513 - ร้องขอชีวิต
1824 - ร้องขอชีวิต
เลือดกระเซ็นออกมา ใบหน้าของหยวนชิงบิดเบี้ยว แต่เขาก็อดทนไม่แสดงท่าทีหรือตำหนิสือฮ่าว เขาอดทนมองไปที่สือฮ่าวและพูดออกมาอีกครั้งโดยบอกว่าทุกสิ่งสามารถคุยกันได้
“ในตอนนี้เจ้ามีอารมณ์ที่จะร้องขอชีวิตแล้วเหรอ ย้อนกลับไปตอนนั้นเมื่อข้าถูกส่งไปยังเหมืองต้นกำเนิดเจ้าเคยคิดว่าจะมีวันนี้หรือไม่” สือฮ่าวมองไปที่เขาอย่างไม่แยแส
ใบหน้าของหยวนชิงเปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำเล็กน้อย หลังจากนั้นไม่นานเขาก็สงบลงอีกครั้งและควบคุมตัวเองได้อย่างเข้มแข็ง เขาไม่คิดเลยจริงๆว่าจะมีสถานการณ์ในวันนี้
ในตอนนั้นฝ่ายตรงข้ามคือผู้ฝึกฝนตัวเล็กที่เขาสามารถบดขยี้ได้ด้วยมือเพียงข้างเดียว ใครจะคิดว่าเจ้าเด็กนั่นจะกลับมาคุกคามเขาได้เร็วขนาดนี้
ฮวงเขาอายุเท่าไหร่? เขาอายุเพียงแค่ยี่สิบปีเท่านั้น แต่ตอนนี้เขาเป็นผู้ฝึกฝนขอบเขตปลดปล่อยไปแล้ว เขากลายเป็นบุคคลที่ผู้อื่นได้แต่แงนหน้าขึ้นมองด้วยความหวาดกลัวและชื่นชม!
หยวนชิงพบว่ามันยากที่จะสงบลง ในหัวใจของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยความสำนึกผิด
เขาไม่ได้รู้สึกสำนึกผิดที่เกิดความเกลียดชังระหว่างตัวเองและสือฮ่าว แต่กลับรู้สึกเสียใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ที่ไม่อาจสังหารฮวงตั้งแต่ตอนนั้น?
ในอดีตเขาได้รับคำสั่งของตระกูลเฟิงให้ขัดขวางผู้สืบสายเลือดของคนบาป อย่างไรก็ตามไม่มีใครคิดว่าฮวงคนนี้จะผงาดขึ้นมาในระยะเวลาอันสั้น
เขาถอนหายใจจากภายในเขาทำได้เพียงตำหนิตัวเอง ที่ไม่เชื่อฟังคำเตือนของผู้เชี่ยวชาญอีกคนซึ่งไม่ต้องการให้เขาเผชิญภัยพิบัติร้ายแรง มิฉะนั้นเขาอาจจะฆ่าสือฮ่าวไปแล้ว
ในตอนนี้เขายังคงไม่สำนึกผิดเพียงแต่เสียใจที่เขาไม่ได้ฆ่าฮวงในตอนนั้น เขาพลาดโอกาสเนื่องจากความลังเลชั่วขณะ
“เจ้าไม่เต็มใจ? ในดวงตาของเจ้ามันบอกข้าว่าเจ้าไม่เต็มใจ เจ้ารู้สึกเสียใจที่ไม่ได้สังหารข้าในตอนนั้น” สือฮ่าวกล่าว
หยวนชิงตื่นตระหนกแม้แต่เรื่องนี้อีกฝ่ายก็ยังสามารถมองทะลุได้? ประสาทสัมผัสของอีกฝ่ายเฉียบแหลมเกินไป สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกสยดสยอง
“ข้าแค่พูดขึ้นมาลอยๆเท่านั้น ไม่นึกว่าเจ้าจะมีความคิดเช่นนี้อยู่จริงๆ” เสียงของสือฮ่าวเริ่มเย็นชา
“เป็นไปได้ยังไง? มันจะเป็นไปได้อย่างไรสหายน้อย ข้าไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้น” หยวนชิงรีบอธิบาย
กา!
เสียงที่คมชัดดังขึ้น แขนซ้ายของหยวนชิงถูกหั่นและหลุดออกจากร่างกายของเขา ฝนเลือดสาดกระจายออกด้านนอกเป็นฉากที่น่าสยดสยองเล็กน้อย
หยวนชิงส่งเสียงครวญครางอู้อี้เซไปข้างหลังร่างกายของเขาสั่นจนแทบจะจมลงไปในพื้นดิน ผิวของเขาเป็นสีขาวราวซีดไร้สีสันไปแล้ว
สือฮ่าวตัดแขนของเขาออกมาอีกข้าง นี่เป็นอาการบาดเจ็บร้ายแรงที่ทำให้ใบหน้าของหยวนชิงบิดเบี้ยวภายในเต็มไปด้วยความกลัว
ไม่ใช่ว่าหยวนชิงไม่ต้องการต่อสู้ แต่เป็นเพราะก่อนหน้านี้เขาอนุมานได้ว่าเขาไม่มีโอกาสแม้แต่น้อย ตราบใดที่เขาโจมตีเขาจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!
