ตอนที่แล้ว508 - เบื้องหลังของหยวนชิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป510 - ยันต์สลายดินแดน

509- ความแค้นแต่หนหลัง


1820 - ความแค้นแต่หนหลัง

หลังจากไปถึงเมืองจักรพรรดิ์ดั้งเดิมเขาได้รู้ความลับบางอย่าง

บรรพบุรุษโบราณของตระกูลเฟิงนั้นตั้งตัวเป็นศัตรูกับตระกูลสือมาโดยตลอด พวกเขามีบทบาทสำคัญในการลงมือสังหารสายเลือดคนบาปและยังกดขี่ทายาทตระกูลสือมาจนถึงปัจจุบัน

ผู้สืบสายเลือดของคนบาปอาชญากรรมนี้ถูกปล่อยออกมาได้อย่างไร?

เมื่อเขาอยู่ในเมืองจักรพรรดิ์ดั้งเดิม เขาจึงทราบว่าผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้คือตระกูลอมตะตระกูลหนึ่งรวมไปถึงผู้อมตะที่อยู่ในวังทองแดงนั้น

นอกเหนือจากนี้ยังมีมหาอำนาจอีกสองสามแห่งในเก้าสวรรค์เบื้องบน ตัวอย่างเช่นบรรพบุรุษของตระกูลเฟิง(ลม)

“พวกเจ้านับว่าฉีกหน้าบรรพบุรุษตระกูลเฟิงไปหมดสิ้นแล้ว?ตามที่ข้ารู้มาบรรพบุรุษของพวกเจ้าต่อสู้กับผู้ไม่ดับสูญของอีกฝั่งอย่างกล้าหาญจนกระทั่งเสียชีวิตลง พวกเจ้ากล้าดีอย่างไรถึงไปก้มหัวให้กับอีกฝ่ายซึ่งเป็นศัตรูสังหารบรรพบุรุษของพวกเจ้า?” สือฮ่าวตะโกน

“ข้าจะบอกเจ้าอีกครั้ง นี่คือความขัดแย้งส่วนตัวของพวกเราไม่เกี่ยวข้องกับผู้อื่น เจ้าอย่าพยายามป้ายความสกปรกมาที่ตระกูลเฟิงของเรา!” ผู้ยิ่งใหญ่อาณาจักรรถปล่อยตนเองอีกคนหนึ่งกล่าว

สือฮ่าวหัวเราะโดยไม่โต้เถียงในหัวข้อนี้อีกต่อไป เป็นเพราะเขาไม่มีหลักฐานอย่างแท้จริงนี่เป็นเพียงการคาดเดาของเขา

ย้อนกลับไปตอนที่เขาอยู่ในเมืองจักรพรรดิ์มีใครบางคนเบี่ยงเบนไปอีกด้านหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นยังเรียกผู้ฝึกฝนของอีกฝ่ายมาไล่ตามเขา ในท้ายที่สุดตัวตนของพวกเขาก็ยังไม่ถูกเปิดเผย

อย่างไรก็ตามสือฮ่าวสรุปได้คนพวกนี้มาจากตระกูลอมตะอย่างแน่นอน ถ้าไม่ใช่ตระกูลหวังหรือตระกูลจินแล้วใครล่ะ?

นอกเหนือจากคนพวกนี้พวกที่เป็นศัตรูกับเขาก็เห็นจะมีเพียงตระกูลเฟิง ทำให้เขาสงสัยว่าอีกฝ่ายทรยศเก้าสวรรค์ไปแล้วอย่างแน่นอน

“เฟิงซิงเทียนผู้สืบทอดตระกูลของข้า ผู้บ่มเพาะพลังเซียนสามเส้นแม้กระทั่งเมล็ดพันธุ์ที่สมบูรณ์แบบพวกเราก็เตรียมไว้ให้เขา แต่เจ้าก็ฆ่าเขาไป!” ใบหน้าของหญิงสาวสวมกระโปรงสีเหลืองเต็มไปด้วยความคุ้มคลั่ง

