505 - คัมภีร์ในก้อนหิน
1816 - คัมภีร์ในก้อนหิน
สือฮ่าวสั่นสะท้านอย่างมากขนเส้นเล็กทั่วร่างกายของเขาตั้งตรง ไม่ใช่ว่าเขากลัว แต่เป็นเพราะเขามีความสุขมากเกินไป สิ่งนี้ถือเป็นความลึกลับที่ยิ่งใหญ่เป็นเรื่องที่น่ายินดีเกินจินตนาการ!
ตอนนี้สือฮ่าวไม่ได้ขาดคัมภีร์เพราะเขามีญาณวิเศษที่สามารถใช้ประโยชน์ได้จริงหลายอย่าง
พวกมันเป็นญาณวิเศษระดับสูงสุดเพียงรอให้เขาก้าวเข้าสู่อาณาจักรบ่มเพาะที่สูงขึ้นก็จะสามารถแสดงพลังของมันออกมาได้ถึงจุดสูงสุด
ตัวอย่างเช่นคัมภีร์ที่ไม่อาจหยั่งรู้ นี่เป็นวิชาที่ยอดเยี่ยมที่เขาต้องการให้ได้มาซึ่งตำราที่สมบูรณ์แบบ เพื่อจะได้บ่มเพาะให้ถึงระดับสูงสุด
น่าเสียดายที่มีส่วนหนึ่งของมันหายไปในเขตหวงห้ามของเก้าสวรรค์ ตอนนี้เขาไม่มีทางหามันมาได้
อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นเช่นนี้ แต่เขาก็มีความสามารถระดับเทพอื่นๆอีกมากมายพร้อมกับวิชาลับอีกไม่น้อย
แต่ตำราเล่มใหม่นี้ก็ทำให้เขามีความรู้สึกที่ดีมาก ยุคที่จักรพรรดิร่วงหล่นมีความลับมากมายหากนี่เป็นคัมภีร์โบราณบางทีมันอาจเผยให้เห็นมุมของความลึกลับบางอย่าง
“เป็นตำราญาณวิเศษหรือเป็นบันทึกทางประวัติศาสตร์บางประเภท!” เขาตั้งหน้าตั้งตารอจริงๆ
เขาหยิบคัมภีร์ทองคำแห่งความว่างเปล่าเก็บไปอย่างรวดเร็วเพราะไม่ต้องการให้ผู้ใดทราบถึงการคงอยู่ของมัน
“สหายน้อยเราให้ศิลาสวรรค์อมตะแก่เจ้ายืมได้ แต่การที่เจ้าเอามันไปนี่หมายความว่าอย่างไร!” บรรพบุรุษตระกูลเทพสวรรค์กล่าวใบหน้าของเขามืดลง
ตอนนี้เขาไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้อีกต่อไปแล้ว บรรพบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหกคนของพวกเขาต้องผ่านความยากลำบากมากมาย
เพื่อนำสิ่งนี้กลับมาจากดินแดนอันลึกลับแม้กระทั่งบางคนต้องเสียชีวิตไป พวกเขาจะสูญเสียมันไปได้อย่างไร?
“วันนี้ข้ามาเพื่อทวงถามหนี้ การที่พวกเจ้ามอบศิลาสวรรค์อมตะให้ก็เป็นเรื่องเหมาะสมไม่ใช่หรือ? หรือพวกเจ้าต้องการมันกลับคืน? พวกเจ้าเห็นข้าเป็นตัวตลกหรืออย่างไร!” สือฮ่าวกล่าว
“เจ้าหนูเจ้าทำเกินไปแล้ว!” ผู้อาวุโสบางคนไม่สามารถอดกลั้นได้อีกต่อไป
แม้ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาจะพยายามก้มหัวให้แล้ว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะยอมรับได้ทุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่สมบัติสูงสุดของตระกูลก็ยังถูกเอาไปใครจะสามารถยอมรับเรื่องนี้ได้? พวกเขาต้องยึดคืน
“ฮวงข้าแนะนำให้เจ้ามอบมันคืนมาไม่อย่างนั้น?…” ใครบางคนตะโกน
“ไม่อย่างนั้นอะไร? ถ้าพวกเจ้าไม่พอใจก็มาเอามันคืน เชื่อหรือไม่ว่าข้าคนนี้จะตบพวกเจ้าให้ตายในครั้งเดียว!” สิงโตสีทองกล่าวพร้อมกับแสดงท่าทีกระหายเลือดออกมา
คนกลุ่มจากตระกูลเทพสวรรค์จ้องมองด้วยความโกรธ แต่พวกเขาก็ยังคงหวาดกลัว ใครจะออกไปสู้ได้?
หลายคนรู้ว่าระดับการบ่มเพาะของชายคนนี้และสัตว์ขี่ของเขาสูงมากจนน่ากลัว แม้แต่ผู้อาวุโสทั้งหมดของตระกูลหากออกไปก็มีแต่จะตายเปล่า!
อาณาจักรปลดปล่อยตนเองของฮวงสามารถกวาดล้างทุกสิ่งทุกอย่างภายในสามพันแคว้นได้อย่างแน่นอน
เพราะในตอนนี้ไม่มีผู้ใดที่สามารถมีระดับบ่มเพาะสูงกว่าเขา ในระดับผู้สูงสุดทุกคนที่พวกเขารู้จักล้วนแล้วแต่อยู่ในเก้าสวรรค์เบื้องบนทั้งสิ้น!
“สู้! เราจะสูญเสียสมบัติสูงสุดของตระกูลให้กับบุคคลภายนอกได้อย่างไร”
“นี่มันไปไกลเกินไปแล้ว พวกเราไม่สามารถยอมรับได้อย่างแน่นอน!”
เด็กหนุ่มจำนวนไม่น้อยไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้ได้พวกเขาตะโกนออกมาด้วยความโกรธแค้น
เมื่อสือฮ่าวเห็นสิ่งนี้เขาก็หัวเราะเบาๆแต่มันค่อนข้างเย็นชา ย้อนกลับไปตอนนั้นเขาได้รับความอับอายที่นี่และตอนนี้เขาเพิ่งได้ระบายความขุ่นข้องออกมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
พวกเขาต้องการที่จะแย่งชิงศิลาสวรรค์อมตะคืนอย่างงั้นหรือ? นี่เป็นเพียงการนำหายนะมาใส่ตัวเท่านั้น!
“มีสายเต๋าคนใดต้องการออกมาประลองหรือไม่ ข้ารับรองว่าจะไม่เอาชีวิตพวกเจ้า?” สือฮ่าวถาม
“ข้าโมโหจะตายแล้ว!” บางคนตะโกน แต่ไม่มีใครออกจากเมือง
เป็นเพราะพวกเขารู้ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรถ้าพวกเขาออกไป
“ใช้เมืองโบราณปราบเขา!” ใครบางคนกล่าวเบาๆ
เมืองโบราณเปล่งประกายราวกับสัตว์ประหลาดยักษ์ ความผันผวนของพลังงานที่น่าสะพรึงกลัวถูกปลดปล่อยออกมาและจากนั้นทั้งหมดก็ถูกเล็งไปตามทิศทางของสือฮ่าว
สือฮ่าวเผยรอยยิ้มจางๆ ร่างกายของเขาขยับเหมือนริ้วแสงข้ามหลายแสนลี้ในพริบตา เขาจะเผชิญหน้ากับมันทำไมในเมื่อเขาสามารถหลีกเลี่ยงได้
“อย่าทำผลีผลาม!” บรรพบุรุษตระกูลเทพสวรรค์กล่าว
เป็นเพราะแม้ว่าเมืองนี้จะมีอำนาจ แต่การโจมตีแต่ละครั้งก็ใช้ทรัพยากรเป็นจำนวนไม่น้อย ซึ่งแม้จะเป็นเช่นนั้นก็ไม่แน่ว่าพวกเขาจะสามารถจัดการฝ่ายตรงข้ามได้
มิหนำซ้ำอาจทำให้ฮวงใช้เป็นข้ออ้างในการรีดไถพวกเขามากขึ้นกว่านี้อีก
เมื่อข่าวนี้ถูกกระจายออกไปผู้คนมากมายในสามพันแคว้นล้วนตื่นตนก
ฮวงไปเยี่ยมเมืองแห่งสวรรค์ด้วยตัวคนเดียว ในท้ายที่สุดไม่มีใครกล้าออกจากเมืองสิ่งนี้ทำให้ผู้ฝึกฝนทุกคนตกตะลึง
ฮ่าฮ่า ...
