ตอนที่แล้ว499 - สังหารผู้อมตะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป501 - เปรียบเสมือนเทาเที่ย

500 - การหลับไหลของผู้อมตะในตำหนักเซียน


1811 - การหลับไหลของผู้อมตะในตำหนักเซียน

"อะไร? เจ้าสังหารเซียนอมตะคนนั้นเหรอ?” แม้แต่สือจื่อหลิงและฉินอี้หนิงก็ยังมองลูกชายคนโตของพวกเขาด้วยความตกตะลึง

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าลูกชายคนนี้เป็นผู้ที่แข็งแกร่งท้าทายสวรรค์อย่างยิ่ง แต่พวกเขาไม่คิดว่าสือฮ่าวจะทรงพลังถึงขนาดนี้

นี่เป็นความสำเร็จที่น่าเหลือเชื่อเกินไป!

ในอดีตมีผู้คนมากมายที่กล่าวว่ายุคนี้จะไม่มีเซียนอมตะอีกต่อไปเพราะว่ามีบางอย่างผิดปกติกับกฎแห่งเต๋าอันยิ่งใหญ่ของโลกนี้ แต่สุดท้ายแล้ว…ลูกชายคนโตของพวกเขาก็ได้สังหารผู้เป็นอมตะที่แท้จริงโดยตรง!

“ข้าไม่ได้ฆ่าเขาอย่างแท้จริงเพียง แต่ได้ทำลายตราประทับของเขาในโลกวิญญาณ อย่างไรก็ตามนั่นคือสาเหตุที่ทำให้เกิดหายนะครั้งใหญ่ เราต้องรีบออกไปทันที!” สือฮ่าวกล่าว

เมื่อเซียนอมตะฉินได้รู้สถานการณ์เขาก็มึนงงอย่างสิ้นเชิง เจ้าเด็กสาระเลวคนนี้รู้จักสร้างปัญหานัก! การที่เขากล้าต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตในตำหนักทองแดงก็น่าเหลือเชื่อมากพอแล้ว นี่เขาถึงกับสามารถสังหารอีกฝ่ายได้?

“หากเจ้าได้สังหารเขาไปแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลไปจะไม่มีเรื่องร้ายเกิดขึ้นอย่างแน่นอน” เซียนอมตะฉินกล่าวหลังจากคิดถึงเรื่องบางอย่าง

“อ๊ะ?” สือฮ่าวตกใจ

“ตามความเข้าใจของข้าสิ่งมีชีวิตอมตะที่อยู่ในวังทองแดงเป็นเพียงผู้อมตะที่ใกล้ตายเท่านั้น” เซียนอมตะฉินวิเคราะห์อย่างใจเย็น

สือฮ่าวตระหนักได้ทันที

ระหว่างการต่อสู้ในตอนนั้นแม้ว่าวิญญาณดั้งเดิมเซียนอมตะที่แท้จริงในวังทองแดงจะถูกทำลายวิญญาณไปส่วนหนึ่ง

แต่มันก็ต้องส่งผลกระทบต่อเขาเป็นอย่างมากเพราะในโลกแห่งความเป็นจริงวิญญาณดั้งเดิมของเขาก็คงเหลืออยู่เพียงน้อยนิด

ไม่ใช่ว่าเขาเก็บตัวในวังทองแดงเพื่อทำการรักษาอาการบาดเจ็บ แต่เป็นเพราะกฎธรรมชาติของโลกใบนี้กัดกร่อนร่างกายและจิตวิญญาณรวมทั้งพลังศักดิ์สิทธิ์ของเขา

ร่างกายและวิญญาณดั้งเดิมของเขาย่ำแย่ลงในทุกๆวัน หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้เขายืนอยู่หน้าประตูแห่งความตายไม่ไกลแล้ว

“เขาไม่สามารถออกมาได้อย่างแน่นอนข้าเอาหัวรับประกันเลย” เซียนอมตะฉินให้คำยืนยันหนักแน่น

