470- ค้นหาเส้นทางกลับบ้าน
1781 - ค้นหาเส้นทางกลับบ้าน
หลังจากนั้นไม่นานเมืองจักรพรรดิ์ก็ปะทุขึ้นพร้อมกับความปั่นป่วน
ทุกคนรู้แค่ว่าการต่อสู้ครั้งใหญ่จบลงแล้วและจะไม่มีผู้รุกรานบุกเข้ามาอีกตลอดกาล ในขณะเดียวกันอาณาจักรทั้งสองก็ถูกตัดขาดปิดผนึกอย่างสมบูรณ์
“มันยอดเยี่ยมเกินไป! ในที่สุดการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ก็สิ้นสุดลงแล้ว!”
“ฮ่าฮ่า…ในที่สุดเราก็กลับบ้านได้แล้ว!”
หลายคนชื่นชมยินดีส่งเสียงโห่ร้องในขณะที่บางคนรู้สึกตื้นตันใจจนน้ำตาเริ่มไหล
ตอนนี้ดวงตาของสือฮ่าวว่างเปล่าเล็กน้อย ยิ่งรู้สึกเศร้าโศกมากขึ้นไปอีก เขาเสียใจไม่รู้จบ!
ทุกอย่างจบลงเพียงนี้หรือไม่?
เมิ่งเทียนเจิ้งจากโลกนี้ไปขณะที่ฮั่วหลิงเอ๋อหลงทางไปอีกด้านหนึ่ง โลกทั้งสองถูกตัดขาดตลอดกาลไม่สามารถย้อนกลับมาได้
สำหรับสือฮ่าวนี่เป็นความจริงที่ยากที่จะยอมรับ
“อา…” สือฮ่าวคำรามออกมา เขาแบกรับความเศร้าโศกและความโกรธเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจและทำอะไรไม่ถูก
มันเป็นแบบนี้ได้ยังไง?
แม้ว่าการต่อสู้จะได้รับชัยชนะ แต่เมื่อเขาคิดถึงสิ่งเหล่านี้สือฮ่าวก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างมากจากภายใน เขาสูญเสียมากเกินไป เขาจะชดเชยความเสียใจเหล่านี้ได้อย่างไร?
สำหรับบทสรุปของเมิ่งเทียนเจิ้งมันยากเกินกว่าที่เขาจะทำใจยอมรับได้และไม่มีอำนาจที่จะเปลี่ยนแปลงอะไร
อย่างไรก็ตามเขาสาบานในใจว่าเมื่อเขาแข็งแกร่งพอเขาจะข้ามไปอีกด้านหนึ่งอย่างแน่นอน เขาจะกำจัดศัตรูทั้งหมดแก้แค้นให้กับผู้อาวุโสใหญ่!
อย่างไรก็ตามทั้งสองโลกนี้ถูกแยกออกจากกัน
ในเวลาเดียวกันนี่ก็หมายความว่าแม้ว่าเขาจะได้รับการฝึกฝนจนถึงระดับราชาอมตะมันก็ยากสำหรับเขาที่จะข้ามผ่านไปขณะเดียวกันก็ไม่สามารถช่วยฮั่วหลิงเอ๋อได้
“ข้ายอมรับเรื่องนี้ไม่ได้!” สือฮ่าวคำรามออกมา โลกทั้งสองถูกแยกออกจากกันดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากแม้ว่าเขาจะต้องการกวาดล้างศัตรูให้หมดสิ้น
“มันต้องมีวิธีแน่!” ผู้อาวุโสของสำนักเซียนเดินมาตบไหล่เขาเพื่อปลอบใจ
ในขณะที่แบกรับความผิดหวังและความไม่พอใจสือฮ่าวก็หันกลับมา แม้ว่าจะได้รับชัยชนะในการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ แต่เขาก็ไม่รู้สึกยินดีเขาสูญเสียไปมากเกินไปในการต่อสู้ครั้งนี้
สงครามแห่งชายแดนรกร้างความทุกข์ยากและการต่อสู้ครั้งใหญ่จบลงอย่างขมขื่นแบบนี้
แม้ว่าสือฮ่าวจะไม่ต้องการยอมรับความเป็นจริงนี้ แต่ก็ไม่มีทางเลือก ในที่สุดการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ของชายแดนรกร้างก็สิ้นสุดลง ทุกอย่างมาถึงบทสรุป
หมอกสีดำนั่นคืออะไรกันแน่มันทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชายแดนรกร้าง เขากำลังครุ่นคิดถึงวิธีการที่เขาจะตามหาต้นกำเนิดของมันในอนาคต
สือฮ่าวรู้ว่าหมอกสีดำนั้นน่ากลัวอย่างแน่นอน เมื่อเขาไปถึงระดับนั้นในอนาคตเขาจะต้องเผชิญกับมันโดยไม่อาจหลีกเลี่ยง
“ทุกอย่างสงบลงไม่มีสงครามอีกแล้ว…” ผู้อาวุโสของสำนักปราชญ์กล่าวพร้อมกับถอนหายใจ
“อย่างไรก็ตามตามคำทำนายในอดีตจะเกิดอะไรขึ้นอย่างแน่นอน? ยุคอันดำมืดที่สุดจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้” ผู้อาวุโสของสำนักเซียนกล่าวออกมา
การต่อสู้ในชายแดนรกร้างที่กินระยะเวลายาวนานมาหลายล้านปีในที่สุดก็มาถึงจุดสิ้นสุดทุกคนเริ่มค้นหาเส้นทางกลับบ้านตัวเอง
บางตระกูลอาศัยอยู่ในเมืองจักรพรรดิอันยิ่งใหญ่แห่งนี้จนลืมไปแล้วว่าต้นกำเนิดของพวกเขาอยู่ที่ไหนกันแน่
หลุมฝังศพที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางชายแดนรกร้าง
สือฮ่าวแสดงความเคารพอย่างเงียบๆโดยไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว
นี่คือสุสานของเมิ่งเทียนเจิ้งซึ่งตั้งอยู่นอกเมืองจักรพรรดิ์เขาเป็นเหมือนผู้พิทักษ์ที่โดดเดี่ยวแม้ในยามตายเขาก็ต้องการอยู่เฝ้าสนามรบแห่งนี้
ในบริเวณโดยรอบได้ยินเสียงร่ำไห้ประปราย เป็นเพราะหลายคนมาที่มาในวันนี้มีความเคารพต่อเมิ่งเทียนเจิ้ง บางคนเคยเป็นอดีตลูกศิษย์ บางคนเป็นลูกหลาน บางคนเป็นสหายของเขา ทุกคนล้วนเศร้าโศกเสียใจกับการจากไปของวีรบุรุษคนนี้
เสียงร้องไห้ค่อยๆดังขึ้น ในที่สุดแม้แต่ชายแดนรกร้างก็ยังสั่นไหวเกิดเหตุการณ์วิปริตมากมายเพราะการสูญเสียของสิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุดนั้นมากเกินไป
ผู้อาวุโสของสำนักเซียนสำนักปราชญ์และคนอื่นที่เหลืออยู่ล้วนเป็นผู้ที่มีความแข็งแกร่งมากที่สุดของเก้าสวรรค์สิบพิภพ พวกเขาหลายคนเดินทางกลับดินแดนของตัวเองด้วยความท้อแท้ในสงครามครั้งนี้พวกเขาสูญเสียมากเกินไปแล้ว
"ออกเดินทางกันเถอะ!"
“กลับบ้านกันเราจะไม่กลับมาอีก!”
หน้าหลุมศพมีคนสองสามคนกล่าวเบาๆ พวกเขากำลังจะออกไปจากสถานที่แห่งนี้
พวกเขามาที่ชายแดนรกร้างเพื่อเข้าร่วมสงครามการต่อสู้อันยิ่งใหญ่หลายปี แต่ในท้ายที่สุดเมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากับผู้สูงสุดจากต่างมิติพวกเขากลับไม่สามารถทำอะไรได้
ผู้สูงสุดของเมืองจักรพรรดิและผู้สูงสุดของเก้าสวรรค์สิบพิภพมากมายล้วนเสียชีวิตที่นี่ นอกจากนี้ยังมีเมิ่งเทียนเจิ้งที่ต่อสู้ขั้นแตกหักครั้งใหญ่ในที่สุดเขาก็สามารถปกป้องเมืองจักรพรรดิจากสิ่งมีชีวิตอมตะ
หลังจากกลับมาที่เมืองจักรพรรดิ สือฮ่าวพบลูกหลานของเมิ่งเทียนเจิ้งเขาทิ้งคัมภีร์ที่ไม่อาจหยั่งรู้ไว้กับพวกเขา
ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาบอกว่าหากมีอะไรเกิดขึ้นในอนาคตตราบใดที่สือฮ่าวเรียกหา ไม่ว่าสือฮ่าวจะอยู่ที่ไหนพวกเขาจะรีบไปอย่างแน่นอน!
สือฮ่าวก็กำลังจะจากไป สิ่งที่เหลืออยู่ที่นี่คือรอยแผลเป็นความเสียใจและความขมขื่นยิ่งกว่านั้น การต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่สิ้นสุดลง แม้ว่าพวกเขาจะชนะ แต่สือฮ่าวก็พบว่ามันยากที่จะยิ้มได้
มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากเกินไป แต่พวกเขาแทบจะไม่สามารถปกป้องสถานที่แห่งนี้ได้ ราชาทั้งเจ็ดแห่งแดนรกร้างได้จากไปตลอดกาลทั้งเมืองรวมทั้งผู้คนในเมืองต่างก็ถูกฝังอยู่ในเลือดและเปลวเพลิง
อย่างไรก็ตามชื่อโลหิตของคนบาปยังคงอยู่แม้กระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่ถูกชำระล้างออกไป
ไม่มีใครเต็มใจที่จะพูดถึงเรื่องนี้และพวกเขาก็ไม่มีใจที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ทุกคนอยากรีบกลับบ้านอยากจะไปจากดินแดนที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศกแห่งนี้โดยเร็วที่สุด
แม้แต่คนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ที่นี่มาอย่างยาวนานตั้งแต่บรรพบุรุษก็ไม่เต็มใจที่จะอยู่อีกต่อไป
เหลือผู้ฝึกฝนที่จำเป็นเพียงไม่กี่คนที่จะปกป้องสถานที่แห่งนี้ต่อ ในอนาคตตะกูลต่างๆจะถูกผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเพื่อเฝ้าสถานที่แห่งนี้
สำหรับมหาอำนาจกลุ่มต่างๆนี่เป็นสถานที่แห่งความขมขื่นเช่นเดียวกับสถานที่แห่งความทุกข์ทรมานที่พวกเขาไม่เต็มใจที่จะกลับมา
หากพวกเขามีทางเลือกพวกเขาก็ไม่เต็มใจที่จะก้าวเท้ามาที่นี่อีกครั้ง
สือฮ่าวมองไปที่เมืองจักรพรรดิ์ที่ทรงพลังไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาอีกเมื่อไหร่
“วันนั้นจะมาถึงเมื่อแตรมังกรส่งเสียงเรียกหา ข้าจะบุกเข้าไปเหยียบย่ำพวกมันให้สิ้นซาก!” สือฮ่าวพูดกับตัวเอง
เขานำกลุ่มเด็กๆสายเลือดเมืองจักรพรรดิ์ดั้งเดิม กลับสู่ดินแดนอันเงียบสงบด้านล่าง
“เจ้าจะจากไปจริงๆเหรอ” ทัวปาอู่หลง ฉีหงและคนอื่นๆตามมาส่งเขา
ความเสียหายของคนรุ่นใหม่นั้นรุนแรงมากหงส์เพลิงสี่คนของตระกูลเว่ยเหลือเพียงสอง ทัวปาอู่หลงถูกทุบตีอย่างน่าสังเวชร่างกายของฉีหงเหลือเพียงครึ่งเดียว
ทั้งยังมีผู้เสียชีวิตอีกมากมาย
“ลาก่อน!”
สือฮ่าวพาเด็กๆมาด้วยโดยบอกลาคนที่เหลือของเมืองจักรพรรดิ
เขาควรจะกลับไปที่ดินแดนล่างอย่างไร? นี่เป็นปัญหาที่สือฮ่าวสงสัย
เป็นเพราะถ้าเขาต้องการกลับไปจริงๆมันจะเป็นเรื่องยากมาก ในตอนนั้นเขาใช้ความพยายามไม่น้อยในการปีนขึ้นมา การกลับไปจะเป็นเรื่องที่ยากลำบากกว่า
ทั้งแปดดินแดนล่างซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับเก้าสวรรค์สิบพิภพมันมีกำแพงอาณาจักรอันยิ่งใหญ่คอยปกป้องไว้ ไม่อนุญาตให้สิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งลงไป
“ก่อนจากไปข้าต้องไปพบกับคนบางคน” สือฮ่าวกล่าวเบาๆกับเด็กๆ
ในเวลาเดียวกันเขาต้องเดินทางผ่านเก้าสวรรค์เพื่อปรึกษากับสัตว์ประหลาดเก่าแก่เพื่อหาวิธีที่เขาจะมุ่งหน้าไปยังดินแดนที่ต่ำกว่า
ในตอนแรกทุกอย่างเร่งรีบเกินไปเขาจึงไม่ได้ปรึกษาผู้อาวุโสจากสำนักเซียน