ตอนที่ 7 เจียน่าและกลุ่มผู้อพยพ(อ่านฟรี)
ตอนที่ 7 เจียน่าและกลุ่มผู้อพยพ
“พ่อบ้านเฟรด” แอนเดรียหันไปมองพ่อบ้านชรา
“ขอรับ” พ่อบ้านชราได้ยินก็ถอนหายใจออกมา เพราะรู้ว่านายหญิงต้องการให้ทำอะไร ถึงจะอย่างนั้นก็ยังเลือกทำตามคำสั่ง เขาเข้าไปช่วยพยุงตัวเด็กสาวที่บาดเจ็บที่ข้อเท้า ก่อนจะรีบวิ่งตามนายหญิงไป
พวกเขาหนีออกมาจากบริเวณแอ่งน้ำอย่างรวดเร็วเท่าที่จะทำได้ จนในที่สุดก็หนีออกมาได้ไกลพอและมั่นใจว่านักรบโครงกระดูกคงไม่ตามมาแล้ว จึงได้หยุดพักกัน
ในเวลานี้ยังเป็นเวลากลางวันอยู่ ดังนั้นพวกนักรบโครงกระดูกที่จัดเป็นหนึ่งในอันเดดจึงเคลื่อนไหวไม่มากนัก อย่างมากก็แค่ไล่ล่าพวกที่เข้าไปในอาณาเขต แต่ถ้าเป็นกลางคืนพวกมันคงไล่ฆ่าจนกว่าจะตายไปข้างหนึ่ง
“เอาแหละตรงนี่ก็น่าจะปลอดภัยแล้ว” พ่อบ้านชรากล่าว ก่อนจะปล่อยให้เด็กสาวนั่งลงพัก และรีบหันมาดูแอนเดรีย
“ฉันไม่เป็นอะไร” แอนเดรียพูดออกมา พร้อมกับเดินไปดูเด็กสาว
“เธอเป็นอะไรมากหรือเปล่า ข้อเท้านะ”
“คือ....ฮือ...ๆ ๆ” ยังไม่ทันจะได้พูดอะไร เด็กสาวก็ร้องไห้ออกมา เสียงนั้นสะอื้นราวกับจะขาดใจ ทำเอาทุกคนนั้นเศร้าตามไปด้วยอย่างบอกไม่ถูก
‘เฮ้ย ๆ ทำไมถึงร้องไห้ขนาดนั้นกัน หรือว่าเธอจะเจ็บกันนะ ใช้โพชั่นหรือทักษะอธิษฐานช่วยรักษาดีไหม’
‘ไม่ได้สิ แบบนั้นความลับแตกกันพอดีอีกอย่างข้อเท้าแม้จะเจ็บ แต่พักไม่กี่วันก็น่าจะหาย เธอน่าจะอายุราว ๆ 14 ปีแล้วมั้ง เด็กกำลังโตนี่นะ ไม่สิเรามองไปตรงไหนกัน’ ลูอิสจ้องเด็กสาวด้วยความสนใจ
“พ่อของหนู เขาตายแล้ว” เด็กสาวร้องไห้ออกมามากกว่าเก่า
‘พ่อหรือว่าจะเป็นชายผู้นำกลุ่มคนนั้นที่แข็งแกร่งพอ ๆ กับพ่อบ้านเฟรด ถึงว่าทำมเธอถึงร้องไห้ ไม่ใช่เพราะเจ็บขาแต่เพราะพ่อพึ่งตายนี่เอง’ ลูอิสเด็กทารกพยักหน้าอย่างเข้าใจ
ทั้งแอนเดรียและพ่อบ้านชราต่างก็หันมามองหน้ากัน ก่อนที่สุดท้ายพวกเขาจะปล่อยให้เด็กสาวร้องไห้จนพอใจ หลังจากนั้นแอนเดรียก็เดินเข้ามานั่งข้าง ๆ และสอบถามถึงเรื่องราวของเด็กสาว จนในที่สุดก็ได้รู้ว่ากลุ่มผู้อพยพของเด็กสาวนั้นมีอยู่ด้วยกัน 20 คนส่วนใหญ่เป็นคนธรรม พ่อของเธอและชายในกลุ่มอีกคนนั้นเป็นนักล่าระดับ ครึ่งดาว
ซึ่งพ่อของเธอเป็นผู้นำกลุ่มออกมาหาน้ำกลับไป เธอตามมาด้วยและทุกอย่างก็เป็นอย่างที่พวกเขาเห็น
เด็กสาวหยุดร้องไห้แล้ว แต่ก็ยังมีท่าทีระวังสถานที่รอบข้าง เพราะกลัวจะมีตัวอะไรกระโดดออกมาโจมตีใส่อีก
“คุณปู่ หนูขอบคุณที่ช่วยหนูให้หนีออกมาค่ะ” เด็กสาวลุกขึ้นยืนก่อนจะก้มหัวขอบคุณอย่างจริงใจ
“เจ้าควรขอบคุณนายหญิงแอนเดรีย” พ่อบ้านกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
เด็กสาวได้ยินก็ตกใจ เพราะเธอพึ่งเจอคนที่ถูกเรียกว่านายหญิงเป็นครั้งแรก แต่ก็พอเข้าใจความหมายของคำนี้ ทำให้เธอเข้าใจได้ว่าสองคนนี้คงไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน แถมชุดที่ใส่ยังต่างจากเธอด้วย
“นายหญิงแอนเดรียเจ้าค่ะ ขอบคุณมากที่ช่วยหนูไว้”
“ไม่เป็นอะไรหรอก ว่าแต่หลังจากนี้จะทำอย่างไรต่อ” แอนเดรียถามกลับด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
เด็กสาวกัดริมฝีปากก่อนจะส่ายหัวเบา ๆ เพราะว่าไม่รู้อนาคตจะเป็นยังไง
“เอาแบบนี้ไหม เธอมาอยู่กับพวกเราก่อนก็ได้” แอนเดรียเสนอความคิดออกไป พ่อบ้านชราก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย เพราะถ้ามีเด็กสาวมาค่อยช่วยรับใช้นายหญิงก็จะดีมาก แม้เขาจะเป็นพ่อบ้านแต่ก็ไม่สะดวกในหลาย ๆ เรื่องเช่นกัน
เด็กสาวลังเล แต่พอคิดดี ๆ แล้วเธอก็คิดว่าสองคนนี้คงไม่ใช่คนธรรมดาและยังมีเด็กทารกอีกเดินทางมาในโลกแบบนี้อีก สุดท้ายเธอก็ตอบตกลงไป
“เจ้ามานี่” พ่อบ้านชรากล่าวจบก็เดินแยกออกไป เขาต้องการพูดคุยกับเด็กสาวตัวต่อตัว
...
การเดินทางเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ไม่รู้ว่าพ่อบ้านชรานั้นพูดคุยอะไรกับเด็กสาว ทำให้หลังจากเธอกลับมารวมกันนั้นก็แสดงความเคารพออกมา โดยที่ท่าทางนั้นเหมือนไม่ได้เกิดจากการบังคับแต่อย่างไร
จุดหมายที่พวกเขากำลังไปนั้นก็คือไปรวมตัวกับกลุ่มผู้อพยพที่เด็กสาวเคยอยู่
‘ในที่สุดก็มีคนใหม่มารวมกลุ่มกันพวกเรา แต่เธอกลับไม่ได้ให้พลังงานศรัทธา หรือว่าฉันต้องทำให้เธอศรัทธา อืมคงจะเป็นอย่างนั้น โอ๊ะ! เจอกลุ่มคนอีกแล้ว น่าจะเป็นกลุ่มของเธอสินะ’
เบื้องหน้าของลูอิสและพวก มีกลุ่มผู้อพยพกำลังซ่อนอยู่
ในตอนนั้นเองก็มีคนวิ่งเข้ามาหาพวกเขา ซึ่งถ้าสังเกตดูดี ๆ เป้าหมายนั้นคือเด็กสาว
“เจียน่า ทำไมพวกเจ้ากลับมาช้ามาก ขึ้นอื่น ๆ ไปไหนหมด แล้วคนพวกนี้เป็นใคร” ชายที่ใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเคราถามออกมาอย่างรีบร้อน
“เออ...คือว่า ทุกคนนั้นตายหมดแล้ว” เจียน่าพูดออกมาด้วยสีหน้าเศร้า เธอเหมือนจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง
“เล่ามามันเกิดอะไรขึ้น เจียน่า!” ชายไว้เคราถามด้วยน้ำเสียงตะคอก ก่อนที่พยายามจะเข้ามาจับตัวของเด็กสาว
แต่ตอนนั้นพ่อบ้านเฟรดก็เข้ามาขวางไว้ ก่อนจะจับไปที่ดาบ ทั้งสองเผชิญหน้ากัน แต่ชายไว้เคราดูจะกลัวพ่อบ้านอยู่มากจึงไม่กล้าเข้ามาใกล้อีก
“พอได้แล้ว เจก! นายคิดจะทำอะไร…” เสียงดังมาจากทางด้านหลัง เป็นชายวัย 40 กว่า ๆ ที่แต่งกายดูดีกว่าทุกคนในกลุ่มผู้อพยพ แถมที่ตัวยังมีเกราะหนังสวมใส่อยู่ พร้อมกับดาบที่อยู่ข้างเอว
“ซาฟ ไม่สิหัวหน้าซาฟ คนที่ออกไปหาน้ำนั้นตายหมดแล้ว ตอนนี้มีแค่เจียน่าที่รอดมาได้ ฉันก็แค่จะเข้าไปถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
“ตาย?” ซาฟดูจะตกใจพอสมควร ก่อนจะหันไปมองเจียน่า
“ไม่ต้องถามเจียน่าหรอก ที่จริงพวกเราเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนั้นพวกเขาลงไปหาน้ำในแอ่งน้ำ ซึ่งพวกเราอยู่บริเวณนั้นพอดี ขณะที่พวกเขาตักน้ำกันนั้นก็โดนนักรบโครงกระดูกลอบโจมตี พวกมันฆ่าคนของพวกนายไปจนหมด รวมทั้งพ่อของเธอด้วย” พ่อบ้านชราก้าวออกมาและกล่าว
ซาฟมองไปตามเสียงพูดก็เห็นพ่อบ้านชรา
และด้านข้างเขาก็เห็นแอนเดรีย ในตอนแรกที่เห็นถึงกับทำให้เขาชงักไปสองสามวินาที เพราะแอนเดรียนั้นถือว่าเป็นคนที่สวยมาก ทำเอาซาฟที่ไม่เคยเห็นสาวงามมาก่อนถึงกับอึ้งไป
“พวกคุณเป็นใคร” ซาฟตั้งสติก่อนจะถามกลับไป ถึงอย่างนั้นสายตาของเขาก็ยังคงมองสำรวจหญิงสาวสวยไปด้วย แต่พอเห็นว่าเธอนั้นอุ้มลูกน้อยมาด้วยก็ละสายตาออกไปอย่างเสียดาย
“ก็แค่คนร่วมทาง พอดีเราเจอเธอจึงช่วยเธอไว้” พ่อบ้านชรากล่าวขึ้น
หลังจากนั้นพวกเขาก็พูดคุยกัน ขณะที่ข่าวการตายของคนที่ออกไปหาน้ำก็ทำให้ทุกคนในกลุ่มตกใจก่อนจะแสดงสีหน้าเศร้าออกมาอย่างชัดเจน
“กำลังไปที่เมืองเอลดิลใช่ไหม” ซาฟถามขึ้นมา ก่อนจะหันไปมองแอนเดรียอีกครั้ง
“ใช่” พ่อบ้านชราตอบกลับไป โดยแอนเดรียนั้นไม่ได้พูดอะไรออกมาเลยตั้งแต่ต้น
“เดินทางไปด้วยกันไหม กลุ่มของพวกเราก็จะไปที่นั่นเช่นกัน มันจะปลอดภัยกว่าถ้าไปกันเป็นกลุ่ม ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจะได้ช่วยเหลือกันได้” ซาฟกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มที่จริงใจ
