376- ภัยซ่อนเร้น
1686 - ภัยซ่อนเร้น
ตอนนี้พวกสือฮ่าวทั้งสามรู้แล้วว่าชายหนุ่มเสื้อเกราะม่วงชื่อ ฮั่วฟู่โถวเผ่าพันธุ์ของเขาไม่ชัดเจนระดับบ่มเพาะก็เช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตามนี่เป็นผู้เชี่ยวชาญรุ่นเยาว์ที่น่ากลัวอย่างยิ่ง คนประเภทนี้ถ้าเขาลงไปยังดินแดนที่ต่ำกว่าเขาจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังอย่างแน่นอน จากลักษณะของพวกเขาที่แสดงออกมาก็ทราบว่าทุกคนไม่ค่อยสนิทกันมากนัก
“ก่อนหน้านี้พวกเจ้าทุกคนเคยลงไปข้างล่างหมดแล้ว? พวกเจ้าได้รับผลประโยชน์อะไรมาหรือไม่” เสิ่นหมิงยิ้มหวานอย่างมีเสน่ห์นางไม่ได้แสดงความคิดเห็นของตัวเอง แต่ถามออกไปตรงๆแทน
“แน่นอนว่าข้าได้รับอะไรบางอย่าง!” ฮั่วฟู่โถวตอบกลับด้วยเสียงเย็นชา
แม้ว่าความงามของเสิ่นหมิงจะทำให้ผู้คนมากมายหวั่นไหวแต่เขาก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากนัก
ไม่เหมือนกับจินหยางผู้เชี่ยวชาญหนุ่มของตระกูลอีกาทองที่มีทัศนคติต่อนางดีกว่าสือฮ่าวและซานซางอย่างเห็นได้ชัด
“หากเจ้ามีความกล้าหาญก็ลงไปสำรวจด้วยตัวเอง บางทีรัศมีพลังจากโลกชั้นต่ำของพวกเจ้าอาจทำให้อสูรศิลาเหล่านั้นคิดว่าเจ้าเป็นพวกเดียวกันจนได้รับผลประโยชน์อันยิ่งใหญ่ก็ได้!” หญิงสาวอีกคนกล่าวขณะหัวเราะ
นางสวมชุดสีฟ้าอ่อนเส้นผมก็มีสีฟ้าอ่อนเช่นเดียวกัน นางเป็นหญิงสาวที่งดงามและเต็มไปด้วยพลังเซียน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีรอยสีแดงระหว่างคิ้วของนางที่ส่องประกายอย่างเข้มข้น ซึ่งมันส่งผลกระทบอย่างมากต่อผู้พบเห็นทำให้พวกเขายากที่จะลืมเลือนรูปลักษณ์อันโดดเด่นของนาง
เพียงแต่คำพูดของนางนั้นเต็มไปด้วยความหยิ่งผยองไม่เห็นสิ่งมีชีวิตจากดินแดนล่างทั้งสามอยู่ในสายตา
ชื่อของนางคือนู่หลานไม่ทราบเผ่าพันธุ์เช่นเดียวกัน
“เมื่อสักครู่พวกเจ้ายังถูกทุบตีไม่พอ? ต้องการให้ฮวงทุบตีมากกว่านี้พวกเจ้าถึงจะพอใจใช่หรือไม่?” เสิ่นหมิงกล่าวดวงตาของนางสาดประกายดุร้าย
ถึงแม้ว่านางจะเป็นหญิงสาวที่งดงามแต่คำพูดที่ออกจากปากของนางก็ไม่เคยให้เกียรติฝ่ายตรงข้ามเช่นเดียวกัน
นู่หลานมีใบหน้าแข็งกร้าวขึ้นมาทันที เส้นผมที่เหมือนน้ำกระเพื่อมของนางปลิวไสวดวงตาเบิกกว้างขุ่นเคืองสุดขีด
เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะมีความแข็งกร้าวถึงขนาดนี้ หญิงสาวผมแดงคนนั้นไม่ยอมลดราวาศอกแม้แต่น้อย
อะไรคือคำว่า 'พ่ายแพ้ ถูกฮวงทุบตีอย่างโหดเหี้ยม?’นี่มันหยาบคายเกินไปแล้ว!
ประโยคนี้ไม่เพียงแต่ทำให้สะกิดแผลเป็นของจินหยางเท่านั้น แต่ยังทำให้ใบหน้าของนู่หลานเต็มไปด้วยความอัปยศอดสู
นางจ้องมองไปที่เสิ่นหมิงและกล่าวว่า“นี่คือผู้บ่มเพาะสตรีแห่งอาณาจักรที่ต่ำกว่าหรือ? ลักษณะการพูดหยาบคายจริงๆ บางทีความประพฤติของเจ้าก็ไร้อารยธรรมเช่นกัน”
“หืม? เจ้าคิดว่าคำพูดเหล่านี้จะสร้างความเจ็บปวดให้กับเรา? เราไม่ควรยัดเยียดสิ่งที่ตัวเองไม่ปรารถนาให้กับคนอื่น เมื่อเจ้าพูดล้อเลียนอาณาจักรที่ต่ำกว่านั่นแสดงให้เห็นจิตใจอันต่ำทรามของเจ้าแล้ว”เสิ่นหมิงมีรอยยิ้มจางๆบนใบหน้า
จากนั้นนางก็กล่าวเสริมอีกว่า“ถ้าเจ้ารับไม่ได้ก็มาต่อสู้กับฮวง ข้าสัญญาว่าเขาจะทุบตีเจ้าอย่างแสนสาหัสภายในห้าร้อยกระบวนท่าหากทำไม่ได้ข้าจะนอนลงให้เจ้าโจมตีอย่างเต็มกำลังสามครั้งโดยไม่ตอบโต้!”
สือฮ่าวกลอกตา นางคิดที่จะลากเขาลงไปในน้ำด้วยหรือเปล่า? สิ่งที่นางกล่าวก่อให้เกิดความเกลียดชังโดยไม่มีเหตุผล
นู่หลานจ้องมองไปที่เสิ่นหมิงอย่างเกลียดชังจากนั้นก็หัวเราะโดยและพูดว่า
"นั่นก็สมเหตุสมผลแล้ว ถ้าข้าสู้กับเจ้ามันจะเหมือนกับการกลั่นแกล้งเจ้าเท่านั้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่เจ้าส่งเจ้าหนูชาวมนุษย์คนนี้ออกมาต่อสู้แทน . อย่างไรก็ตามเจ้าประเมินสหายของเจ้าสูงเกินไป ข้าไม่อ่อนแอเหมือนกับจินหยาง ถ้าข้าลงมือต่อให้พวกเจ้าสามคนรวมกันก็ไม่มีทางที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของข้าได้!”
สือฮ่าวรู้สึกตกใจเล็กน้อย หญิงสาวที่สวมชุดสีฟ้าดูหยิ่งเกินไป? แต่ดวงตาอันสดใสของนางกลับไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย
นางต้องการต่อสู้จริงๆหรือ?
สิ่งที่หายากคือคนที่ถูกพาดพิงอย่างเจ็บแสบโดยตรงอย่างจินหยางกลับไม่สามารถตอบโต้ออกมา จึงเป็นข้อพิสูจน์ได้ดีว่าหญิงสาวผู้นี้แข็งแกร่งมากแค่ไหน
มีเด็กหนุ่มสาวอาณาจักรเซียนทั้งหมดห้าคนที่มาพร้อมกับสือฮ่าวในครั้งนี้ จินหยางเทพธิดานกยูงขาว เจ้าหนูฮั่วฟู่โถว และหญิงสาวตาสีฟ้านู่หลาน มีเพียงชายหนุ่มคนสุดท้ายที่ค่อนข้างเงียบขรึมไม่พูดมากเกินไปดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขามากนัก
ก่อนหน้านี้พวกเขาถูกปกคลุมไปด้วยหมอกเซียนไม่เต็มใจที่จะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง เพราะว่าพวกเขาแสดงความรังเกียจต่อสิ่งมีชีวิตในดินแดนที่ต่ำกว่า
สือฮ่าวเห็นเพียงเทพธิดานกยูงขาวและตัวตนที่แท้จริงของจินหยางเท่านั้น ตอนนี้ฮั่วฟู่โถวและนู่หลานก็ได้เปิดเผยลักษณะตัวตนที่แท้จริงของพวกเขาด้วยเช่นกัน
คชา!
ในเวลานี้สือฮ่าวบดหินที่ขอบหน้าผาด้วยมือของเขามันเป็นหินสีดำรูปทรงรีซึ่งแข็งมาก
หินโดยรอบแตกออกจากกันทั้งหมด ไม่ว่านิ้วของสือฮ่าวจะส่องแสงอย่างไรมันก็ยังยากที่จะทำลาย
นี่เป็นสิ่งที่ค่อนข้างผิดปกติ ในอาณาจักรบ่มเพาะของเขาแม้แต่ดวงดาวก็สามารถบดขยี้ด้วยมือเปล่านับประสาอะไรกับก้อนหินเล็กๆก้อน!
“ข้าเตือนเจ้าแล้ว นี่ไม่ใช่สถานที่ธรรมดาอย่างที่พวกเจ้าเคยเห็นมา” จินหยางพูด เป็นเพราะหลังจากแพ้สือฮ่าวเขาก็ยังไม่สามารถทำใจยอมรับได้
หงหลง!
ฝ่ามือและนิ้วของสือฮ่าวเปล่งประกายโดยใช้ความสามารถระดับเทพเจ้าบีบจนหินก้อนนั้นเหมือนกับไข่ไก่
หูฟู่ถัวนู่หลาน เทพธิดานกยูงขาวและคนอื่นๆต่างก็ถอนตัวออกไปจากบริเวณนี้อย่างรวดเร็ว
เมื่อซานซางและเสิ่นหมิงเห็นลักษณะของพวกเขา ทั้งสองก็ระมัดระวังตัวเช่นเดียวกัน
มีเพียงสือฮ่าวที่ไม่ได้ป้องกันตัวไว้ตั้งแต่แรก เมื่อฝ่ามือและนิ้วของเขาส่องแสงเขาก็ถูกคลื่นพลังมหาศาลดูดเข้าไปในก้อนหินที่ถูกทำลาย
ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย หลังจากคำรามเบาๆ เขาเปิดใช้งานญาณวิเศษอันล้ำค่าหลายประเภทรวมเข้าด้วยกันถึงจะสามารถถอยออกมาอย่างปลอดภัยได้
ฮ่อง!
คลื่นพลังบ้าดีเดือดพุ่งออกมา ศีรษะที่ปกคลุมไปด้วยขนสีแดงอ้าปากที่เปื้อนเลือดกัดผ่านความว่างเปล่าทำให้สถานที่ที่สือฮ่าวยืนอยู่ระเบิดเป็นชิ้นๆ
โฮ่ว!
เสียงคำรามที่ยิ่งใหญ่ดังขึ้นทำให้ดินแดนแห่งนี้สั่นสะเทือนแม้กระทั่งหลุมเซียนก็ยังได้รับผลกระทบไปด้วย หินขนาดยักษ์จำนวนมากในบริเวณโดยรอบตกลงมาพื้นดินสั่นสะเทือนและมีเสียงดังกึกก้อง
ไม่ไกลนักร่างมีร่างที่แข็งแกร่งบิลเข้ามาในทิศทางนี้ ผู้คนมากมายที่อยู่โดยรอบกำลังแยกตัวกระจายค้นหาโชควาสนาของตนเอง ความวุ่นวายนี้เพิ่งเกิดขึ้นทำให้ผู้ฝึกฝนที่อยู่รอบๆ ตกใจไม่น้อย
ศีรษะนี้มีลักษณะคล้ายกับสิงโตเพียงแต่ว่ามีขนสีแดงเพลิง แต่เมื่อตรวจสอบอย่างใกล้ชิดมันไม่ใช่สิงโตอย่างแน่นอนส่วนเดียวที่คล้ายกันคือแผงคอสิงโตเท่านั้น
นี่คือสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ตอนนี้มันอ้าปากพยายามที่จะกลืนกินท้องฟ้า ทันใดนั้นมันก็เพิ่มขนาดของศีรษะตัวเองขึ้นกลายเป็นยอดเขาที่ใหญ่โตยึดครองพื้นที่ทั้งหมด
สิ่งนี้ทำให้สือฮ่าวรู้สึกมึนงงเป็นอย่างมาก เขาเพียงทำลายก้อนหินก้อนเดียวเท่านั้น ทำไมยักษ์ใหญ่ตัวนี้จึงปรากฏขึ้น?
มันมีเพียงศีรษะและคอเปื้อนเลือดไม่มีร่างกาย
นี่เป็นเรื่องที่น่ากลัวจริงๆ ศีรษะลอยอยู่ท่ามกลางความว่างเปล่า เมื่อปากที่เปื้อนเลือดเปิดออกราวกับว่ามันสามารถกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างได้
ในระยะไกลภูเขาสองสามลูกถูกถอนรากถอนโคนบินเข้าหาปากของมัน
มีแร่โลหะบางส่วนที่ละลายเป็นของเหลวกลายเป็นกระแสน้ำเข้าสู่ปากอันกว้างใหญ่
“นี่มัน…สัตว์ประหลาดแบบไหนกันนะ” สือฮ่าวตกใจ
หากไม่ใช่เพราะเขาถอนตัวออกมาอย่างรวดเร็วผลที่ตามมาก็ไม่ยากที่จะคาดเดา
“เจ้าหนูเจ้าควรดีใจที่เจ้ายังมีชีวิตอยู่ได้หลังจากทำอะไรอย่างบุ่มบ่าม” ชายวัยกลางคนพูดกล่าวอย่างเย็นชา
เทพธิดานกยูงขาว ฮั่วฟู่โถว และนู่หลานก็เดินผ่านไปด้วยเพราะหัวของสัตว์ร้ายที่ดุร้ายสีแดงเข้มขนฟูนั้นไม่ได้ไล่ตามพวกเขา
“โชคดีที่มันเป็นเพียงคลื่นพลังเลือดไม่ใช่เนื้อหนังแท้ มิฉะนั้นจะต้องมีการต่อสู้นองเลือดแน่นอน” ฮั่วฟู่โถวกล่าว
เทพธิดานกยูงขาวอธิบายให้พวกเขาฟัง ทัศนคติของนางไม่ถือว่าเลวร้ายเมื่อเทียบกับคนอื่น
“ข้าอธิบายทุกอย่างแล้ว สถานที่แห่งนี้มีโชคตามธรรมชาติ แต่ก็อันตรายมากเช่นกัน มีบางสิ่งถูกปิดผนึกอยู่ภายในหินพวกมันมาจากยุคอันยิ่งใหญ่ตั้งแต่เริ่มแรก พวกเจ้าคงทราบดีว่ามันจะอันตรายมากแค่ไหน”
ตามสิ่งที่เทพธิดานกยูงขาวกล่าวไว้ไม่มีใครกล้าทำตัวประมาทที่นี่ อสูรร้ายดึกดำบรรพ์หลุดออกจากผนึกมันจะกลายเป็น 'ภัยพิบัติจากปีศาจ'ซึ่งจะทำให้ทุกคนเสียชีวิตทันที