคงจะรวยกว่านี้ ถ้าเขาผันตัวมาทำการค้าหลังจากเรียนจบ” เหลียงเยวื่อจือพูดเบา ๆ “เขามีความสามารถในการลงทุน น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศได้ เนื่องจากสถานะทางการงานของเขา ไม่อย่างนั้น เขาสามารถเพิ่มมูลค่าของเขาได้ง่าย ๆ เพียงแค่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์”
ในขณะที่ลู่ชิงสียังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย เขาจัดการการเงินอย่างชาญฉลาด หลังจากได้รับเงินบางส่วน เขาเริ่มต้นลงทุนในหุ้น กองทุน และพันธบัตร ก่อนที่จะกระจายไปสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งปัจจุบันกำลังเป็นที่นิยม
ย้อนกลับไปตอนนั้น เหลียงเยวื่อจือและเพื่อนคนอื่น ๆ ไม่เข้าใจในความกระตือรือร้นของลู่ชิงสี พวกเขาเริ่มลงมือทำหลังจากที่เขาได้วิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองของประเทศเสียก่อน
เช่นเดียวกับที่ลู่ชิงสีเดาไว้ การเปลี่ยนแปลงในนโยบายของประเทศสนับสนุนการอพยพของผู้คนจากพื้นที่เพราะปลูกไปยังเขตเมืองเพื่อทำงาน ความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาบ้านเปลี่ยนแปลงและการปรากฏตัวของนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเวลาต่อมา
ทรัพย์สินที่พวกเขาซื้อร่วมกับลู่ชิงสี โดยแต่ละแห่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปหลายปี
“นี่คือทรัพย์สินทั้งหมดของชิงสี หากยังไม่พอ ฉันมีบางส่วนที่อยู่กับฉัน เราสามารถนำไปประเมินเพื่อดูว่าเราจะสามารถจำนองกับธนาคารได้มากแค่ไหน” เหลียงเยวื่อจือกล่าว “หากไม่พออีก ตระกูลเหลียงก็พอจะมีแหล่งทุนช่วยสนับสนุนเราได้อยู่บ้าง”
“ขอบคุณค่ะ พี่เหลียง!” เจียงเหยารู้สึกประหลาดใจ เธอรู้ว่าบริษัทของเหลียงเยวื่อจือต้องการเงินจำนวนมากในการดำเนินกิจการ นั่นคือเหตุผลที่เธอไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเขาในตอนแรก
เขาอาจมีเงินอยู่ในมือ แต่ในฐานะผู้ชายที่แต่งงานแล้ว ดูเหมือนไม่มีเหตุผลสำหรับเขาที่จะลงทุนด้วยเงินมหาศาลไปกับกิจการของเธอ สิ่งที่เธอไม่คาดคิดคือความช่วยเหลือจากเหลียงเยวื่อจือ
เธอรู้สึกขอบคุณอย่างจริงใจและค่อนข้างตรงไปตรงมา ประทับใจกับท่าทางของเหลียงเยวื่อจือ
นี่หมายความว่าเขาไว้วางใจเธออย่างเต็มที่ ดังนั้นเขาจึงไม่ระแวงเธอเลย
“ชิงสีเชื่อในตัวเธอ และฉันเชื่อใจเขา” ประโยคเดียวก็เพียงพอที่จะอธิบายการกระทำของเหลียงเยวื่อจือ
เขาเชื่อมั่นในความสามารถของเธอ
สำหรับตัวตนของเจียงเหยา เขาตระหนักดีถึงเรื่องนี้ในเมืองจินโด
เมื่อได้รับเอกสารลงชื่อจากเจียงเหยา ทนายเจียงก็ยืนขึ้น “ผมขอตัวไปธนาคารก่อนนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ ทนายเจียง” เจียงเหยายิ้มและให้เบอร์ติดต่อผู้จัดการซุนแก่เขา เรื่องต่อมาจะได้รับการจัดการโดยทนายเจียงและผู้จัดการซุน
เหลียงเยวื่อจือมีความคล้ายคลึงกับลู่ชิงสีมาก เพราะพวกเขาเป็นคนที่ประหยัดคำพูดไม่ต่างกัน
เจียงเหยาและเหลียงเยวื่อจือนั่งอยู่ด้วยกันตามลำพัง หลังจากที่ทนายเจียงจากไปแล้ว
เหลียงเยวื่อจือกำลังดื่มชา ในขณะที่เจียงเหยาก็จิบชาในแก้วของเธอ เธอกำลังคิดหาคำพูดที่จะมาทำลายความเงียบระหว่างพวกเขา