ในที่สุดสือฮ่าวก็จากไปโดยไม่โจมตีเมือง เขานำศิลาสวรรค์อมตะพร้อมกับขี่ราชสีห์ผู้กล้าหายลับไปที่ขอบฟ้า
เขาไม่ต้องการสู้ศึกนองเลือดที่นี่ แต่ความชั่วร้ายของเขายังคงไม่ลดลง อย่างไรก็ตามในวันนี้ตระกูลเทพสวรรค์ไม่กล้าต่อต้านจึงเป็นเหตุให้ผู้คนไม่ได้มีโอกาสมองเห็นความแข็งแกร่งที่แท้จริงของฮวง
“เราจะปล่อยให้เขาจากไปง่ายๆอย่างนั้นเหรอ?” ด้านหลังหลายคนกัดฟันแน่น
“แล้วเจ้าอยากทำอะไร? เจ้าจะสู้เขาได้ไหม? นั่นเท่ากับเป็นการเอาชีวิตของตัวเองไปทิ้ง ข้าขอเตือนเจ้าว่าตอนนี้ยุคทองของเขามาถึงแล้ว หากตระกูลเทพสวรรค์ของเราต่อต้านสักวันหนึ่งพวกเราจะถูกกำจัดไปหมดสิ้น!” ใครบางคนพูดพร้อมกับถอนหายใจ
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้มันทำให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ ผู้คนในตระกูลเทพสวรรค์ทั้งหมดรู้สึกถึงคลื่นแห่งความหนาวเย็น
“ย้อนกลับไปถ้าไม่ใช่เพราะสิ่งเหล่านั้นเขาคงจะยืนอยู่ด้วยกันกับเรา!” มีคนกล่าวด้วยความเสียใจ
ในขณะเดียวกันผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงในตอนนั้นต่างก็ใบหน้าบิดเบี้ยวอย่างน่าเกลียด ถ้าไม่ใช่เพราะท่าทางของพวกเขาในตอนนั้นสิ่งต่างๆจะจบลงเช่นนี้ได้อย่างไร? พวกเขาทั้งหมดเต็มไปด้วยความเสียใจไม่รู้จบ
“อวิ๋นซีเจ้าคิดถึงบ้านไหม? หลังจากออกจากอาณาจักรที่ต่ำกว่ามาหลายปีเจ้ายินดีจะกลับไปหรือไม่?” บรรพบุรุษอาวุโสถามนาง
"อา?" อวิ๋นซีตกใจ
“ศิลาสวรรค์อมตะนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อตระกูลของเรา ความสัมพันธ์ของเจ้ากับเขาก่อนหน้านี้ไม่ได้เลวร้ายนัก ข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถซ่อมแซมความสัมพันธ์ที่แตกร้าวของเขาและตระกูลของเราให้ฟื้นกลับมาใหม่ได้…” บรรพบุรุษอาวุโสของตระกูลเทพสวรรค์ถอนหายใจเบาๆ
…
“พวกเจ้าได้ยินหรือไม่? ฮวงไปเยี่ยมเมืองแห่งสวรรค์ก่อนที่จะนำของวิเศษประจำตระกูลเทพสวรรค์กลับมาโดยไม่มีการสู้รบ!”
“สวรรค์ฮวงนั้นโหดร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ตระกูลเทพสวรรค์ที่เคยรุ่งโรจน์ในอดีตยังต้องยอมก้มหัวให้เขา?”
ในโลกภายนอกผู้บ่มเพาะพลังมากมายกำลังคุยกันอยู่ทำให้เกิดความโกลาหลไม่สิ้นสุด
ไม่มีทางที่เรื่องนี้จะเป็นความลับได้ มันแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว
“เราควรจะทำอย่างไร? ก่อนหน้านี้พวกเราโจมตีฮวงด้วยความโหดเหี้ยม เขาจะมาแก้แค้นพวกเราหรือเปล่า?”
“ของพวกเจ้ายังธรรมดาก่อนหน้านี้มีคนของตระกูลข้าด่าประณามฮวงในที่สาธารณะมีผู้คนได้ยินเรื่องนี้มากมาย ถ้าข่าวนี้ไปถึงหูเขาเขาคงไม่มากวาดล้างตระกูลของข้าหรอกนะ?”
ทุกคนเริ่มตื่นตระหนกเพราะฮวงนั้นป่าเถื่อนเกินไป เขากล้าแตะต้องแม้แต่ตระกูลเทพสวรรค์ ยังจะมีอะไรอีกที่เขาไม่กล้ายั่วยุ?
“ ข้าได้ยินมาว่าตระกูลเทพสวรรค์รู้สึกเสียใจอย่างยิ่งต่อการกระทำของพวกเขาก่อนหน้านี้
ตอนนี้พวกเขาถึงกับเริ่มที่จะซ่อมแซมความสัมพันธ์กับฮวง ซึ่งมีข่าวลือว่าพวกเขาพยายามที่จะเชื่อมต่อผ่านการแต่งงานโดยใช้ไข่มุกของตระกูลของพวกเขาเป็นเครื่องแลกเปลี่ยน”
“ตระกูลเทพสวรรค์ทำเรื่องหน้าขายหน้านัก”
มีความปั่นป่วนอยู่ทุกหนทุกแห่งทุกคนล้วนแล้วแต่คุยกันเรื่องนี้
สือฮ่าวจากไปแล้ว เขามุ่งตรงไปยังดินแดนโบราณมีเส้นทางที่นำไปสู่อาณาจักรที่ต่ำกว่า เขาอยากจะดูตัวเองดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่!