353 - ฟุ่มเฟือย
1663 - ฟุ่มเฟือย
สือฮ่าวพลิกขาสัตว์ร้ายเหนือเปลวไฟอย่างเชี่ยวชาญขณะที่รับใบชามา ตอนนี้มันสุกแล้วมีความมันวาวสีทองกลิ่นหอมของเนื้อสัตว์ที่กระจายออกไปเข้าจมูกของหลายคน
ในระหว่างขั้นตอนนี้สือฮ่าวได้ปรุงรสให้กับขาสัตว์ร้ายอย่างต่อเนื่อง การเคลื่อนไหวของเขารวดเร็วเต็มไปด้วยประสบการณ์ราวกับว่าเขามักจะทำสิ่งนี้อยู่เสมอ
สิ่งนี้ทำให้ผู้คนมากมายอ้าปากค้าง ทุกคนมองมาที่เขาด้วยสีหน้าแปลกๆ อย่าบอกนะว่าเจ้าหนูนี่ทำแบบนี้บ่อยๆ?
“ทักษะของข้าเริ่มเป็นสนิมนิดหน่อย เป็นเวลาหลายเดือนแล้วที่ข้าไม่สามารถทำอาหารด้วยตนเอง” สือฮ่าวพึมพำ
มารดาเจ้าเถอะ! ผู้คนมากมายสาปแช่งเขาอยู่ในใจ เขาเป็นผู้บ่มเพาะ แต่เขาก็ยังสนใจเกี่ยวกับทักษะการทำอาหารอยู่?
เรื่องนี้ทำให้ทุกคนสามารถเข้าใจได้ว่าเจ้าเด็กคนนี้เป็นคนที่ชั่วร้ายอย่างยิ่ง ในสายตาของพวกเขาเจ้าหนูคนนี้มีหัวใจสีดำและมือที่ชุ่มโชกไปด้วยโลหิตหลังจากที่เขาสังหารคู่ต่อสู้ไปแล้วก็ยังมีกะจิตกะใจใช้ร่างของพวกเขามาทำเป็นอาหาร
“เรา…ควรจะออกไปเดี๋ยวนี้!” หลังจากที่ปรึกษากันอยู่ชั่วขณะผู้ยิ่งใหญ่ตระกูลราชามากมายต่างก็หันหน้าเตรียมตัวจะมุ่งลงจากเขา
หากฮวงอยู่ที่นี่ มีความเป็นไปได้สูงมากที่พวกเขาจะไม่ได้รับอะไรเลย พวกเขากังวลว่าจะถูกปล้นทุกครั้งที่ได้ใบไม้มา
“พวกเจ้าทุกคนยังไปไม่ได้ พวกเจ้าเป็นหนี้ใบชาสารพัดเต๋าข้าอยู่” สือฮ่าวหยุดพวกเขาไว้
เมื่อพวกเขาได้ยินเช่นนี้ คนเหล่านั้นก็ร่างกายเซไปด้านข้างเกือบจะล้มลง
แน่นอนว่าสิ่งที่น่าหวาดกลัวที่สุดเกิดขึ้นแล้ว คนเหล่านี้ต้องการจะคำรามออกมาด้วยความโกรธแค้น แต่พวกเขากลัวว่าฮวงจะลงมือสังหารพวกเขาทันที
“นี่เป็นโชควาสนาครั้งใหญ่เหตุไฉนพวกเจ้าถึงรีบกลับไปเล่า? ข้าต้องการเพียงใบชาสามใบเท่านั้นส่วนที่เหลือพวกเจ้าสามารถเก็บไว้กับตัวเองได้” สือฮ่าวกล่าว
คนเหล่านั้นมองหน้ากันด้วยความตกใจตอนนี้พวกเขาโกรธแค้นสุดขีด
แต่ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ไม่อยากจากไปแบบนี้ หลังจากปรึกษากันอยู่ชั่วขณะพวกเขาก็มั่นใจว่าท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็คงจะเหลือใบชาอยู่คนละใบสองใบ
หลังจากนั้นไม่นานสถานที่แห่งนี้ก็กลับมารุนแรงอีกครั้งหลายคนลงมือระเบิดแท่นบูชาเพื่อให้ได้มาซึ่งใบไม้เหล่านั้น
ในระหว่างขั้นตอนนี้สือฮ่าวได้รับประทานขาสัตว์ร้ายซึ่งถูกย่างจนเป็นสีทองอร่าม
คุณภาพของเนื้อสัตว์ประเภทนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นยาวิเศษที่ยอดเยี่ยม โลหิตแก่นแท้ที่อยู่ด้านในเต็มไปด้วยกฏแห่งเต๋าอันยิ่งใหญ่!
“นี่…อร่อยเกินไปจริงๆ!”
เมื่อสือฮ่าวกัดลงไปเพียงคำเดียวใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความหลงใหลอย่างสมบูรณ์ สัญลักษณ์เต๋าสีแดงกระเด็นออกมาจากปากของเขาไม่หยุดหย่อน
เมื่อทุกคนเห็นสิ่งนี้พวกเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธแค้น ฮวงคอยปล้นคนอื่นในขณะที่ตัวเองกำลังรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยไม่ได้ลงมือให้เหนื่อยยากแม้แต่น้อย
แม้ว่าพวกเขาอยากจะสาปแช่งออกมา แต่พวกเขาก็อิจฉาอยู่ข้างใน นั่นเป็นเนื้อของอสูรกาลเวลา! ใครจะมีวาสนาได้กินของแบบนี้?
ตั้งแต่สมัยโบราณอสูรกาลเวลาเป็นเผ่าพันธุ์ที่ไม่มีใครเทียบได้เสมอ ภายใต้การดูแลคุ้มครองของจักรพรรดิแดงในโลกนี้ย่อมไม่มีใครกล้ารุกรานพวกเขา?
ตั้งแต่ตระกูลจักรพรรดิถูกก่อตั้งขึ้นมา ยังไม่เคยมีแม้แต่ครั้งเดียวที่พวกเขาถูกนำไปเป็นอาหาร?
ตอนนี้มีใครบางคนย่างฉีเมิ่งหงและกินขาของเขาต่อหน้าทุกคนดู มิหนำซ้ำยังแสดงสีหน้าท่าทางที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจออกมาไม่หยุด
ใต้ต้นชาสารพัดเต๋าผู้อาวุโสเหล่านั้นไม่ได้หยุดการกระทำของเขา เพียงแต่เฝ้าดูอย่างเย็นชาเท่านั้น
“เขา ... กินมันจริงๆ!”
ในระยะไกลสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นพูดด้วยเสียงสั่นสะท้านราวกับว่าพวกเขาเห็นผีกลางวันแสกๆ ฮวงคนนี้ป่าเถื่อนเกินไปกล้ากินแม้แต่ตระกูลจักรพรรดิ!
“ข้าอยากเห็นว่าใครจะปกป้องเขาได้! เมื่อจักรพรรดิแดงออกมาจากความสันโดษ ต่อให้บรรพบุรุษโบราณคนอื่นๆอยากปกป้องเขาก็ไม่แน่ว่าจะทำสำเร็จ!” ใต้ต้นชาสารพัดเต๋า ผู้อาวุโสคนหนึ่งกล่าวอย่างเย็นชา
ไม่ว่าคนเหล่านี้จะคิดอย่างไร สือฮ่าวก็กินเนื้อของอสูรกาลเวลาจริงๆ
ความรู้สึกของสือฮ่าวตอนนี้เหมือนกับว่าเขาสามารถพัฒนาทะเลแห่งการเกิดใหม่ได้เล็กน้อยจากการรับประทานเนื้อซึ่งเต็มไปด้วยพลังแห่งกาลเวลาพวกนี้
หลังจากนั้นไม่นานขาสัตว์ร้ายทั้งหมดก็ลงไปอยู่ในท้องของเขา
“อู๋! รสชาติยอดเยี่ยมจริงๆ แก่นแท้สวรรค์และปฐพีที่เก็บไว้ในขาประเภทนี้เปรียบได้กับความพยายามในการบ่มเพาะหลายร้อยปี!” สือฮ่าวถอนหายใจและกล่าวสรรเสริญออกมา
สำหรับเขาแล้วมันคือสมุนไพรล้ำค่าที่หาได้ยาก
เนื้อของเผ่าพันธุ์จักรพรรดิ์ผู้ใดจะมีโอกาสได้รับประทานต่อให้มีโอกาสผู้ใดจะกล้า?
นี่เป็นข้อห้ามอย่างแท้จริง แม้ว่าจะมีสิ่งมีชีวิตบางตัวที่ลอบกลืนน้ำลายลงท้อง แต่หากมีโอกาสพวกเขาก็ไม่คิดที่จะทำ ฮวงคนนี้เป็นคนที่มีความกล้าหาญจริงๆ
จากนั้นสือฮ่าวก็ไม่ลังเลอีกต่อไป เขารวบรวมร่างกายของสัตว์ร้ายตัวนี้อย่างตั้งใจ
หลังจากนั้นสือฮ่าวก็นำภาชนะหยกห้าใบออกมา มีใบชาห้าใบที่ถูกบรรจุอยู่ข้างใน รอยยิ้มของเขาสดใสเหมือนกับแสงอาทิตย์ยามเช้า
“ดื่มชาสักถ้วยหลังอาหาร จากนั้นก็นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ” สือฮ่าวกล่าว ก่อนจะลากร่างกายของอสูรกาลเวลาออกไป
เขาเริ่มรวบรวมหิมะศักดิ์สิทธิ์จากยอดเขาที่อยู่ห่างไกลมาเตรียมชงชา
แต่แทนที่เขาจะชงชาดื่มปกติเขากลับยัดทุกอย่างลงไปในหม้อเดียวกันรวมทั้งชิ้นส่วนของร่างกายของฉีเมิ่งหงอีกเล็กน้อย
เมื่อทุกคนได้เห็นฉากนี้ดวงตาของพวกเขาก็เบิกกว้างอยากจะสาปแช่งออกมาดังๆ เพียงแต่ว่าความอิจฉาริษยาในดวงตาของพวกเขาไม่สามารถปิดบังไว้ได้
นี่คือชาสารพัดเต๋าอันล้ำค่า! แต่มันกลับถูกเคี่ยวกับน้ำแกงราวกับสมุนไพรชั้นต่ำ!
สือฮ่าวไม่ได้ให้ความสนใจพวกเขาแต่อย่างใด หลังจากเตรียมอาหารเสร็จแล้วเขาก็ดื่มน้ำแกงลงไปหนึ่งถ้วยโดยไม่ได้จิบเบาๆเหมือนกับคนอื่น นี่เป็นความฟุ่มเฟือยอย่างแท้จริง
เห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นเรื่อยๆ มีคนมากมายที่ต้องการจะลงมือสั่งสอนเขา!
สือฮ่าวหลับตาลงช้าๆ ร่างกายของเขารู้สึกปลอดโปร่งสัมผัสได้ถึงกฎธรรมชาติของสวรรค์และปฐพี
หงหลง!
ความสว่างสดใสกระจายออกมาจากร่างกายของเขา มันสดใสสุกสกาวราวกับว่ามีดวงอาทิตย์ขนาดเล็กปรากฏขึ้นที่ยอดเขาแห่งนี้
รัศมีพลังของเต๋าอันยิ่งใหญ่นั้นเข้มข้นจนน่าประหลาดใจอย่างแท้จริง!
แม้ว่าผู้ยิ่งใหญ่ตระกูลราชามากมายจะไม่เต็มใจที่จะยอมรับ แต่พวกเขาก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าฮวงจะกลายเป็นการดำรงอยู่ระดับสูงสุดของโลกในอนาคต
ทุกคนรู้ว่าเขาได้รับผลประโยชน์มากมายมหาศาลอีกครั้ง
คชา!
มันเหมือนเสียงกระดูกแตก แต่ก็เหมือนสายฟ้าฟาดลงมาสู่พื้นทำให้ปฐพีเกิดการสั่นสะเทือนครั้งใหญ่
ในเวลาเดียวกันร่างกายของ สือฮ่าวก็สั่นสะท้านอย่างรุนแรง ก่อนที่เขาจะลืมตาขึ้นช้าๆเพราะตอนนี้เขาสามารถทะลวงอาณาจักรบ่มเพาะได้แล้ว!
ใบไม้ทั้งห้าใบรวมกันในหม้อเดียวกลายเป็นของเหลวศักดิ์สิทธิ์มันทำให้เขาสามารถรู้แจ้งในเต๋าอันยิ่งใหญ่อย่างรวดเร็ว
อาณาจักรแยกตนเองระดับปลาย!
ในความเป็นจริงเมื่อสือฮ่าวดื่มชาสารพัดเต๋าก่อนหน้านี้ เขารู้สึกได้แล้วว่าเขาอยู่ห่างจากช่วงปลายของอาณาจักรแยกตนเองเพียงไม่กี่ก้าว
อย่างไรก็ตามเขารู้ว่าบางครั้งระยะทางครึ่งก้าวก็เหมือนกับกำแพงที่สูงเสียดฟ้าไม่สามารถปีนป่ายข้ามไปได้ตลอดกาล
ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่ลังเลที่จะรับประทานใบชาทั้งห้าลงไปพร้อมกันในครั้งเดียว
เป็นผลให้เขาสามารถทะลวงอาณาจักรบ่มเพาะได้อย่างราบรื่น!
สือฮ่าวลุกขึ้นยืนเหยียดร่างกายสัมผัสถึงพลังอันยิ่งใหญ่หลังจากฝ่าทะลุแล้ว ขอบเขตการบ่มเพาะของเขาเพิ่มขึ้นทักษะเต๋าย่อมมีความแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม
สิ่งมีชีวิตอื่นๆที่อยู่รอบบริเวณต่างตกตะลึงเล็กน้อย เขากินขาของอสูรกาลเวลาและดื่มน้ำแกงเพียงไม่กี่ถ้วยเขากลับประสบความสำเร็จอย่างง่ายดายเช่นนี้? ยังมีอะไรที่ไร้สาระไปกว่านี้อีกหรือ!
พวกเขาทุกคนกรีดร้องสาปแช่งความอยุติธรรมของสวรรค์ ทำไมคนผู้นี้ถึงสามารถสร้างความโกรธแค้นให้กับพวกเขาได้ไม่หยุดไม่หย่อนตลอดเวลา!
ในตอนนี้ใครจะกล้าลงมือต่อสู้กับเขาอีก ต่อให้เป็นครึ่งก้าวผู้สูงสุดก็ยังขาดความมั่นใจนับประสาอะไรกับคนอื่น?
ทันใดนั้นสายตาของสือฮ่าวก็สอดส่ายมองไปที่สิ่งมีชีวิตทุกคนราวกลับกำลังมองเหยื่ออันโอชะ
ผู้คนมากมายรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง การถูกจ้องมองโดยเด็กหนุ่มคนนี้ทำให้ร่างกายของพวกเขาตึงเครียด
“พวกเจ้าทำได้ไม่เลวจริงๆ ใบชาสามใบนั้นรีบส่งมันมาให้ข้า! มาชำระหนี้ของพวกเจ้าอย่าให้ข้าต้องลงมือ” สือฮ่าวมองไปยังกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง
ใบหน้าของผู้ยิ่งใหญ่ตระกูลราชาพวกนั้นซีดเผือดไร้สีเลือด เหตุใดสายตาของฮวงจึงชั่วร้ายเช่นนี้? พวกเขาลงมือกันแทบตายในที่สุดก็ได้ใบที่สามมา แต่เขากลับสังเกตเห็นมันอย่างรวดเร็ว!
พวกเขาได้ใบที่สามมาด้วยความยากลำบาก แต่ในที่สุด ... พวกเขาก็ต้องส่งมันออกไปอีกครั้ง!
ตอนนี้พวกเขาอยากร้องไห้ออกมาจริงๆ โอกาสสามครั้งในการทำความเข้าใจเต๋าหลุดลอยออกไปเช่นนี้
ทำไมตอนแรกพวกเขาต้องยั่วโมโหฮวง? ถ้าพวกเขารู้ว่าสิ่งต่างๆจะจบลงเช่นนี้พวกเขาจะไม่ฟังคำสั่งของฉีเมิ่งหงแน่นอน!
“ส่งมันออกไปเถอะยังดีกว่าตาย แม้แต่ฉีเมิ่งหงก็ยังถูกเขากินลงท้อง การที่เรามอบใบไม้สามใบออกไปก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องน่าอับอายนักหรอก เริ่มจากอันที่สี่มันจะเป็นของเราอย่างแท้จริง!” หนึ่งในนั้นพยายามกล่าวให้กำลังใจตัวเองเพื่อให้หลุดพ้นจากสถานการณ์ที่น่าอับอายในครั้งนี้