502 - ตบหน้าโลกใต้พิภพ
1813 - ตบหน้าโลกใต้พิภพ
“ในขณะที่เราท่องสวรรค์และปฐพีด้วยอำนาจของเราบรรพบุรุษของเจ้าเปี๊ยกฮวงนั่นยังคงดื่มนมอยู่ แต่ในวันนี้เขากล้าที่จะทำสิ่งนี้อย่างอวดดี!”
สือฮ่าวได้ยินคำเหล่านี้มาบ้างแล้ว เขาอดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยออกมาเบาๆ ไม่มีกำแพงใดที่ลมไม่รั่วมีผู้คนไม่น้อยที่ต้องการเอาใจเขา จึงแจ้งเรื่องนี้ให้กับตระกูลฉิน
ในขณะเดียวกันสิ่งนี้ยังแสดงให้เห็นว่าแม้คนพวกนั้นจะตั้งตัวเป็นปรปักษ์กับสือฮ่าว แต่พวกเขาก็ไม่ได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน มีบางนิกายที่ทำข่าวรั่วไหลออกมาเพราะมีเจตนาร้ายต่อผู้อื่น
สือฮ่าวเดินหน้าต่อไป เมื่อเขาผ่านดินแดนแห่งหนึ่งเขาเพิ่งสังเกตเห็นว่าตระกูลโบราณที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขาและเรียกตัวเองว่าสวรรค์แดง
ดินแดนแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโลกใต้พิภพ พวกเขาออกมาประณามสือฮ่าวโดยกล่าวว่าเขากำลังรนหาที่ตาย
ฮ่อง!
นิกายโบราณที่ไม่ได้ใหญ่โตมากนัก แต่พวกเขามีผู้ทรงพลังมากมาย ในวันนั้นคุนเผิงร่างใหญ่โตทัดเทียมสวรรค์ได้บดขยี้ดินแดนของพวกเขาจนราบเป็นหน้ากลอง
สือฮ่าวไม่ได้ลงมือฆ่าผู้บริสุทธิ์ แต่ผู้นำของนิกายรวมถึงผู้อาวุโสอื่นของพวกเขาถูกสังหารจนหมดสิ้นมิหนำซ้ำร่างกายของพวกเขาพี่เป็นนกศักดิ์สิทธิ์ชนิดหนึ่งยังถูกย่างกินภายในซากปรักหักพังนั้น
จากนั้นสือฮ่าวก็ยึดพระราชวังรวมถึงตำหนักทั้งหมดของพวกเขาจนเหี้ยนเตียนไม่มีสิ่งใดเหลือไว้
นี่เป็นเหมือนเสียงฟ้าร้องท่ามกลางความเงียบสงบของสามพันแคว้น
ราชาปีศาจลงมือแล้ว!
นี่คือฉายาที่ผู้คนมากมายตั้งให้เขา ฮวงเป็นคนป่าเถื่อนอย่างแท้จริงเขาทำลายมหาอำนาจแห่งหนึ่งจนย่อยยับอย่างง่ายๆ แม้กระทั่งย่างผู้นำของนิกายรวมถึงผู้อาวุโสสิ่งที่ร่างเดิมคือนกศักดิ์สิทธิ์และดื่มกินด้วยความสำราญ
จากเหตุการณ์นี้ทุกคนรู้ว่าฮวงไม่หวาดกลัวตำหนักเซียนอีกต่อไปแล้ว จะต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นกับผู้อมตะคนนั้นอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นเขาจะกล้าลงมืออย่างเอิกเกริกเช่นนี้ได้อย่างไร?
ยิ่งไปกว่านั้นนี่เป็นการตบหน้าโลกใต้พิภพด้วยหรือไม่?
เผ่าพันธุ์สวรรค์แดงอาศัยอยู่ในโลกใต้พิภพนี่คือสิ่งที่ทุกคนรู้
“นี่เป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู!” ผู้คนมากมายถอนหายใจออกมาด้วยความกังวล ใบหน้าของพวกเขาบิดเบี้ยวอย่างรุนแรงแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้
เป็นเพราะมีนิกายมากมายที่สาปแช่งฮวง ทั้งยังรวมตัวเป็นพันธมิตรเพื่อสังหารเขา
ตอนนี้สวรรค์แดงถูกกวาดล้างไปแล้ว เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้หลายนิกายสั่นสะเทือนพวกเขาหวาดผวาอย่างแท้จริง
ในความเป็นจริงสือฮ่าวเพียงแค่กำจัดสวรรค์แดงไปเพราะมันขวางทางเดินของเขาอยู่เท่านั้น เขาไม่มีความตั้งใจที่จะเป็นศัตรูกับทั้งโลก
เป็นเพราะเขามีเรื่องที่สำคัญกว่าอยู่ในมือ และต้องค้นหาเส้นทางเพื่อกลับไปยังอาณาจักรที่ต่ำกว่าให้เร็วที่สุด
“แคว้นสวรรค์!” สือฮ่าวมีรอยยิ้มแปลกประหลาดอยู่บนใบหน้า
หลังจากที่เดินทางมานานพอสมควรเขาก็ผ่านแคว้นสวรรค์พอดี
ตระกูลเทพสวรรค์อาศัยอยู่ในแคว้นนี้ซึ่งเป็นสาเหตุที่แคว้นนี้ได้รับการขนานนามว่าแคว้นสวรรค์
ตระกูลเทพสวรรค์ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับสือฮ่าว เขามีความทรงจำมากเกินไปซึ่งทั้งหมดไม่ใช่เรื่องดี
นี่คือสถานที่ที่เต็มไปด้วยความคับแค้นใจ เขาเกือบจะตายที่นี่มันเป็นสถานที่ที่เขาเกลียดชังอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
ในตอนนั้นเขาปกป้องอวี๋นซี ช่วยเหลือนางเดินทางผ่านหลายแสนลี้ในที่สุดก็พานางไปส่งถึงตระกูลเทพสวรรค์ แต่ในท้ายที่สุดคนพวกนี้ก็ทรยศเขาทั้งยังจับเขาขังไว้ในกรง
ในตอนนั้นเขาถูกทรมานซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเกือบจะเสียชีวิตไป
ทุกอย่างเป็นเพราะพวกเขาต้องการญาณวิเศษของคุนเผิงและสิ่งอื่นๆของเขา
ตระกูลนี้ตอบแทนความเมตตาของเขาด้วยความชั่วร้าย พวกเขากลายเป็นหนามยอกอยู่ในหัวใจของสือฮ่าวอยู่ตลอดเวลา
“ไปเยี่ยมสหายเก่าสักหน่อยเถอะ!”
สือฮ่าวตัดสินใจมุ่งหน้าสู่เมืองแห่งสวรรค์โดยไม่ปิดบังตัวเอง!
เขาแต่งกายด้วยเสื้อผ้าล้ำค่าที่ส่องแสงเจิดจ้าไปทั่วท้องฟ้า เขาเดินทางช้าๆผ่านนับแสนลี้ให้ผู้คนทั้งหมดได้ชื่นชมบารมีของเขา
เมืองแห่งสวรรค์คือเมืองยักษ์ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า มันคือดินแดนบรรพบุรุษของตระกูลเทพสวรรค์ซึ่งดำรงอยู่มานับล้านปี
ในขณะที่เขาเดินทางเขาก็คิดไปถึงชายชราที่อยู่ในเมืองจักรพรรดิ บรรพบุรุษของตระกูลเทพสวรรค์เดินทางกลับมาจากชายแดนรกร้างแล้วหรือไม่?
สือฮ่าวครุ่นคิดเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่างจากนั้นรอยยิ้มเย็นชาก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา เขามุ่งตรงไปยังดินแดนสำคัญของตระกูลเทพสวรรค์!
สือฮ่าวเข้าใกล้เมืองแห่งสวรรค์อีกครั้งระดับการบ่มเพาะของเขาสูงขึ้นกว่าครั้งที่แล้วราวกับคนละคน แม้แต่สัตว์ขี่ของเขาก็เป็นถึงราชสีห์ผู้กล้าพลังอันยิ่งใหญ่นี้ข่มขู่ทุกเผ่าพันธุ์ให้ต้องก้มหัว
สิงโตสีทองที่มีร่างใหญ่โตราวกับภูเขาบินผ่านท้องฟ้าอย่างอหังการสร้างความหวาดวิตกให้กับผู้คนมากมาย
การปรากฏตัวของพวกเขาบีบคั้นหัวใจของผู้คนในเมืองสวรรค์เป็นอย่างยิ่ง! การกระทำของเขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการหาเรื่องเผ่าพันธุ์เทพสวรรค์
“เขาเป็นเด็กในอดีต แต่เพียงไม่กี่ปีการบ่มเพาะของเขาถึงกับน่ากลัวขนาดนี้จริงๆเลย?” มีคนกระซิบกระซาบกัน สิ่งนี้เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่ออย่างแท้จริง
ต้องเข้าใจว่าสือฮ่าวยังอายุเพียงแค่ยี่สิบปีต้นๆในปัจจุบัน แม้ว่าจะเป็นช่วงรุ่งโรจน์ที่สุดของชีวิตผู้บ่มเพาะ
แต่การที่เขาเป็นถึงสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรปลดปล่อยตนเองนั้นเป็นเรื่องที่ท้าทายสวรรค์มากเกินไป! นี่คือสัตว์ประหลาดอย่างแท้จริงเขาเป็นตัวตนที่ไม่มีใครสามารถลอกเลียนได้ตลอดกาล
ในท้ายที่สุดบุคคลผู้นี้ยังเด็กมากและตอนนี้เขามาหาเรื่องถึงหน้าประตูตระกูลเทพสวรรค์ นั่นหมายความว่าในอนาคตพวกเขาจะอยู่ด้วยฝันร้ายไปตลอดกาล
อัจฉริยะเช่นนี้มีโอกาสที่จะก้าวเข้าสู่อาณาจักรแห่งความเป็นอมตะในอนาคต ทุกคนที่นี่รู้ว่าเขาจะต้องกลายเป็นสิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุดในอีกไม่กี่ปี
เขาอายุเท่าไหร่เองตอนนี้? เวลานับจากนี้ไปอีกหลายปีพวกเขาจะจะดำเนินชีวิตอย่างไร? แม้ไม่ต้องกล่าวถึงอนาคตแต่ตระกูลเทพสวรรค์จะผ่านเหตุการณ์ในวันนี้ได้อย่างไรก็ยังเป็นเรื่องที่ผู้คนไม่กล้าคาดคิด
เมื่อผู้อาวุโสบางคนในตระกูลเทพสวรรค์คิดเช่นนี้ ร่างกายของพวกเขาก็สั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว
บทสรุปนี้น่ากลัวเกินไป เพียงแค่คิดขึ้นมาก็ทำให้หัวใจของพวกเขาหนาวเหน็บรู้สึกอับจนปัญญาอย่างยิ่ง!
“สหายน้อยพวกเรารู้ว่าเราผิดต่อเจ้าพวกเรายินดีที่จะชดใช้” ผู้อาวุโสคนหนึ่งตะโกนออกมา
เป็นเพราะเมื่อพวกเขาคิดถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นพวกเขาทุกคนต่างหวาดผวาอย่างมาก
“ไม่มีปัญหา ข้าจะขอดูว่าพวกเจ้ามีความจริงใจมากแค่ไหน” สือฮ่าวหัวเราะเยาะ
ประโยคนี้ทำให้ใบหน้าของหลายคนเปลี่ยนไป ฮวงตั้งใจจะยั่วโมโหพวกเขาอย่างแน่แท้
อย่างไรก็ตามเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตหลายๆคนก็อดไม่ได้ที่จะนิ่งเงียบ ในขณะที่คนไม่กี่คนที่เกี่ยวข้องโดยตรงก็รู้สึกทุกข์ใจและหดหู่มากขึ้นไปอีก
ต้องเข้าใจว่าความสัมพันธ์ของพวกเขากับฮวงในอดีตหากไม่สามารถจัดการได้ เขาจะต้องกลายเป็นหายนะสำหรับตระกูลเทพสวรรค์อย่างแน่นอน
ฮวงเสี่ยงอันตรายพาอวิ๋นซีกลับมาส่งถึงที่นี่ หากพวกเขาไม่ได้มีเจตนาร้ายปรารถนาญาณวิเศษประจำตัวของเขา เหตุการณ์ร้ายในวันนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร?
ในความเป็นจริงที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ ถ้าไม่ใช่พวกเขาจงใจทำให้เรื่องยากลำบากด้วยความโลภ ความสัมพันธ์ของพวกเขาจะไม่ลงเลยอย่างวันนี้แน่นอน
คิดแล้วก็น่าเสียดายอย่างยิ่ง หากสิ่งต่างๆพัฒนาขึ้นตามปกติ ฮวงจะมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับพวกเขา บางทีแม้กระทั่งอาจจะแต่งงานกับอวิ๋นซีก็เป็นได้
มีบางคนแอบมองไปที่อวิ๋นซีในอดีตสือฮ่าวและนางเป็นสหายที่ดีต่อกัน ทั้งสองอยู่ในอาณาจักรที่ต่ำกว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาใกล้ชิดกันมาก เมื่อมาถึงที่นี่พวกเขายังร่วมเป็นร่วมตายกันเป็นระยะทางกว่าแสนลี้
หลังจากนั้นก็มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากมายจนเป็นเรื่องราวดำเนินมาถึงปัจจุบัน
ใบหน้าของอวิ๋นซีนั้นซับซ้อนดวงตาของนางเต็มไปด้วยความหดหู่และเสียใจ
ในตอนนั้นตระกูลเทพสวรรค์ปฏิบัติต่อสือฮ่าวอย่างดูหมิ่นเหยียดหยาม และพยายามส่งเขาไปสู่เส้นทางแห่งความตายในตอนนี้นางไม่กล้าที่จะมองหน้าสือฮ่าวอีกแล้ว
นั่งถอนหายใจด้วยความเศร้าโศก หากนางยังคงยืนกรานจนถึงที่สุดบางทีประสบการณ์ของสือฮ่าวอาจไม่เลวร้ายถึงขนาดนี้
หลายสิ่งหลายอย่างเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็จะไม่มีทางหวนคืน การกระทำของตระกูลเทพสวรรค์นั้นเลวร้ายมากเกินไปตอนนี้นางทำได้เพียงแค่ถอนหายใจ