352 - ปล้นอีกครั้ง
1662 - ปล้นอีกครั้ง
แสงเทียนริบหรี่เป็นตัวแทนของเวลาและลำดับของสวรรค์ ในขณะเดียวกันกลิ่นเทียนลอยขึ้นสู่ฟ้ากลายเป็นเกลียวฉีกโดมสวรรค์แสดงพลังที่ไม่มีใครเทียบได้
อีกฝ่ายลงมือไปแล้ว สือฮ่าวจะรอช้าอยู่ได้อย่างไร? ไม่ว่าเขาจะอยากรู้อยากเห็นแค่ไหนแต่เขาก็ไม่ใช่คนโง่เขาอย่างแน่นอน
คราวนี้เขายังคงใช้พลังจากกระดูกชิ้นที่สามและเลือดสูงสุดอีกครั้ง เพราะตอนนี้เลือดของเขากำลังเดือดเพล่านอย่างที่ไม่สามารถควบคุมได้ มันปรารถนาที่จะถูกปลดปล่อย
ต๋อง!
เสียงกังวานดังขึ้นอีกครั้ง เลือดกระเซ็นขึ้นไปในอากาศฉาบท้องฟ้าให้เป็นสีแดงฉาน
ฉีเมิ่งหงถูกกระแทกจนร่างกายของเขาถูกทำลายลงไปครึ่งหนึ่ง ถ้าไม่ใช่เพราะวิญญาณดั้งเดิมอสูรกาลเวลาของเขาสามารถหลบหนีในช่วงเวลาสำคัญได้ ตอนนี้เขาก็คงตายไปแล้ว
เป็นเพราะตอนนี้มีรูเลือดสีแดงขนาดใหญ่อยู่ระหว่างคิ้วของฉีเมิ่งหง นิ้วของสือฮ่าวทะลวงเข้ามาอย่างรวดเร็วจนแม้แต่ผู้สูงสุดที่อยู่บริเวณโดยรอบยังไม่สามารถลงมือช่วยเหลือได้ทัน
สำหรับเทียนเหล่านั้นพวกมันถูกบดขยี้โดยตรงด้วยพลังหมัดของสือฮ่าว แสงเทียนดับลงควันที่ลอยขึ้นเป็นเกลียวกระจัดกระจายออกไปอย่างย่อยยับ
“อา…” หลังจากที่พยายามรวบรวมโลหิตแก่นแท้หลายหยดวิญญาณดั้งเดิมของอสูรกาลเวลาก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า มันส่งเสียงคำรามเกรี้ยวกราดแบกความอัปยศอดสูและความคับแค้นหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
“เจ้าคิดว่าจะหนีไปได้หรือ!”
สือฮ่าวยื่นมือขนาดใหญ่ออกไปปิดท้องฟ้าทันทีก่อนจะคว้าวิญญาณดั้งเดิมของฉีเมิ่งหงมาไว้ในมือ
อย่างไรก็ตามมีคนมากมายลงมือหยุดเขา โดยเฉพาะผู้อาวุโสที่ทำหน้าที่ปกป้องต้นชาสารพัดเต๋า พวกเขาไม่ปล่อยให้สือฮ่าวลงมือตามอำเภอใจอีกแล้ว
เป็นเพราะหากผู้เชี่ยวชาญรุ่นเยาว์ของตระกูลจักรพรรดิเสียชีวิตที่นี่ พวกเขาทุกคนจะมีความผิดร้ายแรงและอาจถึงขั้นถูกล้างตระกูลเลยก็ได้!
สือฮ่าวหัวเราะและไม่ได้ลงมืออีกต่อไป ผลแพ้ชนะปรากฏ มันเพียงพอสำหรับเขาแล้ว
ผู้แข็งแกร่งของตระกูลจักรพรรดิดีเอาชีวิตรอดจากการช่วยเหลือของผู้คนมากมาย สิ่งนี้สร้างความเบิกบานให้กับเขาเป็นอย่างมาก
“ฮ่าฮ่าฮ่า…” สือฮ่าวคำรามพร้อมกับเสียงหัวเราะ เสียงของเขาระคายหูผู้คนที่อยู่ที่นี่จนแทบไม่สามารถทนได้
เป็นเพราะพวกเขาพ่ายแพ้อีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นผู้ที่พ่ายแพ้ยังเป็นตระกูลจักรพรรดิ เหตุผลที่ฉีเมิ่งหงสามารถหนีไปได้ในที่สุดก็เพราะความช่วยเหลือของทุกคน
สำหรับพวกเขายังจะมีอะไรชอกช้ำไปกว่านี้อีก? ชายหนุ่มเพียงคนเดียวกับสามารถท้าทายอัจฉริยะผู้ยิ่งใหญ่ของดินแดนฝั่งนี้ทั้งหมด ท้ายที่สุดก็ยังเป็นเขาที่คว้าชัยชนะไปได้ทุกครั้ง!
