407- ตัวแปรสำคัญ
1718 - ตัวแปรสำคัญ
“นายท่านจะลงมือไหม?”
ในขณะนี้ในฝั่งต่างประมิติผู้ไม่ดับสูญคนหนึ่งแอบส่งเสียงถามอันหลานเพื่อขอคำแนะนำจากเขา
นี่เป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมหากพวกเขาสามารถลอบทำร้ายจักรพรรดิ์สวรรค์คนนั้นในเวลาที่เขาไม่ทันได้ระวังตัว เขาก็จะตายอย่างแน่นอน
เป็นเพราะผู้ไม่ดับสูญทั้งหลายต่างก็สัมผัสได้ถึงภัยคุกคามเช่นกัน พวกเขารู้สึกว่าหากไม่กำจัดบุคคลทั้งสองออกไปก่อน หลังจากที่พวกเขาตัดสินผลแพ้ชนะทุกอย่างอาจมีการเปลี่ยนแปลงก็ได้
ในตอนนี้แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์ได้อย่างเต็มที่แต่พวกเขาก็ไม่มีทางปล่อยให้ตัวเองเป็นฝ่ายถูกกระทำก่อนอย่างแน่นอน นี่คือรูปแบบการดำรงชีวิตของพวกเขาเสมอมา!
ในที่สุดคำตอบของอันหลานก็ดังขึ้นจากรถศึกที่เคยเงียบสงบมาโดยตลอด
เราต้องเข้าใจว่าไม่ว่ามันจะเป็นการปิดผนึกเมืองจักรพรรดิดั้งเดิม ต่อสู้กับสวรรค์อเวจีหรือการถูกโจมตีโดยค่ายกลสังหารเซียนรูปแบบที่หนึ่งเขาก็ไม่เคยแสดงความสนใจออกมา
แต่ตอนนี้อันหลานมีการตอบสนองออกมาแล้ว!
“เราสองคนไม่ได้อยู่ในเวลาเดียวกัน สองคนนี้ปรากฏตัวเพราะความลึกลับของสวรรค์ การที่พวกเขาต่อสู้กันอยู่ที่นี่ไม่ได้ทำให้สถานการณ์ของพวกเราเปลี่ยนไป แต่หากข้าสอดมือเข้าไปยุ่งเกี่ยวจะทำให้แม่น้ำแห่งกาลเวลาเกิดความผันผวนอย่างรุนแรงและจะเป็นอันตรายต่อพวกเจ้าอย่างยิ่ง”
นี่คือคำอธิบายของอันหลาน มันนุ่มนวลและสงบนิ่งมากราวกับว่าเขากำลังพูดถึงสิ่งที่ไม่สำคัญเลย
ราชาสวรรค์คนนั้นใช้มือเพียงข้างเดียวคว้าหลังของสิ่งมีชีวิตรูปร่างมนุษย์ที่สวมชุดเกราะสีเขียวอย่างง่ายดาย
“ข้าทนกับเจ้ามานานเกินไปแล้ว! ฆ่าฆ่าฆ่าฆ่าฆ่า!”
สิ่งมีชีวิตรูปร่างมนุษย์คนนั้นหันกลับมา เขาส่งเสียงคำรามลั่นพร้อมกับตะโกนคำว่าฆ่าถึงห้าครั้ง
หงหลง!
ทันใดนั้นท้องฟ้าที่อยู่ด้านบนราวกับจะถล่มลงมา
สายน้ำแห่งกาลเวลาก็คล้ายกับจะมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง!
ต๋อง!
หม้อนั้นบินออกมาลอยอยู่เหนือสวรรค์อเวจีปิดกั้นรอยแยกขนาดใหญ่ปราบปรามแม่น้ำแห่งกาลเวลาเพื่อไม่ให้มันเปลี่ยนเส้นทาง
สิ่งนี้ทำให้ดวงตาของอันหลานในรถม้าโบราณด้านล่างลุกไหม้เป็นครั้งแรก เป็นเพราะในตอนแรกทั้งสองคนกำลังจะไปต่อสู้ในช่วงเวลาอื่น
อย่างไรก็ตามจักรพรรดิ์สวรรค์คนนั้นไม่ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลง เขาพยายามจะจบการต่อสู้ที่นี่ในเวลานี้
ชุดเกราะสีเขียวของสิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายมนุษย์เปล่งประกายเจิดจรัส รัศมีพลังที่พุ่งออกมาน่ากลัวถึงขีดสุดจนกระทั่งอันหลานต้องใช้พลังของตัวเองในการปกป้องกองทัพของเขา
เรื่องนี้ทำเอาหลายคนจิตใจสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว!
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้อยู่ในห้วงเวลานี้ แต่ก็ยังทำให้ผู้คนบนพื้นอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านพลังประเภทนี้มันเกินกว่าที่พวกเขาจะจินตนาการถึง
ในขณะนี้จักรพรรดิ์สวรรค์คนนั้นกล่าวขึ้นเป็นครั้งแรก ภาษาของเขาไม่สามารถเข้าใจได้มันไม่ใช่ของห้วงเวลานี้
อย่างไรก็ตามทุกคนสามารถรู้ถึงความหมายของคำพูดของเขาผ่านกฎเต๋าที่ไม่มีใครเทียบได้
ในขณะนี้เสียงดังก้องไปทั่วสวรรค์เบื้องบนและปฐพีเบื้องล่างราวกับว่าจักรพรรดิ์สวรรค์ผู้ยิ่งใหญ่เสด็จลงมาโลกมนุษย์เพื่อถ่ายทอดราชโองการ
"เมื่อไหร่ที่ข้าจะเผชิญกับศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริงสักที!”
เมื่อพูดประโยคนี้จบลงแสงทรงกลมสีทองเก้าลูกก็เกิดขึ้นจากนั้นพลังที่ไม่มีที่สิ้นสุดก็ปะทุออกมาอย่างรุนแรง อักขระทั้งเก้ารวมเข้าด้วยกันแสดงวิชาลับที่ยิ่งใหญ่ทำลายคู่ต่อสู้ให้ย่อยยับในทันที
ปู!
สิ่งมีชีวิตรูปร่างมนุษย์ที่สวมเกราะสีเขียวร่างกายระเบิดออกจากกันอย่างรุนแรง ฝนโลหิตกระจายลงมาจากท้องฟ้าปกคลุมทุกทิศทุกทางในสนามรบข้างล่าง
จักรพรรดิสวรรค์คนนั้นรีบพุ่งตามร่างกายที่เหลืออยู่ของคู่ต่อสู้พร้อมกับฉีกมันออกจากกันอย่างรุนแรง
ปู!
สิ่งมีชีวิตมีรูปร่างมนุษย์ที่สวมชุดเกราะสีเขียวถูกฉีกออกเป็นสองส่วนแม้แต่วิญญาณดั้งเดิมของเขาก็ดับสลายลงในครั้งนี้!
จิ!
ทันใดนั้นหม้อสีแดงใบใหญ่ก็ปลดปล่อยพลังออกมาดูดกลืนโลหิตทั้งหมดที่ร่วงลงจากท้องฟ้ารวมไปถึงซากศพของสิ่งมีชีวิตตัวนั้นด้วย
การต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ของผู้เชี่ยวชาญที่ไม่มีใครเทียบได้จบลงเช่นนี้ ทุกคนพบว่ามันยากที่จะทำใจสงบลงได้ คนผู้นี้เป็นใคร? เขามาจากไหนเขาอายุเท่าไหร่?
มันน่าตกใจเกินไปจริงๆ!
ฝนเลือดที่โปรยปรายลงมาจากท้องฟ้าไม่มีต่อไปแล้ว มันถูกดูดกลืนโดยหม้อขนาดใหญ่ซึ่งสร้างมาจากทองคำเซียนทั้งลูก
หลังจากที่หม้อใบใหญ่ดูดกลืนโลหิตเหล่าจนหมดสิ้น จักรพรรดิ์สวรรค์คนนั้นก็ค่อยๆเคลื่อนตัวลงมาจากท้องฟ้ามุ่งหน้าเข้าหาสิ่งมีชีวิตต่างมิติ
ในตอนนี้ฉากนั้นยิ่งใหญ่อย่างหาที่เปรียบไม่ได้จริงๆ!
หม้อขนาดยักษ์พุ่งผ่านท้องฟ้ามีใครบางคนยืนอยู่บนนั้น เขามองเห็นทุกสิ่งที่อยู่เบื้องล่างด้วยสายตาที่เฉยเมย
เมื่อบุคคลผู้นั้นมาถึงด้านล่าง ร่างกายของเขาก็เหนียวเหนอะไปด้วยโลหิต ทั้งจากของเขาเองและทั้งจากฝ่ายตรงข้าม
การดำรงอยู่ที่ทรงพลังระดับนี้ก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกันเราสามารถเห็นได้ว่าการต่อสู้นั้นน่ากลัวเพียงใด เห็นได้ชัดว่าการบาดเจ็บนี้ไม่ได้เกิดจากคนๆเดียว
อย่างน้อยที่สุดยังมีร่องรอยอื่นๆบนหม้อมีทั้งรอยใบมีดลูกศรดาบ ปราณกระบี่ที่แผ่ซ่านไปในอากาศเป็นรอยประทับที่ทิ้งไว้ข้างหลังโดยอาวุธระดับสูงทุกประเภท
ก่อนหน้านี้คงน่าจะเคยผ่านการต่อสู้ที่สามารถทำให้โลกสะเทือนมาหลายครั้งแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งนี้น่าจะเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้เอง
เป็นเพราะหม้อใบนั้นน่าอัศจรรย์มากสามารถรักษาตัวเองได้ มีร่องรอยบางอย่างที่จางลงเรื่อยๆค่อยๆหายไป
กองทัพที่ยิ่งใหญ่ของอีกฝ่ายกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ!
สำหรับพวกเขาการดำรงอยู่นี้เป็นตัวแปรสำคัญในการทำลายเมืองจักรพรรดิ์ ผู้แข็งแกร่งคนนั้นมาจากที่ใดกันเขาทำให้ผู้คนจากกองทัพต่างมิติหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
ในขั้นต้นพวกเขาทั้งหมดกำลังจะทำลายสวรรค์อเวจี แต่ตอนนี้สิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังเช่นนี้กลับปรากฏตัวขึ้น นี่เป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ดีกันแน่?
อย่างน้อยที่สุดถ้าเขาไม่ปรากฏตัวก็คงจะดีกว่า!
บนกำแพงเมืองจักรพรรดิทุกคนเฝ้าดูเหตุการณ์ด้วยความหวาดกลัว แต่ลึกๆแล้วพวกเขาต้องการให้มีอะไรเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
มีเพียงผู้สูงสุดเหล่านั้นเท่านั้นที่ถอนหายใจเบาๆและกล่าวว่า
“ชะตากรรมของเราไม่สามารถมอบความไว้วางใจให้กับอีกฝ่ายได้ ถ้าเขาไม่ลงมือพวกเราก็จะตายอย่างแน่นอน แต่หากเขาลงมือก็จะเกิดความเปลี่ยนแปลงต่อแม่น้ำแห่งกาลเวลาซึ่งไม่เป็นผลดีต่อพวกเราเช่นเดียวกัน!”
นี่คือสิ่งที่บันทึกไว้ในตำรากระดูก ผู้ฝึกฝนในของเมืองจักรพรรดิก็ยังไม่สามารถทำความเข้าใจในเรื่องนี้ได้อย่างถ่องแท้ เพราะระดับบ่มเพาะของพวกเขาอ่อนแอเกินไป
“เจ้าควรออกไปเดี๋ยวนี้”
ในทะเลทรายอันยิ่งใหญ่คำพูดที่สงบดังออกมาจากภายในรถม้าโบราณ เสียงนี้ยังเด็กมากราวกับเด็กหนุ่มที่อายุไม่ถึงยี่สิบปีเท่านั้น
นั่นคืออันหลานนี่เป็นครั้งแรกที่เขาพูดต่อหน้าทุกคน!
ในขณะที่มาถึงที่นี่แม้ว่าต้องเผชิญกับการตอบโต้ทุกประเภทเขาก็ยังเพิกเฉยต่อทุกสิ่ง เพียงแต่เมื่อเผชิญกับคนลึกลับผู้นี้เขากลับแสดงความจริงจังออกมาเป็นครั้งแรก
คนที่อยู่บนหม้อไม่ได้พูดอะไรเขาเคลื่อนที่ลงมาอย่างช้าๆคล้ายกับไม่ได้ยินเสียงพูดของอันหลาน
ไม่มีใครสามารถมองเห็นลักษณะที่แท้จริงของเขาได้อย่างชัดเจนเพราะร่างกายของเขาถูกปกคลุมไปด้วยพลังแห่งความโกลาหล
อย่างไรก็ตามทุกคนสามารถรู้สึกได้ว่าภายนอกร่างกายของเขาน่าจะอยู่ในช่วงปีทองเพราะมีพลังชีวิตที่พลุ่งพล่าน
ดวงตาของเขาลึกล้ำราวกับว่าพวกเขาสามารถมองผ่านทุกวัยมองผ่านโชคชะตาสวรรค์
มู่…..
วัวป่าสีทองส่งเสียงอู้อี้ มันได้รับความทุกข์ทรมานรวมไปถึงความตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก
เมื่อบุคคลนั้นลงมาขณะยืนอยู่บนหม้อกระดูกทั้งหมดในร่างกายของมันก็ส่งเสียงดังอย่างต่อเนื่องราวกับว่าพวกมันกำลังจะระเบิด
คชา!
ในที่สุดกระดูกขาทั้งสี่ของมันก็ถูกทำลายจนหมดสิ้น ก่อนหน้านี้มันคุกเข่าลง แต่ตอนนี้มันนอนอยู่บนพื้นร่างกายสั่นเทา
ฉากนี้สะเทือนใจมาก นี่เป็นถึงสัตว์ร้ายโบราณที่ทำหน้าที่รากรถม้าของจักรพรรดิผู้ไม่ดับสูญใครกล้าแตะต้องมัน?
อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญลึกลับคนนี้ก็น่ากลัวเช่นกัน เมื่อเขาก้าวลงสู่พื้นดินกระดูกของวัวป่าก็ถูกทำลายจนหมดสิ้น
(คนที่ปรากฏตัวในตอนนี้คือเย่ฟ่านพระเอกจากเรื่องอำพรางสวรรค์)