ตำหนักเซียนคือดินแดนโบราณที่ลึกลับอย่างยิ่ง มันเป็นสถานที่อันล้ำค่าซึ่งเซียนอมตะคนนั้นสร้างขึ้นเพื่อรักษาชีวิตของตัวเอง เขาอาศัยอยู่ภายในนั้นมานับล้านปี ถ้าไม่ใช่เพราะสถานที่แห่งนั้นเขาคงตายไปนานแล้ว

ในการกวาดล้างของศัตรูต่างมิติหลังจากยุคเซียนโบราณสิ้นสุดลง เขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อปิดบังไม่ให้สิ่งมีชีวิตต่างมิติเหล่านั้นค้นพบน้ำพุเซียนของเขา

เซียนอมตะคนนั้นแม้ว่าในยุคเซียนอันยิ่งใหญ่เขาจะถือเป็นผู้อมตะที่น่าสังเวชคนหนึ่ง แต่สำหรับโลกยุคปัจจุบันเขาคือสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีใครเทียบได้ นั่นเป็นสาเหตุที่เขาสามารถรักษาน้ำพุเซียนซึ่งเหลืออยู่เพียงน้อยนิดในโลกไว้ได้

สำหรับวังทองแดงนั้นโดยปกติแล้วมันจะตั้งอยู่เหนือน้ำพุเซียนไม่เคยเคลื่อนไหวเลยเป็นเวลาหลายล้านปี โดยปกติมันจะทำหน้าที่ปกป้องสถานที่แห่งนั้น

วิญญาณดั้งเดิมที่ผู้อมตะคนนั้นทิ้งไว้ในวังทองแดงจะต้องเป็นครึ่งหนึ่งของวิญญาณดั้งเดิมของเขา หากมีอะไรเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับน้ำพุเซียนมันจะทำให้เขาสามารถเรียกวังทองแดงออกมาช่วยเหลือได้ทันที

“ ตอนนี้เจ้าได้ทำลายวิญญาณดั้งเดิมที่ผู้อมตะคนนั้นทิ้งไว้ในวังทองแดงผลที่ตามมามันใหญ่หลวงมาก

มันอาจก่อให้เกิดผลกระทบที่น่ากลัวต่อผู้อมตะคนนั้น เขาจะต้องทนทุกข์ทรมานกับการกัดกร่อนของเต๋าแห่งโลกใบนี้และในไม่ช้าเขาจะต้องตายอย่างแน่นอน” เซียนอมตะฉินกล่าว

เป็นเพราะแต่เดิมร่างกายของเขาก็ได้รับความเสียหายมากแล้วตอนนี้ยังมาสูญเสียวิญญาณดั้งเดิมอีกครึ่งหนึ่ง นี่จะเป็นหายนะของเขาอย่างแท้จริง

เซียนอมตะฉินสงสัยว่าเมื่อต้องเผชิญกับความเสียหายร้ายแรงประเภทนี้ ผู้อมตะคนนั้นย่อมไม่กล้าละทิ้งน้ำพุเซียนออกมายังโลกภายนอกอีกตลอดกาล

มิฉะนั้นเขาอาจจะตายได้ตลอดเวลา!

“อ่ามันเป็นแบบนี้จริงเหรอ?” สือฮ่าวค่อนข้างตกใจ

“ข้าคิดว่าในช่วงที่เขาอ่อนแอข้าควรจะตามไปสังหารเขาให้สิ้นซากจะได้ไม่เป็นเภทภัยในภายหลัง!” สือฮ่าวกล่าวด้วยความตื่นเต้น

หากเซียนอมตะคนนั้นยังมีชีวิตอยู่ มันจะเป็นเหมือนมีดเล่มใหญ่ที่ห้อยอยู่บนศีรษะของเขายู่ตลอดเวลา

"เจ้าไปไม่ได้. เพียงเพราะร่างกายที่แท้จริงของเขาไม่ปรากฏออกมาในโลกภายนอกไม่ได้แปลว่าเขาจะงอมือให้เจ้าสังหาร สิ่งที่เขาทำนั้นเป็นไปเพื่อรักษาชีวิตของตัวเอง

หากเจ้าไปที่นั่นและทำการท้าทายเขา ไม่ว่าเจ้าจะเป็นเซียนหรือพุทธะเขาจะต้องทุ่มเทพลังอย่างสุดตัวเพื่อสังหารเจ้าอย่างแน่นอน!

แน่นอนว่าเมื่อเขาออกมาต่อสู้เช่นนั้นมันจะเป็นการเผาผลาญพลังชีวิตของเขาทำให้เขาตายไปพร้อมกับเจ้าเช่นกัน” เซียนอมตะฉินสายหน้าไม่เห็นด้วย

หากมันเป็นอย่างที่เซียนอมตะฉินกล่าว แสดงว่าก่อนหน้านี้เซียนอมตะที่อยู่ในวังทองแดงสามารถออกมายังโลกภายนอกได้ แต่การต่อสู้อันรุนแรงที่ชายแดนอมตะเขากลับไม่แยแสแม้แต่น้อย

“เขาเป็นเพียงเศษสวะในบรรดาผู้อมตะ คนผู้นี้ขี้ขลาดและรักชีวิตของตัวเองเหนือสิ่งอื่นใด! หากข้าเป็นเขาแม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่ข้าก็ต้องมุ่งหน้าไปที่ชายแดนรกร้างและสู้ตายที่นั่น” สือฮ่าวกล่าว

หลังจากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับผู้อมตะคนนั้นแล้ว สือฮ่าวยิ่งมีความเกลียดชังเขาขึ้นไปอีกเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับเมิ่งเทียนเจิ้งที่องอาจกล้าหาญ จนยอมเสียสละชีวิตของตัวเองเพื่อต่อต้านศัตรู

“นี่คือผู้อมตะที่แท้จริงญาณวิเศษล้ำค่าของเขาสามารถสั่นสะเทือนสวรรค์และปฐพีได้ แม้ว่าเขาจะไม่สามารถก้าวออกมาจากน้ำพุเซียน แต่หากเจ้าไปที่นั่นเขาจะมีวิธีการมากมายที่สามารถสังหารเจ้า” ฉินอี้หนิงรู้สึกกังวลนางต้องการพาลูกชายคนโตกลับสู่อาณาจักรด้านล่างในทันที

แม้ว่าจะมีเบาะแสสำคัญหลายประการเกี่ยวกับการมุ่งหน้าไปยังอาณาจักรที่ต่ำกว่า แต่ตอนนี้มันยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเต็มที่

"ทุกอย่างปกติดี. ตราบใดที่ผู้อมตะคนนั้นไม่โผล่ออกมาจากน้ำพุเซียนของเขา เขาอมตะของข้าก็สามารถต้านรับไว้ได้ทุกสิ่ง” เซียนอมตะฉินกล่าว

ความมั่นใจแบบนี้ทำให้สือฮ่าวค่อนข้างตกใจนับประสาอะไรกับ สือจื่อหลิงและคนอื่นๆ

“ด้วยการดำรงอยู่ของเขาห้าใบหน้า จะไม่มีผู้ใดกล้าสร้างความเดือดร้อนให้กับพวกเจ้าอย่างแน่นอน!” เซียนอมตะฉินกล่าว

เป็นเพราะภูเขาห้าใบหน้าคืออาวุธชั้นเซียนที่แท้จริง

“ช่างน่าเสียดายที่มันได้รับความเสียหายยิ่งไปกว่านั้นยังถูกปิดผนึกไว้ ไม่เช่นนั้นมันจะยิ่งแข็งแกร่งกว่านี้” เซียนอมตะฉินกล่าวด้วยความเสียใจ

