526 - สุสานเซียน
526 - สุสานเซียน
เย่ฟานตั้งใจลงมือโดยการใช้ศิลปะต้นกำเนิดออกมาตรงๆ และสิ่งที่เขาแสดงออกมานั้นยังน่ากลัวมากกว่าหนานกงจี้หลายเท่า
“การละเล่นแบบนี้ข้าชื่นชอบเป็นอย่างมาก หากพวกเจ้าสนใจข้าสามารถเล่นได้ทั้งวัน!” เย่ฟานกล่าวอย่างใจเย็น
ทุกคนที่อยู่ในลานหินใบหน้าเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง
สตรีศักดิ์สิทธิ์ทะเลสาบหยก อันเหมียวอี้ เหยาเยว่กง จินฉีเซียว, เจียงอี้เฟยและคนอื่นๆ อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าไปอย่างหนาวเหน็บ
"อีกสักครู่เจ้าจะได้เห็นกัน" หนานกงจี้สะบัดแขนเสื้อก่อนจะหันหลังและเดินไปอีกทาง
เย่ฟานเดินเข้าไปในส่วนลึกของป่าไผ่ และดวงตาศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็มองเห็นแสงสีนวลขาวที่อยู่ด้านในป่าไผ่นั้น
“หินก้อนนี้มีค่าเท่ากับต้นกำเนิด 250,000 จิน!”
หลี่เหอซุยอุทานใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ หินก้อนนี้เรียกได้ว่ามีราคาแพงมาก เป็นหินที่แพงที่สุดที่เขาเคยเห็น
"สุสานเซียน?!”
เย่ฟานก็ประหลาดใจเช่นกัน หินประหลาดนี้เรียกว่าสุสานเซียน มันมีชื่อแปลก ๆ แต่ก็เข้ากับรูปร่างของมัน
หินก้อนนี้สูงกว่าสองวาและดูเหมือนสุสานโบราณที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางด้านล่างสามวา ที่เปลือกนอกของมันเต็มไปด้วยร่องรอยของเวลา มันดูไม่เหมือนหิน แต่เหมือนป้ายสุสานมากกว่า
“หินก้อนนี้เหมือนสุสานโบราณจริงๆ ถ้าโยนลงไปในสุสานคงยากที่จะแยกแยะ” หลี่เหอซุยรู้สึกประหลาดใจมาก
“พี่น้องทั้งสองเจ้าต้องจับตาให้ดี ไม่ต้องพูดถึงว่าหินก้อนนี้เป็นหินที่เก่าแก่ที่สุดในลานหินแสงโชติช่วง มันยังเป็นสมบัติล้ำค่าของเมืองศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย”
ใครบางคนพยายามกระตุ้นให้เย่ฟานเปิดมัน
“หินก้อนนี้พิเศษมาก ดูเหมือนจะมีลายมือของคนโบราณอยู่ข้างหน้า ในตอนแรกชายชราคนนี้คิดจะรวบรวมต้นกำเนิดจากคนอื่นๆเพื่อเปิดมัน แต่สุดท้ายพวกเราก็ไม่สามารถทำใจได้”
ชายชราอีกคนพูดพลางชี้ไปที่อีกด้านหนึ่งของ "สุสานเซียน" หินก้อนนี้ไม่เพียงเป็นสมบัติของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงช่วงเท่านั้น แต่ยังถือได้ว่าเป็นหินที่เป็นสมบัติเลื่องชื่อของเมืองศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย
เย่ฟานก้าวไปข้างหน้าเพื่อสังเกตอย่างระมัดระวัง และสิ่งที่เขาพบเห็นมันน่าประหลาดใจอย่างมาก มันมีตัวอักษรเล็กๆอยู่ตรงนั้น แต่ไม่ได้คล้ายกับถูกสลักไว้
มันเหมือนกับเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติมากกว่า
“นี่แปลกเกินไป มันเป็นสุสานโบราณตามธรรมชาติจริงๆหรือเปล่า หากมันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติมันจะมีตัวหนังสือได้ยังไง?”
หลี่เหอซุยตกตะลึง เห็นได้ชัดว่าสุสานเซียนมีชื่อเสียงมาก เมื่อเย่ฟานหยุดที่นี่ ชายชราหลายคนก็รวมตัวกันอยู่รอบๆด้วยความปรารถนา
“ในอดีตปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์จงใจค้นหาหินประหลาดเช่นนี้ เขาเคยกล่าวไว้ว่าโลกนี้มีสุสานโบราณซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ภายในนั้นมีสมบัติล้ำค่าที่ประเมินค่าไม่ได้”
“ใช่ หินก้อนนี้ถูกเรียกว่าสุสานเซียน เพราะมันเกือบจะเหมือนกับ สิ่งที่ปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์ค้นหา”
“น้องชายกู่ ผู้เฒ่าคนนี้ขอแนะนำเจ้าว่าหินก้อนนี้มีความพิเศษอย่างยิ่ง และเป็นไปได้มากว่ามันจะเป็นสุสานที่มีสมบัติระดับเซียนถูกผนึกไว้จริงๆ”
ชายชรากลุ่มนี้พยายามกระตุ้นเย่ฟาน พวกเขายกหลายสิ่งหลายอย่างขึ้นมาอ้างเพื่อให้เย่ฟานเปิดหินก้อนนี้ แม้แต่เรื่องราวของปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์หมื่นปีก่อนพวกเขาก็ยังพรั่งพรูออกมามากมาย
เย่ฟานไม่ได้สนใจสิ่งที่ชายชราเหล่านั้นพูด ม่านแสงสีม่วงในดวงตาของเขากะพริบเพื่อกระตุ้นดวงตาศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นเขาก็เดินไปรอบๆหินสองสามครั้งเพื่อไต่ตรองอย่างระมัดระวัง
“เจ้าเห็นอะไรไหมมีศพของเซียนอยู่ข้างในจริงๆหรือเปล่า ถ้าใช่อย่าว่าแต่ดินแดนรกร้างตะวันออกจะเดือดพล่านเลย แม้แต่พวกที่อยู่ในภาคกลางและทะเลทรายตะวันตกก็อาจจะมาที่นี่เพื่อซื้อสมบัติของเจ้า”
เย่ฟานส่ายหัวและกล่าวว่า "แม้ว่าการรับรู้จากสวรรค์ของข้าจะมีความสำเร็จอยู่บ้าง แต่มันก็ไม่ใช่ดวงตาสวรรค์จริงๆ มันไม่ง่ายเลยที่จะแน่ใจว่ามีอะไรอยู่ข้างใน"
มีชายชราคนหนึ่งเตือนเขาจากด้านข้างว่า
“น้องเล็กเจ้าต้องระวัง หากเป็นสุสานโบราณแห่งสวรรค์และปฐพีจริงๆ มันไม่มีทางที่ปรมาจารย์ต้นกำเนิดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงจะปล่อยให้มันมาอยู่ที่นี่ได้”
ใครบางคนโต้กลับทันทีว่า
"หินแปลกๆทุกก้อนเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ข้าคิดว่าหินก้อนนี้คุ้มค่าที่จะต่อสู้"
“ตัวเจ้าก็พูดได้สิเพราะมันไม่ใช่เงินของเจ้าจ่าย ในชีวิตของเจ้าเคยมีต้นกำเนิดบริสุทธิ์ถึง 250,000 จินหรือไม่?”
เย่ฟานยังไม่แสดงความคิดเห็นอะไร กลุ่มชายชราที่อยู่ด้านข้างก็เริ่มทะเลาะกันแล้ว
เขาคุกเข่าลงและสัมผัสร่องรอยบนสุสานเซียนด้วยมือของเขา โดยพยายามตรวจสอบว่าตัวอักษรนั้นถูกเขียนขึ้นมาโดยฝีมือมนุษย์หรือไม่
ในขณะนั้นมีใครบางคนพูดว่า "ตามตำนานเล่าว่าผู้อมตะบางคนเคยมาที่นี่ เขาสัมผัสกับหินก้อนนี้และบอกว่ามันเกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตอมตะจริงๆ แต่ความจริงของเรื่องนี้เป็นอย่างไรก็ไม่มีผู้ใดทราบได้"
ดวงตาของเย่ฟานเปล่งแสงม่วงออกมาอีกครั้ง เขาจ้องมองไปที่ร่องรอยโบราณเหล่านั้น จากนั้นจึงเริ่มเดินบนหินก้อนใหญ่ด้วยความมุ่งมั่นมากกว่าเดิม
“กู่เฟิงมีศิลปะต้นกำเนิดที่ยอดเยี่ยมจริงๆ เพียงแสงสีม่วงจากดวงตาของเขาก็น่าเหลือเชื่อมากพอแล้ว!”
“ข้าไม่ได้พบเจ้าเพียงหนึ่งเดือน ดูเหมือนว่าศิลปะต้นกำเนิดของพี่กู่จะพัฒนาขึ้นอีกครั้งแล้ว”
องค์ชายเซี่ยที่อยู่ด้านข้างกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เย่ฟานเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยและใช้แสงศักดิ์สิทธิ์ในดวงตาของเขาส่องดูร่างกายของสตรีหลายคนโดยไม่เจตนา
หลี่เหอซุยเห็นเช่นนั้นก็รู้สึกไม่พอใจจึงกล่าวออกไปเบาๆว่า
"จริงจังกว่านี้หน่อย!"
ขณะที่เย่ฟ่านยืนขึ้นเขาเห็นหมอกสีขาวปกคลุมร่างกายของสตรีศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่รอบๆ ทำให้เขาพลาดโอกาสอันดีงามไปอย่างน่าเสียดาย
หลี่เหอซุยที่เต็มไปด้วยความอิจฉาก็ทุบหลังเย่ฟ่านและกล่าวว่า
"ควบคุมสัตว์ร้ายในตัวเจ้าด้วย"
“ทำไมพี่กู่เฟิงถึงหน้าแดงล่ะ” อันเหมียวอี้หัวเราะ
นางเป็นที่รู้จักในฐานะหญิงงามที่สุดในดินแดนรกร้างตะวันออก รอยยิ้มของนางสร้างความลุ่มหลงให้กับผู้คนมากมาย แล้วตอนนี้นางกำลังสัพยอกเย่ฟ่านอย่างรู้ทัน
เย่ฟานไอและพูดว่า "การเลือกหินมันเหนื่อยมากจริงๆ"
“น้องชายเจ้าอยากพักสักหน่อยหรือไม่” เหยาเยว่กงถามด้วยความเป็นห่วง
หลี่เหอซุยเหยียบริมฝีปากเย้ยหยันและกล่าวว่า
"อย่ากังวลไปเลย เขาจะไม่เพียงสบายดี แต่โลหิตของเขายังสูบฉีดมากเกินไปอีกด้วย"
อันเหมียวอี้ก็มีสีหน้ารู้ทันโดยนางกล่าวพลางหัวเราะว่า
"กู่เฟิงไม่คิดว่าเจ้าจะเป็นคนขี้อายแบบนี้"
หลี่เหอซุยได้ทีก็สอดแทรกขึ้นมาว่า
"คุณหนูเหมียวอี้ผู้สูงศักดิ์ ด้วยความงามอันทรงเสน่ห์ของเจ้ามันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วที่น้องชายของข้าจะไม่สามารถต้านทานได้"
หญิงสาวหลายคนที่อยู่ในบริเวณต่างมีสีหน้างงงวย พวกนางไม่เข้าใจว่าสิ่งที่พวกเขาพูดคุยกันอยู่นั้นหมายความว่าอย่างไร
เย่ฟานส่งเสียงกระแอมเพื่อหยุดหลี่เหอซุยและพยายามเปลี่ยนเรื่อง
“ข้าไม่เป็นไร ข้าเพิ่งใช้ความพยายามบางอย่างในตอนนี้ ได้พักสักหน่อยก็คงดีขึ้น”
สตรีศักดิ์สิทธิ์หลายคนยิ้มและมีท่าทางเห็นใจ แม้แต่คนที่อยู่ข้างๆอย่างพวกนางก็ยังรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเล็กน้อยไม่ต้องพูดถึงเย่ฟ่านที่ใช้ดวงตาศักดิ์สิทธิ์อย่างต่อเนื่อง
"น้องกู่ เจ้าจะเลือกหินก้อนนี้หรือไม่" ชายชรากลุ่มหนึ่งเป็นกังวลต่อเรื่องนี้อย่างมาก และหนึ่งในนั้นกล่าวว่า
"บางทีอาจมีขุมทรัพย์อมตะอยู่ในนั้น"
“ถ้าหินก้อนนี้เป็นหลุมศพเซียนที่ถูกปิดผนึกจริงๆมันคงไม่อยู่ที่นี่ตั้งแต่แรกแล้ว?” เย่ฟานส่ายหัวและเขาก็ไม่สามารถบอกได้
ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในสวนหินและมองเห็นแสงสว่างบางอย่าง เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในดวงตาสวรรค์ของเขาก็มองเห็นสิ่งที่อยู่ข้างในหินก้อนนั้น
“ต้นกำเนิดแห่งสวรรค์”
หินแปลกๆก้อนนั้นมีต้นกำเนิดสวรรค์ซึ่งมีขนาดเท่ากำปั้นอยู่ข้างใน มันทำให้เขารู้สึกดีใจเล็กน้อย
ต้นกำเนิดสวรรค์ชิ้นนี้มีมูลค่า 70,000 จิน ซึ่งเขาสามารถแยกซื้อมันโดยไม่นำมาเป็นสิ่งที่ใช้ในการประลองได้
เย่ฟานชั่งน้ำหนักหินก้อนใหญ่ในมือสองสามครั้งแต่ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เขาโยนก้อนหินนี้ออกไปอย่างรวดเร็ว
"บูม"
รัศมีระเบิดนั้นรุนแรงจนน่าเหลือเชื่อ โดยที่แสงสีทองสาดกระจายไปทุกทิศทุกทาง
“กลิ่นอายแห่งต้นกำเนิดสวรรค์!”
ทุกคนประหลาดใจ และในขณะเดียวกันก็รู้สึกตื่นตระหนกด้วยความกลัว พลังศักดิ์สิทธิ์ที่ระเบิดออกมาอย่างกะทันหันก็เพียงพอที่จะทำให้ตัวตนระดับผู้สูงสุดได้รับบาดเจ็บสาหัส