462 - ผู้ยิ่งใหญ่ลาโลก
1773 - ผู้ยิ่งใหญ่ลาโลก
เซียนอมตะหวังได้กล่าวอย่างตรงไปตรงมาและชัดเจนแล้วว่าเมื่อเมิ่งเทียนเจิ้งหักคันธนูใหญ่เพื่อเป็นการเร่งให้มันตื่นขึ้นก่อนเวลา
สิ่งนี้ไม่เพียงตัดเส้นทางสู่ความเป็นอมตะของเขาเท่านั้น แต่ยังเผาผลาญอายุขัยที่เหลืออยู่ทั้งหมดของเขาด้วย พลังชีวิตของเขากำลังรั่วไหลออกมาอย่างสมบูรณ์
เหลือเวลาอีกไม่มากแล้วนั่นคือสาเหตุที่เขาออกอาละวาดเข่นฆ่าศัตรูจนฝ่ายตรงข้ามเต็มไปด้วยความหวาดกลัวต้องหนีเอาชีวิตรอด
ตอนนี้บนท้องฟ้าของดินแดนรกร้างไม่มีดวงอาทิตย์อีกต่อไป มันถูกทำลายไปแล้วจากการต่อสู้เมื่อไม่นานมานี้
อย่างไรก็ตามท้องฟ้ายังคงมีแสงสว่างจากหมอกควันหลากสีราวกับช่วงอาทิตย์กำลังจะตกดินมันเป็นความงดงามความหดหู่และหนาวเหน็บ วีรบุรุษแห่งยุคสมัยคนหนึ่งกำลังจะถึงจุดจบ!
นี่คือรอยแผลเป็นของเมืองจักรพรรดิ์และความเสียใจของเก้าสวรรค์สิบพิภพ ชายผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกกำลังจะตายเต๋าของเขาจะดับสูญ ทำให้ผู้คนมากมายถอนหายใจออกมาอย่างเศร้าโศก
“สร้างเมืองจักรพรรดิขึ้นมาใหม่!”
เมิ่งเทียนเจิ้งกล่าว ด้านหลังของเขาหันไปทางเมืองจักรพรรดิ์ชุดเกราะสีทองของเขาปกคลุมไปด้วยเลือดของศัตรู นี่คือความรุ่งโรจน์ที่สร้างความเสียใจให้กับผู้คนของเก้าสวรรค์สิบพิภพเป็นอย่างยิ่ง
ความสำเร็จในการต่อสู้ของเขาทำให้โลกตกตะลึง แต่เขาก็กำลังจะตายที่นี่ตอนนี้
สำหรับเมิ่งเทียนเจิ้งสิ่งที่เขาสนใจคือการสร้างเมืองจักรพรรดิขึ้นมาใหม่โดยเร็วที่สุด ซ่อมแซมกำแพงเมืองที่พังทลายเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งมีชีวิตสูงสุดของอีกฝ่ายไม่ให้พวกเขาสามารถโจมตีเข้ามาได้อีกครั้ง
หากเมืองนี้ได้รับการซ่อมแซมอย่างสมบูรณ์มิหนำซ้ำยังได้รับการปกป้องจากอาวุธชั้นเซียนอีกสามชิ้น มันจะสามารถสังหารผู้สูงสุดทุกคนจากต่างมิติได้อย่างแน่นอน
ผู้สูงสุดคนอื่นที่เหลืออยู่ เคลื่อนไหวและดำเนินการอย่างรวดเร็ว มีบางคนที่คว้าไปยังอวกาศก่อนจะดึงดวงดาวขนาดใหญ่มากมายที่ถูกทำลายจากการต่อสู้ครั้งนี้ลงมาซ่อมกำแพงเมือง
ผู้อาวุโสของสำนักเซียน ผู้อาวุโสจากสำนักปราชญ์ เซียนอมตะหวังและคนอื่นๆ ต่างก็แสดงออกถึงความจริงจัง
บนกำแพงเมืองจักรพรรดิเมื่อทุกคนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลายคนก็ถอนหายใจด้วยความข่มขืน
“ผู้อาวุโสใหญ่!”
“ผู้อาวุโสเมิ่งเทียนเจิ้ง!”
มีคนมากมายร้องไห้ออกมา เมื่อไม่นานมานี้พวกเขายังคงส่งเสียงโห่ร้องและเต็มไปด้วยความสุขในชัยชนะ ใครจะคิดว่าสุดท้ายเรื่องจะจบลงด้วยความขมขื่นอย่างนี้?
เพื่อจะสังหารศัตรูเมิ่งเทียนเจิ้งตัดเส้นทางแห่งความเป็นอมตะของตัวเองออกไปยิ่งกว่านั้นเขากำลังจะตาย
เรื่องนี้น่าเศร้าแค่ไหน? ทุกคนเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจรู้สึกสงสารและโกรธแค้นในความไม่ยุติธรรม!
สือฮ่าวข้ามผ่านบททดสอบแห่งสวรรค์และก้าวเข้าสู่อาณาจักรบ่มเพาะที่สูงขึ้น เขายืนอยู่ตรงนั้นด้วยความตกตะลึงดวงตาของเขาแสบร้อนจมูกมีกลิ่นเปรี้ยวไม่สามารถกล่าวอะไรออกมาได้
อาจกล่าวได้ว่านับตั้งแต่ที่เขาเข้าสู่เก้าสวรรค์เมิ่งเทียนเจิ้งก็เปรียบเสมือนผู้พิทักษ์ของสือฮ่าว เขาปกป้องสือฮ่าวจากความเป็นปรปักษ์ของตระกูลหวังและความขัดแย้งของตระกูลจิน
อีกทั้งยังนำเขาไปสู่ดินแดนลับในเส้นทาง 'ร่างกายเป็นเมล็ดพันธุ์' แสดงให้เห็นถึงความเมตตาที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ถ้าไม่มีเมิ่งเทียนเจิ้งมันอาจจะยากมากสำหรับสือฮ่าวที่จะมาถึงขั้นตอนนี้ได้อย่างรวดเร็ว
เส้นทางของการใช้ร่างกายเป็นเมล็ดพันธุ์นี้เมิ่งเทียนเจิ้งเป็นบรรพบุรุษที่ยิ่งใหญ่ ในอดีตเขาใกล้จะประสบความสำเร็จอย่างมาก
เป็นเพราะเขาส่งต่อทุกอย่างให้สือฮ่าว โดยไม่เก็บรั้งอะไรไว้ ยิ่งไปกว่านั้นยังพาเขาไปยังดินแดนลับบางแห่งที่เขาสามารถประสบความสำเร็จได้!
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเมิ่งเทียนเจิ้งได้ช่วยชีวิตเขาไว้หลายครั้ง
“ผู้อาวุโสข้าไม่ต้องการให้ท่านตาย! มันต้องมีวิธี!”สือฮ่าวละล่ำละลักออกมา ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยร้องไห้แต่วันนี้เขาไม่สามารถอดกลั้นได้อีกต่อไปแล้ว
เขาล้วงใบชาสารพัดเต๋าพร้อมกับใบจากต้นยาเซียนรวมถึงของวิเศษทุกชิ้นออกมาเพื่อหาทางช่วยเหลือเมิ่งเทียนเจิ้ง
“บ่มเพาะอย่างถูกต้องเจ้าจะไปได้ไกลกว่าข้า เส้นทางของเจ้านั้นถูกต้องกว่า!”เมิ่งเทียนเจิ้งพูดอย่างใจเย็นหลังของเขายังคงหันไปทางเมืองจักรพรรดิ์ สายตาของเขาจับจ้องไปที่สวรรค์อเวจี
ดวงตาของเขาทอประกายลึกล้ำจ้องมองเข้าไปในสวรรค์อเวจีเพื่อข่มขู่ผู้สูงสุดของอีกฝ่ายและพยายามค้นหาว่ายังมีใครซ่อนตัวอยู่บริเวณนี้หรือไม่
หลังจากสิ่งมีชีวิตทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเด็กรุ่นเยาว์หรือผู้อาวุโสระดับผู้สูงสุดที่หนีรอดไปแล้วไม่มีผู้ใดมีความกล้ามากพอที่จะกลับมาอีกครั้ง!
ด้านหลังทุกคนในเมืองจักรพรรดิ์ต่างก็ขยับตัวรีบเร่งสร้างเมืองจักรพรรดิ์ขึ้นมาใหม่ บางคนทำการฟื้นฟูบางคนพยายามศึกษาแผนภาพค่ายกลเซียนโบราณ
หลายคนรู้สึกเศร้าใจ ราคาที่พวกเขาจ่ายไปในการต่อสู้ครั้งนี้มากเกินจะรับไหว!
ผู้สูงสุดเดิมจากเมืองจักรพรรดิ์ถูกสังหารจนหมดสิ้น ในขณะที่ผู้สูงสุดอีกครึ่งหนึ่งที่มาจากเก้าสวรรค์สิบพิภพก็เสียชีวิตเช่นกัน หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้จำนวนของผู้สูงสุดที่เหลืออยู่นั้นน้อยนิดจนน่าเวทนา
เราต้องเข้าใจว่ากว่าที่จะปรากฏผู้สูงสุดขึ้นมาแต่ละคนนั้นก็แทบจะกินเวลาไปเกือบยุคสมัยหนึ่ง แต่ตอนนี้พวกเขาเสียชีวิตจนแทบจะหมดสิ้นแล้ว
สิ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกเสียใจมากที่สุดคือเมิ่งเทียนเจิ้งซึ่งมีศักยภาพใกล้เคียงที่จะก้าวเข้าสู่ความเป็นอมตะ แต่ท้ายที่สุดเขากำลังจะตายหายไปจากโลกนี้ตลอดกาล
หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้เขาได้กำจัดภัยคุกคามของชายแดนรกร้างไปอีกหลายร้อยปีด้วยความแข็งแกร่งอย่างที่ไม่อาจจินตนาการถึง
ดวงตาของผู้คนมากมายเป็นสีแดงก่ำเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ
ด้านหน้าของเมืองจักรพรรดิ์มีเพียงเมิ่งเทียนเจิ้งและสือฮ่าวเท่านั้นที่ยืนอยู่ที่นั่นห่างไกลจากคนอื่นๆ
เขากำลังจะตายแต่เขายังคงยืนอยู่ที่ด้านหน้าของสวรรค์อเวจีเพื่อป้องกันไม่ให้ศัตรูจากต่างมิติข้ามมาอีกครั้ง
ซิ่ว!
ทันใดนั้นกระแสของแสงที่วุ่นวายก็ปะทุขึ้นกลายเป็นหอกศักดิ์สิทธิ์ทะลวงเข้าใส่ศีรษะของเมิ่งเทียนเจิ้งโดยต้องการที่จะฆ่าเขาที่นี่!
นี่เป็นการลงมืออย่างกะทันหันมันทำให้ทุกคนตกใจ ใบหน้าของพวกเขาซีดเผือดด้วยความหวาดกลัว มันมาอย่างฉุกละหุกเกินไปใครกันที่ต้องการสังหารผู้อาวุโสเมิ่งเทียนเจิ้ง!
"ระวัง!"
“ผู้อาวุโส!”
พลังแห่งความโกลาหลรวมตัวเป็นหอกสีดำสนิทพุ่งมาอย่างรวดเร็วโดยมีสัญลักษณ์เต๋าที่ยิ่งใหญ่หมุนวนอยู่รอบๆ มันกำลังแทงทะลุศรีษะท้องเมิ่งเทียนเจิ้ง
เปง!
ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดหอกสงครามนั้นได้ถูกหยุดลงอย่างง่ายดาย มันอยู่ห่างจากด้านหลังศีรษะของเมิ่งเทียนเจิ้งเพียงครึ่งจ้าง
“เจ้าควรรออีกสักหน่อยจนกว่าข้าจะอ่อนแอลงกว่านี้มันอาจทำให้เจ้ามีโอกาส” เมิ่งเทียนเจิ้งหันกลับมาดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าแต่ก็ยังเป็นที่น่าหวาดกลัว
เห็นได้ชัดว่าเขารับรู้มานานแล้วว่ามีผู้สูงสุดที่ยังไม่ได้กลับไปเพียงแค่ว่าเขาไม่ได้ลงมือเท่านั้น
เมื่อผู้สูงสุดคนนี้กลับไปในตอนแรกเขาซ่อนตัวอยู่ในสวรรค์อเวจีโดยต้องการที่จะฆ่าเมิ่งเทียนเจิ้งในช่วงเวลาสำคัญ อย่างไรก็ตามมันไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง
“เหลือเวลาอีกไม่มาก ถ้าข้ารอจนกว่าเมืองจักรพรรดิ์ถูกสร้างขึ้นมาใหม่มันก็จะไม่มีความหมายอะไร” ผู้สูงสุดคนนั้นถอนหายใจ
เมิ่งเทียนเจิ้งไม่ได้พูดอะไรเพียงแค่เอื้อมมือไปข้างหน้า เขาใช้ออกด้วยคัมภีร์ที่ไม่อาจหยั่งรู้มือของเขาขยายใหญ่ขึ้นปกคลุมทั้งท้องฟ้า!
ไม่ว่าผู้สูงสุดคนนั้นจะพยายามปกป้องตัวเองอย่างไรมันก็ไร้ประโยชน์ ญาณวิเศษของบรรพบุรุษรวมทั้งสัญลักษณ์เต๋าอันยิ่งใหญ่ของเขาล้วนถูกบดขยี้โดยสมบูรณ์
เปง!
ผู้สูงสุดจากต่างมิติคนนั้นถูกคว้าไว้อย่างแน่นหนา เมิ่งเทียนเจิ้งค่อยๆดึงมือของเขากลับมาพร้อมกับบดขยี้ลงไปอย่างรุนแรง
อา…
เสียงกรีดร้องของผู้สูงสุดจากต่างมิติดังไปทั่วแดนรกร้างสั่นสะเทือนทั้งจักรวาล คลื่นสีเหลืองพุ่งเข้าสู่สวรรค์
ภายในรัศมีโลหิตในหมอกควันหลากสีผู้เชี่ยวชาญคนนั้นถูกบดขยี้กลายเป็นหมอกเลือด มันเผาไหม้อย่างรุนแรงร่างกายและจิตวิญญาณถูกลบเลือนโดยสมบูรณ์
ฝ่ามือขวาของเมิ่งเทียนเจิ้งตวัดออกมาเบาๆ ทำให้ทุกอย่างกระจัดกระจาย
“สหายเต๋าเจ้านอนมาพอหรือยัง เจ้าต้องการลงมือตอนนี้หรือไม่” เมิ่งเทียนเจิ้งหันกลับมามองไปยังร่างที่อยู่ไม่ไกล
ผู้สูงสุดตระกูลจักรพรรดิที่ถูกมัดไว้ใต้โซ่คำสั่งของเทพเจ้านั่งอยู่บนกระดานหมากรุกเต๋าที่ได้รับความเสียหาย ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเลือดที่ตัวเขาพ่นออกมาเอง
ตอนนี้สีหน้าของเขาดูไม่พอใจและซีดเซียวพร้อมจะขาดใจตายได้ทุกเมื่อ
นี่คือผู้บ่มเพาะตระกูลจักรพรรดิที่ถูกเมิ่งเทียนเจิ้งถูกปิดผนึกไว้
เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนี้ต่างก็ตกใจ เขาเป็นอิสระจริงหรือ?