471 - ผูกสัมพันธ์
1782 - ผูกสัมพันธ์
“พวกเราไปพร้อมกันเถอะ อย่างน้อยๆก็ควรมีงานเลี้ยงครั้งสุดท้าย!”
ไม่ว่าจะเป็นมหาโสดาฉวีโต้ว ผู้อมตะที่ถูกเนรเทศหรือ องค์หญิงเหยาเยว่และคนอื่นๆ พวกเขาต้องการรวมตัวกันครั้งสุดท้ายเพราะว่าหลังจากนี้พวกเขาแทบจะไม่มีโอกาสมาพบกันอีก
ราชันย์สิบสมัย ผู้อมตะที่ถูกเนรเทศและคนอื่นๆก็มุ่งหน้าไปยังเก้าสวรรค์เช่นกันเพราะรากฐานของมรดกพวกเขาทั้งหมดอยู่ที่นั่น
ในเมืองจักรพรรดิมีค่ายกลเคลื่อนย้ายขนาดใหญ่ที่สามารถขนส่งพวกเขาไปยังเก้าสวรรค์กลุ่มต่างๆได้เดินไปตามทางของพวกเขา ในตอนนี้แทบไม่เหลือคนที่อยู่ในเมืองที่เคยรุ่งโรจน์แห่งนี้แล้ว
“เจ้าจะกลับไปยังดินแดนที่ต่ำกว่าจริงๆหรือ? เจ้าควรอยู่ที่นี่สถานที่แห่งนั้นไม่เหมาะสมในการบ่มเพาะ!”
ระหว่างทางหลายคนพยายามให้เขาอยู่ที่นี่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ เฉาอวี่เวิ่ง ฉางกงเอี๋ยน กระต่ายน้อยและคนอื่นๆ ซึ่งไม่อยากเห็นเขาจากไป หากพวกเขาแยกจากกันเช่นนี้ใครจะรู้ว่าพวกเขาจะได้พบกันอีกเมื่อไหร่
บางทีอาจเป็นเพราะความสงบสุขของเมืองจักรพรรดิ์อีกด้านหนึ่งไม่สามารถบุกรุกได้อีกต่อไป ผู้คนจำนวนมากจะแยกจากกันตลอดไปไม่มีวันได้พบกันอีก
ค่ายกลขนส่งมีขนาดใหญ่และมีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมมาก
หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็มาถึงสวรรค์ไร้ขอบเขต สือฮ่าวส่งเด็กกลุ่มนั้นไปที่สำนักเทพสวรรค์ให้พวกเขารออยู่ที่นั่น
แม้ว่าเสื้อผ้าเด็กเหล่านี้จะขาดวิ่นเหมือนกลุ่มขอทาน แต่สือฮ่าวก็รู้ว่าเด็กทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นเมล็ดพันธุ์อันล้ำค่า ในอนาคตพวกเขาจะเป็นบุคคลที่ทรงพลังอย่างถึงที่สุด
“เจ้าจะจากไปจริงๆเหรอเหตุไฉนไม่อยู่กับข้า” ชิงยี่ถามการแสดงออกในดวงตาที่งดงามของนางซับซ้อนและไม่เต็มใจ
“ใช่ข้าต้องไปแล้ว” สือฮ่าวพยักหน้า
ชิงยี่ถอนหายใจพยักหน้า นางไม่ลังเลที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้เขาอยู่ สุดท้ายนางก็รู้ว่าเขาตัดสินใจแล้วนางไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
“หากวันใดที่พวกเจ้ามีโอกาสได้ไปดินแดนล่างก็แวะไปหาข้าที่หมู่บ้านหินผาได้”
จากนั้นสือฮ่าวก็กล่าวคำอำลากับผู้อาวุโสของสำนักเทพสวรรค์ จากนั้นก็ไปพบผู้อาวุโสของสำนักเซียน เขาค้นพบว่าการกลับสู่ดินแดนที่ต่ำกว่านั้นเป็นเรื่องยากมาก
“นี่เป็นปัญหาที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังในประวัติศาสตร์ ดินแดนที่ต่ำกว่าแปดแห่งสามารถกล่าวได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของเก้าสวรรค์สิบพิภพ แต่หากจะกล่าวจริงๆแล้วมันก็เป็นเหมือนกับดินแดนปิดผนึก ราชาอมตะในอดีตนั้นได้กำหนดคุณสมบัติเพื่อไม่ให้ผู้แข็งแกร่งลงไปในอาณาจักรพวกนั้น”
ผู้อาวุโสสำนักเซียนอธิบายให้เขาฟัง
ไม่ใช่ว่าเขาจะย้อนกลับไปไม่ได้ แต่ต้องเป็นช่วงเวลาจำเพาะเจาะจง ในช่วงเวลานั้นเจตจำนงของสวรรค์จะอ่อนลงทำให้สามารถก้าวลงไปในอาณาจักรแห่งนั้นได้
“มันมีเส้นทางหนึ่งที่สามารถทำให้เจ้ากลับไปได้เช่นกัน”
เมื่อเขาเห็นความผิดหวังของสือฮ่าวผู้อาวุโสของสำนักเซียนกล่าว อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่เข้าใจถึงรายละเอียดเรื่องนี้มากนัก แต่เขารู้ว่าตระกูลอมตะบางตระกูลมีความเข้าใจในเรื่องนี้
หลังจากนั้นไม่นานสือฮ่าวก็ไปเยี่ยมสำนักปราชญ์โดยผู้อาวุโสใหญ่ของสำนักนี้ได้ชี้ช่องทางให้เขาเห็น
ในท้ายที่สุดข้อสรุปที่เขาได้มาก็ใกล้เคียงกันผู้อาวุโสใหญ่คนนี้ยังให้เบาะแสบางอย่างกับเขา โดยบอกเขาว่าหากไม่มีอะไรไม่คาดคิดเกิดขึ้นก็ควรมีทางที่จะมุ่งหน้าไปยังอาณาจักรที่ต่ำกว่าได้
แม้ว่าจะไม่มีอะไรแน่นอน แต่ก็มีเงื่อนงำบางอย่าง สิ่งนี้ทำให้สือฮ่าวระบายลมหายใจโล่งอกเล็กน้อย
เดิมทีเด็กรุ่นหลังจะจัดงานชุมนุมครั้งสุดท้าย แต่ด้วยเหตุผลหลายประการจึงถูกเลื่อนออกไปอย่างต่อเนื่อง เป็นเพราะหลังจากที่พวกเขากลับไปยังตระกูลของตัวเอง พวกเขามีหลายสิ่งที่พวกเขาต้องรายงานและอธิบายมากเกินไป
ในเวลาเดียวกันยังมีอีกหลายคนที่ต้องการการรักษาตัวอย่างเร่งด่วน แม้แต่ ฉวีโต้วและผู้อมตะที่ถูกเนรเทศก็มีอาการบาดเจ็บซ่อนอยู่นับประสาอะไรกับคนอื่นๆ
ในขณะเดียวกันคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยเสียชีวิตในชายแดนรกร้างซึ่งเหลือเพียงชนชั้นสูงไม่กี่คนเท่านั้น
หลังจากการต่อสู้ครั้งใหญ่พวกเขาทั้งหมดกลายเป็นสมบัติล้ำค่าของครอบครัว หากไม่มีอะไรไม่คาดคิดเกิดขึ้นพวกเขาจะกลายเป็นผู้นำในอนาคตของตระกูล
ในขณะที่สือฮ่าวกำลังตรวจสอบเบาะแสต่างๆในสำนักเทพสวรรค์ก็มีคนมาพบเขา
คนแรกที่ปรากฏตัวคือองค์หญิงเหยาเยว่ นางได้รับบาดเจ็บเกือบจะตายที่นอกเมืองจักรพรรดิ์ แต่หลังจากที่นางกลับไปนางก็ได้รับการรักษาจากผู้อาวุโสจากนั้นก็รีบมาหาเขาที่นี่
“บรรพบุรุษของข้าต้องการให้เจ้าอยู่ที่นี่ต่อไป หากเจ้ายอมรับพวกเราสามารถช่วยเหลือให้เจ้าสามารถไปกลับในดินแดนต่ำกว่าได้ตลอดเวลา พวกเราต้องการให้เจ้ากลายเป็นผู้ปกครองของเก้าสวรรค์ในอนาคต”
ชุดยาวขององค์หญิงเหยาเยว่พริ้วไหวงดงามดวงตากลมโตมีความสุขซน นางไม่ได้พยายามเก็บซ่อนความต้องการที่ตระกูลของนางพยายามจะผูกมัดสือฮ่าวไว้
ตระกูลของนางเป็นตระกูลอมตะเป็นราชาปกครองเก้าสวรรค์อย่างแท้จริง บรรพบุรุษของตระกูลนี้คือราชาอมตะคนหนึ่งพวกเขาผ่านประวัติศาสตร์อันยาวนานของยุคโบราณมาแล้ว
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขามีตำราลึกลับของเซียนโบราณทุกสิ่งทุกอย่างถูกใช้เพื่อหลอกล่อสือฮ่าวให้อยู่ต่อ
แม้แต่ผ้าห่อศพราชาอมตะซึ่งเป็นธงสงครามของเซียนโบราณก็ยังตั้งใจจะมอบให้กับสือฮ่าวเพื่อเป็นของขวัญแต่งงาน
สือฮ่าวส่ายหน้า ตอนนี้หัวใจของเขาอ่อนล้าอย่างมากเขาเหนื่อยล้ามากเกินไป เขาเพียงต้องการกลับไปยังดินแดนที่ต่ำกว่ากลับไปที่หมู่บ้านหินผา ทั้งหมดนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาอีกต่อไป
หลังจากนั้นไม่นานคนในตระกูลขององค์หญิงเหยาเยว่ก็ออกตามหาเขาโดยแสดงออกอย่างมีชั้นเชิงว่าพวกเขาปรารถนาอย่างแท้จริงว่าสือฮ่าวจะอยู่ที่นี่ต่อ พวกเขาเต็มใจที่จะให้องค์หญิงเหยาเยว่เป็นผู้บำเพ็ญของสือฮ่าว
“เจ้าจะกลายเป็นเทพสงครามและจะไปไกลกว่าเมิ่งเทียนเจิ้งอย่างแน่นอน ดินแดนที่ต่ำกว่านั้นขาดแก่นแท้ทางจิตวิญญาณไม่เหมาะกับการฝึกฝนมันไม่ใช่สถานที่ของเจ้า”
บุคคลจากราชสำนักพยายามโน้มน้าวสือฮ่าวให้เขาอยู่ต่อไป
“ข้าไม่ต้องการอยู่ที่นี่ข้าเบื่อหน่ายการบ่มเพาะแล้ว หลังจากการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่สิ้นสุดลงข้าตั้งใจว่าจะไม่กลับมาที่นี่อีก” สือฮ่าวส่ายหัว ทัศนคติของเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้หนักแน่นมาก
หลังจากคนของราชสำนักกลับไปก็มีคนของหลายตระกูลต้องการที่จะให้เขาอยู่ต่อ
ทุกคนเห็นศักยภาพของเขา ในการต่อสู้ที่ชายแดนรกร้างเขากล้าที่จะต่อสู้กับจักรพรรดิ์ยิ่งไปกว่านั้นก็ยังเกือบจะเอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้จริงๆ
เขามาถึงขอบเขตปลดปล่อยตนเองตั้งแต่อายุยังน้อย ในอนาคตเขาจะสามารถผ่านพ้นภัยพิบัติภายใต้สวรรค์ได้อย่างแน่นอนความแข็งแกร่งของเขาขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น
ในเวลาเพียงสองวันก็มีกลุ่มมหาอำนาจมากกว่าสิบมาเยี่ยมเขาที่สำนักเทพสวรรค์ พวกเขาพยายามชวนเชิญสือฮ่าวอย่างมีชั้นเชิงให้เข้าร่วมมรดกโบราณที่มีความแข็งแกร่งของพวกเขา
ทุกกลุ่มที่มาในวันนี้ล้วนแล้วแต่เป็นกลุ่มมหาอำนาจในระดับตระกูลอมตะทั้งนั้น
อย่างไรก็ตามสือฮ่าวปฏิเสธพวกเขาทีละคน เขาไม่ต้องการอยู่ที่นี่อีกต่อไป เขาตั้งปณิธานไว้นานแล้วว่าจะไม่เห็นด้วยไม่ว่าใครจะเสนออะไรมาก็ตาม
“สหายตัวน้อยเป็นไปได้ไหมว่าเจ้ามีความกังวลบางอย่างอยู่ข้างใน นั่นคือเหตุผลที่เจ้ายืนยันที่จะจากไป”
ตระกูลซูซึ่งเป็นราชสำนักของตระกูลอมตะอย่างแท้จริงพยายามที่จะยื้อเขาไว้โดยไม่ต้องการเห็นเด็กหนุ่มที่มีอนาคตไกลคนนี้ทำลายตัวเอง
ผู้อาวุโสคนนี้มีความรู้สึกว่าสือฮ่าวไม่ไว้ใจต่อผู้คนในเก้าสวรรค์นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขาบอกว่าจะไม่กลับมาที่นี่อีก แต่เขาเชื่อว่าบุคคลเช่นฮวงจะไม่มีทางอยู่เฉยได้ เขาต้องหาทางเข่นฆ่าเข้าไปในอาณาจักรของอีกฝ่ายอย่างแน่นอน!
เมื่อเวลานั้นมาถึงเขาจะเป็นเหมือนมังกรที่โผล่ออกมาจากสวรรค์!
สือฮ่าวถอนหายใจ “ผู้อาวุโสท่านคิดมากเกินไปแล้ว ข้าเพียงอยากใช้ชีวิตสงบสักหลายปี”
“นี่ไม่เหมือนธรรมชาติของคนหนุ่มสาวเลย! เจ้าอยู่ในช่วงเวลาที่ดีที่สุดในยุคแห่งความรุ่งโรจน์ เจ้าจะเต็มไปด้วยความหดหู่และท้อแท้ได้อย่างไร?” อาวุโสคนนั้นกล่าว
สือฮ่าวส่ายหัวและพูดว่า“ ข้าเบื่อหน่ายแล้วแค่อยากกลับบ้านเท่านั้น เส้นทางแห่งการบ่มเพาะที่ข้าผ่านมาตั้งแต่เด็กนั้นเต็มไปด้วยความเศร้าโศกมากเกินไป
เมื่อมองย้อนกลับข้ารู้สึกว่าสิ่งที่ข้าค้นหานั้นไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง ข้าเพียงต้องการกลับบ้านเพื่อพักผ่อนและฟื้นคืนจิตวิญญาณต่อสู้ให้กลับมา”
ผู้อาวุโสพูดไม่ออกเล็กน้อย เขารู้สึกว่าเด็กคนนี้มองโลกในแง่ร้ายเกินไป
เขาสิ้นปัญญาจริงๆไม่สามารถโน้มน้าวอีกฝ่ายได้ไม่ว่าเขาจะพยายามอย่างไรก็ทำได้เพียงแค่ลาจากไปอีกครั้ง
แน่นอนว่าราชสำนักที่อยู่เบื้องหลังองค์หญิงเหยาเยว่จะไม่ยอมแพ้อย่างแน่นอน พวกเขายังคงมีคนของตัวเองมาแฝงตัวที่สำนักเทพสงครามอยู่เรื่อยๆ