445 - การต่อสู้ของผู้สูงสุด
1756 - การต่อสู้ของผู้สูงสุด
สือฮ่าวต้องการฝึกฝนตัวเองอีกระยะหนึ่งก่อนที่จะทะลวงเข้าไปในอาณาจักรปลดปล่อยตนเองเพื่อป้องกันไม่ให้รากฐานเซียนของเขาไม่มั่นคง
ตอนนี้เฮ่าเฟิงต้องการที่จะต่อสู้ ดังนั้นสือฮ่าวจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทะลวงเข้าสู่อาณาจักรรถปล่อยตนเองก่อนเวลา
แต่ในเมื่อรากฐานเซียนของเขายังไม่มั่นคง เขาจึงต้องอาศัยความช่วยเหลือของบททดสอบแห่งสวรรค์เพื่อขัดเกลาร่างกายของเขาอีกขั้นหนึ่ง
ในอดีตเขาใช้วิธีการนี้เพื่อทำให้รากฐานของตัวเองแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นมาโดยตลอด การทะลวงผ่านบททดสอบแห่งสวรรค์นั้นเขามีความมั่นใจอย่างแท้จริง
เมื่อทุกอย่างจบลงไม่แน่ว่าเขาอาจจะทะลวงเข้าสู่อาณาจักรปลดปล่อยตนเองขั้นกลางเลยก็ได้
วันนี้จะเป็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของสือฮ่าว
แม้ว่าเขาจะสามารถข้ามระดับและต่อสู้กับเฮ่าเฟิงอย่างเข้มแข็ง แต่ราคาที่เขาต้องจ่ายก็จะมากมายมหาศาลอย่างแน่นอน
เป็นเพราะว่าอีกฝ่ายก็ได้เข้าสู่ขอบเขตการปลดปล่อยตนเองเป็นเวลาหลายปีแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังอยู่ในช่วงกลางของอาณาจักรปลดปล่อยตนเองอีกด้วย สือฮ่าวเข้าใจดีว่าหากเขาต้องการสังหารคนผู้นี้เขาจะต้องก้าวเข้าสู่อาณาจักรปลดปล่อยตนเองเท่านั้น
“เฮ่าเฟิงถอยออกมา เขากำลังเผชิญกับบททดสอบแห่งสวรรค์หากเจ้าติดอยู่ในนั้นเจ้าอาจไม่มีทางกลับออกมาได้อีก”
ผู้สูงสุดของตระกูลจักรพรรดิคนหนึ่งเรียกเฮ่าเฟิงกลับไปและไม่อนุญาตให้เขาลงมือต่อสู้
ในความเป็นจริงผู้ฝึกฝนของอีกฝ่ายค่อนข้างกังวลกลัวว่าเมื่อ ฮวงเข้าสู่ขอบเขตปลดปล่อยตนเองเขาอาจจะต่อสู้ข้ามระดับกับผู้สูงสุดเลยก็ได้
หากเป็นเช่นนั้นอย่าว่าแต่เฮ่าเฟิงเลย แม้แต่ผู้สูงสุดของตระกูลราชาที่อยู่ที่นี่มากมายก็ไม่มีความมั่นใจที่จะปราบปรามเขาได้
ที่สำคัญที่สุดก็เพราะพวกเขาหวาดกลัวเหลือเกินว่าฮวงจะสังหารเฮ่าเฟิงไปอีกคน
ผลลัพธ์ประเภทนั้นจะทำให้ผู้คนมากมายถูกบรรพบุรุษโบราณปราศจากความตายลงโทษอย่างแน่นอน
เด็กรุ่นหลังของทายาทจักรพรรดิในฝั่งพวกเขาพ่ายแพ้อย่างน่าสังเวชมามากพอแล้ว ถ้าสือฮ่าวเอาชนะเฮ่าเฟิงได้อีกครั้งมันจะเป็นเหตุให้ตระกูลจักรพรรดิเสียหน้ามากเกินไป
สิ่งประเภทนี้พวกเขาไม่สามารถปล่อยให้เกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน
แม้ว่าความมั่นใจของเฮ่าเฟิงจะเต็มเปี่ยม แต่คำสั่งของผู้สูงสุดตระกูลจักรพรรดินั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถฝ่าฝืนได้
“เจ้ารออยู่ด้านหลัง ผู้ที่จะตัดสินชะตากรรมของเมืองจักรพรรดิ์คือพวกเรา แม้ว่าคนรุ่นใหม่จะถูกสังหารทั้งหมด แต่ถ้าเราไม่สามารถทะลุกำแพงเมืองโบราณได้ทุกอย่างที่พวกเราทำมาจะกลายเป็นเรื่องไร้สาระโดยสิ้นเชิง”
“สังหารผู้สูงสุดของเมืองจักรพรรดิให้หมดแล้วทุกอย่างจะคลี่คลายได้อย่างง่ายดาย”
ผู้สูงสุดของตระกูลจักรพรรดิสองคนรับส่งบทสนทนากันไปมา
เฮ่าเฟิงถอยกลับโดยไม่กล่าวอะไร ดังนั้นการต่อสู้ของทายาทรุ่นหลังคนสุดท้ายจากตระกูลจักรพรรดิก็ไม่ได้เกิดขึ้น
“เฮ้ฮ่าฮ่า…” สือฮ่าวคำรามพร้อมกับเสียงหัวเราะ
ยิ่งไปกว่านั้นด้วยเสียงหงหลงสายฟ้าที่อยู่เหนือศีรษะของเขาก็หายไปอย่างสมบูรณ์บททดสอบแห่งสวรรค์ที่มีท่าทีว่ากำลังจะเกิดขึ้นถูกเขาควบคุมให้หายกลับไป
ทุกคนสูดลมหายใจเข้าไปอย่างหนาวเหน็บ บททดสอบแห่งสวรรค์กำลังจะเริ่มขึ้นแต่มันกลับถูกเขาส่งกลับไปได้ตามใจนึก?
“คู่ควรกับการเป็นคนที่ฝึกฝนเคล็ดวิชาจักรพรรดิสายฟ้า มิหนำซ้ำเขายังครอบครองสระสายฟ้าเป็นของตัวเองอีกด้วย!” ใครบางคนในเมืองจักรพรรดิ์ถอนหายใจเบาๆ
สือฮ่าวไม่ได้ดำเนินการใดๆอีก แต่สายตาของเขายังคงจดจ้องไปที่ชายหนุ่มของตระกูลจักรพรรดิคนนั้น
“ตอนนี้ถึงตาเราแล้ว ใครจะสู้กับข้า”
ผู้สูงสุดคนหนึ่งก้าวออกมากลางสนามรบพร้อมกับท้าทายผู้คนจากเมืองจักรพรรดิ
ทุกคนรู้ดีว่าการต่อสู้แตกหักครั้งใหญ่ที่แท้จริงมาถึงแล้ว ตอนนี้ขึ้นอยู่กับว่าผู้สูงสุดของเมืองจักรพรรดิจะสามารถขับไล่พวกเขากลับไปได้หรือไม่
เมิ่งเทียนเจิ้งเดินออกมาและพูดว่า“การเข่นฆ่าทางซ้ายและทางขวาเป็นเรื่องที่เหน็ดเหนื่อยอย่างมาก ทำไมเราไม่ตัดสินชีวิตผลแพ้ชนะด้วยการต่อสู้เพียงครั้งเดียว!”
"ข้าเห็นด้วย!" ผู้สูงสุดของตระกูลจักรพรรดิ์คนนั้นตอบกลับอย่างรวดเร็ว!
ผู้สูงสุดของตระกูลจักรพรรดิได้ตอบตกลงอย่างง่ายดายนี่เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจจริงๆ
อย่างไรก็ตามเมิ่งเทียนเจิ้งกลับขมวดคิ้วเพราะมีผู้สูงสุดของตระกูลจักรพรรดิเพียงคนเดียวที่ตอบตกลง ผู้สูงสุดของตระกูลจักรพรรดิอีกคนหนึ่งส่ายหน้าอย่างหนักแน่น
“ผู้เชี่ยวชาญด้านของเรามีมากมายทำไมเราต้องต่อสู้กับเจ้าเพียงครั้งเดียว” ผู้สูงสุดจากตระกูลจักรพรรดิคนที่สองปฏิเสธออกมาอีกครั้ง
“ถ้าอย่างนั้นเราก็ต่อสู้กันทีละคน เริ่มจากข้าก่อนหากพวกเจ้าคนใดสามารถเอาชนะข้าได้ เมืองจักรพรรดิจะยอมพ่ายแพ้เพราะว่าข้าไม่มีแรงที่จะต่อต้านอีกแล้ว!” เมิ่งเทียนเจิ้งกล่าวอย่างใจเย็น
เขาทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เกิดการต่อสู้ตะลุมบอนขึ้นเพราะสิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุดของเมืองจักรพรรดินั้นมีน้อยเกินไป
“ข้าจะให้โอกาสเมืองจักรพรรดิ์ของเจ้าหนึ่งครั้ง พวกเราจัดคนที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาจำนวนหนึ่งเพื่อต่อสู้กัน พวกเราจะไม่ใช้จำนวนคนที่มากกว่าในการเอาเปรียบพวกเจ้า” ผู้สูงสุดของตระกูลจักรพรรดิ์คนที่สองกล่าว
เมิ่งเทียนเจิ้งมองไปที่คนข้างหลังเขาถอนหายใจเบาๆ ผู้สูงสุดของเมืองจักรพรรดินั้นมีน้อยเกินไปเทียบกับฝ่ายตรงข้ามไม่ได้เลย
“เราจะใช้อาวุธเซียนหรือไม่” เขาถาม.