“สหายเต๋าข้าสำนึกผิดแล้ว ข้าขอใช้ข้อมูลบางอย่างเพื่อแลกกับชีวิต” หยวนชิงกล่าว
“ เจ้าก็แค่สุนัขตัวหนึ่งที่คอยทำธุระให้กับตระกูลเฟิง ตัวตนอย่างเจ้าจะสามารถเข้าถึงความลับได้มากแค่ไหน?
เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นผู้สูงสุดหรือพวกเขาถึงจะแบ่งปันความลับให้เจ้า? แต่หากว่าเจ้ามีความลับของผู้อมตะเรื่องนี้ยังพอคุยกันได้?” สือฮ่าวกล่าวอย่างเย็นชาและไม่ถูกรบกวนด้วยท่าทีของเขา
ใบหน้าของหยวนชิงบิดเบี้ยวอย่างน่าเกลียด เขาต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปยิ่งคิดเรื่องนี้ความหวาดกลัวของเขายิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น เขาไม่ต้องการติดตามคนของตระกูลเฟิงไปสู่ชีวิตหลังความตาย
เมื่อเผชิญกับการดูถูกประเภทนี้บุคคลระดับผู้ยิ่งใหญ่จะต้องตอบโต้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามหยวนชิงกลับก้มศีรษะลงกว่าเดิมเขาเอาหัวโขกพื้นไม่หยุดต้องการให้สือฮ่าวไว้ชีวิต
เขายอมจำนนต่อความอัปยศอดสูขอเพียงมีชีวิตอยู่เท่านั้น แม้ว่าเขาจะรู้ว่าโอกาสนั้นมีไม่มาก แต่เขาก็ยังไม่อยากยอมแพ้กับมัน
“สหายเต๋าเจ้าไม่รู้ว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง” เขาพูดเพื่อดึงความสนใจของสือฮ่าว
สือฮ่าวมองเขาอย่างเย็นชาโดยใช้ความเงียบสร้างความกดดันให้ฝ่ายตรงข้าม
จู่ๆหยวนชิงก็รู้สึกเหมือนเขาทำผิดเกินไป เหตุการณ์เมื่อสักครู่เขาควรจะต่อสู้อย่างกล้าหาญแม้ว่าเขาจะตายแต่ก็เพียงเท่านั้น
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาละทิ้งศักดิ์ศรีของตัวเองไปแล้วเขาก็ต้องทำมันต่อไปให้ถึงที่สุด
“สามพันแคว้นเหล่านี้ไม่เพียงแต่มีบรรพบุรุษโบราณของตำหนักเซียนเท่านั้นที่เป็นผู้อมตะ อย่างน้อยที่สุดยังมีอีกหนึ่งหรือสองคน มิหนำซ้ำตอนนี้พวกเขายังกำหนดเป้าหมายมาที่เจ้าอีกด้วย”
“หากเจ้ามีข้อมูลของพวกเขาบางทีเราอาจจะพอคุยกันได้” ในที่สุดสือฮ่าวก็พูดขึ้น
เป็นเพราะเขาได้ยินมานานแล้วว่าสามพันแคว้นมีผู้อมตะอย่างน้อยสองหรือสามคน นอกเหนือจากการดำรงอยู่ของผู้อมตะที่อยู่ในตำหนักเซียนแล้ว คนอื่นๆดูลึกลับมาก
“ถ้าเจ้าสาบานว่าจะปล่อยข้าไปหลังจากที่ข้าบอกเจ้าหมดทุกอย่าง...” หยวนชิงกล่าว
สือฮ่าวหัวเราะเยือกเย็นและโหดร้ายมาก เขายกมือขึ้นอีกครั้ง
“ถ้าเจ้าบังคับข้าก็จะไม่พูด ยิ่งไปกว่านั้นหากเจ้าต้องการค้นวิญญาณของข้ามันก็จะไม่มีประโยชน์!” หยวนชิงตะโกน
เขาถอยกลับเพราะกลัวว่าสือฮ่าวจะลงมือสังหารเขาในทันที
ปู!
ในทางนี้รัศมีของดาบพุ่งออกมาจากนิ้วของสือฮ่าว นี่คือคำตอบของเขา เขาไม่ยอมรับความต้องการประเภทนี้เด็ดขาด เขาระเบิดร่างกายของหยวนชิงทันที
อา…หยวนชิงกรีดร้องอย่างน่าสังเวช
รัศมีดาบของสือฮ่าวนั้นน่ากลัวมากร่างครึ่งหนึ่งของหยวนชิงแหลกเป็นชิ้นๆ พลังทำลายล้างของพลังงานดาบนั้นน่าตกใจเกินไปมันทรงพลังอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
“พูดมาบางทีข้าอาจจะปล่อยเจ้าไปหากมันมีประโยชน์จริงๆ” สือฮ่าวกล่าว
เห้งเจีย!
หยวนชิงคำรามด้วยความโกรธเขย่าความว่างเปล่าจนสั่นสะเทือน เขารู้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมปล่อยเขาไปอย่างแน่นอน
ร่างกายทั้งหมดของเขาปะทุขึ้นเขา เขาพยายามปลดปล่อยศักยภาพของตัวเองให้ขึ้นสู่ระดับสูงสุดเพื่อต่อต้านสือฮ่าว
อย่างไรก็ตามเขาประเมินความแข็งแกร่งของสือฮ่าวต่ำไป รัศมีศักดิ์สิทธิ์ปรากฏขึ้นนอกร่างกายของสือฮ่าว แสงหลากสีไม่มีที่สิ้นสุดปกคลุมสถานที่แห่งนี้ หยวนชิงพบว่าเขาไม่สามารถขยับตัวได้เขาถูกปิดผนึกแล้ว
ทุกวิธีของเขาล้มเหลว!
“เจ้าถึงกับกล้าอวดอ้างว่าตัวเองมีความรู้เกี่ยวกับผู้อมตะเหล่านั้น? แม้แต่บุคคลระดับสูงของตระกูลอมตะก็ยังไม่มีทางรู้เกี่ยวกับความลับของพวกเขา!” สือฮ่าวกล่าวอย่างเย็นชา
“ข้ารู้ว่าหนึ่งในผู้อมตะครอบครองขวานโบราณเล่มหนึ่ง!” หยวนชิงกล่าว
"แล้วยังไง?" สือฮ่าวกล่าว เขาเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนยิ่งกว่านั้นยังเห็นขวานโบราณนั้นด้วย มันเสียหายจนแทบไม่สามารถรักษาสถานะอาวุธเซียนไว้ได้
ย้อนกลับไปในระหว่างการต่อสู้ในสามพันแคว้นเมื่อเขารอดชีวิตจากซากเซียนโบราณมีศัตรูมากมายล้อมรอบเขาจากทุกด้าน เทพหลิวก็ได้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับต่อสู้กับทุกคนเพื่อปกป้องเขา
ในท้ายที่สุดมีกฤษฎีกาเวทมนตร์ที่สืบเชื้อสายมาจากสวรรค์ ยิ่งกว่านั้นขวานโบราณที่โอบล้อมไปด้วยพลังแห่งความโกลาหลยังปรากฏออกมาด้วย มันวิงวอนให้เทพหลิวแสดงความเมตตาต่อเจ้าสำนักทั้งหมดที่พยายามโจมตีสือฮ่าว
เมื่อเขาคิดย้อนกลับไปตอนนี้ปรมาจารย์แห่งขวานโบราณคนนั้นน่าจะเป็นเซียนอมตะคนหนึ่งอย่างแน่นอน
สือฮ่าวถอนหายใจ เมื่อเขาคิดถึงเรื่องนี้เขาก็อดไม่ได้ที่จะนึกไปถึงเทพหลิว ไม่ทราบว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ใด? พวกเขายังมีโอกาสได้พบกันอีกครั้งหรือไม่?
เส้นทางที่สือฮ่าวก้าวเดินต่อไปนั้นเป็นสิ่งที่เขาสุดปัญญาที่จะตามทัน
ก่อนหน้านี้เทพหลิวถูกทำลายไปแล้วในยุคเซียนโบราณ แต่ท้ายที่สุดเขาก็สามารถบ่มเพาะพลังขึ้นมาใหม่ในหมู่บ้านหินผา
เทพหลิวประสบกับความพินาศกลายเป็นเมล็ดพันธุ์ จากนั้นเขาก็กลับมาทรงพลังอีกครั้ง แต่ในที่สุดเขาก็ถูกโจมตีจากสายฟ้าโบราณจนตกลงมาจากสวรรค์
อาจกล่าวได้ว่าเทพหลิวในยุคนี้ไม่ใช่วิญญาณผู้พิทักษ์เซียนโบราณอีกต่อไป
เป็นเพราะต้องเขากำเนิดจากจุดเริ่มต้นอีกครั้ง สิ่งที่ถูกทำลายไปไม่เพียงแต่ระดับบ่มเพาะของเขาเท่านั้นแต่ยังรวมถึงความทรงจำของเขาอีกด้วย
อย่างไรก็ตามในท้ายที่สุดตราบใดที่เขาสามารถบ่มเพาะกลับไปสู่ความยิ่งใหญ่ในอดีต ความทรงจำทุกอย่างของเขาก็จะกลับคืนมา!