อวี่อวี้ อู๋คุน และคนอื่นๆต่างแสดงความกระเหี้ยนกระหือรืออยากลงมือ
แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ไม่ได้มีความมั่นใจในตัวเองแม้แต่น้อย เพราะฉีเมิ่งหงซึ่งได้ชื่อว่าแข็งแกร่งมากที่สุดในหมู่พวกเขาก็ยังพ่ายแพ้ไปแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาก็ยังต้องการใบชาสารพัดเต๋าอีกมาก หากได้รับบาดเจ็บไปมันจะส่งผลต่อเรื่องนี้ไม่น้อย
สือฮ่าวหัวเราะเสียงดัง โดยพื้นฐานแล้วนี่เป็นการยั่วยุโดยไม่จำเป็นต้องปิดบัง สายตาของเขากวาดมองไปที่ผู้ยิ่งใหญ่ของตระกูลราชาทุกคนที่อยู่บริเวณนี้ ใบหน้าของพวกเขาซีดเซียวเต็มไปด้วยความเจ็บแค้นแต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้
บนพื้นตอนนี้ร่างของฉีเมิ่งหงกลายเป็นสัตว์ร้ายตัวหนึ่งไปแล้ว มันมีขนาดตัวไม่ใหญ่มากนักเพียงสามสี่จ้างเท่านั้น ลำตัวของมันเป็นสีแดงสดถูกปกคลุมไปด้วยเดือยแหลมคมที่น่าหวาดกลัว
ลักษณะของมันก็คล้ายกับวิญญาณดั้งเดิมของเขานี่คือร่างดั้งเดิมของอสูรกาลเวลา
สือฮ่าวเข้าไปใกล้ๆร่างของสัตว์ร้ายตัวนั้น นิ้วของเขากลายเป็นสีทองก่อนจะเฉือนเข้าที่ขาข้างหนึ่งของมัน เขาเลือกขาข้างที่สมบูรณ์ที่สุดที่เหลืออยู่ และถือมันไว้ในมือ
“เจ้า…เจ้ากำลังพยายามทำอะไรอยู่!” ผู้เชี่ยวชาญของตระกูลราชาตัวสั่น เขารวบรวมความกล้าตะโกนออกไป
“ข้ากำลังรวบรวมสิ้นสงครามของข้า มันเกี่ยวข้องอะไรกับเจ้า? ถ้าไม่อยากตายก็ไสหัวไป!” ดวงตาของสือฮ่าวเย็นชา เขาปลดปล่อยไอสังหารออกมาอีกครั้ง
ผู้เชี่ยวชาญของตระกูลราชารู้สึกได้ทันทีว่าร่างกายของเขามีความหนาวเย็นแทรกซึมเข้ามาในกระดูกราวกับว่าตกลงไปในบ่อน้ำแข็งพันปีอันหนาวเหน็บ
เขาไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีกแม้แต่คำเดียว ก่อนจะถอยหลังลงไปจากยอดเขาอย่างรวดเร็ว
“ฮวงเจ้าทำเกินไปแล้ว” มีคนสองสามคนตะโกนออกมา
ตอนนี้พวกเขากำลังรวมตัวกันเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง เพราะพวกเขากลัวว่าฮวงอาจพุ่งเข้ามาลงมือสังหารพวกเขาทันทีที่เอ่ยปาก
สือฮ่าวไม่ได้ให้ความสนใจคนพวกนี้ เขานั่งลงทำความสะอาดขาสัตว์ร้ายโดยตรง ก่อนจะจุดไฟไฟเซียนที่อยู่ในร่างกายและเริ่มย่างขาข้างนั้น
เมื่อเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าเริ่มขึ้นก็มีคนมากมายตกตะลึงอ้าปากค้าง
ตอนแรกพวกเขาคิดว่าฮวงจงใจทำลายร่างกายของฉีเมิ่งหงโดยใช้สิ่งนี้เป็นการสร้างความอัปยศอดสูให้กับคู่ต่อสู้
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเขาจะใช้ขาของผู้แข็งแกร่งตระกูลจักรพรรดิมาทำเป็นอาหาร!
“เจ้าทำอะไรอยู่! เจ้ากำลังกระตุ้นความโกรธแค้นของผู้คนมากมาย!” ไม่ไกลออกไปคนรับใช้ของฉีเมิ่งหงกรีดร้องด้วยความกลัวอย่างแท้จริง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งทาสเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ร่างกายของเขาถูกทำลายเป็นชิ้นๆเหลือเพียงศีรษะเท่านั้น เขาอยู่ไม่ไกลกับสือฮ่าวในตอนนี้
คนรับใช้ที่เป็นมนุษย์คนนี้กำลังสั่นกระตุก เขาหวาดกลัวอย่างแท้จริง เจ้านายที่เขาเทิดทูนกำลังถูกจอมปีศาจคนนี้ย่างเป็นอาหาร?
อย่างไรก็ตามเขายังคงรวบรวมความกล้าและตะโกนว่า“ฮวงเจ้าทำแบบนี้ไม่ได้! มันป่าเถื่อนและโหดร้ายเกินไป! พวกเขาเป็นถึงเผ่าพันธุ์จักรพรรดิเจ้าจะกินเขาได้อย่างไร!”