“เจ้าเป็นอะไรกับเขา” สือฮ่าวถาม

เขาจำพลังของเฟิงซิงเทียนได้อย่างแน่นอน คนผู้นี้มีญาณวิเศษที่น่ากลัวเป็นอย่างมาก

เขาเชี่ยวชาญวิชาโบราณหลายประเภท ในตอนนั้นสือฮ่าวต่อสู้อย่างรุนแรงกับเขาในที่สุดเขาก็ฆ่าเฟิงซิงเทียนในสมรภูมิเซียนโบราณ

“ข้าเป็นพี่สาวปู่ของเขาชื่อเฟิงไปหลิง!” หญิงสาวคนนั้นตอบ ชุดห่านสีเหลืองของนางโบกสะบัดไปตามแรงลม ความตั้งใจในการฆ่าที่ไม่มีที่สิ้นสุดพลุ่งพล่านออกมาด้านนอก แตกต่างจากอารมณ์ก่อนหน้านี้ของนาง

เห็นได้ชัดว่านางรั้งตัวเองไว้ตลอดเวลา ตอนนี้ความอดกลั้นของนางหมดสิ้นลงแล้ว

“นอกจากนี้หลานชายของข้า เฟิงจ้าวการตายของเขาก็เกี่ยวข้องกับเจ้าเช่นกัน!” บุรุษชุดขาวกล่าวอย่างเย็นชา

ชื่อของเขาคือเฟิงเฉียงเป็นคนที่มีชีวิตอยู่มาเป็นเวลาหลายหมื่นปี ความแข็งแกร่งทรงพลังมาก

“ต้องแก้ไขความเข้าใจผิดของเจ้า เฟิงจ้าวไม่ได้ถูกข้าฆ่า เขาตายภายใต้เงื้อมมือของผีเสื้อจักรพรรดิโบราณ” สือฮ่าวกล่าวอย่างใจเย็น

ในสนามรบโบราณนั้นพวกเขาได้ค้นพบถ้ำ ข้างในเป็นศพของผีเสื้อจักรพรรดิซึ่งปล่อยแสงเซียนที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ ทำให้เฟิงจ้าวถูกฆ่าตาย

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เฟิงจ้าวเคยกล่าวไว้ว่าแม้ว่าผู้เชี่ยวชาญรุ่นเยาว์ของเก้าสวรรค์ที่บ่มเพาะพลังเซียนสามเส้นจะถูกกำจัดออกไปก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ตราบใดที่ตระกูลของพวกเขายังดำรงอยู่ด้วยความสุขทุกสิ่งทุกอย่างก็ไร้ความหมาย

พวกเขาไม่สนใจการโจมตีของฝ่ายต่างมิติในเวลาต่อมา พวกเขาไม่สนใจผลแพ้ชนะด้วยซ้ำ

เป็นเพราะเขาระบุชัดเจนว่าพวกเขาเป็นตระกูลอมตะ พวกเขาสามารถอยู่รอดผ่านยุคเซียนโบราณมาได้โดยไม่ได้รับผลกระทบอะไร ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถทำสิ่งเดียวกันในโลกนี้ได้

ในเวลานั้นสือฮ่าวได้รู้ท่าทีของตระกูลนี้แล้ว แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ทรยศเข้าหาศัตรู แต่พวกเขาก็เป็นเหมือนผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ปิดผนึก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพวกเขาก็ไม่เคยสนใจ

“ เฟิงจ้าวแข็งแกร่งมากจนได้รับฉายาว่าจักรพรรดิแห่งสายลม การตายของเขาเป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของพวกเจ้าทุกคน

อย่างไรก็ตามเขาตายภายใต้พลังสังหารของผีเสื้อจักรพรรดิในระดับราชาอมตะ ซึ่งพวกเจ้าไม่ควรจะสุมมันไว้ที่ข้า” สือฮ่าวคำรามด้วยเสียงหัวเราะ

“เนื่องจากทุกอย่างชัดเจนอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ถึงเวลาตายของเจ้าสักที” เฟิงไป่หลิงกล่าว

“เราต้องการให้เขามีชีวิตอยู่ เจ้าลืมไปแล้วหรือ? บรรพบุรุษโบราณต้องการพบกับเขา!” ใครบางคนเตือนสตินาง

"ลำพังแค่พวกเจ้า?" สือฮ่าวหัวเราะเสียงดัง

ในความเป็นจริงแม้แต่ผู้สูงสุดของตระกูลเฟิงมาด้วยตนเองก็ไม่แน่ว่าจะสามารถสังหารเขาได้

“ในเมื่อเรากล้ามาที่นี่พวกเราก็มีวิธีการที่จะฆ่าเจ้า” เฟิงเฉียงกล่าวอย่างเย็นชา

“การที่เราสนทนามากมายกับเจ้าก็เพียงเพราะเพื่อให้ค่ายกลสังหารเซียนได้มีเวลาทำงาน” เฟิงไป่หลิงกล่าว

ในเวลานี้รอบตัวพวกเขาแสงหลากสีที่เป็นมงคลได้ปะทุขึ้นในภูเขารอบตัวพวกเขามันปลดปล่อยแสงที่สว่างไสว พวกเขากำลังจะปิดผนึกสวรรค์และปฐพีไม่ให้สือฮ่าวสามารถหลบหนีออกไปได้!

“ช่างฟุ่มเฟือยเสียจริง” สือฮ่าวกล่าวอย่างไม่แยแส

ค่ายกลที่ยิ่งใหญ่นี้ปกคลุมภูเขาและแม่น้ำแผ่กระจายออกไปใครจะรู้ว่ามีกี่ลี้แม้แต่แม่น้ำหยินใหญ่ก็ยังถูกล้อมรอบอยู่ภายในนี่ถือเป็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่

ยิ่งไปกว่านั้นวัสดุศักดิ์สิทธิ์ทุกประเภทถูกใช้ออกมาเป็นจำนวนมากมายซึ่งเป็นสมบัติแห่งสวรรค์ทั้งหมด พวกเขาหมายมั่นปั้นมือที่จะสังหารสือฮ่าวให้ได้

“เจ้ารู้สึกว่าสิ่งนี้ฟุ่มเฟือย? รากฐานของตระกูลอมตะเกินจินตนาการของเจ้า วัสดุการพวกนี้นับเป็นอะไรได้” เฟิงไป่หลิงกล่าวอย่างไม่แยแส

หยวนชิงยังเปิดเผยการแสดงออกถึงความรังเกียจ แม้ว่าเขาจะไม่ได้มาจากตระกูลเฟิง แต่เขาก็ค่อนข้างสนิทกับคนพวกนี้เขาจึงรีบสำทับออกมา

“ก็แค่เด็กโง่เขาคนหนึ่ง ตอนนี้ปีกของเจ้าถูกเด็ดออกแล้วไม่มีทางที่เจ้าจะรอดพ้นความตายไปได้!”

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเขามักจะกังวลและมีปัญหาเพราะสือฮ่าวกลายเป็นหนามยอกในใจสำหรับเขาอย่างแท้จริง

ในการต่อสู้ที่ชายแดนรกร้างเขาผงาดขึ้นมากลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งไม่มีวันที่เขาจะไล่ตามทันได้อีกจะไม่ให้เขากลัวได้อย่างไร?

นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเมื่อตระกูลเฟิงกำลังจะเคลื่อนไหว เขาจึงเป็นคนแรกที่ก้าวออกมาและยินดีที่จะเป็นแนวหน้าในการลงมือในครั้งนี้

เขาจะไม่รู้สึกสบายใจถ้าสือฮ่าวยังไม่ตาย เขาไม่อยากอยู่อย่างหวาดระแวงอีกต่อไป

“เจ้าสุนัขไสหัวออกไปด้านข้าง! ไม่มีที่ให้เจ้าที่นี่!” สือฮ่าวกล่าวอย่างเย็นชา

เขาไม่ได้มองไปที่หยวนชิงแต่กวาดสายตาไปรอบๆแทน

“ไอ้หนูเจ้าจะตายอย่างแน่นอน!” หยวนชิงตะโกนอย่างเกลียดชัง

เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนที่ต้องการฆ่าสือฮ่าวมากที่สุดในบรรดาคนทั้งหมด เขากำหนดเป้าหมายไปที่สือฮ่าวอย่างต่อเนื่อง แต่สุดท้ายฝ่ายตรงข้ามกลับไม่มองเห็นเขาอยู่ในสายตาด้วยซ้ำสิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกขุ่นเคืองอย่างแท้จริง

บางคนก็เป็นแบบนี้ นี่เป็นธรรมชาติของพวกเขา

“ฮวงข้าแนะนำให้เจ้าเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันของตัวเองและยอมจำนนติดตามเราไปที่เก้าสวรรค์เบื้องบนเพื่อพบกับบรรพบุรุษโบราณของตระกูลข้า ด้วยวิธีนี้เรายังคงสามารถรักษาชีวิตของเจ้าไว้ได้” เฟิงเฉียงกล่าว

เขามีรอยยิ้มบนใบหน้าคำพูดของเขาไม่ช้าหรือเร็วเกินไป เป็นเพราะตอนนี้เขารู้สึกผ่อนคลายอย่างสมบูรณ์ ด้วยค่ายกลที่ยิ่งใหญ่ซึ่งถูกวางไว้แล้วทุกอย่างก็อยู่ในความควบคุมของเขา ไม่จำเป็นต้องกลัวว่าสือฮ่าวจะหลบหนี

“บรรพบุรุษอาวุโสของเจ้ามีความพิเศษอย่างไร? หากเขาต้องการพบข้าก็คลานมาด้วยตัวเอง!” สือฮ่าวรู้สึกรำคาญมานานแล้วซึ่งเป็นสาเหตุที่คำพูดของเขาแหลมคมขึ้นเรื่อยๆ

“ไอ้หนูปีกของเจ้าถูกตรึงไว้แล้วไม่มีทางที่เจ้าจะหลบหนีได้อีกต่อไป!” เฟิงไป่หลิงตะโกน กระโปรงยาวสีเหลืองขนห่านของนางปลิวไสวทั้งๆที่ไม่มีลม

ในเวลาเดียวกันศีรษะที่มีเส้นผมสลวยของนางก็พริ้วไหวเช่นกัน นางสาบานว่าจะสังหารสือฮ่าวด้วยตัวเองเพื่อแก้แค้นให้เฟิงซิงเทียนอัจฉริยะขอตระกูลเฟิงหลานชายของนาง

สือฮ่าวแสดงสีหน้าดูถูก มีปีกคู่หนึ่งปรากฏอยู่ข้างหลังเขา

“เจ้า…” เฟิงไป่หลิงโกรธมากสายตาของนางแทบจะมีเปลวไฟลุกโชนออกมา

จิ!

หลังจากนั้นสือฮ่าวก็เคลื่อนตัวไปข้างหลังอย่างรวดเร็วโดยที่สายตาของคนพวกนั้นไม่อาจมองตามทัน เขาใช้ปีกของคุนเผิงฟาดฟันเข้าใส่ผู้ยิ่งใหญ่อาณาจักรปลดปล่อยตนเองของตระกูลเฟิงคนอื่นอย่างรวดเร็ว

ในขณะนี้พายุลูกใหญ่พัดเข้ามาทำให้โดมท้องฟ้าแตกกระจายเป็นพลังที่น่าตกใจอย่างยิ่ง

ใบหน้าของบุคคลเหล่านั้นเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง พวกเขาทั้งหมดประสานอินอย่างรวดเร็วเพื่อเตรียมรับการโจมตี

อย่างไรก็ตามในขณะนั้นแผ่นหลังของสือฮ่าวก็เย็นลงสัมผัสอันตรายบางอย่างปรากฏขึ้นมาในใจของเขา

เขารู้สึกได้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องจึงเปลี่ยนเส้นทางทันที ด้วยเสียงไคเขาฉีกผ่านความว่างเปล่าและหนีไปยังสุดขอบฟ้าเช่นนั้น

ในความเป็นจริงการสังหารคนพวกนี้ไม่ใช่ปัญหาของเขาแม้แต่น้อย เพียงแต่เขามักรู้สึกเสมอว่ามีอันตรายร้ายแรงบางอย่างซ่อนอยู่

เอ็น? คนเหล่านี้ล้วนตกตะลึง

อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ได้ตื่นตระหนกเพราะค่ายกลที่ยิ่งใหญ่ปกคลุมสถานที่ทั้งหมดนี้ไว้แล้ว พวกเขาไม่กลัวว่าสือฮ่าวจะหนีไปได้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด