397- กลับเมืองจักรพรรดิ
1708 - กลับเมืองจักรพรรดิ
แม้ว่าพวกเขาจะออกจากภูเขาเป็นเวลานาน แต่ผู้อาวุโสแขนเดียวก็ยังคงไม่พูดอะไรสีหน้าท่าทางของเขาเหม่อลอยเล็กน้อย
เขารู้ว่าราชาคนสุดท้ายแบกรับความเหนื่อยล้าและความเศร้าโศกอย่างไม่มีที่สิ้นสุด หลังจากต่อสู้มาหลายชั่วอายุคนเลือดและวิญญาณของเขากำลังจะกลับสู่ดินเหลือง
ในเมืองเด็กๆทุกคนเสียใจมากแทบไม่สามารถพูดออกมา แม้ว่าจะเป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นสือฮ่าวแต่พวกเขาก็ยังคงเฝ้าดูอย่างเงียบๆ
ทุกอย่างนี้เกิดจากความกดดันของการต่อสู้ครั้งใหญ่ โดยปกติแล้วในเมืองแห่งนี้จะไม่มีเสียงหัวเราะดังขึ้นมา เด็กๆเหล่านี้ไม่ได้มีความไร้เดียงสาพวกเขามีความมุ่งมั่นในการเอาชีวิตรอดเท่านั้น
เด็กเหล่านี้สูญเสียพ่อไปหมดขาดความอบอุ่นที่ควรมี สิ่งที่พวกเขาเผชิญคือดินแดนที่เย็นยะเยือกอาวุธที่เย็นชาเช่นเดียวกับเลือดและกระดูก
ตัง! ...
เสียงระฆังดังขึ้น ดวงตาของทุกคนเปล่งประกายเจิดจ้าในทันทีแม้แต่เด็กๆก็เริ่มวิ่งอย่างรวดเร็วและวิ่งไปที่กำแพงเมือง
ในมือของพวกเขามีสิ่งประดิษฐ์เวทย์มนตร์มากมายพวกมันทั้งหมดลึกลับและทรงพลังอย่างยิ่ง!
สือฮ่าวตกใจทันที เด็กเหล่านี้แข็งแกร่งและมีกำลังวังชามากเกินกว่าโลกภายนอก พวกเขารวดเร็วเหมือนเสือดาวตัวเล็กไอสังหารที่ปล่อยออกมาไม่ได้ด้อยไปกว่าสัตว์ร้ายใดๆ !
แม้แต่เด็กที่อายุเพียงไม่กี่ขวบก็ยังดูแข็งแรงมากเช่นกัน!
อย่างไรก็ตามเด็กก็ยังเป็นเด็กในที่สุด การถืออาวุธในมือเป็นเพียงการส่งเสริมจิตตานุภาพประเภทหนึ่งเท่านั้น เพราะว่าเมืองนี้แทบจะไม่เหลือคนแล้วจึงต้องใช้เด็กๆมาเป็นทหาร!
"เกิดอะไรขึ้น?" สือฮ่าวถาม
“มีศัตรูบุกเข้ามา” ผู้อาวุโสตอบ
เขาพาสือฮ่าววิ่งไปที่กำแพงเพื่อให้เห็นชัดๆ
ชั้นของแสงพุ่งขึ้นปกป้องเมืองโบราณทั้งหมด นี่คือเกราะป้องกันซึ่งสามารถปกป้องเมืองแห่งนี้จากผู้ไม่ดับสูญได้
ด้านล่างของเมืองมีสัตว์ร้ายตัวหนึ่งซึ่งมีขนาดใหญ่มากอย่างไม่น่าเชื่อ มันมีสองหัวหัวหนึ่งเป็นหัวจระเข้สีทองและอีกหัวนึงเป็นหัวเผิงดุร้ายและน่ากลัว
ร่างกายของมันมีขนาดใหญ่มากมีลักษณะคล้ายจระเข้ แต่ยังมีปีกสีทองยักษ์คู่หนึ่งอยู่ข้างหลังซึ่งเป็นปีกของเผิง
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นอสูรร้ายทรงพลังอย่างยิ่ง เมื่อผู้อาวุโสเห็นสิ่งมีชีวิตนี้ใบหน้าของเขาก็กลายเป็นจริงจังทันที
สือฮ่าวเคยได้ยินมาก่อนว่าสิ่งมีชีวิตที่สามารถมาถึงกำแพงเมืองแห่งนี้ล้วนเป็นสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรแห่งความเป็นอมตะ นี่ก็เป็นผู้ไม่ดับสูญหรือ?
โชคดีที่ซานซางและเสิ่นหมิงไม่ได้อยู่ที่ด้านนี้ของเมืองมิฉะนั้นพวกเขาจะตกอยู่ในอันตรายอย่างไม่ต้องสงสัย!
“โชคดีที่มันเป็นแค่ศพ มีคนใช้ร่างของมันเพื่อทดสอบเมืองจักรพรรดิ์” ผู้อาวุโสระบายลมหายใจอย่างโล่งอก
นี่เป็นเพียงซากศพของสัตว์ร้าย ผู้ไม่ดับสูญใช้ศพของสิ่งมีชีวิตอื่นเพื่อโจมตีเมืองโบราณ แต่ในระยะหลังพวกเขาทำสิ่งนี้มากขึ้นทำให้ผู้คนในเมืองนี้คาดเดาว่าการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่กำลังจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง!
ในขณะเดียวกันแม้ว่านี่จะไม่ใช่ศัตรูตัวฉกาจ แต่ก็ยังน่ากลัวอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตามผู้อาวุโสที่ติดอาวุธเพียงคนเดียวของเมืองได้ส่งมอบงานให้กับเด็กๆโจมตี
เด็กกลุ่มนั้นเงียบแต่พวกเขาก็เด็ดขาด พวกเขายึดครองจุดต่าง ๆ บนกำแพงพร้อมกับกระตุ้นอาวุธวิเศษด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์
ฮ่อง!
กำแพงนี้ดูเหมือนจะฟื้นขึ้นมา มันปลดปล่อยแสงที่อ่อนโยนออกมาและจากนั้นรัศมีดาบอันทรงพลังก็พุ่งเข้าหาสัตว์ร้ายโบราณตัวนั้น!
อาวุธลับวิเศษ!
เด็กๆเหล่านั้นล้วนใช้สมบัติลับพิเศษที่สามารถสะท้อนกับกำแพงเพื่อเปิดใช้งานวงเวทย์โจมตีอันโหดร้าย
อย่างไรก็ตามใบหน้าเล็กๆเหล่านั้นล้วนซีดขาวและไม่มีสีสัน หลังจากนั้นไม่นานมีคนหนึ่งนั่งลงสวดคาถาอย่างเงียบๆเชื่อมต่อกับ 'เปลวไฟ' ภายในเมือง
เปลวไฟเหล่านั้นพิเศษมาก พวกมันทั้งหมดเป็นพลังจากกระดูกเซียน
“พวกเขาต้องทำสิ่งที่อันตรายเช่นนี้แม้ว่าพวกเขาจะยังเด็กอยู่?” สือฮ่าวขมวดคิ้ว สิ่งนี้ดูเรียบง่ายแต่จริงๆแล้วมันอันตรายมาก
โครงกระดูกของสิ่งมีชีวิตอมตะเหล่านั้นแม้ว่าพวกมันจะถูกปิดผนึกไปแล้ว
แต่ในแต่ละครั้งที่มีการยืมพลังเพียงเล็กน้อยหากเปลวไฟอมตะหลุดรอดออกมาได้ ก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาตายไปเป็นหมื่นๆครั้ง
แน่นอนว่าสือฮ่าวรู้สึกยกย่องผู้คนในเมืองนี้ที่คิดค้นวิธีให้เด็กๆสามารถเข้าร่วมการต่อสู้ได้ พวกเขาทุกคนมีความกล้าหาญกล้าเผชิญหน้ากับศัตรูด้วยความมั่นคงและแน่วแน่
“ราคาในการเรียกพลังแห่งสวรรค์อเวจีนั้นยิ่งใหญ่กว่านี้” ผู้อาวุโสกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ
ปู!
มีใบหน้าเล็กๆของเด็กบางคนที่ซีดเผือด แม้ว่าความแข็งแกร่งของพวกเขาจะมากกว่าคนธรรมดา แต่ในท้ายที่สุดพวกเขาก็ยังเด็กเกินไป พวกเขาพ่นเลือดออกมาหนึ่งคำก่อนจะทรุดตัวลงบนพื้น
มีคนเดินขึ้นมานำพวกเขาออกไปดูแลอย่างระมัดระวัง
“การเกิดที่นี่พวกเขาจะมีทางเลือกชีวิตแบบไหนได้?” ผู้อาวุโสกล่าว ประโยคง่ายๆนี้อธิบายทุกอย่าง
ปู!
หัวของสัตว์ร้ายถูกตัดออกและจิตตานุภาพที่ใช้ควบคุมสัตว์ร้ายตัวนี้กำลังหนีไป
ในที่สุดสัตว์ร้ายโบราณตัวนี้ก็ถูกลากเข้ามาในเมือง แน่นอนว่าหลังจากผ่านประตูเมืองแล้วแสงสัญลักษณ์ก็ส่องสว่างทำให้ร่างกายของมันบริสุทธิ์ทำลายพลังชีวิตทั้งหมดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น
ในตอนกลางคืนเปลวไฟได้ลุกไหม้ในเมืองกระดูกของสัตว์ร้ายเมื่อตอนกลางวันถูกนำมาเป็นเชื้อเพลิง
สือฮ่าวนั่งอยู่ด้านข้างมองดูเด็กๆรอคอยอาหารอย่างเงียบๆ เขาพบว่ามันยากที่จะสงบสติอารมณ์
“สักชิ้นหน่อยไหมรสชาติไม่เลว” ผู้อาวุโสส่งชิ้นเนื้อให้สือฮ่าวซึ่งน่าจะมาจากสัตว์ร้ายตัวนั้นนั่นเอง
เนื้อนี้มีพลังงานแก่นแท้ที่น่าอัศจรรย์มีเพียงสัตว์โบราณที่มีสายเลือดที่น่ากลัวเท่านั้นถึงจะมีได้ ถ้าเด็กๆพวกนี้อยากกินผู้อาวุโสในเมืองต้องช่วยพวกเขากลั่นกรองก่อน
ในที่สุดสือฮ่าวก็เข้าใจว่าทำไมแม้ว่าเด็กๆเหล่านี้จะยังไม่โตเต็มวัย แต่พวกเขาก็แข็งแรงมีพละกำลังมากเกินอายุ
ตลอดหลายปีที่ผ่านมาพวกเขามักจะกินเนื้อสัตว์ร้ายนั่นเอง
หากพวกเขาถูกนำออกไปสู่โลกภายนอกและได้รับการเลี้ยงดูอย่างถูกต้อง พวกเขาจะกลายเป็นกลุ่มสัตว์ร้ายร่างมนุษย์ที่มีศักยภาพไม่ธรรมดา พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นต้นกล้าที่ดี!
“สัตว์ร้ายต่างถิ่นมีสารที่ไม่เป็นมงคลอยู่ในร่างกายการกินมากเกินไปจะสร้างความเจ็บป่วยแปลกๆ ซากศพสัตว์ร้ายบางส่วนที่ถูกทิ้งจากการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ในสมัยโบราณเหล่านั้นเต็มไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ที่น่าอัศจรรย์ยิ่งกว่า” ผู้อาวุโสกล่าว
“ไม่เป็นมงคล?”สือฮ่าวตกใจ
“เมื่อรับประทานไปนานๆหากไม่ใช้เวลาในการชำระล้างก็จะสูญเสียความคิดกลายเป็นคนบ้า” ผู้อาวุโสพยักหน้าบอกสือฮ่าว
ตามความคาดหมายของผู้อาวุโสแขนเดียว เขาเชื่อว่าสิ่งมีชีวิตของตระกูลราชามากมายจากต่างมิติล้วนมีความอัปมงคลไหลเวียนอยู่ในสายเลือด
“วันนี้เด็กๆทั้งหลายพวกเจ้าจงร่ำลาญาติผู้ใหญ่ของตัวเอง” ผู้อาวุโสแขนเดียวลุกขึ้นยืนพูดกับเด็กๆที่อยู่ข้างๆกองไฟ
'พรุ่งนี้เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นพวกเจ้าทุกคนจะออกเดินทางไปที่อื่นเพื่อเรียนรู้ทักษะที่ทรงพลังยิ่งขึ้น เมื่อพวกเจ้าแข็งแกร่งพอจงกลับมาที่นี่เพื่อต่อสู้ร่วมกับพวกเรา!” ผู้อาวุโสแขนเดียวกล่าวด้วยเสียงดัง
อย่างไรก็ตามสือฮ่าสัมผัสได้ว่าเสียงของเขาสั่น นี่จะเป็นการพรากจากกันชั่วนิรันดร์
เด็กโตสองสามคนลุกขึ้นพูดว่า“ไม่ไป เราอยากอยู่ที่นี่! เมืองยังอยู่ที่นี่ผู้คนยังอยู่ที่นี่! เราจะต่อสู้ร่วมกับบรรพบุรุษ เราจะอยู่ที่นี่!”
“ เราจะอยู่ด้วย!
“เราไม่ไป!”
“นี่คือบ้านของเรา! แม้ว่าเราจะตายในการต่อสู้เราก็ต้องถูกฝังไว้ที่นี่!”
กลุ่มวัยรุ่นตะโกนปลุกใจ เป็นเพราะพวกเขารู้ว่าผู้อาวุโสต้องการให้พวกเขาจากไปเพื่อไม่ให้กลับมาอีก
“พวกเจ้าทุกคนหุบปาก! พวกเจ้าต้องกลับไปเดี๋ยวนี้! ไปหาแม่และยายของเจ้าเพราะนี่อาจเป็นการพบกันครั้งสุดท้ายและให้มารวมตัวกันที่นี่ตั้งแต่เช้าตรู่!” ผู้อาวุโสตะโกน
ช่วงเวลานี้สำหรับเด็กหลายคนรู้สึกทำใจไม่ได้ราวกับว่าสวรรค์กำลังถล่มลงมา พวกเขาจะออกไปจากที่นี่?
อย่างไรก็ตามพวกเขาอาศัยอยู่ที่นี่มาหลายปีแล้ว พวกเขาเกิดที่นี่ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เต็มใจที่จะไป
เช้าวันรุ่งขึ้นมีแสงหลากสีปรากฏที่ขอบฟ้า
ผู้อาวุโสแขนเดียวพร้อมกับสหายอาวุโสของเขาหลายคนต่างพาเด็กๆมารวมกันที่จัตุรัสใจกลางเมือง
“ได้เวลาไปแล้ว ถ้าพวกเจ้ามีความสามารถในการยิงดวงดาวอันยิ่งใหญ่ตกลงมาได้ถึงได้รับอนุญาตให้กลับมา!” ผู้อาวุโสคำราม
ด้านข้างมีแม่และยายของเด็กยืนอยู่ ตอนนี้พวกนางยังเป็นส่วนหนึ่งของกำลังรบหลักไม่สามารถออกไปได้!
ทุกคนต่างร้องไห้ด้วยความเศร้าโศก
ปกติพวกเขาทุกคนเงียบไม่พูดอะไรมาก แต่ตอนนี้พวกเขาทุกคนร้องไห้ออกมาด้วยความไม่เต็มใจที่จะแยกจากกัน
เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นอีกครั้งสือฮ่าวก็พาเด็กๆออกไปจากที่นี่ แสงหลากสียามเช้าลากเงาทอดยาวออกมาข้างหลังราวกับไม่เต็มใจที่จะปล่อยพวกเขาไป!