461 - จบแล้ว?
1772 - จบแล้ว?
หงหลง!
แม้ว่าการโจมตีครั้งนี้จะรุนแรงจนน่าเหลือเชื่อ อย่างไรก็ตามสีหน้าของเมิ่งเทียนเจิ้งไม่ได้แปรเปลี่ยนแม้แต่น้อย
"ฆ่า!"
ผู้เชี่ยวชาญตระกูลจักรพรรดิตะโกน เขาเดินไปข้างหน้าก้าวที่เก้าเของเขาพัฒนาไปอีกขั้นพลังการโจมตีอันรุนแรงก็พุ่งไปที่เมิ่งเทียนเจิ้ง เก้าก้าวกลับสู่หนึ่ง!
อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ก้าวที่สิบ แต่เป็นระลอกคลื่นที่เกิดจากเก้าก้าวนก่อนหน้านี้ที่ซ้อนทับกันก่อให้เกิดการโจมตีครั้งสุดท้าย
ยิ่งไปกว่านั้นการโจมตีครั้งสุดท้ายนี้ไม่ได้ปรากฏจากฝีเท้าของเขา แต่มันมาจากใบมีดยาวสีขาวพร่างพราวในมือของเขานั่นเอง
ทุกคนสามารถมองเห็นคลื่นแสงที่ลุกโชติช่วงเก้าสายพุ่งออกมาจากเท้าของเขากลืนไปทั่วสวรรค์และปฐพี
ในที่สุดทุกอย่างก็รวมตัวกันที่แขนขวาของเขา
นี่คือการโจมตีขั้นสูงสุดของวิชาเก้าก้าวเหยียบย่ำอมตะ! คลื่นพลังโหมกระหน่ำอย่างรุนแรงโจมตีเข้าใส่เมิ่งเทียนเจิ้งหมายจะตัดสินความเป็นตายในครั้งเดียว
แดง!
ในที่สุดเมิ่งเทียนเจิ้งก็ขยับตัว เขายกคันธนูขนาดใหญ่หันหน้าไปทางดาบยาว
ไม่เพียงแต่เขาจะต่อต้านเก้าก้าวเหยียบย่ำอมตะของผู้สูงสุดตระกูลจักรพรรดิเท่านั้น แต่เขายังเผชิญหน้ากับพลังร่วมของสิ่งมีชีวิตสูงสุดคนอื่นๆ
ประกายไฟบินไปทุกทิศทาง พลังศักดิ์สิทธิ์พุ่งสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว
ธนูขนาดใหญ่ของเมิ่งเทียนเจิ้งบดขยี้ลงบนใบมีดนี้ทำให้มันสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงเขย่าทั้งสวรรค์และปฐพี
คชา!
ใบมีดยาวแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ผู้เชี่ยวชาญของตระกูลจักรพรรดิกระอักเลือดออกมาไม่หยุด
นอกจากนี้แขนของเขายังถูกบดขยี้เป็นเลือดเนื้อเลอะเลือน
นี่คือการใช้คลื่นพลังทั้งเก้ารวมตัวกันเพื่อกวาดล้างศัตรู แต่สุดท้ายอีกฝ่ายก็หยุดมันมันอย่างง่ายดายทั้งยังถูกพลังสะท้อนทำร้ายตัวเองจนเกือบเสียชีวิต
โฮ่ว!
ในเวลาเดียวกันเสียงคำรามยาวดังมาจากระยะไกล ผู้สูงสุดอีกจำนวนหนึ่งที่กำลังต่อสู้อยู่กับเซียนอมตะหวังรีบละทิ้งเป้าหมายของตัวเองและมุ่งหน้ามาที่นี่เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้สูงสุดจากตระกูลจักรพรรดิ
“เราต้องฆ่าเขาให้ได้ไม่ว่าจะเสียสละเท่าไหร่ก็ตาม!” ผู้สูงสุดตระกูลจักรพรรดิที่เหลือเพียงแขนเดียวกล่าวออกมาด้วยความกังวล เขากลัวว่าเมิ่งเทียนเจิ้งอาจสังหารพวกเขาทั้งหมดด้วยตัวคนเดียว
ในความเป็นจริงตอนนี้เท้าของเขาได้ก้าวเข้าสู่อาณาจักรแห่งความเป็นอมตะแล้วแม้ว่ามันจะเพียงชั่วคราวเท่านั้นก็ตาม
หากไม่มีอะไรไม่คาดคิดเกิดขึ้นคนประเภทนี้จะกลายเป็นผู้อมตะที่แท้จริงในท้ายที่สุด
น่าเสียดายที่เขาทำลายผลไม้เต๋าและตัดเส้นทางที่มุ่งไปข้างหน้าของตัวเอง
“ถึงเวลาแล้วที่การต่อสู้ครั้งนี้จะจบลง!”
เมิ่งเทียนเจิ้งกล่าว เขาไม่รู้สึกหดหู่ใจและไม่เปิดเผยความเศร้าโศกใดๆ ดวงตาของเขายังเต็มไปด้วยความสดใสคันธนูหักในมือเปล่งประกายปลดปล่อยพลังอันท่วมท้น
ภายในใจของเขาตอนนี้มีเพียงต้องสังหารศัตรูให้หมดสิ้นเท่านั้น!
"ฆ่า!"
ในบริเวณรอบๆสิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุดทั้งหมดต่างรุมล้อมเข้ามาพร้อมกับปลดปล่อยการโจมตีอันรุนแรง
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการโจมตีครั้งนี้น่าหวาดกลัวอย่างยิ่งแม้ว่าเมิ่งเทียนเจิ้งจะเต็มไปด้วยรัศมีของผู้อมตะ
แต่ก็ยังคงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะยืนหยัดไว้ได้ หมาป่าฝูงหนึ่งหากทุ่มเทขึ้นมาก็สามารถล้มพยัคฆ์ได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตามเขามุ่งเป้าไปที่บุคคลในตระกูลจักรพรรดิเป็นหลักโดยหลบหลีกการโจมตีของผู้สูงสุดมากมายอย่างรวดเร็วจากนั้นโจมตีออกไปอย่างดุร้าย
เมื่อมีคนในระดับของเขาระเบิดพลังออกมาในเป้าหมายเดียวมันจะเป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างยิ่ง
นอกเหนือจากนี้เซียนอมตะหวังผู้อาวุโสของสำนักเซียนสำนักปราชญ์และจินไท่จุน ต่างก็โจมตีออกอย่างรุนแรงเพื่อสร้างโอกาสให้กับผู้อาวุโสใหญ่เมิ่งเทียนเจิ้ง
“สหายเต๋าข้ารู้ว่าเจ้าเหลือเวลาไม่มาก พวกเราจะทุ่มเทอย่างสุดกำลังเพื่อถ่วงเวลาให้เจ้าสังหารศัตรูทั้งหมด” เซียนอมตะหวังตะโกนออกมาสร้างความโกลาหลให้กับทุกคนที่อยู่ที่นี่
เมิ่งเทียนเจิ้งหัวเราะเบาๆจากนั้นก็ถอนหายใจออกมาอย่างเศร้าโศก เขามุ่งมั่นสังหารผู้สูงสุดของตระกูลจักรพรรดิคนนั้นพร้อมกับกวาดล้างผู้สูงสุดที่แข็งแกร่งคนอื่นๆให้มากที่สุดก่อนที่ตัวเองจะหมดกำลังลง
เขาเป็นเหมือนเทพสงครามจากสวรรค์เมื่อเขาลงมือสังหารทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกทำลายอย่างรวดเร็ว
ระหว่างนี้มีผู้สูงสุดสองคนถูกสังหารไปอย่างง่ายดาย แสงเซียนหมุนวนรอบร่างกายของเขาพลังศักดิ์สิทธิ์ปะทุขึ้นอย่างรุนแรง
เขาพุ่งทะยานไปทางซ้ายทางขวาผู้สูงสุดจากต่างมิติที่ต้องการขัดขวางเขาถูกสังหารทำที
ท้ายที่สุดเขาก็สามารถไล่ตามผู้สูงสุดของตระกูลจักรพรรดินั้นทัน ก่อนจะใช้คันธนูหักในมือทุบลงไปอย่างรุนแรงส่งผลให้ผู้สูงสุดคนนั้นกระอักเลือดออกมาไม่หยุดมีท่าทีว่าจะขาดใจได้ทุกเมื่อ
“ข้าจะถ่วงเวลาให้พวกเจ้า ใช้โอกาสนี้สังหารเขาให้ได้!”
ผู้สูงสุดของตระกูลจักรพรรดิคนนี้ก็มีความเด็ดขาดเช่นกันเขาทะยานไปข้างหน้าพร้อมกับเผาผลาญโลหิตแก่นแท้ทั้งหมดที่อยู่ในร่างก่อให้เกิดสัญลักษณ์เต๋าอันยิ่งใหญ่หมุนวนอยู่รอบร่างกายของเขา
เขาต้องการใช้ความตายของตัวเองเพื่อสร้างโอกาสให้กับพวกพ้องในการสังหารเมิ่งเทียนเจิ้งให้ได้
คนอื่นๆก็ไม่รอช้าพลังศักดิ์สิทธิ์ในร่างกายของพวกเขาปะทุขึ้นก่อนจะโจมตีด้วยญาณวิเศษของบรรพบุรุษอย่างรุนแรง
น่าเสียดายที่พวกเขาประเมินความแข็งแกร่งของเมิ้งเทียนเจิ้งต่ำไป
ปัง!
