354 - ศัตรูของคนหมู่มาก
1664 - ศัตรูของคนหมู่มาก
เป็นเช่นเดียวกับครั้งที่แล้วสือฮ่าวได้รับผลประโยชน์มาไม่น้อย
เขามองไปที่สิ่งมีชีวิตอื่นๆแต่ไม่ได้ลงมือโจมตี เขาหันหน้ากลับมามองแท่นบูชาพร้อมกับโจมตีออกไปอย่างรุนแรง เป็นเพราะว่าการปล้นผู้อื่นย่อมไม่เทียบเท่ากับการที่เขาสามารถไขว่คว้ามาเอง
คราวนี้เขาใช้ญาณวิเศษของคุนเผิง กรงเล็บยักษ์สีทองลำตัวสีดำสนิทเหมือนหมึก พลังหยินและหยางหมุนไปรอบๆปะทะกันทำให้เกิดรอยแตกของมิติขนาดใหญ่กลางอากาศ
การโจมตีกำแพงให้แตกเพื่อให้ได้มาซึ่งใบชาสำหรับคนอื่นอาจเป็นเรื่องยากลำบากแต่สือฮ่าวทำได้อย่างง่ายดายเท่านั้น
กรงเล็บคุนเผิงกระแทกเข้ากับกำแพงครั้งแล้วครั้งเล่าพร้อมกับฉีกพวกมันออกจากนั้นจึงคว้าไปที่ภาชนะหยกหนึ่งชิ้น
ครั้งที่สองยากกว่าครั้งก่อนมากพอสมควร
แต่ท้ายที่สุดแล้วสือฮ่าวก็สามารถคว้าภาชนะหยกออกมาได้ห้าครั้งติดต่อกันก่อนที่ญาณวิเศษของคุนเผิงจะไม่สามารถใช้งานได้อีก
แม้ว่าเขาจะสามารถใช้ญาณวิเศษของคุนเผิงลงมือได้อย่างน้อยอีกหนึ่งครั้ง แต่พลังศักดิ์สิทธิ์ที่สูญเสียไปก็ค่อนข้างไม่คุ้มค่า
เป็นเพราะเขายังคงเฝ้าระวังอยู่ ยังอาจมีการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่รออยู่ข้างหน้า!
อย่างน้อยที่สุดเขาต้องการที่จะปล้นมากกว่านี้ไม่มีทางที่เขาจะยอมให้เรื่องต่างๆยุติลงไปง่ายๆอย่างแน่นอน
จิ!
หลังจากนั้นกิ่งหลิวก็ยื่นออกมาจากร่างกายของสือฮ่าวกลายเป็นโซ่ศักดิ์สิทธิ์สีทองฟาดกำแพงจนแตกออกเป็นช่องใหญ่พร้อมกับนำภาชนะหยกออกมา
ในครั้งนี้เขาก็ได้ภาชนะหยกออกมาอย่างต่อเนื่องห้าครั้งเช่นเดียวกับครั้งก่อน
“ทะเลแห่งการเกิดใหม่!”
เมื่อทะเลแห่งการเกิดใหม่ปรากฏออกมาก็ทำให้ผู้คนมากมายสั่นสะท้าน รัศมีพลังของมันมีมากมายมหาศาลเกินกว่าวิชาที่ฮวงใช่ออกก่อนหน้านี้
เขาได้รับภาชนะยกมาอีกห้าใบ
“แสงแห่งความหายนะแห่งสวรรค์!”
หลังจากนั้นเขาก็ใช้ญาณวิเศษหกสังสารวัฏ!
สือฮ่าวลองทุกอย่างแม้แต่ร่างกายที่เป็นเมล็ดพันธุ์ แต่ทุกครั้งเขาก็ได้ออกมาไม่มากไม่น้อยเพียงห้าใบเท่านั้น
ในท้ายที่สุดสือฮ่าวก็ได้รับใบชาเซียนมาหลายสิบใบซึ่งเป็นผลประโยชน์อันมากมายมหาศาลทำให้ผู้คนมากมายเต็มไปด้วยความอิจฉา
ตอนนี้ถึงเวลาที่ต้องใช้มันให้หมด เขายังคงมีใบไม้สี่สิบเก้าใบทุกใบเป็นประกายและโปร่งแสงวางอยู่ในภาชนะหยกใบเดียวกันกลิ่นหอมหวานฟุ้งกระจายไปในอากาศ
ฝูงชนตกตะลึง นี่มันเป็นเรื่องประหลาดมากเกินไป? คนๆเดียวกลับสามารถได้ใบไม้มามากมายถึงขนาดนี้ ผู้อื่นจะใช้ชีวิตอย่างไร?
ผู้ยิ่งใหญ่ตระกูลราชามากมายต่างก็พูดไม่ออก พวกเขาร่วมมือกันทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ อย่างมากก็ได้รับเพียงสามหรือสี่ใบ แต่ฮวงเพียงคนเดียวกลับคว้ามาได้ถึงสี่สิบเก้าใบ
พวกเขาได้แต่สาปแช่งภายในใจว่าเจ้าสัตว์ประหลาดน้อยตัวนี้จะแข็งแกร่งมากเกินไปแล้ว ไม่น่าแปลกใจที่เขาสามารถเอาชนะฉีเมิ่งหงจากตระกูลจักรพรรดิได้!
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความเร็วของเขา ซึ่งภายในลมหายใจเดียวเขาก็สามารถแย่งชิงภาชนะหยกเหล่านั้นออกมาได้
ในเวลานี้หลายคนรู้สึกไม่สบายใจ
เป็นเพราะฮวงไม่ได้โจมตีแท่นบูชาดินอีกต่อไป แต่สายตาของเขากับจับจ้องไปที่ทุกคนด้วยเจตนาร้ายแทน
“ เจ้า เจ้า เจ้า พวกเจ้ามีสายตาที่เต็มไปด้วยความเป็นปรปักษ์กับข้า นับตั้งแต่ที่ข้าปรากฏตัวขึ้นบนยอดเขาแห่งนี้พวกเจ้าก็แสดงออกอย่างจริงจังพร้อมกับปลดปล่อยไอสังหารออกมา
อย่าทำให้ข้าต้องลงมือด้วยความโหดร้าย มีอะไรพวกเราสามารถพูดคุยกันได้ ตอนนี้พวกเจ้าเข้ามาได้แล้ว”
สือฮ่าวชี้ให้เห็นสามตระกูลในหนึ่งลมหายใจ ในเวลาเดียวกันเขาต้องเผชิญหน้ากับชนชั้นสูงแปดหรือเก้าคน คนเหล่านี้มาจากสามตระกูลราชาซึ่งเป็นผู้บ่มเพาะหนุ่มสาวที่ทรงพลังทั้งหมด
จิตใจของผู้คนเหล่านี้จมดิ่งลงทันที ในท้ายที่สุดฮวงก็ยังคงกำหนดเป้าหมายมาที่พวกเขา
“มันต้องเป็นความเข้าใจผิดอย่างแน่นอน พวกเราไม่เคยทำอย่างนั้นพวกเรามีแต่ความชื่นชมที่มีต่อเจ้า” หนึ่งในนั้นตอบกลับ
“เจ้าแน่ใจหรือ?”สือฮ่าวถาม
"ใช่!" คนนั้นพยักหน้า
“แต่ข้าไม่คิดเช่นนั้น พวกเจ้าทุกคนเป็นหนี้ข้า และทุกตระกูลต้องส่งใบชามาสามใบไม่เช่นนั้นพวกเจ้าจะกลับลงไปด้วยความตาย” สือฮ่าวกล่าว
“จะมากเกินไปแล้ว!” ผู้เชี่ยวชาญหนุ่มของตระกูลราชาคนนั้นตะโกนด้วยความโกรธแค้น เดิมทีพวกเขาไม่ต้องการความขัดแย้ง แต่อีกฝ่ายกลับคิดว่าพวกเขาสามารถรังแกได้ง่ายๆ
“เจ้าเอาแต่ใจตัวเองเกินไปแล้ว ที่นี่คือโลกของเราการที่เจ้าสร้างปัญหาขึ้นอย่างต่อเนื่องมันจะไม่เป็นผลดีต่อเจ้าเอง! ระวังผลที่ตามมาให้ดี!” หนึ่งในตระกูลราชาข่มขู่ด้วยเสียงเย็นชา
“ข้าเกลียดการถูกชี้หน้าและการคุกคามมากที่สุด ตั้งแต่วันที่ข้าก้าวมาสู่โลกใบนี้ก็ไม่คิดจะหันหลังกลับอีกแล้ว ในเมื่อพวกเจ้าคิดว่าสามารถต่อสู้กับข้าได้ ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่ลองดู!”สือฮ่าวกล่าวอย่างเย็นชา
จากนั้นเขาก็กระแทกกำปั้นขนาดยักษ์ออกไปจนสั่นสะเทือนฟ้าดิน
สายฟ้านับร้อยนับพันสายพุ่งลงมาโจมตีผู้คนจากตระกูลราชานั้นอย่างรวดเร็ว!
หมัดของสือฮ่าวถูกห่อหุ้มด้วยสายฟ้า กำปั้นอันยิ่งใหญ่บดขยี้เข้าใส่ฝ่ายตรงข้ามโดยตรง
ตอนนี้เขาสามารถทำตามอำเภอใจตัวเองเท่าที่จะสามารถทำได้ เขารู้ดีว่าหากจักรพรรดิผู้ไม่ดับสูญกลับมาย่อมไม่มีผลลัพธ์ที่ดีสำหรับเขา
นั่นคือเหตุผลที่เขาไม่รู้สึกถึงความกลัวใดๆ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดเขาก็เหลือเวลาไม่มากนัก ถ้าเขากำลังจะตายเขาก็จะแสดงความป่าเถื่อนออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด!
ตระกูลราชาที่กล่าวข่มขู่สือฮ่าวใบหน้าซีดไร้สีเลือด พวกเขาไม่คิดว่าฮวงจะลงมือทำทันทีโดยไม่มีการตอบโต้ทางวาจาแม้แต่น้อย
แม้ว่าพวกเขาจะเตรียมตัวมาบ้าง แต่เมื่อญาณวิเศษของบรรพบุรุษถูกใช้ออกไปมันก็ถูกฝ่ายตรงข้ามทำลายทันที
ปู!
ร่างกายของชายผู้นั้นถูกสายฟ้านับพันเส้นฉีกออกจากกัน ดับสูญไปทั้งร่างกายและวิญญาณอย่างรวดเร็ว
ความโดดเด่นประเภทนี้ความเฉียบคมนี้ทำให้ทุกคนตกใจอย่างมาก สถานที่แห่งนี้เงียบสนิทในทันที
ชนชั้นสูงของตระกูลราชากลับถูกสังหารง่ายๆเช่นนี้!
สิ่งมีชีวิตคนนั้นอายุยังไม่กี่ร้อยปีแต่กลับสามารถมาถึงอาณาจักรปลดปล่อยตนเองขั้นปลายย่อมแสดงให้เห็นว่าเขามีพรสวรรค์มากแค่ไหน แต่ท้ายที่สุดเขากลับเสียชีวิตจากการโจมตีเพียงครั้งเดียว
“นั่นเป็น ตระกูลราชา! แต่เขาก็ยัง ... อย่างง่ายดายโดยฮวง?”
ความหนาวเย็นพุ่งขึ้นภายในใจของพวกเขา ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่รู้ว่าฮวงนั้นน่าเกรงขาม
หลังจากที่พวกเขาก็ได้เห็นการต่อสู้ที่เด็ดเดี่ยวของเขากับฉีเมิ่งหงทุกคนก็รู้ตัวดีว่าไม่สามารถต่อต้านเขาได้
อย่างไรก็ตามตอนนี้ผลลัพธ์นี้ยังคงยากสำหรับพวกเขาที่จะยอมรับ เมื่อเผชิญหน้ากับผู้ยิ่งใหญ่ตระกูลราชาเขากลับสามารถสังหารฝ่ายตรงข้ามได้ด้วยเพียงหมัดเดียว
“ใบชาเหล่านี้เป็นของเจ้า!” ในที่สุดใครบางคนก็ไม่สามารถยึดมั่นได้อีกต่อไป ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการมีชีวิตอยู่ ฮวงคนนี้ป่าเถื่อนเกินไป
ในท้ายที่สุดตระกูลราชาทั้งสามก็ประนีประนอมโดยยอมมอบใบชาทั้งหมดเก้าใบออกมา เต๋าอันยิ่งใหญ่ที่หมุนวนอยู่ในใบชาเหล่านั้นทำให้หัวใจของพวกเขารู้สึกเจ็บปวด
"ขอบคุณมาก!" สือฮ่าวประสานมือขอบคุณด้วยความสุภาพ
มารดาเจ้าเถอะ! คนเหล่านั้นอยากจะกรีดร้องออกมา แต่พวกเขากลับอดกลั้นไว้มีเพียงใบหน้าเท่านั้นที่ดูขัดตาเป็นอย่างยิ่ง
“เฮ้อช่วยไม่ได้ มีใบชาเพียงห้าสิบใบไม่พอดื่มด้วยซ้ำ” สือฮ่าวกล่าว
ผู้คนมากมายต่างสาปแช่งเขาอยู่ในใจ ห้าสิบใบยังดื่มไม่พอเหรอ? จะให้ผู้แข็งแกร่งตระกูลราชาคนอื่นๆอดทนต่อสิ่งนี้อย่างไร?
จากนั้นสือฮ่าวก็มองไปที่สิ่งมีชีวิตจากตระกูลราชาอีกมากมาย ทุกตระกูลล้วนมีอย่างน้อยหกเจ็ดใบ ทำให้ดวงตาของเขาเปล่งประกายขึ้นมา
ตระกูลราชาเหล่านั้นมองไปที่อวี่อวี้ อู๋คุนและคนอื่นๆหวังว่าพวกเขาจะแสดงท่าทีอย่างไรออกมาบ้าง
ในท้ายที่สุดผู้คนจากตระกูลจักรพรรดิเหล่านั้นกลับทำเป็นมองไม่เห็นสายตาอ้อนวอนของพวกเขา