“เพื่อความยุติธรรมเราจะไม่ใช้สิ่งประดิษฐ์ชั้นเซียน แน่นอนว่าจำนวนคนที่ลงสนามได้ก็จะไม่มีมากเกินไป พวกเราไม่ต้องการเอาเปรียบพวกเจ้าที่มีคนน้อยกว่า” ผู้สูงสุดคนที่สองกล่าว
ที่ด้านหลังใบหน้าของจินไท่จุนบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง ถึงเวลาแล้วที่สิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุดจะต้องเผชิญหน้ากัน! ในฝั่งของพวกเขามีคนไม่มากนักนางย่อมเป็นหนึ่งในคนที่จะต้องออกไปต่อสู้
เซียนอมตะหวังพยักหน้าเห็นด้วย
ผู้สูงสุดคนอื่นๆจากเมืองจักรพรรดิ์ก็พยักหน้าเช่นกัน
ในท้ายที่สุดสถานการณ์ก็ถูกตัดสิน
เมิ่งเทียนเจิ้งนั่งลงตรงข้ามกับผู้สูงสุดของตระกูลจักรพรรดิซึ่งอยู่คนละฟากฝั่งของทะเลทราย
การเผชิญหน้าของพวกเขานั่นคือการเล่นหมากเป็นตายเพื่อตัดสินผลแพ้ชนะ
พูดง่ายๆว่านี่เป็นการเผชิญหน้าของเต๋าอันยิ่งใหญ่ของทั้งสองคน มันไม่ใช่การต่อสู้ด้วยอาวุธแต่เป็นการหักล้างกันด้วยกฎธรรมชาติที่ผู้ใดสามารถเข้าใจได้อย่างลึกซึ้งมากกว่ากัน
นี่ดูเหมือนจะเป็นการต่อสู้ทางอ้อม แต่ความจริงแล้วมันแฝงไปด้วยอันตรายถึงชีวิต
เมิ่งเทียนเจิ้งนั่งลง ในทันใดนั้นเส้นสีดำและสีขาวก็ขยายออกกลายเป็นลวดลายเหมือนกระดานหมากรุกเต๋าที่ยิ่งใหญ่
นั่นคือพลังหยินและหยางซึ่งเป็นพลังงานพื้นฐานที่สุดของโลกนี้!
ในอีกด้านหนึ่งพลังงานสีดำและสีขาวก็ปรากฏขึ้นรอบๆร่างกายของผู้สูงสุดตระกูลจักรพรรดิคนนั้น หยินและหยางหมุนวนแสดงพลังกฎธรรมชาติแห่งเต๋าที่ยอดเยี่ยม
หงหลง!
พลังเต๋าอันยิ่งใหญ่ได้ปะทะกันระหว่างทั้งสองก่อนที่จะกลายเป็นกระดานหมากรุกที่ยิ่งใหญ่และสมบูรณ์
“ก่อนที่สวรรค์และปฐพีจะก็กำเนิด โลกแห่งนี้เต็มไปด้วยพลังแห่งความโกลาหลอย่างไม่มีที่สิ้นสุด…” ผู้สูงสุดของตระกูลจักรพรรดิกำลังสวดคาถาโบราณบางอย่างเพื่อเพิ่มพลังให้กับตัวเอง
เขาขยับนิ้วอย่างยากลำบากทันใดนั้นก็ปรากฏตัวหมากบินออกมา นี่เป็นความสามารถของสิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุดเท่านั้นที่จะแสดงออกมาได้ มันปะทุขึ้นในความว่างเปล่าก่อตัวเป็นดอกไม้งดงามแวววาว
“ดอกไม้แห่งความทุกข์ยากเบ่งบานความหายนะที่ไม่มีที่สิ้นสุดจะเริ่มต้นขึ้น” ผู้สูงสุดตระกูลจักรพรรดิกล่าวเบาๆ
“เปลี่ยนแปลงญาณวิเศษของโลกทั้งแปดหมื่นข้ามผ่านความทุกข์ยากไม่รู้จบ” เมิ่งเทียนเจิ้งกล่าวอย่างใจเย็นพร้อมกับชี้นิ้วออกไป ตัวหมากรุกปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าก่อนจะทะยานไปด้านหน้า นั่นก็เป็นสัญลักษณ์ของเต๋าโบราณอันยิ่งใหญ่เช่นเดียวกัน
ดอกไม้เต๋าและอักขระโบราณต่อสู้โรมรันพันตูกันอยู่กลางอากาศอย่างรุนแรง
เปง!
อักขระโบราณของเมิ่งเทียนเจิ้งส่องประกายเจิดจ้าก่อนจะแตกออก สิ่งมีชีวิตที่เหมือนมนุษย์เดินออกมาจากภายในมันคือลิงศักดิ์สิทธิ์สีทองตัวหนึ่ง
แท้ที่จริงแล้วผู้สูงสุดทั้งสองไม่ได้กำลังเล่นหมากรุกกัน แต่พวกเขากำลังจำลองตัวเองให้เป็นพระเจ้าและสร้างโลกขึ้นมาจากความว่างเปล่าให้มาห้ำหั่นกันด้วยชีวิตและความตาย