374 - เข้าสู่อาณาจักรเซียนด้วยความชอบธรรม
1684 - เข้าสู่อาณาจักรเซียนด้วยความชอบธรรม
อา ...
จินหยางปล่อยเสียงคำรามต่ำ ความเจ็บปวดเป็นเรื่องรองสาเหตุหลักเป็นเพราะเขาพ่ายแพ้อีกครั้ง เขาไม่เต็มใจไม่ต้องการที่จะยอมรับผลลัพธ์นี้
ด้านหลังคนกลุ่มนั้นได้รับความแตกตื่นตกใจครั้งแล้วครั้งเล่าใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความงุนงง
เป็นเพราะพวกเขาค้นพบว่าการเคลื่อนไหวของชายหนุ่มจากดินแดนล่างผู้นี้ราบรื่นและรวดเร็วเกินไป
หลังจากรวบรวมเลือดสีทองและถอนขนนกสีทองออกจนหมดแล้ว สือฮ่าวก็ทำความสะอาดปีกข้างนั้นด้วยความชำนาญก่อนที่จะเก็บเข้ามิติเก็บของส่วนตัว
“เจ้า…” จินหยางโกรธแค้นเป็นอย่างมาก ชายหนุ่มคนนี้มีเจตนาอะไร? นี่เป็นวิธีที่นักล่ากระทำโดยสิ้นเชิง เขาถูกมองว่าเป็นเหยื่ออย่างนั้นหรือ?
ในดินแดนเซียนใครกันที่กล้าแสดงท่าทีบังอาจจนขนาดถึงกับมองว่าเผ่าพันธุ์อีกาทองเป็นอาหาร?
สือฮ่าวตบหน้าผากของตัวเองและพูดว่า“ ข้าขอโทษข้าลืมไปนี่คืออาณาจักรเซียนไม่ใช่ดินแดนล่าง เฮ้อเจ้าทุกคนไม่รู้หรอกว่าโลกภายนอกนั้นแห้งแล้งแค่ไหน
ไม่ว่าจะพลังแก่นแท้หรือทรัพยากรอันจำกัด เมื่อเราพบนกอมตะและสัตว์ร้ายหายากพวกเราก็จะไล่ล่ามันทันที ข้าทำจนเป็นนิสัยโดยลืมไปว่านี่ไม่ใช่ดินแดนที่ตัวเองเคยอยู่ เจ้ายังต้องการหรือไม่? เจ้าต้องการให้ข้าคืนหรือไม่”
จินหยางหอบหายใจเขากำลังจะปะทุด้วยความโกรธเส้นเลือดสีเขียวโผล่ขึ้นมาบนหน้าผากของเขา เขาจะเอ่ยปากเพื่อขอคืนได้หรือ? ไม่มีทาง!
ในที่สุดเขาก็ทำได้เพียงแค่แค่นเสียงเย็นเยียบใบหน้าของเขามืดคล้ำอย่างไม่น่าเชื่อ
“ข้ารู้ด้วยความสามารถในการฟื้นตัวที่น่ากลัวของสายเลือดอีกาทองของเจ้านั้นดีขนาดไหน นับประสาอะไรกับการบาดเจ็บเล็กน้อยแบบนี้” สือฮ่าวกล่าว
เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะคืนมันตั้งแต่แรก เขาเดินออกจากสนามต่อสู้พร้อมกับเสียงหัวเราะครื้นเครง
ชายหนุ่มที่สวมชุดเกราะสีม่วง เทพธิดานกยูงขาวและคนอื่นๆต่างมองหน้ากันด้วยความตกใจ เจ้านี่…จะเอาเนื้ออีกาทองไปสักชิ้นจริงๆเหรอ? เขาถือว่ามันเป็นอาหารมันช่างน่ากลัวยิ่งนัก!
“ข้ายอมรับว่าเจ้าแข็งแกร่ง แต่เจ้าทำให้ตระกูลอีกาทองของข้าต้องอับอาย ดังนั้นข้าจะต่อสู้กับเจ้าให้ถึงที่สุด!” จินหยางกล่าว
ในท้ายที่สุดเขาก็ไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้ได้ เขาถูกอีกฝ่ายข่มเหงครั้งแล้วครั้งเล่าความรู้สึกนี้มันแย่มากจริงๆ
เขาเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรล่างแต่ท้ายที่สุดเขากลับถูกคนผู้นี้ทำร้ายอย่างแสนสาหัส!
“ฮ่าๆๆ!”สือฮ่าวหัวเราะ เขาไม่ได้ใส่ใจคู่ต่อสู้แม้แต่น้อย
เพราะหลังจากปะทะกันกว่าหนึ่งพันกระบวนท่า เขาจึงนับว่ารู้ไส้รู้พุงของฝ่ายตรงข้ามจนหมดสิ้นแล้ว
นี่คือชายหนุ่มที่มีสายเลือดอีกาทองอันทรงพลังอย่างแท้จริง แต่ถึงกระนั้นเขาก็มีวิธีเอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้อย่างง่ายดาย!
“อีกาทองคำรามจักรพรรดิตกอยู่ในห้วงเวลา!” จินหยางคำรามออกมา
ในครั้งนี้รัศมีของเขากลายเป็นน่ากลัวยิ่งขึ้นและมีรัศมีพลังสีทองที่ไม่มีที่สิ้นสุดพุ่งออกมาจากกระหม่อมของเขา ราวกับว่าโลกโบราณที่ดำมืดกำลังก่อตัวขึ้นรอบๆสถานที่แห่งนี้
อีกาทองเผาสวรรค์นี่เป็นวิชาประเภทไฟที่ถือได้ว่าเป็นอันดับหนึ่งโลก เทียบเคียงได้กับญาณวิเศษของหงส์เพลิงที่แท้จริง
ในขณะนี้สิ่งที่เรียกว่า 'จักรพรรดิตกอยู่ในห้วงเวลา' เป็นวิชาลับที่ใช้ในการปิดผนึก ซึ่งเป็นวิชาโบราณเกินที่ใครจะเทียบได้
มีข่าวลือว่าในยุคแห่งการสร้างโลกนั้นเคยมีราชาอมตะดับสูญไปด้วยเสียงร้องของอีกาทองที่ทรงพลังที่สุด!
ด้วยความงุนงงของทุกคนสถานที่แห่งนี้เริ่มมืดสลัวลงเรื่อยๆ สือฮ่าวรู้สึกว่าญาณวิเศษชนิดนี้จะเป็นภัยคุกคามต่อเขา เขาจำเป็นต้องต่อสู้กับมันอย่างจริงจัง
“จินหยางหยุด!”
ในเวลานี้เสียงของชายวัยกลางคนผู้หนึ่งดังมาจากระยะไกล ยิ่งไปกว่านั้นยังมีแสงสีทองพุ่งเข้ามากลางวงทำให้ฉากที่ผิดปกติของ 'จักรพรรดิตกอยู่ในห้วงเวลา' สูญสลายไปทันที
"ท่านลุง!" จินหยางร้องลั่น
“ พลังศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าไม่สามารถสนับสนุน 'วิชาลับ' นี้ได้การที่เจ้าจะฝืนใช้ออก มันจะเป็นเพียงการทำลายตัวเองเท่านั้น
เจ้าเป็นลูกผู้ชายคนหนึ่งในเมื่อสู้ผู้อื่นไม่ได้เหตุไฉนจึงไม่สามารถยอมรับความพ่ายแพ้” เสียงชายวัยกลางคนผู้นั้นดังขึ้นอีกครั้ง
การต่อสู้ครั้งแรกในอาณาจักรเซียนของสือฮ่าวจบลงเช่นนี้
ชายวัยกลางคนผู้นั้นเดินเข้าไปในส่วนลึกของอาณาจักรโดยไม่กล่าวอะไร
สถานที่แห่งนี้เงียบลงทันที ใบหน้าของจินหยางเย็นชาอย่างไม่น่าเชื่อ ฉากที่อีกาทองกางปีกปกคลุมท้องฟ้าสูญสลายไปโดยที่เขาไม่สามารถกล่าวอะไรได้
เหตุผลก็เป็นอย่างที่ลุงของเขากล่าวไว้ 'จักรพรรดิตกอยู่ในห้วงเวลา' นั้นทรงพลังเกินไป เขาไม่มีความแข็งแกร่งมากพอที่จะเปิดใช้งานมัน
หากเขายังดึงดันต่อไปมันจะเป็นเพียงการทำลายรากฐานของตัวเองอย่างที่ไม่อาจฟื้นฟูได้
ในอาณาจักรเซียนแห่งนี้วิชาใดก็ตามที่มีชื่อเกี่ยวข้องกับเวลา จะถือได้ว่าเป็นญาณวิเศษระดับสูงที่ต้องระมัดระวัง
เทพธิดานกยูงขาวรวบผมของตัวเองพร้อมกับมองมาที่สือฮ่าว ดวงตาที่หมุนไปด้วยความสดใสแสดงออกอย่างชัดเจนว่ามีความอยากรู้อยากเห็นเป็นอย่างมาก
สำหรับสิ่งมีชีวิตของอาณาจักรเซียน พวกเขาเชื่อเสมอว่าอาณาจักรที่ต่ำกว่านั้นต้องล้าหลังขาดแคลนแก่นแท้ทางจิตวิญญาณ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคนี้ที่ทรัพยากรเหือดแห้งไปหมดแล้ว โดยปกติมันคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้หากพวกเขาจะสามารถสร้างผู้เชี่ยวชาญหนุ่มที่แข็งแกร่งมากถึงขนาดนี้
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือสถานที่นั้นแปดเปื้อนมีผลกรรมที่เป็นความอัปมงคล ไม่ช้าก็เร็วพวกเขาจะถูกทำลายไปจนหมดสิ้น
ในความเห็นของพวกเขาไม่มีทางที่สถานที่แห้งแล้งจะสร้างเมล็ดพันธุ์ที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามสือฮ่าวกลับสอนบทเรียนให้กับพวกเขาโดยตรง
คนพวกนั้นต่างเดินเข้ามาพร้อมกัน พวกเขาจ้องมองไปที่สือฮ่าวและต้องการที่จะมองผ่านความลับของเขา
เป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้วว่าคนที่รู้สึกแย่ที่สุดก็คือจินหยาง ก่อนหน้านี้เขาแสดงความโอหังออกมาโดยไม่เห็นคู่ต่อสู้อยู่ในสายตา
แต่ในท้ายที่สุดเขาก็ประสบกับความพ่ายแพ้ที่น่าสังเวช ญาณวิเศษอันยิ่งใหญ่ของเขาถูกทำลายโดยใครบางคนจากอาณาจักรล่างจริงๆ
เขาไม่เต็มใจที่จะยอมรับ เขาบรรลุความรู้แจ้งในเต๋าอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรเซียนแล้ว
เหตุใดเขาจึงไม่สามารถเอาชนะเด็กสารเลวจากสถานที่ยากไร้ขาดพลังงานทางจิตวิญญาณได้?
หากความแข็งแกร่งของเขาไม่พอนั่นก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่เขาเป็นคนที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นทายาทรุ่นหลังที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลอีกาทอง!
การต่อสู้จบลงเช่นนี้ทำให้เขารู้สึกอับอายและไม่พอใจ!
เขาจ้องไปที่สือฮ่าวดวงตาปลดปล่อยเปลวไฟออกมาไม่หยุด ฝ่ายตรงข้ามทำความสะอาดปีกของเขาพร้อมกับแลบลิ้นเลียริมฝีปากเรื่องนี้หมายความว่าอย่างไร?
อย่าบอกนะว่าเด็กหนุ่มชาวมนุษย์คนนี้จะกินมันจริงๆ?
“เฮอะฮ่าฮ่า…” ซานซางคำรามด้วยเสียงหัวเราะ เมื่อการต่อสู้สิ้นสุดลงเขาก็เดินไปแสดงความยินดีกับสือฮ่าวโดยไม่เก็บงำไว้แม้แต่น้อย
“ระดับบ่มเพาะของเจ้าก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ความแข็งแกร่งที่เจ้าแสดงออกมาในวันนี้คู่ควรแล้วกับชัยชนะ” เสิ่นหมิงหัวเราะคิกคัก ทุกการเคลื่อนไหวของนางแสดงให้เห็นถึงเสน่ห์ที่น่าหลงใหล
พวกเขาทั้งสามมาด้วยกันตั้งแต่แรก ดังนั้นตอนนี้พวกเขาจึงยืนอยู่ข้างเดียวกันอย่างเป็นธรรมชาติ
“สหายเต๋าคนนี้ไม่ธรรมดาเลย ในอาณาจักรล่างซึ่งขาดแคลนทรัพยากรในทุกๆด้าน แต่เจ้ากลับสามารถฝึกฝนตัวเองให้แข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อจริงๆ” นกยูงขาวกล่าว
คนอื่นๆไม่ได้พูดอะไร แต่อย่างน้อยที่สุดพวกเขาก็ไม่ได้แสดงความเป็นศัตรูออกมา
ผลลัพธ์เช่นนี้หาได้ยากยิ่งซึ่งพวกสือฮ่าวก็รู้สึกพอใจมากแล้ว
สือฮ่าวยิ้มไม่พูดมากเพียงแต่พยักหน้าทักทาย
“อาณาจักรเซียนเป็นเช่นไรกันแน่?” เสิ่นหมิงกล่าวด้วยความสงสัย
สือฮ่าวกำลังมองไปที่อีกฝ่ายในตอนนี้โดยที่ไม่พูดอะไร
เป็นเพราะก่อนหน้านี้พวกเขาตกลงกันแล้วว่าหากเขาชนะผู้เชี่ยวชาญหนุ่มตระกูลอีกาทอง พวกเขาก็สามารถเข้าสู่ดินแดนเซียนได้
สถานที่แห่งนี้เงียบงันผู้คนเหล่านั้นไม่ได้พูดอะไร
ใบหน้าของจินหยางเขียวคล้ำติดอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดชั่วขณะ
เขาไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะแพ้ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมในตอนแรกเขาถึงเห็นด้วยอย่างใจกว้างกับข้อเรียกร้องของสือฮ่าว
ตอนนี้เขาควรจะทำอย่างไร?