พ่อ้านชราและแอนเดรียแยกออกมาเล็กน้อย ก่อนที่จะพูดคุยกัน ซึ่งสุดท้ายทั้งสองคนก็ตกลงว่าจะเดินทางไปพร้อมกับกลุ่มผู้อพยพ เพราะคิดว่าการเดินทางเป็นกลุ่มนั้นน่าจะปลอดภัยกว่าจริง ๆ
เมื่อซาฟได้คำตอบตกลงก็ยินดีขึ้นมาทันที แต่ข้าง ๆ นั้นเจกขมวดคิ้วไม่พอใจเล็กน้อย ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป
เจียน่าเองก็ยินดีที่พวกของแอนเดรียและกลุ่มของซาฟจะเดินทางไปด้วยกัน เพราะอย่างไรพ่อและเธอก็เคยอยู่ด้วยกันกับกลุ่มนี้มาก่อน
ในขณะที่ทุกคนตกลงกันนั้นเด็กทารกในอ้อมกอดของแอนเดรียก็เฝ้ามองดูทุกอย่างอยู่เงียบ ๆ
‘ดูเหมือนพวกเขาจะยอมรับการตายของคนในกลุ่มได้ง่าย ๆ จังเลยนะ หรือเพราะชินกับเหตุการณ์แบบนี้แล้ว’
‘รู้สึกไม่ชอบหน้าคนที่ชื่อ ซาฟจังเลยนะ สายตาหมอนี่มันหน้าหม้อชัด ๆ คิดจะจีบแอนเดรียเลยชวนพวกเราเข้าร่วมกลุ่มสินะ’
ในตอนนั้นเองแอนเดรียก็เห็นว่าลูกชายของเธอนั้นดิ้นไปมาเล็กน้อย เมื่อเห็นสีหน้าของเขาเธอก็รีบเอามือมาทาบที่หน้าผากของเด็กทารกในอ้อมกอดทันที
“เกิดอะไรขึ้น ไม่สบายหรือเปล่า” แอนเดรียถามด้วยความเป็นห่วง
“นายหญิงข้าจะไปขอน้ำดื่มพวกเขาสักหน่อย ท่านควรพานายน้อยไปหาที่พักผ่อนก่อน” พ่อบ้านชรากล่าวขึ้นมา
“อืมระวังด้วย” แอนเดรียหันไปพยักหน้ารับ
พวกเขาทั้งสองนั้นยังไม่ได้กินน้ำมาทั้งวันแล้ว
“ในกลุ่มพอมีน้ำสะอาดเหลืออยู่บ้าง ท่านเฟรดไม่ต้องห่วงข้าจะพานายหญิงแอนเดรียไปพักแถวนั้น” เจียน่าเสนอตัวช่วย
เฟรดพยักหน้าให้ ก่อนจะเดินไปทางซาฟและคนอื่น ๆ
เจียน่าพาแอนเดรียและลูอิสมายังพื้นที่มุมหนึ่ง “ตรงนี้พ่อและข้าจองไว้ใช้พักผ่อนในคืนนี้ก่อนจะออกไปหาน้ำ แต่...แต่ก็คงจะไม่ได้ใช้แล้ว”
“ไม่ต้องฝืน เธอควรร้องไห้ออกมา” แอนเดรียวางลูอิสลงบนผ้าที่ปูอยู่ก่อนจะเดินเข้าไปลูปหัวเด็กสาว ก่อนที่เจียน่าจะทนไม่ไหวอีก โผลตัวเข้ามากอดแอนเดรียและร้องไห้ออกมา
‘เธอคงเสียใจมากจริง ๆ พอมาคิดดูแล้ว ในโลกใบเดิมเราก็เคยเจอแบบนี้เหมือนกัน’ ลูอิสคิดย้อนไปถึงความทรงจำเก่า ๆ เขาจำได้ว่า การสูญเสียคนที่รักที่มีเพียงคนเดียวในโลกไปนั้น มันทำให้เขาเจ็บปวดมาก แม้แต่การร้องไห้ก็ไม่ได้ช่วยให้หายเจ็บ แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้ความเจ็บได้บรรเทาลง
แอนเดรียกอดและลูปหลังของเจียน่าที่ร้องไห้ไม่หยุด โดยที่ไม่ทันสังเกตเห็นเลยว่าตอนนี้ลูอิสนั้นลุกขึ้นมานั่งและกอดอกมองพวกเขาทั้งสองอยู่