392- เมืองจักรพรรดิ์ที่แท้จริง
1703 - เมืองจักรพรรดิ์ที่แท้จริง
เมือง!
สถานที่แห่งนี้คือที่ไหนกันแน่
สถานที่แห่งนี้แห้งแล้งอย่างยิ่งไม่มีวี่แววของชีวิตไม่มีกิจกรรมของมนุษย์มีเพียงความเศร้าโศกที่สะสมมาตลอดหลายยุคหลายสมัย
เมืองที่หนาวเย็นและไร้ความร่าเริงยืนอยู่ที่นั่นโดดเดี่ยวสุดๆ ร่องรอยที่หลงเหลือจากเปลวไฟแห่งสงครามสามารถสัมผัสได้แม้จะอยู่ห่างไกล
เมื่อพวกเขามาถึงที่นี่เสิ่นหมิงก็ตัวสั่นและยากที่นางจะควบคุมตัวเองได้!
ซานซางก็ตื่นตระหนกไม่น้อยเช่นกัน เขารู้สึกกดดันอย่างมาก ร่างกายของเขาเริ่มสั่นอย่างไม่สามารถควบคุมได้จนสือฮ่าวสามารถสัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวของเขา
ทั้งสองเป็นอัศวินแห่งความตายทองคำ พวกเขาสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของสถานที่แห่งนี้ นี่คือสนามรบที่มีซากศพนับล้าน! ไม่ทราบว่ามีสิ่งมีชีวิตจำนวนเท่าใดเสียชีวิตเพราะสงคราม!
พื้นดินใต้เท้าของพวกเขาไม่ได้มีดินหรือหินที่แท้จริง พวกมันเกิดจากการสะสมของซากศพหลายล้านตลอดระยะเวลาอันยาวนาน
ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งมีชีวิตที่ตายนั้นยังทรงพลังอย่างถึงที่สุด สถานที่แห่งนี้มีร่างผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่มีใครเทียบได้ฝังอยู่
สือฮ่าวก็ตัวสั่นไม่ใช่จากความกลัว แต่เป็นเพราะเลือดของเขาเริ่มเดือดและพลุ่งพล่านขึ้นมา เขารู้สึกถึงแรงกระตุ้นที่ไม่สามารถควบคุมได้ทำให้เขาคำรามออกมาอย่างกึกก้อง!
ในสถานที่แห่งนี้ช่องว่างระหว่างคิ้วของเขาเปล่งประกายเป็นลวดลายโบราณชนิดหนึ่ง!
เลือดของคนบาปพุ่งสูงขึ้นสามารถถล่มทลายสวรรค์ได้
ในสถานที่แห่งนี้เลือดของตระกูลสือกำลังลุกโชน ตราประทับของตระกูลปรากฏบนหน้าผากของเขา มันเป็นเหมือนตัวอักษรที่สุกสกาวอย่างหาที่เปรียบมิได้
ช่องว่างระหว่างคิ้วของสือฮ่าวเป็นเหมือนดวงอาทิตย์ขนาดเล็ก เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นแสงที่ปลดปล่อยออกมาก็ฉีกสวรรค์ออกจากกัน
เสิ่นหมิงและซานซางตกตะลึง ทั้งคู่มองไปที่สือฮ่าวด้วยความหวาดกลัว
พวกเขาสั่นสะท้านจากภายในเพราะความน่ากลัวที่แท้จริงอยู่ใต้พื้นโลก มีสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังจำนวนมากถูกฝังอยู่ที่นี่ในขณะที่ ตอนนี้สือฮ่าวก็มีปฏิกิริยาแปลกๆสิ่งนี้ทำให้พวกเขาตกใจอย่างมาก
นี่เป็นสถานที่แบบไหนกันนะ? นี่คือสิ่งที่ทั้งสามคนสงสัย
เมืองนั้นอยู่ค่อนข้างไกล แต่สนามรบระหว่างทางทำให้ร่างกายของพวกเขาตึงเครียดรู้สึกกดดันอย่างมาก
พวกเขาทั้งสามพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเอง หลังจากผ่านไปนานพวกเขาก็ค่อยๆผ่อนคลายมากขึ้น
อย่างไรก็ตามตราประทับที่ส่องแสงออกมาจากหน้าผากของ สือฮ่าวไม่ได้หายไป มันพุ่งขึ้นราวกับเปลวไฟของเทพเจ้าที่แผดเผาสวรรค์!
