ระบบเส้นทางแห่งสวรรค์ บทที่ 101 สัมผัสสายฟ้า (ฟรี)
ขณะที่สายฟ้ากำลังช็อตเขาอยู่เรื่อยๆ วาเรี้ยนก็รู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่คล้ายคลึงกันแต่แตกต่างออกไปจากภายในร่างกายของเขา
สิ่งนั้นทำให้เขารู้สึกมีเรี่ยวแรงมากขึ้นและตื่นตัว
“ฮ่าๆๆ” ดวงตาของวาเรี้ยนเบิกกว้างและเขาไม่รู้สึกมึนงงอีกต่อไปแล้ว
แม้ว่าความเจ็บปวดจะยังอยู่แต่ก็เจ็บปวดน้อยลงกว่าเดิมมาก ที่สำคัญความรู้สึกมึนงงลดลง
'ฉันต้องออกไปจากที่นี่' วาเรี้ยนมองขึ้นไปบนผิวน้ำและคาดเดาว่าเขาน่าจะมาสุดขอบอาณาเขตของพวกมันแล้วเพราะตอนนี้เริ่มที่จะไม่ค่อยมีลิงมายืนรออยู่ที่แม่น้ำแล้ว
'ไปเลยย!'
สายฟ้ายังคงโจมตีลงมาในแม่น้ำอย่างต่อเนื่อง และวาเรี้ยนก็สามารถสัมผัสได้ถึงน้ำที่อยู่รอบๆตัวของเขาได้ดีขึ้น
ร่างกายของเขายังคงกระตุกอยู่แต่ตอนนี้เขารับมือกับมันได้ดีมากกว่าเดิมเยอะแล้ว
เขารีบว่ายผ่านอาณาเขตของพวกลิงไปเพื่อมันจะได้ไม่สามารถโจมตีเขาต่อไปได้
“อุกะๆๆ!”
“อุกะๆๆ!”
แต่พวกลิงก็ยังคงสาดสายฟ้าลงมาในแม่น้ำ
แม้จะพวกมันจะมีสติปัญญาที่น้อยกว่ามนุษย์ แต่พวกมันก็รู้ว่าระดับ 3 จะไม่รอดจากการโจมตีครั้งนี้อย่างแน่นอน เพราะการโจมตีนั้นถูกสาดลงมาอย่างต่อเนื่องและทั่วถึง ในไม่ช้ายังไงก็ต้องขึ้นมาจากน้ำ
ถ้าหากว่าเขาไม่ขึ้นมารอยเลือดของเขาจะเป็นเครื่องหมายบอกทางให้พวกมันโจมตีไปใส่เขาเอง
การใช้สายฟ้าโจมตีไปทั่วทั้งแม่น้ำ? การโจมตีด้วยสายฟ้าจะทำให้มึนงง แถมยังทำให้เคลื่อนไหวได้ยากมากและถ้าหากว่าพวกมันโจมตีลงมาต่อเนื่องเรื่อยๆจนร่างกายของเขารับไม่ไหวจะทำให้เขาเป็นอัมพาตได้
แต่วาเรี้ยนก็ได้แหกทุกกฎที่พวกลิงคิดว่าจะเป็นไปทั้งหมด
ข้อแรก เขาอยู่ห่างจากผิวแม่น้ำมากทำให้การโจมตีอย่างสายฟ้าแผ่วเบาลงไปเยอะ
ข้อสอง รอยเลือดของเขาถูกทำให้ไม่ลอยขึ้นบนผิวน้ำด้วยพลังอวกาศของเขา
และข้อที่สาม แม้ว่าเขาเกือบจะเป็นอัมพาตจากการโจมตีด้วยสายฟ้า แต่การตื่นขึ้นในเส้นทางสายฟ้าทำให้เขาชินกับสายฟ้ามากขึ้น
พวกลิงสีทองไม่มีตัวไหนรู้ว่า 'โจร' ที่ขโมยของสำคัญอันล้ำค่าของพวกมันได้หนีไปแล้ว
แต่ตอนนี้โจรคนนี้ก็มีปัญหากับบาดแผลของเขาเองเหมือนกัน
วาเรี้ยนไม่ได้อยู่ในสภาพที่เหมือนคนปกติเลยสักนิด แม้จะต้านทานสายฟ้าได้มากขึ้นทำให้ไม่รู้สึกมึนงงแต่ร่างกายของเขาก็ยังเป็นอัมพาตบางส่วนอยู่ดี ทำให้เขาลำบากมากในการขยับตัวแต่ละครั้ง
บาดแผลบนร่างกายของเขาก็แย่เช่นกันเนื้อของเขาเป็นรอยไหม้อยู่หลายที่ทั่วร่างกาย
'ไปอีกสักหน่อยแล้วกัน' แม้ว่าอาการบาดเจ็บของเขาจะแย่มากแต่เขาก็ยังคงตัดสินใจที่จะไปให้ไกลกว่านี้
แม้ว่าเขาจะรอดจากการโจมตีของพวกมัน แต่ตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้ออกจากอาณาเขตของภูเขาไปซะทีเดียว
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าลิงพวกนั้นอยู่ใกล้ๆและยังคงเฝ้าดูแม่น้ำอยู่
วาเรี้ยนจึงอยากที่จะไปให้ไกลกว่านี้ แม้ว่าเขาจะหมดแรงแต่เขาก็ยังพอที่จะว่ายน้ำได้
'ไกลกว่านี้'
ตอนนี้เขาจะรู้สึกว่าต้องออกจากอาณาเขตของภูเขาเท่านั้นถึงจะรู้สึกปลอดภัยจากพวกมัน
แต่ละวินาทีของเขายาวนานมากเพราะต้องทนกับความเจ็บปวดตลอดเวลา
ในที่สุดเขาก็ว่ายออกมาไกลมากและขึ้นมาบนผิวน้ำ
หยดน้ำไหลลงมาตามเนื้อที่ไหม้เกรียมและผิวหนังที่มีเลือดออกของเขา เขารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก
แต่ตอนนี้เขารอดแล้ว!
“ฮะฮะๆๆ!” วาเรี้ยนสูดหายใจเข้าลึกๆและอากาศก็เต็มปอดของเขาอีกครั้ง เขาดำอยู่ใต้น้ำเกือบครึ่งชั่วโมงเต็ม
เขากระจายความรู้สึกในอวกาศของเขาและฟังเสียงรอบๆ หลังจากมั่นใจว่าไม่มีศัตรูในบริเวณใกล้เคียง เขาก็ขึ้นฝั่งทันที
"โอ้ว" เขาก้าวเท้าแรกขึ้นจากน้ำและเขาเกือบที่จะสะดุดล้ม
วาเรี้ยนเหลือบมองที่ขาของเขาและรู้เหตุผลที่เขาสะดุด ขาของเขาเป็นเหมือนท่อนไม้ที่ไหม้เกรียมที่ติดอยู่กับตัวเขา
'ฉันใช้ยารักษาดีไหมเนี้ย' เขาคิดและดูของในแหวนอวกาศของเขาตอนนี้ยารักษาเหลือเพียงแค่ 3 ขวดเท่านั้น
แต่เขาก็ตัดสินใจที่จะไม่ใช้ยารักษา
'ฉันอาจจะต้องติดอยู่ที่นี่อีกนาน เก็บเอาไว้ใช้ในสถานการณ์ที่แย่กว่านี้น่าจะดีกว่า'
ตอนนี้เขาพยายามใช้สัมผัสต่างๆเพื่อหาที่หลบภัยสำหรับตัวเองในตอนนี้ เมื่อเขาพยายามจะใช้สัมผัสเพื่อหาที่หลบภัยทำให้เขารู้สึกถึงสิ่งที่ต่างออกไปจากเมื่อก่อน เขารู้สึกว่ากำลังเชื่อมต่อกับอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาสัมผัสได้ทุกอย่างในบริเวณนี้
'สถานะ'
[เส้นทางร่างกาย ระดับ 3: 5/400
เส้นทางอวกาศ ระดับ 2: 40/200
เส้นทางสายฟ้า ระดับ 1: 0/100]
'เส้นทางสายฟ้าเหรอ' เขาหลับตาลงและรู้สึกถึง 'ออร่า' ใหม่ที่กำลังไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเขา
ออร่าสายฟ้า
'ฉันค่อยไปลองใช้มันอีกทีตอนที่เจอที่หลบภัยดีๆแล้วกัน' วาเรี้ยนเข้าไปในป่าและเขารู้สึกได้ถึงสัตว์เวทมนตร์สองสามตัวจากระยะไกลทำให้หลีกเลี่ยงการต่อสู้กับพวกมันได้
ตอนนี้เขาสามารถฆ่าสัตว์เวทมนตร์ระดับ 3 ได้แต่ตอนนี้ถ้าเข้าไปสู้อาจจะเป็นอันตรายกับเขาได้ เขาจึงพยายามที่จะเลี่ยงพวกมัน
ขณะที่เขาเดินผ่านป่า ต้นไม้สูงที่มีใบสีทองทำให้เขารู้สึกไม่ปลอดภัยเพราะตอนนี้เขาอคติกับสิ่งของที่มีสีทองไปแล้ว
'ไอ้พวกลิงเวร' วาเรี้ยนสถบออกมาเบาๆ
หลังจากเดินไปเรื่อยๆและสังเกตดูสถานที่รอบๆ เขาก็พบต้นไม้ใหญ่ที่เหี่ยวเฉาที่กำลังจะตายแต่มีโพรงขนาดใหญ่อยู่และมันใหญ่พอที่จะให้มนุษย์เข้าไปได้
'ไม่มีสิ่งมีชีวิตข้างใน' วาเรี้ยนลองใช้หูฟังและเข้าไปในโพรง
"อั๊ก!" ในที่สุดเขาเลิกใช้ Space Binding ที่ห่อเลือดเอาไว้
"สาดดด"
"สาดด"
เลือดที่ถูกคุมพื้นที่เอาไว้ด้วย Space Binding ตกลงมาและย้อมพื้นที่เขาเหยียบอยู่ให้กลายเป็นสีแดง ใบหน้าของวาเรี้ยนซีดขาวแต่เขาก็สงบสติอารมณ์และนั่งลง
จากนั่นแปปเดียวเลือดของเขาก็หยุดไหล เขาเป็นผู้ปลุกร่างกายระดับ 3 ความเร็วในการรักษาของเขาเร็วกว่ามนุษย์ทั่วไปหลายเท่า
'สองชั่วโมง' วาเรี้ยนประเมินเวลาที่จะรักษาบาดแผลให้หายสนิทและตอนนี้เขาต้องการที่จะลองอะไรหลายๆอย่างกับเส้นทางสายฟ้า
'ระบบแกช่วยบอกอะไรที่เป็นประโยชน์กับฉันทีเหอะ'
[เส้นทางสายฟ้า: 0/100
สัมผัสสายฟ้า: สัมผัสออร่าสายฟ้ารอบตัวคุณ
พลังสายฟ้า: ใช้ออร่าสายฟ้าในร่างกายของคุณเพื่อสร้างสายฟ้า]
วาเรี้ยนหลับตาลงและใช้สัมผัสสายฟ้าทันที
ด้วยประสบการณ์ของเขาตอนที่ฝึกใช้สัมผัสอวกาศ เขาจึงสามารถเข้าใจได้ว่าสิ่งที่ระบบกำลังพูดถึงคืออะไร
มันคล้ายกับความรู้สึกอวกาศแตกต่างตรงที่เขาต้องมองโลกผ่านอวกาศ แต่สัมผัสสายฟ้าเขาสามารถสัมผัสออร่าสายฟ้ารอบๆเขาได้แทน
ด้วยออร่าสายฟ้าวาเรี้ยนสามารถ 'มองเห็น' บริเวณโดยรอบได้เพราะที่นี่เป็นดันเจี้ยนสายฟ้า
'แต่นี่เป็นทักษะที่มีข้อจำกัดเยอะแยะเลยไม่ใช่หรือยังไง? แล้วถ้าไม่มีออร่าสายฟ้าบริเวณนี้ฉันจะสัมผัสอะไร?' วาเรี้ยนสงสัย
แล้วถ้าไม่มีออร่าสายฟ้าในอากาศ แต่มีแค่ออร่าอย่างเดียว
'ฉันสัมผัสออร่าสายฟ้าจากออร่าปกติทั่วไปอย่างงั้นหรอ?' วาเรี้ยนรู้สึกสับสน
ออร่าเป็นสิ่งที่มาจากการผสมผสานของพลังชี่ พลังอวกาศ และอื่นๆ หรือว่าออร่าคือต้นกำเนิดของสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดงั้นหรอ?
งั้นก็หมายความว่า พลังชี่ พลังอวกาศ พลังสายฟ้า และพลังอื่นๆ มีต้นกำเนิดมาจากออร่าและออร่าก็แตกตัวเป็นพวกมันอีกที?
หลักการเหล่านี้ไม่มีใครบอกว่ามันถูกหรือผิดเพราะไม่มีการวิจัยออกมาอย่างเป็นรูปธรรม
ข้อสรุปเดียวคือในบางสถานที่ผู้ปลุกพลังบางคนจะสามารถก้าวหน้าได้เร็วกว่าคนอื่นๆ
ตัวอย่างเช่นวาเรี้ยนจะก้าวหน้าเร็วขึ้นในสถานที่ที่มีอออร่าสายฟ้ามาก
[เจ้าของร่าง อย่าคิดมาก ออร่าคือสิ่งที่ซับซ้อน สิ่งที่คุณสัมผัสได้คือออร่าสายฟ้าภายในออร่า โดยปกติแล้วคุณจะไม่เจอปัญหาแม้ว่าระแวกนั่นจะไม่มีออร่าสายฟ้าแต่คุณก็จะสามารถใช้สัมผัสสายฟ้าได้อยู๋ดี]
[โดยธรรมชาติแล้วสถานที่บางแห่งสามารถมีออร่าได้หลายธาตุ ยกตัวอย่างเช่นดันเจี้ยนที่เป็นดันเจี้ยนใต้น้ำจะมีออร่าน้ำมากกว่าออร่าไฟ แต่ก็ใช่ว่าออร่าไฟจะไม่มีอยู่เลยแม้จะอยู่ในน้ำก็ตาม
ซึ่งถ้าคุณไปมีเป็นผู้ปลุกพลังไฟแล้วไปอยู่ในสถานที่ที่มีออร่าน้ำเต็มไปหมดคุณจะเสียเปรียบอย่างมากแน่นอน
เพราะสัมผัสพลังธาตุของธาตุตรงกันข้ามจะอ่อนแอลงอย่างมากกลับกันสัมผัสพลังธาตุของคนที่ตรงกับธาตุของออร่านั่นจะสามารถสัมผัสได้ละเอียดมากยิ่งขึ้น]
'แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าอะบิซอลสามารถใช้ออร่าเพื่อคุมพื้นที่ทั้งหมดเพื่อเป็นธาตุใดธาตุนึง..?