501 - เปรียบเสมือนเทาเที่ย
1812 - เปรียบเสมือนเทาเที่ย
“สวรรค์ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินมาว่าผู้เชี่ยวชาญจากทุกด้านไปตรวจสอบตำหนักเซียน พวกเขาเล่าว่าแม้กระทั่งวังทองแดงก็ยังเคลื่อนออกไปจากที่เดิม เป็นไปได้ไหมว่านี่อาจเกิดจากการดับสูญของผู้อมตะคนนั้น?”
ข่าวลือสะพัดสะเทือนสามพันแคว้น!
สิ่งนี้ทำให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ ผู้เชี่ยวชาญจากทุกฝ่ายพูดไม่ออก
หลังจากนั้นไม่นานก็มีคนไปยืนยันเรื่องนี้ถึงตำหนักเซียนโดยตรงว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“ตำหนักเซียนได้ปิดผนึกภูเขาของพวกเขา วังทองแดงบินขึ้นไปบนท้องฟ้าก่อนจะใช้พลังเพื่อปราบปรามทั้งดินแดนไม่อนุญาตให้ผู้ใดล่วงล้ำ ไม่สามารถเข้าใกล้ได้!” เมื่อข่าวเหล่านี้ได้รับการยืนยันมันก่อให้เกิดความปั่นป่วนอย่างมาก
ทุกคนแน่ใจว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นในตำหนักเซียน!
“ไม่แน่ว่าฮวง อาจสังหารผู้อมตะไปแล้ว” ในวันนั้นมีผู้คนมากมายกรีดร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว ผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่หลายคนใบหน้าซีดเผือดพวกเขาทั้งหมดกังวลเป็นอย่างมาก
เป็นเพราะเมื่อไม่นานมานี้มีมหาอำนาจมากมายหลายกลุ่มร่วมมือกันเพื่อปิดผนึกเส้นทางกลับเข้าสู่อาณาจักรวิญญาณ เพื่อจะสังหารฮวงซึ่งลงไปในดินแดนที่ต่ำกว่า
อย่างไรก็ตามในเวลานั้นพวกเขาไม่กังวลเพราะมีตำหนักเซียนคอยปกป้อง แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถสังหารฮวงได้แต่ท้ายที่สุดพวกเขาก็จะไม่ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ทุกคนมีความคิดเช่นนี้
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามีความเป็นไปได้อย่างยิ่งที่ฮวงอาจสังหารผู้อมตะคนนั้นไปแล้ว!
ในวันนั้นนิกายใหญ่มากมายต่างนำของขวัญล้ำค่ามาเยี่ยมชมภูเขาอมตะและเข้าสู่ตระกูลฉิน ผู้ยิ่งใหญ่จำนวนมากมายต่างมาที่นี่เพื่อขอให้ฮวงยกโทษให้พวกเขา
เป็นเพราะมีบางคนที่เชื่อว่าแม้ว่าฮวงจะไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่เขาก็มีความเกี่ยวข้องกับสถานที่แห่งนี้อย่างแน่นอน
พวกเขามอบของขวัญออกมาเป็นจำนวนมากเพียงเพื่อให้ได้เข้าพบเซียนอมตะฉิน
พวกเขากำลังค้นหาที่อยู่ของฮวงทางอ้อมโดยต้องการทราบว่า เขาอยู่ที่ไหน นี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
“ข้าไม่เคยเห็นเขา” เซียนอมตะฉินส่ายหน้าอย่างหนักแน่น เขาออกมาต้อนรับบุคคลสำคัญบางคนด้วยตัวเอง
แน่นอนว่ามีไม่กี่คนที่สามารถทำให้เขาปรากฏตัวได้เพราะพวกเขาทั้งหมดเป็นผู้นำของมหาอำนาจบางแห่ง
เป็นเวลาหลายวันที่อาคันตุกะจากมหาอำนาจปรากฏตัวในภูเขาอมตะอย่างต่อเนื่องโดยนำของขวัญล้ำค่าเพื่อแสดงความปรารถนาดี
เป็นเพราะการต่อสู้ในอาณาจักรวิญญาณสร้างความเสียหายให้กับพวกเขามากมาย ฮวงป่าเถื่อนเกินไปเขากลายร่างเป็นคุนเผิงและเที่ยวสังหารผู้คนมากมายจนเลือดไหลเป็นท้องธาร
เกือบทั้งหมดถูกกวาดล้างในการต่อสู้ครั้งนั้น!
แม้ว่ามันจะอยู่ในโลกแห่งจิตวิญญาณไม่ใช่การต่อสู้ในโลกแห่งความเป็นจริงแต่ก็ยังมีผู้คนมากมายที่เสียชีวิตจากการโจมตีของเขา
นี่เป็นการแสดงถึงความแข็งแกร่ง ฮวงได้สถาปนาตัวเองเป็นราชาปีศาจที่ไม่ว่าใครจะได้ยินชื่อต่างก็ต้องสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว!
นี่เพิ่งผ่านไปกี่ปีเอง? เขาเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นผู้ที่มหาอำนาจต่างๆต้องก้มหัวให้
ในตอนนั้นเขาถูกมองว่าเป็นเพียงผู้บ่มเพาะตัวเล็กๆคนหนึ่ง ที่พวกเขาสามารถปราบปรามและสังหารได้อย่างง่ายดายราวกับพลิกฝ่ามือ
ตอนนี้แม้แต่ผู้อมตะที่แท้จริงยังถูกสังหารไปแล้ว!
“ฮวงไม่ได้มาที่นี่จริงๆเหรอ?” ผู้บ่มเพาะมากมายพยายามที่จะบุกเข้าไปในตระกูลฉินบ้างก็ติดสินบนด้วยยาขั้นเทพ
หลังจากนั้นแม้แต่คนรับใช้ตัวเล็กๆในตระกูลฉินก็ยังได้รับการติดสินบนเพื่อให้ได้ข้อมูลเพียงเล็กน้อย ภูเขาอมตะเริ่มคึกคักในทันทีด้วยกิจกรรมที่ดึงดูดผู้คนจากทุกนิกาย
อย่างไรก็ตามคนของตระกูลฉินนั้นปากแข็งอย่างยิ่งพวกเขาไม่ได้เปิดเผยข้อมูลใดๆ แต่ด้วยเหตุนี้ทุกคนจึงรู้สึกมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆว่าฮวงต้องมาที่นี่!
ไม่ว่าเขาจะยังอยู่ที่นี่หรือไม่ก็ตาม เขาก็ต้องเคยปรากฏตัวที่นี่มาก่อน
“สหายเต๋าเราต้องการให้ท่านช่วยเราจริงๆ เรามีความเข้าใจผิดเล็กน้อยกับสหายเต๋าฮวง เราหวังว่าท่านจะช่วยให้เราคืนดีกับเขาได้” หลังจากนั้นไม่นานก็มีผู้คนมากมายนำของขวัญที่มีมูลค่ามากกว่าเดิมนับสิบเท่ามาที่ตระกูลฉิน
ทั้งหมดนี้เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดที่พวกเขามีกับฮวงเพราะกลัวว่าราชาปีศาจคนนั้นจะบุกมาแก้แค้นพวกเขาถึงบ้าน
เป็นเพราะฮวงนั้นป่าเถื่อนอย่างแท้จริง หากเขาบ้าคลั่งขึ้นมาคงเกิดหายนะอันยิ่งใหญ่กับทุกคน ใครจะรู้บางทีเขาอาจจะกวาดล้างทุกสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในนิกายของพวกเขาก็ได้
ภายในภูเขาอมตะสือฮ่าวลูบคางเบาๆโดยไม่พูดอะไร เขาร้ายกาจขนาดนั้นเลยเหรอ?
นิกายที่ยิ่งใหญ่แสดงความหวาดกลัวออกมาโดยที่เขายังไม่ทันเริ่มลงมือแก้แค้นเลย ผู้คนมากมายต่างแสดงความปรารถนาดีโดยต้องการยุติความขัดแย้งกับเขา
เพียงไม่กี่วันภายในคลังแห่งหนึ่งในตระกูลฉินก็มีสมบัติแห่งสวรรค์ถูกกองรวมกันเป็นภูเขาขนาดเล็กทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นของขวัญจากคนพวกนั้น
นี่เป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายของสือฮ่าว ในขั้นต้นหลังจากฆ่าผู้เป็นอมตะเขาคิดว่าเขากระตุ้นให้เกิดหายนะครั้งใหญ่เขาจึงเตรียมจะกลับไปยังอาณาจักรที่ต่ำกว่าโดยเร็วที่สุด
ในท้ายที่สุดใครจะคาดคิดว่าการต่อสู้ในครั้งนั้นจะทำให้ผู้คนมากมายหวาดกลัวจนต้องก้มหัวให้กับเขา
เขาไม่ได้ปฏิเสธ '' ความปรารถนาดี '' เหล่านี้ เขายินดีต้อนรับผู้มาใหม่ทุกคน ไม่ว่าพวกเขาจะให้อะไรเขาเขาก็รับมันไปโดยไม่มีข้อยกเว้น โดยให้คนของตระกูลฉินรวบรวมมันให้เขา
“สหายน้อยเจ้าต้องการสมบัติสวรรค์เหล่านี้หรือไม่”
แม้แต่ดวงตาของคนในตระกูลฉินก็ยังเป็นสีแดง เป็นเพราะฮวงไม่ได้ออกมาพูดอะไรสักคำ แต่นิกายใหญ่ๆหลายนิกายก็ส่งของขวัญอันล้ำค่ามาให้เขา
“แน่นอนว่าข้าต้องการพวกมันทั้งหมด? เด็กหลายร้อยคนเหล่านี้จะต้องถูกเลี้ยงดูและยังมีหมู่บ้านหินของอาณาจักรที่ต่ำกว่าพวกเขาทั้งหมดรอให้ข้านำสิ่งของพวกนี้กลับไป” สือฮ่าวชี้ไปที่เด็กๆที่เขานำกลับมาจากชายแดนรกร้างและพูดถึงอาณาจักรที่ต่ำกว่า
หลังจากนั้นหลายวันผ่านไป จำนวนคนที่มาเยี่ยมตระกูลฉินก็น้อยลง
ผิวหน้าของสือฮ่าวหนามาก เขาต้องการให้เซียนอมตะฉินกระจายข่าวให้เขาอย่างลับๆบอกกับมหาอำนาจเหล่านั้นที่ก่อนหน้านี้พยายามโจมตีเขาในอาณาจักรวิญญาณ
ว่าถ้าพวกเขาต้องการสงบศึกก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ตราบเท่าที่สมบัติสวรรค์ที่พวกเขานำมาสามารถทำให้เขาพอใจได้ ความขัดแย้งทุกอย่างย่อมถูกลบหายไป
เมื่อเซียนอมตะฉินได้ยินสิ่งนี้เขาก็พูดไม่ออกทันที สมบัติของเจ้าไม่ใช่ว่ามีเป็นภูเขาแล้วเหรอ? ตอนนี้เจ้ายังต้องการกรรโชกผู้อื่นอีก!
“สิ่งเหล่านี้ถูกนำมาโดยพวกเขาด้วยตัวเอง ดังนั้นจึงสามารถนับได้ว่าเป็นความปรารถนาดีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จากนี้ไปมันจะขึ้นอยู่กับการแสดงของพวกเขา” สือฮ่าวกล่าว
เมื่อมหาอำนาจบางส่วนได้ยินเช่นนี้พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะสาปแช่งออกมา พวกเขาบางคนถึงกับออกตัวประนามฮวงในที่สาธารณะโดยกล่าวว่าเขาชั่วร้ายเกินไปสมควรถูกสวรรค์ลงโทษ
อย่างไรก็ตามมีบางคนที่ประนีประนอม พวกเขาส่งคนไปถามตระกูลฉินว่าฮวงต้องการอะไร
สือฮ่าวระบุตรงๆว่าเขาต้องการสมบัติประจำตระกูลของมหาอำนาจต่างๆทั้งหมด ต้องเป็นสมบัติประจำตระกูลที่ทุกคนรู้จักเท่านั้น
ตัวอย่างเช่นยาขั้นเทพของนิกายโบราณบางนิกาย หรือเผ่าพันธุ์บางเผ่าพันธุ์ที่สามารถตีเหล็กหลอมอาวุธต่างๆก็ให้พวกเขาส่งคำภีร์วิชาเหล่านั้นมา
นี่เป็นเหมือนเทาเที่ยที่กำลังอ้าปากกำลังจะกลืนนิกายเหล่านี้ทั้งหมด
หลายคนไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้ได้ แต่ก็ยังมีบางคนเต็มไปด้วยความกังวลและยินยอมที่จะมอบมรดกประจำเผ่าพันธุ์ของพวกเขาออกมา
“ฮวง เจ้าเด็กคนนี้ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเกินไป เขาคิดว่าเขาเป็นผู้สูงสุดอย่างนั้นหรือถึงจะสามารถบีบบังคับพวกเราทุกคนได้?”
“โอหังเกินไปแล้ว! เป็นแค่เด็กสารเลวที่ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม เขาถึงกับกล้ากันแกล้งพวกเราอย่างนั้นเลย!”
มีบางคนที่ไม่ยอมก้มศีรษะ พวกเขาร่วมมือกันแสดงเจตจำนงว่าต้องการสั่งหารสือฮ่าวให้ได้
ในขณะเดียวกันสือฮ่าวได้ออกเดินทางเป็นการส่วนตัวเพื่อตามหาตระกูลโบราณบางตระกูล มีข่าวลือว่าพวกเขาอาจรู้เส้นทางสู่อาณาจักรที่ต่ำกว่า
ในช่วงหลายวันนี้สือจื่อหลิง ฉินอี้หนิงและคนอื่นๆ ใช้พลังของภูเขาอมตะเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้เป็นการเฉพาะจนสามารถรู้ว่าตระกูลโบราณนี้อยู่ที่ไหน
ตระกูลฉินได้สื่อสารกับสถานที่นั้นเป็นเวลาหลายวันแล้ว แต่ก็ไม่มีผลลัพธ์
คนเหล่านั้นยังคงเม้มปากแน่นไม่เปิดเผยอะไรออกมา
ดังนั้นสือฮ่าวจึงตัดสินใจว่าเขาจะมุ่งหน้าพบพวกเขาด้วยตัวเอง