446 - เต๋าผู้ยิ่งใหญ่
1757 - เต๋าผู้ยิ่งใหญ่
ผู้สูงสุดตระกูลจักรพรรดิยกมือขึ้นเป็นครั้งที่สอง สัญลักษณ์ที่เรียบง่ายและเก่าแก่ไหลเวียนเป็นรูปหมากรุกอีกครั้งก่อนจะบินเข้าหาเมิ่งเทียนเจิ้ง
หงหลง!
มันยังคงอยู่กลางอากาศแต่กลายเป็นตราประทับที่ยิ่งใหญ่ สิ่งนี้ถูกสร้างขึ้นจากกฎธรรมชาติที่ผสมผสานกันของตระกูลจักรพรรดิ
ในความเป็นจริงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงสัญลักษณ์ที่เรียบง่ายและเก่าแก่ แต่ก็เป็นศูนย์รวมของมรดกขั้นสูงสุดของตระกูลของเขา
ผู้อาวุโสใหญ่ยกมือขึ้นปล่อยแสงเป็นริ้ว มันกลายเป็นสัญลักษณ์เต๋าปะทะกับรอยประทับที่ยิ่งใหญ่ของอีกฝ่าย!
ฮ่อง!
หลังจากนั้นพวกมันก็กลายเป็นตัวหมากรุกสีขาวและสีดำปะทะกันอย่างต่อเนื่อง
สิ่งที่ผู้อาวุโสใหญ่ใช้คือสัญลักษณ์ของคัมภีร์ที่ไม่อาจหยั่งรู้ มันกลายเป็นตัวหมากรุกชิ้นที่สองปะทะกับมรดกที่ไม่มีอะไรเทียบได้ของตระกูลจักรพรรดิ
“พวกเจ้าตัดสินใจแล้วหรือยังว่าใครจะออกไปก่อน?” ผู้สูงสุดของตระกูลจักรพรรดิอีกฝ่ายกล่าวออกมาก่อนจะหันไปมองที่เซียนอมตะหวัง จินไท่จุนและคนอื่นๆ
การต่อสู้กำลังจะเริ่มขึ้นนี่เป็นการเผชิญหน้ากันครั้งสุดท้าย!
“ใครจะต่อสู้กับข้า” ผู้สูงสุดร่างสูงใหญ่จากต่างมิติคนหนึ่งเดินเข้ามา รัศมีพลังของเขาเต็มไปด้วยความมืดมน
“ใครจะออกไป” จินไท่จุนถามคนที่มีคุณสมบัติในการลงสนามของเมืองจักรพรรดิ
“คนที่จะออกไปเป็นคนแรกไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งที่สุดแน่นอน สหายเต๋าจินเจ้าควรออกไปเผชิญหน้ากับเขา” เซียนอมตะหวังกล่าว
เขาพูดอย่างมีชั้นเชิง แต่ความหมายของเขาก็ตรงไปตรงมาเพียงพอแล้ว คนที่ออกไปก่อนจะเป็นคนที่อ่อนแอที่สุด
“ได้เลยข้าจะไป!”
จินไท่จุนกัดฟันแน่นและก้าวออกไป เป็นเพราะการหลบซ่อนย่อมไม่เกิดประโยชน์ ที่นี่มีคนไม่มากนักทุกคนที่นี่จะต้องก้าวออกไปต่อสู้ไม่ช้าก็เร็ว
“สหายเต๋าดูเหมือนว่าหัวใจของเจ้าจะไม่สงบ เรื่องนี้ส่งผลเสียอย่างยิ่งมันอาจจะเป็นผลให้เจ้าตายที่นี่!” ผู้สูงสุดจากต่างมิติเย้ยหยันเบาๆ
“ดง!”
ไม้เท้าของจินไท่จุนกระแทกลงสู่พื้นสั่นสะเทือนความว่างเปล่าไปทั้งปฐพี
“ไร้สาระ!”
หงหลง!
การต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่เริ่มขึ้น จินไท่จุนแสดงญาณวิเศษอันล้ำค่าของนางอย่างรวดเร็วโดยหมายจะปิดฉากการต่อสู้ก่อนที่ฝ่ายตรงข้ามจะทันตั้งตัว
ต้องบอกว่าผู้ที่สามารถกลายเป็นสิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุดล้วนเป็นบุคคลที่มีความสามารถมากและพรสวรรค์สูงส่ง ความแข็งแกร่งที่พวกเขาแสดงออกมานั้นสามารถสั่นสะเทือนฟ้าดิน
แม้ว่าอีกด้านหนึ่งจะเป็นเหมือนเทพสงคราม แต่สำหรับจินไท่จุนนางก็ไม่ได้อ่อนแอเช่นเดียวกัน
จินไท่จุนแข็งแกร่งมากนางสามารถต่อสู้กับผู้สูงสุดคนนั้นอย่างดุเดือดผ่านไปหลายกระบวนท่า
ในความเป็นจริงในระดับนั้นพวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นมังกรในหมู่มนุษย์ ทุกคนเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีใครเทียบได้ในรุ่นของพวกเขา
ในอาณาจักรแห่งความว่างเปล่าและอาณาจักรแยกตนเองนั้น สิ่งมีชีวิตจากต่างมิติมีข้อได้เปรียบเหนือกว่าผู้ฝึกฝนของเก้าสวรรค์พอสมควร
แต่สำหรับผู้ยิ่งใหญ่อาณาจักรปลดปล่อยตนเองและสิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุดนั้นความแตกต่างแทบจะไม่ปรากฏออกมาเลย
เป็นเพราะการจะก้าวขึ้นสู่ระดับปลดปล่อยตัวเองและผู้สูงสุดได้นั้นจะต้องมีความรู้แจ้งในเต๋ามนุษย์ในระดับขั้นสูงสุดเสียก่อน
ในอาณาจักรเก้าสวรรค์สิบพิภพตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีสิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุดเหลืออยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น ผู้สูงสุดมากมายดับสูญไปจากการที่พยายามทะลวงเข้าสู่อาณาจักรแห่งความเป็นอมตะ
พวกเขาเพียงไม่กี่คนเหล่านี้คือผู้ที่ยังขาดความมั่นใจที่จะทะลวงเข้าสู่อาณาจักรบ่มเพาะที่สูงขึ้นกว่าเดิม!
ถึงแม้ว่าผู้คนจากต่างมิติจะมีระดับผู้สูงสุดมากกว่า แต่ก็ใช่ว่าความแข็งแกร่งของพวกเขาจะมากกว่าตามไปด้วย!
ในตอนที่ทะลวงเข้าสู่อาณาจักรเทพสวรรค์ผู้คนต้องค้นหาเต๋าของตัวเอง แน่นอนว่าเต๋าผู้ยิ่งใหญ่ย่อมมีพลังมากกว่าเต๋าธรรมดาทั่วไป
แต่การที่จะรู้แจ้งในเตาผู้ยิ่งใหญ่นั้นย่อมเป็นเรื่องที่ยากตามขึ้นไปด้วย
หงหลง!
เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ส่งเสียงดังกึกก้องฟ้าสะเทือนไปทั้งอนาจักร แสงสว่างเจิดจ้าเกิดจากการปะทะกันของสองผู้สูงสุดในอาณาจักรเต๋ามนุษย์
อย่างไรก็ตามในท้ายที่สุดจินไท่จุนก็ไม่ใช่คู่มือของฝ่ายตรงข้าม
ปู!
นางถูกฝ่ามือของผู้สูงสุดคนนั้นฟาดเข้าใส่แผ่นหลังจนกระอักเลือดออกมาพร้อมกับปลิวไปตามแรงกระแทก
หงหลง!
ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดเต๋าผู้ยิ่งใหญ่ก็ส่งเสียงกึกก้อง
บนกระดานหมากรุกชีวิตและความตายสีดำและสีขาวเมิ่งเทียนเจิ้งถอนหายใจ เขาชี้นิ้วกลายเป็นแสงที่พร่างพราวหยุดหมากรุกของฝ่ายตรงข้าม
ในเวลาเดียวกันกระดานหมากรุกเต๋าอันยิ่งใหญ่ก็ขยายใหญ่ขึ้นครอบคลุมสวรรค์และปฐพีไว้ทั้งหมด นี่เป็นการกระทำโดยเจตนาเพื่อปกป้องจินไท่จุนไม่ให้เสียชีวิตจากการต่อสู้
“สหายเต๋าเจ้าช่างโอหังจริงๆ แม้ในการต่อสู้ของเราเจ้ายังกล้าเสียสมาธิ” ผู้สูงสุดตระกูลจักรพรรดิกล่าวอย่างเย็นชา
ฮ่อง!
บนกระดานหมากรุกชีวิตและความตายตัวหมากรุกปรากฏขึ้นทีละตัวซึ่งทั้งหมดเป็นความหมายที่ลึกซึ้งดั้งเดิมของเต๋า มันปลดปล่อยพลังอันยิ่งใหญ่ออกมาปราบปรามเมิ่งเทียนเจิ้ง
ปู!
