494- กลับมาแล้ว
1805 - กลับมาแล้ว
“มีบางอย่างไม่ถูกต้องเจ้ามีรัศมีพลังที่ประเมินค่าไม่ได้ ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าเข้าสู่อาณาจักรแห่งนี้” เทพเกราะเงินกล่าว
“ข้ามีเวลาไม่มากข้ามีบางอย่างให้เจ้าช่วยเหลือ ไม่อย่างนั้นข้าจะต้องรบกวนเจ้าไปเชิญท่านปู่นกและผู้อาวุโสเหรียญเงินมาหาข้า” สือฮ่าวกล่าว
อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกฎธรรมชาติไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่เห็นอกเห็นใจเขามีความดื้อรั้นอย่างยิ่ง เขาไม่เต็มใจที่จะปล่อยให้สือฮ่าวเข้าสู่อาณาจักรแห่งความว่างเปล่า เขาจึงตะโกนแจ้งเตือน
ฮ่อง!
สือฮ่าวไม่รอช้าเขาทำลายแท่นบูชาพร้อมกับกรงขังที่พยายามปิดผนึกเขาด้วยหมัดเดียว
อาณาจักรแห่งความว่างเปล่าอาณาจักรวิญญาณทั้งสองมีข้อ จำกัดที่น่ากลัวนั่นก็คือในบางพื้นที่พลังศักดิ์สิทธิ์ของร่างกายผู้ฝึกฝนจะไม่สามารถใช้งานได้
ไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหนหรือต่อให้เป็นผู้สูงสุดก็ไม่มีข้อยกเว้น
หากใครต้องการที่จะฝ่าสิ่งกีดขวางเหล่านี้มีเพียงต้องฝึกฝนร่างกายให้สามารถทะลวงผ่านกฎธรรมชาติอันยิ่งใหญ่!
สือฮ่าวคือใคร? เขาทำสิ่งนี้สำเร็จในทุกระดับการบ่มเพาะ เขามีประสบการณ์เกินขีดจำกัดอยู่เสมอ นั่นเป็นเหตุผลว่าเหตุไฉนพลังโจมตีของเขาถึงได้น่ากลัวสุดขีด
ในท้ายที่สุดเขาก็กวาดทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบบริเวณแห่งนี้ สิ่งมีชีวิตเกราะเงินตัวนั้นกลายเป็นแสงสีทองสว่างวาบก่อนจะหายตัวไป
เมื่อทุกอย่างที่นี่หายไปสือฮ่าวก็รู้สึกเหม่อลอยเล็กน้อย เขาค้นพบว่าตัวเขาเองยืนอยู่ตรงหน้าประตูยักษ์คู่นั้นนั่นคือประตูที่จะนำไปสู่อาณาจักรวิญญาณซึ่งตอนนี้เขาเข้าสู่อาณาจักรแห่งความว่างเปล่าแล้ว
สือฮ่าวหันมองไปทางถนนที่ทอดยาวลงสู่ด้านล่าง เส้นทางนี้ดูไม่คุ้นเคยด้านหน้าของเขาเต็มไปด้วยหมอกสีขาวมองอะไรไม่เห็นทั้งสิ้นแม้ว่าเขาจะเปิดดวงตาสวรรค์แล้วก็ตาม
ต๋อง!
สือฮ่าวเดินตรงเข้าไปในหมอกโดยต้องการที่จะมองไปรอบๆอาณาจักรแห่งความว่างเปล่า
เป็นเวลาหลายปีแล้วในที่สุดเขาก็ได้กลับมา แม้ว่านี่จะไม่ใช่ร่างที่แท้จริงของเขา แต่วิญญาณดั้งเดิมของเขาก็เข้าสู่อาณาจักรที่ต่ำกว่าล่วงหน้า สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกกระปรี้กระเปร่าอย่างมาก
บางทีเขาอาจเจอคนคุ้นเคย?
แน่นอนว่ายังมีโอกาสที่จะได้พบกับพลังบางอย่างที่ต่อต้านเขา
อย่างไรก็ตามตอนนี้สือฮ่าวไม่ได้กลัวอะไรมากนัก ในแปดดินแดนด้านล่างไม่มีสิ่งมีชีวิตใดสามารถต่อต้านเขาได้
“คุนเผิงตกลงไปในดินแดนที่ต่ำกว่า…ต้นกำเนิดของหญิงสาวบนเรือลำนั้นลึกลับเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังมีซากศพของอาณาจักรสุสานตะวันตกที่ลึกลับ…”
สือฮ่าวพูดกับตัวเอง ในตอนที่เขายังเป็นเด็กนั้นเขาหยิ่งผยองมากเกินไปจึงไม่มีเวลาสำรวจพวกมัน เมื่อเขาไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนเขาก็ค้นพบว่าอาณาจักรที่ต่ำกว่าก็มีความลึกลับมากมายที่รอการสำรวจ
“จะดีกว่าถ้าข้าระวังให้มากขึ้น อย่างน้อยที่สุดข้าก็ไม่ควรแสดงตัวให้ทุกคนรู้ว่าข้ากลับมาแล้ว”
สือฮ่าวตั้งใจที่จะตรวจสอบดินแดนด้านล่างนี้ก่อน ตอนนี้ทั้งแปดอาณาจักรเป็นยังไงบ้าง? มีการเปลี่ยนแปลงกับพวกเขาหรือไม่?
เมื่อเขาคิดถึงสิ่งเหล่านี้สือฮ่าวก็ปกปิดใบหน้าของตัวเองโดยไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขา
เขาบินไปบนท้องฟ้าเคลื่อนตัวผ่านอาณาจักรแห่งความว่างเปล่า
เกอกู่คืออัจฉริยะรุ่นเยาว์ที่ผงาดขึ้นมาอย่างกะทันหันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเขาทำให้ทั้งแปดอาณาจักรสั่นสะเทือน
มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ถึงต้นกำเนิดของเขา แต่ความสามารถของเขานั้นทำให้ผู้คนมากมายสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว
เป็นเพราะเขาท้าทายผู้เชี่ยวชาญทุกคนในอาณาจักรแห่งความว่างเปล่าอยู่เสมอ ความสำเร็จของเขายิ่งใหญ่เหนือคำบรรยายไม่เคยพ่ายแพ้แม้แต่ครั้งเดียว
บางคนบอกว่าเขาอาจจะเป็นมังกรที่แท้จริงเพราะในโลกแห่งความเป็นจริงมีคนติดตามเขาก่อนหน้านี้เห็นเขากลายร่างเป็นมังกรก่อนจะบินขึ้นสู่ท้องฟ้า
มังกรที่แท้จริงปรากฏตัวในอาณาจักรที่ต่ำกว่าสิ่งนี้น่าตกใจแค่ไหน? แม้ว่าจะไม่มีการพิสูจน์แต่ความสามารถของเขาก็ไม่มีผู้ใดสามารถปฏิเสธได้
มีบางคนเปรียบเทียบเขากับก้อนหินน้อยผู้แข็งแกร่งที่สามารถทำลายสถิติทุกอย่าง
ซือกู่เป็นเด็กที่ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาได้ผงาดขึ้นเช่นกัน เขาเป็นคนที่ไม่มีใครเทียบได้ในอาณาจักรแห่งความว่างเปล่านี้
เขาอายุมากกว่าเกอกู่อยู่เล็กน้อยตอนนี้อายุยี่สิบปี
อย่างไรก็ตามไม่มีใครรู้ถึงระดับบ่มเพาะที่แท้จริงของเขาเนื่องจากพื้นที่ต่างๆของอาณาจักรแห่งความว่างเปล่ามีข้อจำกัด ในระดับบ่มเพาะ
บางทีซือกู่อาจมาที่นี่เพื่อทำลายสถิติทุกอย่าง เขาปรากฏตัวในดินแดนต่างๆในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ทั้งยังสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ทั้งหมดได้
นี่เป็นเรื่องที่น่ากลัวอย่างยิ่ง การดำรงอยู่ของเขาเทียบเท่ากับเทพเจ้าในอาณาจักรแห่งนี้!
มีข่าวลือว่าเขาอาจมาจากอาณาจักรวิญญาณตะวันตกซึ่งเป็นสถานที่ลึกลับมาก
หลายคนถอนหายใจ ซือกู่ปรากฏตัวในโลกช้าเกินไปถ้าเขาอายุมากกว่านี้สักสองสามปีเขาอาจได้พบกับก้อนหินใหญ่และก้อนหินน้อย (จำไม่ได้อาจเป็นสือยี่กับสือฮ่าว)
ตอนนี้ซือกู่และเกอกู่ยืนอยู่บนเวทีประลอง นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเผชิญหน้ากัน
“การปะทะกันระหว่างยักษ์ใหญ่ทั้งสองจะมีการตัดสินในวันนี้ ใครจะเป็นอันดับหนึ่งภายใต้สวรรค์? มันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นและเป็นสิ่งที่ทุกคนรอคอย!”
อาณาจักรแห่งความว่างเปล่าในวันนี้เต็มไปด้วยความคึกคัก หลายคนกำลังคาดเดาว่าในสองคนนี้ใครคือผู้ที่แข็งแกร่งกว่า
นี่เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ มหาอำนาจมากมายในโลกใบนี้ล้วนส่งคนเข้ามาเพื่อดูการต่อสู้ของพวกเขา
มังกรที่แท้จริงกำลังจะต่อสู้กับอาณาจักรวิญญาณตะวันตกนี่เป็นเหตุการณ์ที่นานๆจะเกิดขึ้นที!
“สองคนนี้ทำลายสถิติมากมาย! เจ้าคิดอย่างไร? พวกเขาจะทำลายสถิติของก้อนหินน้อยได้หรือไม่”
“จากที่ข้าได้ยินมาสองคนนี้ยังไม่กล้าทำลายสถิติของเขา บางทีอาจต้องรออีกสองสามปี? ตอนนี้พวกเขาน่าจะยังไม่มีความมั่นใจ”
…
มังกรที่แท้จริงนี่เป็นของจริงหรือไม่?
อาณาจักรวิญญาณตะวันตกนี่เป็นสถานที่ลึกลับอย่างยิ่งซือกู่ เป็นผู้เชี่ยวชาญจากสถานที่นั้นจริงๆหรือ?
สิ่งนี้ทำให้หลายคนตื่นเต้นผู้เชี่ยวชาญหลายคนรีบต่างรีบเข้ามาชมการต่อสู้ของพวกเขา
ดินแดนแห่งนี้เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตมากมาย พวกเขายึดครองภูมิประเทศที่เอื้ออำนวยให้สามารถมองเห็นสถานการณ์การต่อสู้อย่างชัดเจน
แน่นอนว่าพื้นที่ส่วนกลางว่างเปล่านั่นคือสนามรบ ไม่มีใครเข้าใกล้สถานที่แห่งนี้มันถูกเหลือไว้สำหรับเกอกู่และซือกู่
ตอนนี้มีร่างสองร่างปรากฏขึ้นพร้อมกับหมอกและแสงศักดิ์สิทธิ์ที่ขุ่นมัวพุ่งออกมาจากสองทิศทาง
เปง!
อย่างไรก็ตามสิ่งมีชีวิตตัวที่สามกลับพุ่งลงมาจากท้องฟ้าอยู่ตรงกลางระหว่างคู่ต่อสู้ทั้งสอง
"ใคร? รีบถอยออกไป!” ซือกู่ตวาด
เขาเป็นเด็กรูปร่างสูงเพรียวและแข็งแรง เส้นผมสีดำหนาผิวสีทองแดงดวงตาเเป็นประกายราวกับสายฟ้าเย็นยะเยือก
คนอื่นไม่สามารถมองเห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของเจ้าหนูคนนี้ได้ แต่มันไม่ใช่ปัญหาสำหรับสือฮ่าวเลย ดวงตางสวรรค์สามารถมองทะลุหมอกพวกนี้ได้อย่างง่ายดาย i
เขาเป็นเด็กหนุ่มที่มีใบหน้าละเอียดอ่อน แต่เต็มไปด้วยความหยิ่งผยองจนทำให้ผู้คนรู้สึกขัดตาอยู่บ้าง
“เอะ?” สือฮ่าวตกใจ ทั้งสองคนมีความพิเศษไม่เหมือนใครจริงๆ
“สถานที่แห่งนี้เป็นสนามรบโปรดถอนตัวออกไป” เกอกู่ก็ตวาดออกมาเช่นกัน
สือฮ่าวไม่ได้ถอยกลับ แต่กลับมองไปที่ซือกู่อย่างพินิจพิจารณา
“รากฐานและกระดูกขอเจ้ามีความพิเศษจริงๆ เพียงแต่ว่าอาจารย์ของเจ้าค่อนข้างแย่ทำให้เจ้าพลาดโอกาสที่ดีไป”
สือฮ่าวมองไปที่ชายหนุ่มคนนี้โดยต้องการที่จะรับเขาเป็นศิษย์
“แม้แต่คนอย่างเจ้ายังคิดจะกล้ารับข้าเป็นศิษย์อย่างนั้นหรือ?” ชายหนุ่มเยาะเย้ยสือฮ่าวด้วยความหยิ่งผยองโดยกล่าวว่า
“ดูเหมือนว่าเจ้าจะมั่นใจในตัวเองเหลือเกิน ให้ข้าดูว่าเจ้าแข็งแกร่งมากแค่ไหน”
เขามีความมั่นใจอย่างแท้จริง ต่อให้บุคคลเบื้องหน้ามีระดับบ่มเพาะสูงกว่าเขาแต่ที่อาณาจักรแห่งนี้ระดับบ่มเพาะของทุกคนจะตกลงมาในชั้นเดียวกัน
“เจ้าอ่อนแอเกินไปพวกเจ้าทั้งสองคนเข้ามาพร้อมกันเถอะ” สือฮ่าวส่ายหัว
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้เด็กหนุ่มทั้งสองก็รู้สึกโกรธเกรี้ยวทันที
"บังอาจ! ให้ข้าดูว่าเจ้าน่ากลัวแค่ไหน!” เจ้าหนูเกอกู่ก็โกรธเช่นกัน
สือฮ่าวยิ้มและพูดว่า“ถ้าพวกเจ้าแพ้พวกเจ้ายินดีจะกราบข้าเป็นอาจารย์หรือไม่?”