เหตุผลที่เซียนอมตะฉินสามารถครอบครองเขาห้าใบหน้าได้อย่างสมบูรณ์ก็เป็นเพราะกระดูกเซียนชิ้นนั้น ก่อนหน้านี้มันทำให้เขาได้รับโชควาสนาจากธรรมชาติอยู่ตลอดเวลา

แต่ในบรรดาสิ่งของทุกอย่างที่เขาได้รับมาเขาห้าใบหน้าคือของที่ลึกลับและน่ากลัวมากที่สุด!

เซียนอมตะฉินจะไม่มีวันลืมเหตุการณ์ที่เขาค้นพบมันเป็นครั้งแรก

ในปีนั้นหน้าอกของเขากำลังลุกไหม้กระดูกเซียนปลดปล่อยแสงสว่างส่องไปยังทิศทางที่จะให้เขามุ่งหน้าไป

ในท้ายที่สุดเขาก็บุกเข้าไปในโลกโบราณที่รกร้างแห่งหนึ่ง

ในสถานที่แห่งนี้มีภูเขาโบราณที่ดูเหมือนนิ้วมือทั้งห้านิ้ว ห้ายอดวางอยู่เคียงข้างกันหมอกเซียนและพลังแห่งความโกลาหลถูกปลดปล่อยออกมาจากมันอย่างรุนแรง

บนภูเขามีซากศพของเเทพและปีศาจมากมาย มันน่ากลัวเกินกว่าจะเปรียบเทียบได้

ในสถานที่แห่งนั้นก่อนหน้านี้เขาเคยได้ยินเสียงเหมือนเสียงถอนหายใจ แต่ก็เหมือนกับการระลึกถึงอดีต

ภูเขาห้าใบหน้ามีเทพและปีศาจมากมายถือกำเนิดขึ้นมาในพลังแห่งความโกลาหล!

อย่างไรก็ตามในที่สุดพวกเขาทั้งหมดก็เสียชีวิตจากการต่อสู้ครั้งใหญ่!

เซียนอมตะฉินไม่ได้ปิดบังอะไรไว้ เขาเล่าให้ทุกคนได้ทราบถึงเหตุการณ์ที่เขาค้นพบของวิเศษชั้นเซียนชิ้นนี้ ซึ่งทำให้ทุกคนสูดลมหายใจเข้าไปอย่างหนาวเหน็บ

ต๋อง!

ในวันเดียวกันในทิศทางที่ตำหนักเซียนตั้งอยู่ รัศมีที่น่ากลัวได้ปะทุขึ้นอย่างรุนแรง หมอกเซียนแผ่กระจายฉีกโดมท้องฟ้าทำให้ดวงดาวมากมายในอวกาศตกลงมา

ฉากนี้ทำให้ทุกคนตกใจ

จากเหตุการณ์นี้ทำให้ทั่วทั้งสามพันแคว้นสะเทือน!

ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากรัศมีเซียนปะทุขึ้นอย่างรุนแรง ตำหนักเซียนก็เงียบสงบไร้ความเคลื่อนไหวในโลกภายนอก

ถูกต้องมันเป็นความสงบนิ่งหลังจากการปะทุอย่างรุนแรง

มันเหมือนกับเปลวเทียนที่พลันสว่างไสวก่อนจะดับวูบทันที

“น้ำมันในตะเกียงไหม้หมดแล้ว รัศมีสุดท้ายของดวงอาทิตย์กำลังจะหายไป!”

มีผู้คนมากมายที่คาดเดาเรื่องนี้ออก พวกเขารู้ว่าผู้อมตะที่อยู่ในตำหนักเซียนนับจากนี้จะหลับใหลไปตลอดกาล

นี่เป็นเหตุการณ์สำคัญของเก้าสวรรค์สิบพิภพ!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด