ตอนที่แล้ว392- เมืองจักรพรรดิ์ที่แท้จริง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป394- ความจริง

393- ความลับของสายเลือดคนบาป


1704 - ความลับของสายเลือดคนบาป

“ เมืองจักรพรรดิ์ดั้งเดิมนี้มีพลังมหาศาล แม้ว่าขนาดของมันจะเทียบไม่ได้กับเมืองจักรพรรดิแห่งใหม่ แต่ความแข็งแกร่งของมันก็มีมากกว่าเมืองจักรพรรดิ์ในปัจจุบัน

ก่อนหน้านี้มันเคยชุ่มโชกไปด้วยเลือดของผู้อมตะที่แท้จริงและผู้ไม่ดับสูญ

แม้แต่ราชาอมตะและจักรพรรดิผู้ไม่ดับสูญก็ยังเคยเสียชีวิตอยู่ที่เมืองนี้เช่นกัน!”เสิ่นหมิงเปิดเผยบางส่วนที่น่าตกใจของประวัติศาสตร์

ตามตำนานในยุคที่รุ่งโรจน์ที่สุดเมืองจักรพรรดิ์ได้รับการอาบไปด้วยความงดงามของสวรรค์ซึ่งสนับสนุนชะตากรรมของทุกเผ่าพันธุ์ มันถูกใช้เพื่อรองรับสิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรเซียนอยู่เสมอ

ในช่วงเวลานั้นหากสิ่งมีชีวิตจากตระกูลใดสามารถทำผลงานการรบได้อย่างยอดเยี่ยม ผู้นำตระกูลของพวกเขาก็จะถูกยกย่องขึ้นเป็นราชา

ตราบใดที่คนๆหนึ่งเป็นหัวหน้าเผ่าพวกเขาก็จะได้รับตำแหน่งราชา ในอดีตมี ราชาหงส์เพลิง,ราชามนุษย์, ราชามังกร และราชาอื่นๆอีกหลายคน

เมื่อสือฮ่าวได้ยินสิ่งเหล่านี้จิตใจของเขาก็สั่นสะท้าน เมื่อเขาอยู่ในดินแดนที่ต่ำกว่าเขาคิดว่าสายเลือดของหงส์เพลิงที่ไหลเวียนอยู่ในกายของฮั่วหลิงเอ๋อเพราะนางเป็นลูกหลานของหงส์เพลิงโบราณ

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันควรจะเก่าแก่กว่านั้น ในความเป็นจริงนางเป็นทายาทของหงส์เพลิงที่แท้จริงนั้นเอง!

“ยิ่งไปกว่านั้นมีราชามนุษย์มากกว่าหนึ่งคนพวกเขาถูกแบ่งออกเป็นสามแซ่ แต่ตอนนี้ตระกูลของพวกเขาน่าจะถูกกำจัดไปหมดสิ้นแล้ว”เสิ่นหมิงกล่าว

ตามที่นางพูดราชาแห่งแดนรกร้างไม่ได้มีแค่เจ็ดคน!

“นั่นคือยุคที่รุ่งโรจน์ที่สุดของเมืองจักรพรรดิ์ดั้งเดิม!” ซานซางถึงกับถอนหายใจด้วยความชื่นชม

เมืองจักรพรรดิ์ในสมัยนั้นได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาดอาบด้วยความงดงามของสวรรค์อย่างหาที่เปรียบมิได้

ในช่วงเวลานั้นแม้แต่บุคคลที่โดดเด่นของอาณาจักรเซียนก็อยากมาเยี่ยมชมเมืองจักรพรรดิ์เพื่อพิสูจน์ว่าสถานที่แห่งนี้มีความรุ่งโรจน์เพียงใด

สือฮ่าวพูดไม่ออก ช่วงเวลาที่ทั้งสองพูดถึงนั้นเก่าแก่มาก ในอดีตมีราชาหลายคน แต่ต่อมามีราชาเพียงเจ็ดคนเท่านั้น

ยิ่งไปกว่านั้นสือฮ่าวรู้ว่าเนื่องจากมีราชาเพียงเจ็ดคนที่เหลืออยู่นั่นหมายความว่าเมืองนี้น่าจะมีเพียงเจ็ดตระกูลเท่านั้น

“ในอดีตตำแหน่งของราชาจะเป็นประเภทของการยอมรับซึ่งมันเป็นมรดกตกทอดอันยอดเยี่ยมทำให้ผู้คนในตระกูลของพวกเขาได้รับการอวยพรจากสวรรค์ นั่นคือเหตุผลที่ตราประทับประเภทนี้เป็นตัวแทนของความรุ่งโรจน์”

ตามที่ซานซางกล่าว ราชาดั้งเดิมมีความสามารถระดับเทพเจ้าเพราะว่าพวกเขาได้รับคำอวยพรจากตราประทับนั้น ความรุ่งเรืองได้หลอมรวมเข้ากับกระดูกของพวกเขาจนสร้างลวดลายขึ้นมา

“เจ้ากำลังบอกว่ารูปแบบเหล่านี้เป็นคำอวยพรจากสวรรค์?” สือฮ่าวตกใจ

"ถูกต้องมันเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ ในตอนนั้นแม้กระทั่งราชาพื้นที่ฝังศพของพวกเราก็ยังต้องการ มีการบันทึกไว้ในตำราของพื้นที่ฝังศพได้กล่าวไว้ว่า ราชาของพวกเราได้ทำการค้นคว้าเรื่องนี้มาเป็นเวลายาวนานแล้ว” ซานซางพยักหน้า

รูปแบบเหล่านี้เป็นพรประเภทหนึ่งที่มีความสามารถมากมาย เมื่อเปิดใช้งานอย่างสมบูรณ์พวกเขาสามารถปกป้องคนของตระกูลได้

นอกเหนือจากนี้ยังมีมรดกอื่นๆรวมถึงความสามารถอันศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่มีใครเทียบได้อีกหลายชนิด!

นี่เป็นส่วนที่สำคัญที่สุด ตราประทับอันรุ่งโรจน์ที่สร้างขึ้นจากรูปแบบราชามีคลังสมบัติของตระกูลซึ่งจัดเก็บญาณวิเศษที่ทรงพลังที่สุดไว้ในสายเลือด

สือฮ่าวครุ่นคิดเล็กน้อยและนึกถึงบางสิ่งบางอย่าง กระดูกสูงสุดที่หน้าอกของเขา รวมไปถึงดวงตาที่มีสองตาดำในข้างเดียวของสือยี่ สิ่งเหล่านี้คือมรดกของตระกูลสือหรือไม่?

ไม่อย่างนั้นทำไมร่างกายของเด็กคนหนึ่งถึงสร้างญาณวิเศษมหัศจรรย์ที่ไม่เหมือนใครออกมาได้

“ราชาทั้งเจ็ดเหล่านี้มีอายุมายาวนานมากแค่ไหน? เทียบกับจักรพรรดิผู้ไม่ดับสูญของอีกฝั่งแล้วไม่ทราบว่าผู้ใดที่มีอายุมากกว่า?” สือฮ่าวรู้สึกสงสัย

อย่างไรก็ตามคำพูดต่อไปนี้ของเสิ่นหมิงทำให้เขาเข้าใจบางสิ่ง

“ ราชาคนเดิมสิ้นพระชนม์ไปนานแล้ว เป็นเพราะเมืองโบราณแห่งนี้เคยถูกยึดมาก่อนและจากนั้นผู้อยู่อาศัยก็ถูกสังหารจนหมดสิ้น

นี่คือเหตุผลที่อาณาจักรเซียนตัดการเชื่อมต่อของพวกเขา ราชารุ่นหลังอาจเป็นผู้สืบทอดในยุคต่อมา”

สือฮ่าวขมวดคิ้วไม่เชื่อ เขารู้สึกเหมือนมีบางอย่างที่ไม่ง่ายอย่างนั้น

“เป็นไปได้ไหมที่ความเข้าใจก่อนหน้านี้ของข้าผิดไป? ฉากที่ข้าเห็นผ่านแท่นบูชาไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นในยุคที่ยิ่งใหญ่นั้น?”

สือฮ่าวไม่แน่ใจ ในขณะเดียวกันก็มีความจริงบางอย่างในเมืองจักรพรรดิ์ใหม่ที่สามารถให้เบาะแสบางอย่างได้

“พรของทุกตระกูลมันเก่าแก่ถึงขนาดที่คนรุ่นหลังลืมเรื่องนี้ไปหรือเปล่า?” สือฮ่าวกล่าวเยาะเย้ยตัวเอง

อย่างไรก็ตามเมื่อเขานึกถึงการกวาดล้างเก้าสวรรค์ก่อนหน้านี้ก็เป็นเหตุผลที่สามารถยอมรับได้

ในความเป็นจริงการทำลายล้างอาจไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว นั่นจึงเป็นเหตุผลให้มรดกของตระกูลราชาถูกตัดขาด

แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือในเวลาต่อมาตระกูลสือดูเหมือนจะทำบางสิ่งที่ก่อให้เกิดความเป็นปรปักษ์กับบางเผ่าพันธุ์ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงต่อต้านตระกูลสือว่าเป็นสายเลือดของคนบาป

อย่างไรก็ตามหากรอยประทับบนหน้าผากของเขาคือสิ่งที่พวกเขาใช้เป็นหลักฐานยืนยันความผิดนั่นก็เป็นเรื่องไร้สาระแน่นอน!

พวกเขาค่อยๆเข้าใกล้เมืองมากขึ้น พื้นผิวที่ไม่เรียบนั้นปกคลุมไปด้วยซากศพมากมาย บางส่วนยังคงสดใหม่ทำให้พวกเขาสงสัยว่าซากศพเหล่านี้ยังมีชีวิตอยู่

เสิ่นหมิงตรวจสอบพวกเขาอย่างถี่ถ้วนยืนยันว่าพวกเขาตายไปแล้วจริงๆ โลหิตแก่นแท้และพลังศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาสูญหายไปหมดสิ้นเป็นเวลานานแล้ว

สิ่งเดียวที่พวกเขาสับสนคือทำไมเนื้อหนังภายนอกของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ถึงยังสมบูรณ์อยู่

“นั่นคือ…”

ซานซางตกใจ ในพื้นที่ว่างนั้นไม่ไกลจากเมืองโบราณมีกองกระดูก พวกมันกำลังลุกไหม้ปลดปล่อยแสงที่ร้อนแรงเป็นสีแดงจางๆ

ในเปลวไฟท่ามกลางโครงกระดูกนั้นยังมีเนื้อบางส่วนที่ยังไม่ถูกเผาจนหมดใบหน้าของพวกเขายังสามารถมองเห็นอยู่บ้าง

“เวทย์อาคมของสิ่งมีชีวิตอมตะ!” เสิ่นหมิงอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาด้วยความตื่นตระหนก

นั่นหมายความว่าหลายปีที่ผ่านมาเปลวไฟกองนี้ยังคงเผาไหม้อยู่เสมอ ต้นกำเนิดนี้น่ากลัวเกินไป! ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาสังเกตเห็นว่ามีเปลวไฟมากมายหลายกองอยู่ที่นี่!

สิ่งมีชีวิตประเภทนี้ล้วนเสียชีวิตอยู่ใต้เมืองแห่งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้รัศมีการทำลายล้างรั่วไหลออกไปพวกมันจึงถูกปิดผนึกด้วยเปลวไฟ

“บนกำแพงเมือง…มีสิ่งมีชีวิตอยู่!”

เมื่อพวกเขาเข้าใกล้มากขึ้นซานซางก็พูดไม่ออก นี่เป็นเรื่องที่น่าตกใจจริงๆ หลังจากเวลาผ่านไปไม่รู้จบเมืองนี้ยังคงมีผู้คนอาศัยอยู่?

สือฮ่าวรู้สึกมึนงง เขาเงยหน้าขึ้นเพื่อมองพื้นที่เหนือกำแพงเมือง มีผู้คนอาศัยอยู่จริงๆ

“พวกเขาคือ…เด็ก?”

พวกเขาเป็นเด็กที่มีใบหน้ามอมแมมบางคนอายุแปดหรือเก้าขวบ บางคนสิบห้าสิบหกปี ใบหน้าของพวกเขาสกปรกเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งอย่างไม่น่าเชื่อ

นอกจากนี้พวกเขายังเห็นผู้เฒ่าอีกสองสามคน พวกเขาอ่อนแอมากราวกับว่าพวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้ฐานรากของพวกเขาเสียหาย ตอนนี้ทุกคนมองลงมาด้วยสีหน้าจริงจัง

“หลังจากเวลาผ่านไปหลายปียังมีคนคอยปกป้องสถานที่แห่งนี้ไม่ได้จากไปไหน?” แม้แต่เสิ่นหมิงก็ยังตกใจ

“หลังจากสงครามในยุคนั้นจบลง ตอนนี้พวกเขาต่อสู้อยู่กับใคร?” ใบหน้าของสือฮ่าวเปลี่ยนไป

ในทันใดนั้นเขาก็นึกถึงบางสิ่งบางอย่าง เมืองนี้ลอยอยู่ด้านบนของสวรรค์อเวจีหรือไม่?

อาจเป็นพวกเขาผู้รอดชีวิตจากเมืองจักรพรรดิ์ตัวจริงที่ปกป้องแก่นแท้ของสวรรค์อเวจี?

นอกเมืองจักรพรรดิ์ใหม่ บนทะเลทรายอันยิ่งใหญ่มีสวรรค์อเวจีที่คอยหยุดยั้งผู้ไม่ดับสูญและจักรพรรดิผู้ไม่ดับสูญไม่ให้สามารถข้ามมา ไม่มีใครสามารถบอกได้อย่างแท้จริงว่าสาเหตุคืออะไรกันแน่!

ในยุคที่ยิ่งใหญ่นี้ในช่วงปีแรกๆเก้าสวรรค์สิบพิภพสงบนั้นนิ่งมากไม่ถูกคุกคามแม้แต่น้อย

อย่างไรก็ตามสถานที่แห่งนี้แตกต่างออกไป สิ่งมีชีวิตต่างมิติพยายามที่จะบุกทะลวงมาโดยตลอด!

คนเหล่านี้ผู้เฒ่าผู้แก่และเด็กๆที่สวมเสื้อผ้ามอมแมมเหล่านี้ เป็นคนที่คอยลงมือขัดขวางศัตรูจากต่างมิติอยู่ตลอดหรือไม่?

“คนในตระกูล…” ผู้อาวุโสในเมืองจ้องไปที่สือฮ่าว เขามองมาที่สัญลักษณ์ที่เผาไหม้ระหว่างคิ้วของเขา

ชายชราคนนั้นพูดด้วยความยากลำบากดวงตาฝ้าฟางของเขาเผยให้เห็นความสดใสเล็กน้อย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด