ตอนที่ 559+560 ไม่ได้แก่ขนาดนั้น
ตอนที่ 559 ไม่ได้แก่ขนาดนั้น
ลู่อี้ชิงไม่ได้คาดหวังว่าคำพูดเหล่านั้นจะออกมาจากปากของเจียงเหยา เธอเขกศีรษะของเจียงเหยาและพูดว่า “ทำไมตอนนี้ฉันถึงได้รู้สึกว่าตัวเองมีลูกสาวกันนะ?”
แล้วเธอก็หัวเราะ “ฉันไม่ได้คิดว่าคุณหวงเขาแก่เสียหน่อย เขาอายุประมาณสามสิบเองไม่ใช่เหรอ? เขาคงจะเสียใจน่าดูที่ได้ยินเธอพูดถึงเขาแบบนี้?”
สำหรับความคิดของเจียงเหยาที่บอกว่าหวงเฉิงจิ้งมีแรงจูงใจที่ปิดบังลู่อี้ชิงอยู่นั่น เธอเลือกที่จะเงียบ
เธอเคยเห็นผู้คนจากทุกสารทิศมากกว่าเจียงเหยา และสามารถแยกแยะคนดีคนเลวได้ไม่ยาก
ความผิดพลาดอย่างเดียวของเธอคือการตกลงปลงใจอยู่ร่วมกับจ้าวจวนซ่ง
เธอตระหนักถึงความตั้งใจของหวงเฉิงจิ้งเป็นอย่างมาก แต่เธอไม่ต้องการที่จะยอมรับเขา เธอไม่ต้องการผู้ชายที่จะได้ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่อะไร และเธอไม่ได้วางแผนที่จะมองหาใคร เกรงว่าเขาคนนั้นจะขัดต่ออิสรภาพของเธอ
บางครั้งบางทีการอยู่คนเดียวอาจจะดีกว่า อย่างน้อยก็ทำให้ปัญหามันน้อยลง
ดังนั้นเธอจึงไม่ได้ให้คำตอบกับหวงเฉิงจิ้งในทันที เธอต้องการทราบข้อมูลของเขาเพิ่มเติม ไม่ว่าเขาจะเป็นคนที่มีเหตุผล สามารถแยกแยะเรื่องส่วนตัวและเรื่องงานได้ก็ตาม
แต่กระนั้น...
ลู่อี้ชิงเหลือบมองเจียงเหยา “เมื่อกี้เธอบอกว่าคุณหวงพยายามแย่งฉันไปจากเธอ ทำไมถึงบอกแบบนั้นล่ะ? เธออยากให้ฉันทำงานให้เธอเหรอ”
“ฉันกำลังวางแผนที่จะตั้งบริษัทผลิตยาและสถาบันวิจัยค่ะ พอรู้ว่าพี่ออกจากงานแล้ว ฉันคิดว่าพี่น่ะเก่งด้านบัญชี” เจียงเหยาหัวเราะคิกคัก “มืออาชีพน่ะ พี่เหมาะสำหรับงานนี้มากแล้วล่ะ”
เจียงเหยามองไปที่ลู่อี้ชิงด้วยความคาดหวังในสายตาของเธอ “กิจการหลักในการจัดตั้งบริษัทผลิตยาและสถาบันวิจัยได้รับการสนับสนุนจากชิงสีค่ะ”
ลู่อี้ชิงตกตะลึง
เธอรู้ว่าลู่ชิงสีมีส่วนทำให้เจียงเหยากลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของโรงพยาบาลเฉิงอ้าย จึงไม่แปลกใจการเหตุการณ์ที่พลิกผันสักเท่าไหร่ อีกอย่างเจียงเหยาจดจ่อกับการเรียน ทำให้เธอสันนิษฐานได้ว่าทุกอย่างคงถูกจัดการโดยลู่ชิงสี
ไม่แปลกใจเลยว่าลู่อี้ชิงจะตกใจ เมื่อได้ยินแนวคิดทางธุรกิจของเจียงเหยา
การจัดการทางการเงินเป็นหน้าที่ของเธอ และลู่อี้ชิงรู้ว่าการลงทุนของเจียงเหยามีมูลค่าสูงถึงร้อยล้าน
สิ่งที่น่าตกใจกว่านั้นคือความจริงที่ว่าลู่ชิงสีไว้วางใจเด็กสาวอายุเพียงสิบเก้าปีให้ตัดใจทั้งหมดได้อย่างเต็มที่
“นี่ไม่ใช่เวลาที่พูดเรื่องนี้ ไว้ฉันจะบอกรายละเอียดเพิ่มเติมกับพี่ในช่วงสุดสัปดาห์นะคะ” เจียงเหยาสิ้นสุดการสนทนาของเธอ เมื่อเห็นหวงเฉินเฉินและประธานหวงกำลังมุ่งหน้ามาที่นี่
“พี่อี้ชิง! พี่เหยาเหยา!”
หวงเฉินเฉินปล่อยมือจากปู่ของเธอ เมื่อเธอได้เห็นหญิงสาวทั้งสองและวิ่งมาหาพวกเธอ
“ช้าลงหน่อย เดี๋ยวจะหกล้ม!” ลู่อี้ชิงรีบจับตัวเด็กหญิงเล็ก ๆ ไว้ และกล่าวเตือนเธอ
__
ตอนที่ 560 เข้าสู่สังคมชั้นสูง
“หนูไม่กลัวหรอก หนูรู้ว่าพี่อี้ชิงต้องมาจับหนูไว้ได้ทัน” ทำไมเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ เช่นหวงเฉินเฉินถึงต้องรู้สึกกลัว? ถ้ามีหญิงสาวอยู่ เธอคิดว่ามันเป็นเกมที่น่าสนุกดีออกที่จะได้วิ่งเล่น
หลังจากใช้เวลากอดในอ้อมกอดของลู่อี้ชิง หวงเฉินเฉินก็ถอนตัวออกมาและหมุนตัวเล็กน้อยต่อหน้าหญิงสาวทั้งสอง ก่อนที่จะพูดจาโผงผาง ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ เธอถาม “พี่เหยาเหยา พี่อี้ชิง พวกพี่ชอบชุดของหนูไหมคะ? สวยไหม?”
“แน่นอนอยู่แล้ว! ที่นี่หนูสวยที่สุดเลย เจ้าหญิงน้อย!” เจียงเหยายิ้มอย่างสดใสและสังเกตเห็นปฏิสัมพันธ์ของลู่อี้ชิงและหวงเฉินเฉิน ก่อนที่จะหันความสนใจไปที่ประธานหวงที่ใจดี “ประธานหวง! ผ่านไปหนึ่งเดือนแล้ว คุณดูมีกำลังวังชาเหมือนเดิมแล้วนะคะ ร่างกายคงพักฟื้นได้ดีทีเดียวใช่ไหมคะ?”
“แน่นอน! ฉันพักที่บ้านมาหลายเดือนแล้ว พ่อของเฉินเฉินเป็นคนดูแลบริษัท” ประธานหวงยิ้มอย่างอ่อนโยน สายตาของเขาเหลือบมองไปที่ลู่อี้ชิงและพูดว่า “นี่คือคุณลู่ใช่ไหมครับ? ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เฉินเฉินพูดถึงคุณอยู่บ่อย ๆ ผมหวังว่าเธอคงไม่รบกวนคุณมากเกินไปนะครับ”
ลู่อี้ชิงยืนขึ้นและยิ้มให้กับประธานหวงขณะที่ส่ายหน้าไปด้วย “ไม่เลยค่ะ เธอน่ารักค่ะ!”
ในฐานะปู่ ไม่มีอะไรทำให้เขามีความสุขมากขึ้นเมื่อได้ยินว่าหลานสาวที่ล้ำค่าของเขาถูกชมเชย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นคำกล่าวของลู่อี้ชิงที่พูดออกมาอย่างจริงใจ ประธานหวงจึงยินดีเป็นอย่างยิ่ง
“ขอบใจมากเลยนะครับเรื่องวันก่อนน่ะ ถ้าไม่ใช่คุณ ผมไม่แน่ใจว่าเด็กจอมซนคนนี้จะไปจบลงที่ไหน”
ประธานหวงไม่สามารถช่วยอะไรได้ แต่รู้สึกกระวนกระวายอยู่ภายในใจเมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้น แม้ว่าเธอจะอายุเพียงสามขวบ แต่หวงเฉินเฉินก็เป็นเด็กที่ดื้อรั้น การหายตัวไปอย่างกะทันหันของเธอเกือบทำให้ประธานหวงต้องเข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง”
เจียงเหยาเดินเล่นรอบ ๆ ในช่วงที่ลู่อี้ชิงพูดคุยอยู่กับหวงเฉินเฉินและประธานหวง
หวงเฉิงจิ้งสังเกตเห็นและเรียกเธอเพื่อจะแนะนำแขกบางคนในคืนนี้ให้เจียงเหยาได้รู้จัก
ในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัวที่มีชื่อเสียงในเมืองหนานเจียง การแนะนำเจียงเหยาของหวงเฉิงจิ้งทำให้เธอกลายเป็นที่น่าสนใจในทันที
หลายคนประหลาดใจที่ได้เจอหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาและรู้ว่าเธอคือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของโรงพยาบาลเฉิงอ้าย
เป็นที่ทราบกันดีว่าตระกูลฉีเป็นเจ้าของคนก่อนของโรงพยาบาลเฉิงอ้าย แต่เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวการเปลี่ยนมือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ทว่าตระกูลฉีไม่เต็มใจที่จะพูดถึงเรื่องนี้ จึงไม่มีใครรู้ว่า เจ้าของคนใหม่คือใคร
มีการคาดเดามากมายทั่วห้องจัดงาน ว่าหญิงสาวคนนี้เป็นใครกันแน่?
“คุณมาจากไหนเหรอครับคุณเจียง” มีคนอยากจะทราบข้อมูล
“เจียงเหยาเขาไม่ใช่คนบ้านเราหรอก เธอมาเรียนที่เมืองหนานเจียง ผมคิดว่าคุณคงรู้จักชื่อของเธอดี เพราะเธอคือคนเดียวกับที่เคยช่วยชีวิตพ่อของผมตอนที่เขาหมดสติในร้านอาหารยือเอีย พูดตามตรง เธอคือคนที่ช่วยชีวิตครอบครัวของเราไว้ครับ”
เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ใกล้ชิดของเขากับเจียงเหยา หวงเฉิงจิ้งได้เอ่ยชื่อเธอต่อหน้าแขก แทนที่จะเป็น ‘คุณเจียง’
“ส่วนหุ้นของเจียงเหยา ตระกูลฉียอมมอบเป็นของขวัญให้กับเธอ” ตระกูลฉีได้ส่งของขวัญมาให้ในคืนนี้ด้วย แต่ไม่มีตัวแทนอยู่ที่นั่น ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด หวงเฉิงจิ้งก็ไม่มีปัญหาในการทำให้ตระกูลฉีตกต่ำเพื่อเพิ่มสถานะของเจียงเหยา