“เจ้าเป็นเพียงทาสคนหนึ่งจะไปรู้เรื่องอะไร หากไม่อยากตายก็หุบปากเดี๋ยวนี้!” สือฮ่าวกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
จากนั้นเขาก็ย่างขาสัตว์ร้ายตัวนั้นพร้อมกับพูดว่า“ สิ่งมีชีวิตต่างแดนกินเผ่าพันธุ์มนุษย์ของข้าโดยไม่จำเป็นต้องอธิบายด้วยเหตุผลใดๆ เพราะคนที่อ่อนแอย่อมตกเป็นเหยื่อของผู้ที่แข็งแกร่งกว่า
ในฐานะมนุษย์นี่คือทั้งหมดที่ข้าสามารถทำได้ ทุกคนที่กินมนุษย์เป็นอาหาร ข้าก็สังหารพวกมันและทำอย่างนี้เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีของเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่หายไป และนี่คือสิ่งที่พวกเจ้าจะเห็นด้วยตาของตัวเอง!”
มารดามันเถอะ รับประทานเนื้อของเผ่าพันธุ์จักรพรรดิ์เป็นอาหาร? แม้แต่การรับประทานอาหารก็เป็นการกอบกู้ศักดิ์ศรีประเภทหนึ่ง? มันทำให้สิ่งมีชีวิตจำนวนมากเต็มไปด้วยความหวาดกลัว!
“โอ้! ยอดเยี่ยมมากเจ้าได้ใบชามาอีกใบแล้ว รีบส่งมันมาให้ข้าเร็ว” สือฮ่าวมองไปที่คนของตระกูลราชาคนหนึ่ง
“เจ้า..เจ้ากำลังปล้นเรา!”
“เจ้าเข้าใจถูกต้องแล้ว ข้ากำลังปล้นเจ้า!” สือฮ่าวตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ
ใบหน้าของผู้บ่มเพาะตระกูลราชากลายเป็นเขียวคล้ำขึ้นทันที พวกเขาโกรธมากและสาปแช่งฮวงให้ตายด้วยความเจ็บปวดทรมาน?
การปล้นทำอย่างเปิดเผยและไร้ซึ่งความอาย โดยระบุว่านี่เป็นเพียงเรื่องปกติมันทำให้ผู้คนมากมายอยากจะอาเจียนเป็นโลหิต อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฮวง
ผู้คนในกลุ่มนี้ต่างสอดส่ายสายตามองหาความช่วยเหลือจากสิ่งมีชีวิตกลุ่มอื่น แต่อย่างไรก็ตามผู้คนมากมายต่างหันหน้าหนีราวกับพวกเขามองไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น
“ข้าไม่อยากฟังเรื่องไร้สาระและอย่าเสียเวลาไปเปล่าๆ เป็นพวกเจ้าเลือกที่จะรับใช้ฉีเมิ่งหงจนลงมือขัดขวางไม่ให้ข้าได้ใบชาสารพัดเต๋ามา ตอนนี้พวกเจ้าต้องชดใช้!” สือฮ่าวกล่าว
เขานั่งบนพื้นโดยถือขาสัตว์ร้ายขนาดใหญ่ไว้ในมือ มันมีความสูงมากกว่าครึ่งหนึ่งของคนปกติ เปลวไฟเต๋าที่พุ่งออกมาเผาผลาญมันซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“แต่เมื่อสักครู่เจ้าเอาใบไม้ไปจากเราแล้ว!” หนึ่งในผู้ฝึกฝนตระกูลราชาเหล่านั้นกล่าวออกมาอย่างหมดหนทาง
เขารู้สึกอับอายมากนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาถูกปล้นตอนนี้มันตรงไปตรงมากว่าเดิมด้วยซ้ำ ถ้าพวกเขาแข็งแกร่งพอพวกเขาก็อยากจะสู้ต่อไปจริงๆ!
“แน่นอนข้ารู้เรื่องนี้ หลังจากปล้นพวกเจ้าแล้วข้าก็ไปชำระหนี้กับฉีเมิ่งหง” สือฮ่าวกล่าวอย่างใจเย็น
อย่างไรก็ตามเมื่อทุกคนได้ยินคำพูดเหล่านี้พวกเขากลับรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที ฮวงพยายามจะพูดอะไร? นี่เป็นคำเตือนหรือไม่?
เป็นเพราะหลังจากชำระหนี้กับฉีเมิ่งหงผู้เชี่ยวชาญรุ่นเยาว์ของ ตระกูลจักรพรรดิ์คนนี้ก็เกือบจะถูกสังหาร วิญญาณดั้งเดิมของเขาหลบหนีไปด้วยความยากลำบากจากการช่วยเหลือของผู้อื่น
"เอาไป!"
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะยอมแพ้ หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญของ ตระกูลราชาเดินเข้ามายื่นใบไม้ให้ด้วยอารมณ์ที่บูดบึ้งอย่างมาก
"ขอบคุณสหาย!" สือฮ่าวประสานมือขอบคุณอย่างจริงใจ
ใบหน้าของผู้คนเหล่านั้นมืดลงทันที ขอบคุณ? ขอบคุณตูดข้านี่!