จากนั้นจินไท่จุนก็หลบหนีออกจากกระดานหมากรุกด้วยความช่วยเหลือของผู้อาวุโสใหญ่ ทำให้นางสามารถรักษาชีวิตไว้ได้
“เราแพ้ในรอบนี้” เซียนอมตะหวังก้าวออกไปอย่างรวดเร็วเพื่อปกป้องจินไท่จุนจากการไล่ตามซ้ำเติมของผู้สูงสุดฝ่ายตรงข้าม
นี่เป็นเหตุการณ์ที่อันตรายร้ายแรงอย่างยิ่ง หากเมิ่งเทียนเจิ้งและเซียนอมตะหวังไม่ลงมือช่วยเหลืออย่างทันท่วงที จินไท่จุนจะต้องถูกฆ่าอย่างแน่นอน
“สหายเต๋าดูเหมือนว่าการมีชีวิตมานับล้านปีของเจ้าจะไม่ทำให้เจ้าเป็นผู้ใหญ่เลย” ผู้สูงสุดคนนั้นไม่ได้อารมณ์เสียมากนัก เขากล่าวเย้ยหยันเล็กน้อยก่อนที่จะเดินกลับไป
เป็นเพราะเขารู้ว่าท้ายที่สุดแล้วสิ่งมีชีวิตจากเก้าสวรรค์พิภพจะต้องถูกสังหารจนหมดสิ้นอย่างแน่นอน การปล่อยให้สตรีชราคนนั้นมีชีวิตรอดก็ไม่ได้ทำให้สถานการณ์ใหญ่เปลี่ยนแปลงไป
“ใครจะเป็นคนสู้กับข้า” เซียนอมตะวังเดินออกมากลางสนามรบ รูปร่างของเขาอ่อนเยาว์คล้ายกับเด็กหนุ่มอายุ 15-16 ปีเท่านั้น
"ให้เป็นหน้าที่ข้าเอง!" ในอีกด้านหนึ่งหญิงสาวผู้หนึ่งเดินออกมา ใบหน้าของนางงดงามราวกับเทพธิดาเพียงแต่มันเย็นเยียบไม่แตกต่างจากภูเขาน้ำแข็ง
จิ!
ทั้งสองบินขึ้นสู่ท้องฟ้าก่อนจะโจมตีเข้าใส่กันอย่างรุนแรง
บนพื้นดินผู้ฝึกฝนของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความกระสับกระส่ายโดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่บางคนที่ไม่สามารถนิ่งเฉยได้ พวกเขาจ้องมองไปที่ฝั่งของเมืองจักรพรรดิ์เหมือนเสือที่เฝ้ามองเหยื่อ
“พวกเราก็ร่วมสนุกกันด้วยเป็นอย่างไร?” เด็กหนุ่มผู้หนึ่งเดินออกมาด้วยความมั่นใจ แน่นอนว่าเขาพยายามหลีกเลี่ยงจากสือฮ่าวให้มากที่สุด
ถ้าสือฮ่าวลงมือก็จะมีเพียงเฮ่าเฟิงทายาทของบรรพบุรุษโบราณปราศจากความตายเท่านั้นที่สามารถต่อสู้กับเขาได้
“ข้ากำลังรอคอยอยู่พอดี!” สือยี่กล่าวอย่างใจเย็นและปรารถนาที่จะต่อสู้มานาน
“ฮิฮิฮ่าฮ่า…” อีกด้านหนึ่งมีคนหัวเราะเสียงดังและพูดว่า
“ข้ารู้สึกชื่นชมพวกเจ้าที่มีความกล้าจริงๆ แต่พวกเจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร คิดว่าตัวเองเป็นฮวงหรือ?”
หงหลง!
หลังจากที่เขาพูดจบสิ่งมีชีวิตรุ่นเยาว์มากมายจากต่างมิติก็ทะยานเข้าสู่สนามรบราวกลับว่าพวกเขากลัวจะถูกแย่งชิงเหยื่อไป
มีบางคนที่ไม่สามารถรอได้ในทันทีที่เข้าสู่สนามรบเขาก็ลงมือโจมตีอย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่าในสถานที่ที่พวกเขาลงมือย่อมห่างไกลจากฮวงอยู่พอสมควร พวกเขาไม่ใช่คนปัญญาอ่อนที่จะไปตอแยเทพสังหารคนนั้น
ในขณะเดียวกันพวกเขาก็หลีกเลี่ยงราชันสิบสมัยด้วย เพราะทุกคนเคยเห็นเขาทำลายเจดีย์โบราณของเซ่ากู่ด้วยต้นไม้ล้ำค่าโดยตรง
มีบางคนที่พยายามพุ่งเข้าหาสือยี่และผู้อมตะที่ถูกเนรเทศเพราะพวกเขาอยู่ด้านหน้าสุด
“เด็กมนุษย์ ถึงเวลาที่พวกเจ้าต้องตายแล้ว!”
ผู้แข็งแกร่งรุ่นเยาว์ของตระกูลราชาหลายคนเคลื่อนที่พุ่งเข้าหาสือยี่อย่างรวดเร็ว