นี่เป็นดินแดนที่กว้างใหญ่ แต่พวกเขาสามารถสัมผัสได้ว่าพรมแดนที่ไร้ขีดจำกัดนี้มีเมืองขนาดใหญ่เป็นศูนย์กลาง
พวกเขาไม่ได้เข้าใกล้เมืองยักษ์แต่เดินอ้อมไปแทน
มีซากศพจำนวนมากอยู่บนพื้นบางส่วนเป็นโครงกระดูกบางส่วนยังคงมีเลือดเนื้อ แม้จะผ่านไปหลายปีแต่ก็ไม่ได้เน่าเปื่อย
เอ็น?
ซานซางตกใจมาก เขาเห็นความผิดปกติบางอย่าง
เป็นเพราะแสงกึ่งโปร่งใสทำให้เขาสามารถมองเห็นบางฉากของโลกภายนอก ตอนนี้พวกเขาลอยอยู่บนท้องฟ้านั้นเอง!
ด้านล่างเป็นทะเลทรายขนาดใหญ่หาดทรายสีทองสะท้อนแสง โครงกระดูกมากมายถูกฝังอยู่ใต้ผืนทรายแห่งนั้น
นอกเหนือจากนี้ในขอบฟ้าอันไกลโพ้นยังเป็นเส้นทางอันยิ่งใหญ่ที่ทอดตัวสู่สวรรค์ มันมีขนาดใหญ่อย่างหาที่เปรียบมิได้มันปิดกั้นเส้นทางของทั้งสองโลกไม่ให้สิ่งมีชีวิตข้ามผ่านมาได้
“เมืองจักรพรรดิ์?” สือฮ่าวรู้สึกตกใจอย่างมาก เขาเห็นเมืองจักรพรรดิ์สถานที่แห่งนี้อยู่ที่ไหน
ตอนนี้พวกเขายืนอยู่บนดินแดนที่ลอยอยู่ด้านบนของเมืองจักรพรรดิ?
หลังจากนั้นไม่นานสือฮ่าวดูเหมือนจะจำอะไรบางอย่างได้เขาเริ่มหอบหายใจด้วยความเจ็บปวดก่อนที่โลหิตในร่างของเขาจะปะทุขึ้นมา ทันใดนั้นเขาก็หันกลับไปมองเมืองโบราณที่ลึกลับและโดดเดี่ยว
“นี่อาจเป็น…เมืองในตำนาน…นั้น?” เสิ่นหมิงตกใจมาก นางอดไม่ได้ที่จะกรีดร้องออกมา
สือฮ่าวไม่ได้มองไปที่เมืองจักรพรรดิ์อีกต่อไป เขามองไปที่เมืองโบราณลึกลับดวงตาเปล่งประกายแวววาว ตอนนี้อารมณ์ของเขาพลุ่งพล่านไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
“ราชาทั้งเจ็ดแห่งแดนรกร้าง…เมืองโบราณที่พวกเขาปกป้อง!” เขาพูดกับตัวเอง
ในที่สุดเขาก็รู้ว่าทำไมร่างกายของเขาถึงเกิดปฏิกิริยาแปลกๆหลังจากมาถึงที่นี่
นี่คือที่ที่กองทัพของตระกูลเขาประจำการอยู่ บรรพบุรุษของเขาได้ต่อสู้อย่างดุเดือดที่นี่ปกป้องชายแดนอันรกร้าง โลหิตของพวกเขากระเซ็นไปทั่วสวรรค์!
ย้อนกลับไปตอนที่สือฮ่าวเข้าร่วมในการต่อสู้ครั้งใหญ่ในอาณาจักรเซียนโบราณ ก่อนหน้านี้เขาเคยขึ้นเรือโบราณสีดำที่ชุ่มเลือดล่องลอยอยู่ในความว่างเปล่า
สถานที่แห่งนั้นไม่เป็นมงคลชั่วร้ายอย่างถึงที่สุด ยิ่งกว่านั้นมันยังมีศพของราชาผู้หนึ่ง
บนเรือโบราณลำนั้นทำให้เขารู้ความลับเกี่ยวกับชายแดนรกร้างไม่น้อย เขารู้ว่าสิ่งมีชีวิตผู้ยิ่งใหญ่เจ็ดคนได้นำกองทัพจากตระกูลของตัวเองมาประจำการที่เมืองนี้เพื่อปกป้องสิ่งมีชีวิตจากเก้าสวรรค์
เขาเห็นกองทัพที่อยู่เบื้องหลังราชาทั้งเจ็ดล้มลงอย่างต่อเนื่อง เมื่อพวกเขาต่อสู้เป็นระยะเวลายาวนาน ในท้ายที่สุดแม้แต่ผู้อาวุโสที่อ่อนแอและเด็กๆที่ยังไม่โตเต็มที่ก็เข้ามาในเมืองนั้น เพื่อเผชิญหน้ากับกองทัพต่างมิติที่ยิ่งใหญ่
ในที่สุดแม้แต่ราชาทั้งเจ็ดก็ล้มตายลงบางส่วน หลังจากการต่อสู้อันยิ่งใหญ่ผ่านไปไม่ทราบว่าตอนนี้พวกเขาจะเหลืออยู่กี่คนกัน!
สือฮ่าวคิดมาตลอดว่าเมืองที่ราชาทั้งเจ็ดแห่งชายแดนรกร้างคุ้มครองนั้นเป็นเมืองจักรพรรดิ์อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเข้าสู่เมืองจักรพรรดิจริงๆเขาก็รู้ว่ามันไม่มีความเกี่ยวข้องกันแม้แต่น้อย ยังมีเมืองอื่นที่อยู่ไกลออกไป
หลังจากหลายปีที่ผ่านมาเมืองนั้นไม่เคยปรากฏตัวออกมาอีกเลย แต่ทุกคนล้วนทราบดีว่ามันยังซ่อนตัวอยู่ในโลกแห่งนี้
ตอนนี้เขามาถึงที่นี่แล้วจริงๆ!
สือฮ่าวเดินเข้าไปใกล้ๆทีละก้าวโดยหวังว่าจะสามารถเห็นผู้คนเหล่านั้นยังมีชีวิตอยู่!
กล่าวโดยเปรียบเทียบเมืองโบราณลึกลับแห่งนี้มีขนาดเล็กกว่า เมืองจักรพรรดิ์อยู่มาก แม้ว่ามันจะยิ่งใหญ่และน่ากลัวแต่ก็ยังมีขนาดค่อนข้างธรรมดาไม่ได้ซ้อนทับกันด้วยดวงดาวขนาดใหญ่
ด้วยเหตุผลบางอย่างเมื่อสือฮ่าวมองไปที่เมืองนี้เขารู้สึกว่ามันมีพลังมากกว่าเมืองจักรพรรดิเสียอีก!
การที่มันแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ย่อมไม่ใช่เพราะขนาด แต่ดูเหมือนว่าเมืองนี้จะมีจิตวิญญาณเป็นของตัวเอง
ความเศร้าโศกและการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของกาลเวลาที่ไม่มีที่สิ้นสุด สัมผัสกับควันและเปลวไฟแห่งสงครามที่ชุ่มโชกไปด้วยเลือดแห่งความตาย ทำให้มันกลายเป็นสิ่งมีชีวิตประเภท หนึ่ง
“เมืองในตำนาน… เมืองจักรพรรดิ์ที่แท้จริง!” เสิ่นหมิงพึมพำออกมาเบาๆ
“เมืองจักรพรรดิที่แท้จริง! ใครจะคิดว่ามันจะยังยืนหยัดอยู่ที่นี่!” ซานซางก็ตกตะลึงเช่นเดียวกัน
จากนั้นพวกเขามองไปที่ช่องว่างระหว่างคิ้วของสือฮ่าวก่อนที่ใบหน้าของพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
“ตระกูลของเจ้ามีคุณูปการที่ไม่มีใครเทียบได้ ความรุ่งเรืองที่ไหลผ่านสายเลือดของพวกเขาตราตรึงไม่มีวันเสื่อมคลาย” เสิ่นหมิงกล่าวถึงรอยประทับของสือฮ่าว
ร่างกายของสือฮ่าวสั่นสะท้าน สิ่งที่เรียกว่าเลือดของคนบาปรอยประทับแห่งความอัปยศอดสูบนหน้าผากของเขามีความจริงประเภทนี้อยู่เบื้องหลัง? อัศวินแห่งความตายรู้เรื่องนี้!
หลายตะกูลต่างเชื่อว่าพวกเขาเป็นทายาทของคนบาป สายเลือดของพวกเขาไม่บริสุทธิ์อีกต่อไป แต่ตอนนี้ความลับทุกอย่างกำลังจะถูกเปิดเผยโดยอัศวินแห่งความตายทั้งสอง
. หลังจากรู้ความจริงบางอย่างการแสดงออกของใบหน้าสือฮ่าวก็ซับซ้อนขึ้น
หน้าผากของเขาส่องแสงก้าวเดินของเขามั่นคงในขณะที่เขามุ่งไปยังเมืองนั้น
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ข้าขอร้องล่ะเล่าให้ข้าฟังที!” สือฮ่าวอ้อนวอน สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับชะตากรรมของบางตระกูลในเมืองจักรพรรดิ์
“เมืองนี้มีอยู่มานานกว่ายุคเซียนโบราณครั้งแรก มันเคยเป็นเมืองจักรพรรดิ์ที่แท้จริงในอดีต!” ซานซางเล่าออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
จากนั้นเขาก็เริ่มพูดถึงบางสิ่ง
ในอดีตเมืองจักรพรรดิ์ที่แท้จริงคือเมืองนี้ เนื่องจากการต่อสู้อย่างโหดร้ายในทุกๆปีมันจึงได้รับความเสียหายร้ายแรง
ก่อนหน้านี้ยังถูกล้อมรอบไปด้วยกองกำลังที่ยิ่งใหญ่จนไม่สามารถส่งกองทัพเข้าช่วยเหลือได้
หลังจากยุคอันยิ่งใหญ่ยุคแรกผ่านไปสวรรค์จึงได้แยกเมืองนี้ออกจากโลกภายนอก!
เมืองจักรพรรดิ์ที่ตั้งตระหง่านเป็นเวลาไม่สิ้นสุดจึงถูกทิ้งร้างโดยถือว่าเป็นปราการที่ตั้งอยู่ด้านหน้าสุดเพื่อต่อต้านศัตรู
ในขณะที่ด้านหลังสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งมากมายได้สร้างเมืองจักรพรรดิในปัจจุบันเพื่อเป็นปราการด่านที่สอง
สือฮ่าวนั่งฟังเงียบๆโดยไม่ได้สอดแทรกขึ้นมา
อัศวินแห่งความตายนั้นมักจะนอนหลับอยู่ใต้ดินหลายพันหลายหมื่นปีเสมอ ดังนั้นความเคลื่อนไหวของโลกภายนอกพวกเขาก็ไม่มีความรู้ที่แท้จริงมากนัก