แขนข้างที่เหลือของผู้สูงสุดตระกูลจักรพรรดิถูกตัดออกจากร่าง ก่อนที่เมิ่งเทียนเจิ้งจะไล่ตามเขาไปติดๆพร้อมกับฉีกกระชากร่างกายของเขาออกเป็นสองส่วน
ธนูหักในมือของเมิ่งเทียนเจิ้งชุ่มไปด้วยเลือด เขาหยุดชะงักเพียงชั่วคู่ก่อนจะพุ่งทะยานเข้าหาผู้สูงสุดคนอื่นๆจากต่างมิติ
ปู!
ผู้สูงสุดคนหนึ่งถูกคันธนูฟาดเข้าใส่จนดับสูญทั้งกายและวิญญาณ หลังจากนั้นนิ้วของเมิ่งเทียนเจิ้งก็ทะลวงเข้าใส่กระดูกหน้าผากของผู้สูงสุดอีกคน
เมิ่งเทียนเจิ้งปลดปล่อยการเข่นฆ่าครั้งใหญ่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญจากต่างมิติประสบกับความสูญเสียอย่างย่อยยับ
เมื่อผู้สูงสุดจากตระกูลจักรพรรดิตกตายไปหมดสิ้น ผู้สูงสุดจากต่างมิติที่เหลืออยู่ไม่กี่คนก็รีบทะยานเข้าหาสวรรค์อเวจีต้องการที่จะหลบหนีออกจากสถานที่แห่งนี้ให้ได้
ไม่ใช่ว่าพวกเขาหวาดกลัวถึงขนาดนั้น แต่พวกเขารู้ดีว่าต่อให้พวกเขาอยู่ต่อมันก็ไม่มีความหมายอีกต่อไป มันเป็นเพียงการเอาชีวิตของตัวเองไปทิ้งอย่างเปล่าประโยชน์
ต๋อง!
ด้านหน้าของเมืองจักรพรรดิ์ในทะเลทรายอันยิ่งใหญ่ควันและฝุ่นละอองฟุ้งขึ้นสู่สวรรค์
เมิ่งเทียนเจิ้งยังคงไล่สังหารผู้สูงสุดจากต่างมิติอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่พวกเขาที่เหลืออยู่เพียงสองสามคนจะบุกฝ่าเข้าไปในสวรรค์อเวจีทำให้สามารถรอดชีวิตไปได้อย่างเฉียดฉิว
การต่อสู้นี้ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ไม่มีใครสามารถปราบปรามเมิ่งเทียนเจิ้ง นั่นหมายความว่าพวกเขาพ่ายแพ้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นความพ่ายแพ้อย่างย่อยยับ!
ในทะเลทรายอันยิ่งใหญ่เมิ่งเทียนเจิ้งยืนอยู่ที่นั่นเงียบๆ เขามองไปที่สวรรค์อเวจีที่อยู่ด้านหน้าแต่ไม่ได้ไล่ตามต่อไป
หน้าเหวสวรรค์บนทะเลทรายอันยิ่งใหญ่เมิ่งเทียนเจิ้งยืนอยู่ที่นั่นคนเดียว ฝนเลือดไหลลงมาจากท้องฟ้า
อย่างไรก็ตามบนท้องฟ้าอันยิ่งใหญ่ก็มีเปลวไฟจำนวนมากกำลังเผาผลาญอย่างรุนแรง กลายเป็นแสงที่ส่องสว่างไปทั่วโลก
นั่นคือโลหิตแก่นแท้ของผู้สูงสุดของทั้งสองฝั่ง เมิ่งเทียนเจิ้งสังหารผู้คนไปมากมายในวันนี้ ความสำเร็จของเขาจะถูกจดจำไปตราบนานเท่านาน
เขาเข่นฆ่าผู้สูงสุดของอีกฝ่ายจนพวกเขาเต็มไปด้วยความกลัว แม้แต่ผู้สูงสุดของตระกูลจักรพรรดิก็ถูกสังหารที่นี่ถึงแปดคน ผู้คนที่เหลือหนีตายกันอลหม่านไม่กล้าหันกลับมาต่อสู้อีกแล้ว
ตอนนี้เขาเป็นคนเดียวที่ยืนอยู่เบื้องหน้าสวรรค์อเวจี ความเปล่งประกายของเลือดไหลรินลงมาแสงสีแดงเข้มจากโลหิตแก่นแท้ที่ถูกเผาผลาญทำให้โลกนี้สว่างไสวกลับคืนสู่ความสงบอีกครั้ง