473 - ข้อเสนอจากตระกูลหวัง
1784 - ข้อเสนอจากตระกูลหวัง
ในช่วงเวลานี้สือฮ่าวได้รับข้อมูลใหม่อย่างต่อเนื่อง เบาะแสเกี่ยวกับเส้นทางที่จะทำให้เขาก้าวไปสู่อาณาจักรล่างนั้นมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
“เจ้าจะจากไปจริงๆเหรอ? เฮ้อ! เก้าสวรรค์ไม่ได้เลวร้ายถึงขนาดนั้นสภาพแวดล้อมของที่นี่ก็เหมาะสมแก่การบ่มเพาะ เจ้าจะทิ้งข้าไปได้อย่างไร” มดเขาสวรรค์ตัวน้อยกล่าว
ด้านล่างของสำนักเทพสวรรค์นั้นคือบ้านของมัน มดเขาสวรรค์รู้ดีว่าสือฮ่าวหวาดกลัวในเรื่องใด มันบอกให้สือฮ่าวบ่มเพาะอยู่ที่ดินแดนของมันจะไม่มีสิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุดกล้ามาโจมตีอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามสือฮ่าวส่ายหัวไม่เห็นด้วย
“ที่นั่นมีอะไรดี? ทุกคนต่างบอกว่ามันยากไร้เพียงใดไม่เหมาะกับการบ่มเพาะ ถ้าเจ้ากลับไปที่นั่นมันจะทำให้เจ้าฝึกฝนตัวเองได้ช้าลง” กระต่ายหยกจันทรากล่าว
หลังจากหลายปีผ่านไปรูปลักษณ์ของนางก็ยังไม่เปลี่ยนไปเลยเช่นเดียวกับตอนที่พวกเขาพบนางครั้งแรกอายุราวๆสิบสามหรือสิบสี่ผิวพรรณงดงามเหมือนหยกเนื้อดี
เส้นผมสีเงินของนางห้อยลงมาที่เอวมันแวววาวราวกับกระจกดวงตากลมโตเหมือนทับทิมเป็นประกายและโปร่งแสง ทั้งร่างของนางงดงามราวกับตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ
“เจ้ากำลังจะกลับไป? อย่าบอกนะว่าเจ้ากำลังจะกลับไปใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายแบบนั้นจริงๆ?” เฉาอวี่เซิ่งถาม
ฉางกงเอี๋ยน เฟิงอู๋ และเพื่อนเก่าคนอื่นๆรั้วพยายามหว่านล้อมให้สือฮ่าวอยู่ต่อ ไม่เว้นแม้แต่มดเขาสวรรค์
“ข้าต้องการความช่วยเหลือจากพวกเจ้า” สือฮ่าวกล่าว
ก่อนออกเดินทางเขาต้องการยาศักดิ์สิทธิ์เป็นจำนวนมาก!
“ยาศักดิ์สิทธิ์?”
คนเหล่านี้ตะลึง แม้แต่ในเก้าสวรรค์เบื้องบนสิ่งประเภทนี้ก็มีค่าอย่างยิ่งและหาได้ยากมาก
“ไม่ใช่ว่าเจ้ามีต้นยาเทพสวรรค์ ยาเซียนสวรรค์หรอกหรือ? ทำไมเจ้าถึงต้องการมากกว่านี้” พวกเขาสับสน
เมื่อสือฮ่าวถูกส่งตัวไปเป็นเชลยให้กับศัตรู เขาเคยมอบสิ่งต่างๆให้กับสหาย ทุกคนจึงรู้ว่าเขามีอะไรอยู่บ้าง
แน่นอนว่ามีบางสิ่งที่สือฮ่าวมอบให้กับพวกเขาโดยตรงโดยไม่นำกลับไปอีก
“พวกเจ้าก็รู้ว่าอาณาจักรล่างนั้นยากไร้มากแค่ไหน ข้าต้องการยาศักดิ์สิทธิ์สองสามต้นเพื่อที่จะทำให้ผู้คนจากตระกูลของข้ามีอายุยืนขึ้นมากอีกสักหน่อย” สือฮ่าวกล่าว
สำหรับคนทั่วไปแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้กินยาเซียนได้ แต่เพียงแค่สูดดมกลิ่นหอมของยาก็จะทำให้อายุของพวกเขาเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
“แล้วเจ้าจะใช้อะไรซื้อต้นไม้พวกนี้”
“ข้ามีทองคำเซียนอยู่ไม่น้อย อีกทั้งยังมีพาหนะตัวหนึ่งซึ่งแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง” สือฮ่าวกล่าว
เมื่อเขาพูดถึงที่นี่ทุกคนก็หันกลับมา สิงโตทองคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว ร่างกายของมันเป็นสีทองแผงคอที่หนาหนักโบกสะบัดไปมาอย่างคุ้มคลั่ง
นี่คือราชสีห์ผู้กล้าที่สามารถย้อนคืนสายเลือดบรรพบุรุษ แม้แต่ในอาณาจักรต่างมิติมันก็ยังนับเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูง
ในตอนนั้นมันไล่ล่าสือฮ่าวร่วมกับจักรพรรดิหนุ่มเซ่ากู่ไปจนถึงป่าอสูรสวรรค์ ต่อมามันถูกสือฮ่าวจับตัวได้และเปลี่ยนให้เป็นสัตว์ขี่ติดตามเขามาเมืองจักรพรรดิ์
ทุกคนรู้ดีว่าสัตว์ขี่ตัวนี้พิเศษเกินไปมันแข็งแกร่งมาก ยิ่งไปกว่านั้นมันมาจากอีกด้านหนึ่งมีความลับมากเกินไป
ใครๆก็สามารถจินตนาการได้ว่ามหาอำนาจต่างๆล้วนต้องการตัวมันไปอย่างยิ่ง ยิ่งไปกว่านั้นยังมีตระกูลอมตะมากมายที่สามารถทำให้มันคลายความลับออกมารวมไปถึงญาณวิเศษประจำตระกูลของมันอีกด้วย
เว้นแต่ว่ามันจะเลือกความตายในทันที
อย่างไรก็ตามมันติดตามสือฮ่าวมาตลอดเวลานี้ก็เพราะมันไม่ต้องการตาย มันอยากจะเอาชนะสือฮ่าวให้ได้ในสักวันหนึ่ง!
“สิงโตตัวนี้น่าเกรงขามมาก เมื่อมันอยู่ในเมืองจักรพรรดิ์มันเคยต่อสู้กับจินซานมาก่อน มันน่าจะขายได้ราคาไม่น้อย” เฉาอวี่เซิ่งพยักหน้า
โฮ่ว…ราชสีห์ผู้กล้าคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว
หลังจากนั้นไม่นานมีข่าวออกมาว่าฮวงต้องการยาศักดิ์สิทธิ์ตำราลับและสิ่งอื่นๆ โดยเขาเสนอทองคำเซียนเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนรวมทั้งยังมีราชสีห์ผู้กล้าสายเลือดบรรพบุรุษจากต่างมิติ
ราชสีห์ผู้กล้านั้นเดิมทีเป็นผู้อมตะของเก้าสวรรค์อยู่แล้ว แต่ต่อมาพวกมันได้ย้ายข้างเข้าร่วมกับศัตรูต่างมิติ
หลังจากหลายปีที่ผ่านไปก็ยังมีคนจำนวนมากที่จำพวกมันได้!
“ดูเหมือนว่าจิตใจของฮวงจะตายไปแล้วจริงๆ! นี่เป็นการเตรียมที่จะนำยาศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นเข้าสู่อาณาจักรที่ต่ำกว่า”
มีคนนำยาศักดิ์สิทธิ์มาให้จริงๆมันค่อนข้างน่าตกใจ อย่างไรก็ตามนางไม่ได้เอาทองคำเซียนของสือฮ่าวหรือราชสีห์ผู้กล้ากลับไปแต่มอบมันให้เพื่อแสดงน้ำใจเท่านั้น
นี่คือคนจากสำนักแยกฟ้าซึ่งเป็นสำนักของเซียนสาว
“สหายน้อยอยากไปยังดินแดนที่ต่ำกว่า หลังจากที่เราจากกันในวันนี้ข้าสงสัยว่าเมื่อไหร่ที่เราจะได้เห็นรัศมีที่ไม่มีใครเทียบได้ของเจ้าอีกครั้ง ยาศักดิ์สิทธิ์เพียงต้นเดียวมีมูลค่าเท่าใด? เพียงแค่ถือว่ามันเป็นของขวัญที่เราต้องจากกัน”
หญิงวัยกลางคนคนนั้นใจกว้างมากหลังจากให้ของขวัญแล้วนางก็กลับไป
หลังจากนั้นไม่นานผู้คนของสำนักเซียนและสำนักปราชญ์ก็มาด้วย แต่ละคนก็ให้ยาวิเศษแก่เขาต้นหนึ่ง
“เฮ้อ” ผู้อาวุโสของอาวุโสสำนักเซียนถอนหายใจเมิ่งเทียนเจิ้งเสียชีวิตจากไปตลอดกาล ในสำนักเทพสวรรค์ไม่มียาขั้นเทพแม้สักคนเดียวด้วยซ้ำ
“ย้อนกลับไปตอนที่ข้าพยายามทำให้ร่างกายเป็นเมล็ดพันธุ์ผู้อาวุโสเมิ่งไม่ลังเลที่จะทุ่มเททุกอย่างให้ข้า? ทรัพยากรแทบจะทั้งหมดของสำนักเทพสวรรค์ถูกใช้เพื่อขัดเกลาร่างกายของข้าไม่เช่นนั้นสำนักของเราจะยากจนข้นแค้นถึงขนาดนี้ได้อย่างไร” สือฮ่าวกล่าว
เมื่อเขานึกถึงสิ่งเหล่านี้เขาต้องการที่จะทิ้งยาศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ทั้งหมดไว้ในสำนักเทพสวรรค์ แต่เขาถูกปฏิเสธ
“ข้าจะทิ้งสิงโตตัวนี้ไว้ให้เป็นผู้พิทักษ์สำนักของเรา!” สือฮ่าวตัดสินใจที่จะทิ้งราชสีห์ผู้กล้าไว้ข้างหลัง
“ลืมไปได้เลยอีกไม่นานทั้งสองสำนักก็จะมารวมกับเรา เจ้าตัวนี้เป็นสิ่งมีชีวิตชั่วร้ายอย่างยิ่ง หลังจากเวลาผ่านไปหลายร้อยปีจะไม่มีผู้ใดสามารถควบคุมมันได้อีกต่อไปเจ้าควรนำมันไปด้วย” ผู้อาวุโสกล่าว
สิ่งที่เขาพยายามจะบอกก็คือสัตว์ร้ายในระดับนี้เหมาะสมอย่างยิ่งในฐานะสัตว์เทพพาหนะของเขา
คนอื่นๆทั้งหมดรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลและพยักหน้า คนที่สามารถฆ่าคนในตระกูลจักรพรรดิได้ย่อมต้องการสัตว์ร้ายเทพเพื่อเป็นพาหนะ
ราชสีห์ผู้กล้าไม่พอใจ มันเป็นทายาทของผู้อมตะจะยอมเป็นสัตว์ขี่ได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้นทำไมโม่เต๋าถึงกู้คืนอิสรภาพมาได้แต่ตัวมันกลับต้องเป็นสัตว์ขี่ของคนอื่น?
โม่เต๋าเป็นน้องชายของโม่เซียน หลังจากสิ้นสุดสงครามทั้งสองฟากฝั่งในที่สุดเขาก็ได้รับอิสระคืนมาโดยไม่ถูกจำกัดความเคลื่อนไหว
หลังจากนั้นไม่นานหญิงงามในชุดขาวของสำนักปราชญ์ก็มาเยี่ยมสือฮ่าว แท้จริงแล้วคือหวังซี!
นางมาพร้อมกับข้อความของเซียนอมตะหวัง บรรพบุรุษของนางยินดีที่จะมอบวิชาสยบความโกลาหลให้กับสือฮ่าว!
ข้อมูลนี้น่าตกใจเกินไป! นี่คือวิชาสยบความโกลาหลซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเป็นหนึ่งในวิชาโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของทั้งสองโลก
ยิ่งไปกว่านั้นวิชานี้ยังมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับสือฮ่าว เนื่องจากมันมีกรรมวิธีลับที่สามารถทำให้วิญญาณดั้งเดิมของเขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม
เขามีคัมภีร์ที่ไม่อาจหยั่งรู้ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การฝึกฝนร่างกายหากเขาเพิ่มวิชาสยบความโกลาหลแล้วนั่นจะไม่ใช่การสร้างสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีใครเทียบได้หรือ?
สือฮ่าวถอนหายใจ ในท้ายที่สุดเขาปฏิเสธข้อเสนออันยั่วยวนใจนี้ด้วยความเสียดาย
การที่หวังซีปรากฏตัวที่นี่หมายความว่าตระกูลหวังต้องการที่จะเกี่ยวดองกับเขา มิฉะนั้นหวังซีที่เขามีความขัดแย้งกับเขามาก่อนย่อมไม่ปรากฏตัวที่นี่
อย่างไรก็ตามสือฮ่าวไม่ต้องการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลหวัง
เมื่อตระกูลจินทราบข่าวถึงเรื่องนี้พวกเขาก็โกรธเกรี้ยวอย่างถึงที่สุด โดยไม่คำนึงว่าจินซานจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แต่ตระกูลหวังก็ส่งคู่หมั้นของเขาไปให้กับคนอื่น เรื่องนี้จะทำให้พวกเขาทนได้อย่างไร?
หลายวันต่อมางานเลี้ยงอำลาของบรรดาคนรุ่นหลังก็ถูกจัดขึ้นในสำนักเทพสวรรค์
ผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องการให้สือฮ่าวอยู่ที่นี่ต่อ แต่ก็มีบางคนที่มาดื่มและพูดคุยกันอย่างสนุกสนานเพราะนี่เป็นการรวมตัวกันครั้งสุดท้าย
หลังจากการต่อสู้ที่ชายแดนรกร้างหลายเผ่าพันธุ์ที่ปักหลักอยู่ในเมืองจักรพรรดิล้วนกลับเข้าสู่ดินแดนบรรพบุรุษของตัวเอง
สำหรับผู้เชี่ยวชาญรุ่นเยาว์เหล่านี้พวกเขาทั้งหมดก็กำลังจะกลับไปยังบ้านเกิดของพวกเขาเช่นกัน พวกเขามาจากสถานที่ต่างๆกระจัดกระจายไปทั่วเก้าสวรรค์สิบพิภพ
โดยปกติแล้วดินแดนของพวกเขานั้นอยู่ห่างไกลกันเป็นอย่างมาก แม้แต่ระดับผู้สูงสุดการจะข้ามมาเยี่ยมเยียนกันก็ยังเป็นเรื่องยาก
นั่นหมายความว่าหลังจากนี้บางคนในพวกเขาจะไม่ได้พบกันอีกแล้วตลอดกาล