ตอนที่แล้ว524 - สวนหินของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป526 - สุสานเซียน

525 - การประลองที่เต็มไปด้วยอันตราย


กำลังโหลดไฟล์

525 - การประลองที่เต็มไปด้วยอันตราย

การประลองศิลปะต้นกำเนิดยังไม่เริ่มต้นแต่บรรยากาศก็เต็มไปด้วยความกดดันถึงขีดสุด แม้กระทั่งผู้คนที่มาจากกลุ่มเดียวกันก็ยังเริ่มขัดแย้งกันแล้ว

ใกล้ๆกันนั้นกลุ่มผู้ชมต่างเหล่ตา วันนี้ต้องเป็นศึกมังกรปะทะพยัคฆ์ ต่างฝ่ายต่างแสดงความมั่นใจ และอารมณ์ของพวกเขาก็เกรี้ยวกราดอย่างถึงที่สุด

ในบรรดาคนเหล่านี้มียอดฝีมือรุ่นอาวุโสมากมายปรากฏตัวขึ้น ทั้งจากเผ่าพันธุ์มนุษย์และเผ่าพันธุ์อสูร

ในขณะที่บุคคลรุ่นเยาว์ก็ประกอบด้วยบุตรศักดิ์สิทธิ์ของดินแดนรกร้างตะวันออกรวมทั้งราชันย์ศักดิ์สิทธิ์รุ่นเยาว์ของตระกูลขุนนางโบราณ การประลองกันนี้จึงกลายเป็นจุดสนใจของทุกคนอย่างสมบูรณ์

การเผชิญหน้าระหว่างศิลปะต้นกำเนิดระดับปรมาจารย์นั้นหาได้ยากในศตวรรษนี้ ยิ่งไปกว่านั้นมีการเดิมพันที่น่าทึ่งเป็นจำนวนต้นกำเนิดบริสุทธิ์ถึง 1.5 ล้านจินซึ่งไม่ปรากฏขึ้นมาหลายพันปีแล้ว

ชายชราจากตระกูลขุนนางโบราณที่เชี่ยวชาญศิลปะต้นกำเนิดเดินเข้าหาเย่ฟานและกล่าวว่า

"เพื่อนตัวน้อยเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า”

หัวใจของเย่ฟ่านสั่นเทา เขารู้สึกอันตรายเล็กน้อยจึงหันไปหาหลี่เหอซุยและกล่าวว่า

"ติดตามอยู่ข้างหลังข้าแต่อย่าเข้าใกล้มากเกินไป ชายชราเหล่านี้ไว้ใจไม่ได้"

"ชายชราผู้นี้จะกล้าฆ่าคนในที่สาธารณะจริงหรือ?" หลี่เหอซุยประหลาดใจ

"คาดว่าเขาไม่กล้า" เย่ฟานกล่าว

เย่ฟานก้าวไปข้างหน้าและเผชิญหน้าชายชราทั้งสี่อย่างสงบ โดยไม่ได้แสดงความอ่อนแอของคนรุ่นเยาว์และกล่าวขึ้นว่า

“ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสคนไหนจะเป็นคนที่ประลองกับข้า?”

“มาเถอะเด็กน้อย”

ชายชราที่พูดเป็นยอดฝีมือรุ่นอาวุโสของตระกูลหนานกง ชื่อเสียงของเขาเลื่องลือในด้านศิลปะต้นกำเนิดมาหลายสิบปีแล้ว เขาคือหนานกงจี้

หลังจากที่เย่ฟ่านรู้ถึงตัวตนของฝ่ายตรงข้าม เขาก็พูดอย่างสงบว่า

"ผู้อาวุโสหนานกง กฎของเราเป็นอย่างไร"

“นอกเหนือจากการเดิมพันต้นกำเนิดบริสุทธิ์ 1.5 ล้านจินแล้ว ผู้ชนะยังสามารถครอบครองสมบัติของฝ่ายตรงข้ามด้วย” หนานกงจี้กล่าวด้วยรอยยิ้ม

“เอาอย่างนั้นก็ได้!”

"ข้ายังพูดไม่จบ" ชายชราส่ายหัว

“ยังมีอะไรอีก” เย่ฟานถาม

“หนึ่งล้านห้าแสนจินไม่ใช่จำนวนเล็กน้อย การเดิมพันรอบเดียวไม่สามารถแสดงความแข็งแกร่งในศิลปะต้นกำเนิดได้ เพราะบางทีเรื่องนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับดวง ข้าคิดว่าพวกเราควรเลือกหินคนละสามก้อนเป็นอย่างไร?”

“ข้าเห็นด้วย!” เย่ฟานพยักหน้า

ผู้คนที่อยู่รอบข้างตามแสดงความตื่นเต้นออกมา ในตอนแรกพวกเขาคิดว่าการเดิมพันเพียงรอบเดียวอาจจะจบลงอย่างง่ายดายมากเกินไปทำให้พวกเขาไม่สามารถเติมเต็มความต้องการของตัวเองได้

แต่เมื่อการประลองเปลี่ยนมาเป็นเลือกหินคนละสามก้อน ความตื่นเต้นของการประลองครั้งนี้จะพุ่งทะยานจนถึงขีดสุด

“งั้นก็เลือกหินเถอะ” หลังจากที่หนานกงจี้พูดจบเขาก็เดินเข้าไปในป่าไผ่ก่อน

สวนหินระดับสวรรค์เต็มไปด้วยเสียงรบกวน ตัวตนระดับผู้อาวุโสและชนชั้นสูงรุ่นเยาว์ต่างติดตามกันเพื่อดูว่าพวกเขาเลือกหินอย่างไร

เย่ฟานก้าวไปข้างหน้าช้าๆ ในเมื่อไม่ใช่การประลองรอบเดียวเขาจึงไม่จำเป็นจะต้องค้นหาให้รวดเร็วนัก

ในสวนหินระดับสวรรค์มีหินแปลกๆมากมายที่ราคาสูงเสียดฟ้า ซึ่งแต่ละก้อนมีความพิเศษและน่าทึ่ง สำหรับราคาก็แทบจะทำให้ไม่กล้าแตะต้องเลยทีเดียว

ในสถานที่ที่มีแสงแดดส่องเบาบาง เย่ฟานเห็นหินประหลาดชิ้นหนึ่งซึ่งมีมูลค่าถึง 120,000 จินถูกจัดวางอย่างปราณีตอยู่ตรงนั้น

หินก้อนนี้มีความพิเศษมาก มีลักษณะเป็นทรงกลมบริบูรณ์ราวกับสร้างจากช่างฝีมือสวรรค์ มันมีเส้นผ่านศูนย์กลางหนึ่งวา และปลดปล่อยความอบอุ่นเล็กน้อย

"สิ่งนี้ต้องเกิดขึ้นจากการขัดเกลาโดยมนุษย์!"

หลี่เหอซุยค่อนข้างมั่นใจ แม้แต่โลกใหญ่นี้ว่ากันว่ามันยังไม่เป็นทรงกลมที่สมบูรณ์

เคยมีคนโบราณบางคนกล่าวไว้ว่าสวรรค์จะไม่สร้างสิ่งที่มีรูปทรงสมบูรณ์แบบ เส้นตรง สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม หรือวงกลมที่สมบูรณ์แบบก็อยู่ในสิ่งของจำพวกนั้น

“เพื่อนตัวน้อยของข้าเจ้าเดาผิดแล้ว หินก้อนนี้เกิดมาแบบนี้ตั้งแต่แรก ไม่มีผู้ใดสร้างมันขึ้นมาอย่างแน่นอน” ชายชราคนหนึ่งเดินเข้ามาด้วยไหร่ยิ้ม

"เจ้าลองสัมผัสดูสิ หินก้อนนี้ยังคงความร้อนทางพื้นผิว นั่นแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่อยู่ด้านในจะต้องเป็นสิ่งที่มีความร้อนอย่างแน่นอน

ในตอนนั้นมีผู้คนมากมายต้องการที่จะเปิดมัน หากไม่ใช่ว่าปรมาจารย์ต้นกำเนิดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงกล่าวว่าข้างในอาจจะมีสิ่งของที่มีมูลค่าไม่มาก ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงคงเปิดมันไปเองแล้ว"

เย่ฟานก็มีความรู้สึกว่าหินก้อนนี้น่าจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติโดยไม่มีผู้ใดสร้างขึ้นเช่นกัน

หินแปลกๆนี้เรียกว่า "ตัวอ่อนปีศาจ" บางคนคาดเดาว่าอาจมีวิญญาณบริสุทธิ์อยู่ภายใน ซึ่งมีค่ามากกว่าหินรูปมนุษย์แห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์เต๋าที่เย่ฟานเคยเปิดก่อนหน้านี้

กลุ่มชายชรานี้ไม่ได้แสดงความคิดเห็นมากเกินไป เนื่องจากปรมาจารย์ศิลปะต้นกำเนิดปฏิเสธหินก้อนนี้ พวกเขาจึงไม่ได้คาดหวังกับหินก้อนนี้มากเกินไป

เย่ฟานไม่สามารถหาข้อสรุปที่แท้จริงได้ เขายืนอยู่ที่นี่เป็นเวลานานก่อนจะจากไป

แต่ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีม่วง เขาสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างและรีบก้าวตามแสงสีม่วงที่ดวงตาของเขามองเห็นอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตามในขณะนี้หินแปลกๆที่เขาพบเห็นกลับแตกออกเป็นเสี่ยงๆในทันที ก่อนที่เปลวไฟที่มีลักษณะคล้ายมังกรจะพุ่งเข้าหาเย่ฟาน

เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนตะลึงและไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น มีเพียงเย่ฟานเท่านั้นที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หนานกงจี้ที่อยู่ด้านข้างมีสีหน้ายินดีขึ้นชั่วขณะหนึ่ง

หินแปลกๆนี้เรียกว่า "สีแดงเพลิง" ซึ่งสิ่งที่อยู่ภายในคือปราณของมังกรไฟซึ่งจะระเบิดออกมาทันทีที่ถูกกระตุ้น

และปราณมังกรไฟที่ระเบิดออกมาก็เพียงพอที่จะสังหารยอดฝีมืออาณาจักรสี่สุดขั้วอย่างง่ายดาย!

เย่ฟานรีบถอยหนีและหลีกเลี่ยงผลกระทบของปราณมังกรไฟอย่างรวดเร็ว

“วู้ว!”

แสงสีทองพุ่งออกมา อสูรตัวน้อยสีทองอ้าปากและดูดกลืนปราณต้นกำเนิดสีแดงสดเข้าไปด้วยสีหน้าตื่นเต้น หลังจากนั้นมันก็ส่งเสียงร้องจิ๊กๆด้วยความพอใจ

“ไม่คิดว่าเจ้าตัวเล็กนี่จะช่วยเจ้า!” หลี่เหอซุยหัวเราะ

อสูรน้อยสีทองหยุดส่งเสียงหัวเราะในทันทีที่ได้ยินคำพูดของหลี่เหอซุย มันหันหน้าไปทางเย่ฟานในขณะที่โบกไม้โบกมือและแสดงความโกรธออกมา

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

ผู้พิทักษ์ลานพนันหินออกมาข้างหน้า หินก้อนนี้มีมูลค่าเท่ากับต้นกำเนิดบริสุทธิ์ 30,000 จิน การที่มันพังทลายลงแบบนี้จะต้องมีคนรับผิดชอบ

"เจ้าเด็กน้อยนั่นมีความรู้อ่อนด้อยเกินไป ทันทีที่เขาสัมผัสก้อนหินเขาก็ทำให้มันระเบิดแตก ดังนั้นเขาควรจะชดเชยค่าเสียหายนี้ให้กับดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วง"

เด็กหนุ่มจากตระกูลขุนนางโบราณศิลปะต้นกำเนิดพูดพลางมองเย่ฟานด้วยแววตาเยาะเย้ย

“เจ้าบ้า เห็นได้ชัดว่าเจ้ามีเจตนาชั่วร้าย พวกเจ้าช่างไร้ยางอายจริงๆ!” หลี่เหอซุยสาปแช่ง

เด็กอีกคนหนึ่งจากตระกูลขุนนางโบราณที่เชี่ยวชาญศิลปะต้นกำเนิดก็คิดจะกล่าวประชดประชันต่อไปแต่เย่ฟ่านก็ยกมือขึ้นและกล่าวว่า

“ตกลง ข้าจะจ่าย!”

เขามองไปที่หนานกงจี้ที่ยังคงแสดงท่าทีกระหยิ่มยิ้มย่อง

ในขณะเดียวกันเด็กหลายคนจากตระกูลขุนนางต่างเยาะเย้ย และเสียดสีโดยไม่ปิดบัง

นี่เป็นบทเรียนแรกสำหรับคู่ต่อสู้ดังนั้นพวกเขาจึงพยายามสร้างแรงกดดันต่อเย่ฟานให้มากขึ้น

“เด็กน้อยที่ไม่รู้จักความใหญ่โตของสวรรค์และปฐพี สุดท้ายพวกเจ้าจะนำพาความตายมาหาตัวเอง” ผู้อาวุโสสูงสุดของวังห้าธาตุหลี่ยี่ซุยเยาะเย้ยซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“ไอ้แก่นี่...”

หลี่เหอซุยขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ แต่เย่ฟานคว้าตัวเขาและเดินไปข้างหน้าสองสามก้าวอย่างสบายๆก่อนจะกระทืบพื้นเบาๆ

“บูม”

เสียงระเบิดดังขึ้นในบริเวณใกล้เคียงและเด็กหนุ่มจากตระกูลขุนนางโบราณสองคนก็ถูกคลื่นระเบิดกระแทกจนร่างกายแหลกเหลว

โชคดีที่ผู้อาวุโสของพวกเขาอยู่ใกล้ๆจึงสามารถรักษาชีวิตของพวกเขาไว้ได้ทันเวลา

ถัดจากพวกเขาหินประหลาดได้พังลงมา และแก่นแท้ของ ปราณมังกรไฟที่บรรจุอยู่ภายในก็บินออกมาจู่โจมเด็กหนุ่มที่เหลืออย่างไร้ความปราณี

“เคล็ดวิชาแปลงมังกรปฐพี!” สีหน้าของหนานกงจี้เปลี่ยนไปอย่างรุนแรง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด