ตอนที่ 557+558 คนที่คล้าย ๆ กัน
ตอนที่ 557 คนที่คล้าย ๆ กัน
หวงเฉิงจิ้งลากเพื่อนของเขาในชุดสูทสีเทาและแนะนำให้เขารู้จักกับหญิงสาวทั้งสองคน “นี่หุ้นส่วนของผมครับ เฉิงจินหยาง เขาเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ”
เขาต้องการแนะนำเจียงเหยาและลู่อี้ชิงให้รู้จักกับเฉินจินหยาง ชายหนุ่มหันไปมองหุ้นส่วนของเขาที่ตอนนี้กำลังจ้องมองเจียงเหยาอย่างไม่ค่อยสุภาพสักเท่าไหร่
“คุณเฉิง หน้าฉันมีอะไรผิดปกติหรือเปล่าคะ?” เจียงเหยาหันหน้าหนีและถามเขา
เมื่อถอนสายตาออกจากเธอ เฉิงจินหยางดูเหมือนจะไม่ได้กล่าวคำขอโทษกับการกระทำของเขา แต่เขากลับถามออกไปในทันที “คุณเจียง ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับซุนเซียวจ้านคืออะไรครับ?”
“ใครเหรอคะ? ซุนเซียวจ้าน?” เจียงเหยาทำท่างงงวย “ฉันไม่รู้จักคนที่คุณกำลังพูดถึงค่ะ ทำไมเหรอคะ? เดี๋ยวนะ หรือคุณกำลังจะบอกว่าเธอเป็นรักแรกของคุณ และฉันหน้าเหมือนเธออย่างนั้นเหรอคะ?”
“รักแรก?” เฉิงจินหยางหัวเราะ “คุณนี่ช่างจินตนาการเสียจริงนะครับคุณเจียง ถึงแม้ว่าเธอจะหน้าตาคล้ายคุณก็เถอะ”
หยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะกล่าวเสริมว่า “หรือผมควรจะบอกว่า ทั้งคุณและซุนเซียวจ้ายดูคล้ายผู้อาวุโสที่ผมรู้จัก”
‘ไม่คิดว่าจะมีคนหน้าตาคล้ายกันกับฉัน พูดซะฉันขนลุกเชียว’ เจียงเหยาคิด เธอไม่ได้คาดหวัง แต่ตระหนักว่าเฉิงจินหยางไม่ได้ล้อเล่นกับเธอ นั่นคงเป็นเหตุผลที่เขาจ้องเธออย่างตั้งใจ
“คุณเคยไปที่เมืองปิง จังหวัด A มาก่อนไหมครับคุณเจียง” เฉิงจินหยางถาม
“ไม่เคยค่ะ” เจียงเหยายิ้ม “ฉันเกิดและเติบโตที่บ้านเกิด เพิ่งจะเคยออกจากที่นั่นหลังเรียนจบมัธยมปลายก็ที่เมืองหนานเจียงเท่านั้นค่ะ อ้อ ฉันเคยไปที่เมืองจินโดกับสามีครั้งหนึ่ง”
เมืองปิงเป็นเมืองที่ได้รับความนิยมอย่างมากในจังหวัด A เป็นเมืองที่มีรากฐานทางประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้งและเคยเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิเมื่อสองสามร้อยปีก่อน
“เข้าใจแล้วครับ ดูเหมือนว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างในโลกนี้ที่เราไม่สามารถอธิบายได้สินะครับ ผมคิดว่าคนสองคนที่ไม่เกี่ยวข้องกัน ก็คงมีหน้าตาเหมือนกันได้” เฉินจินหยางรู้สึกประหลาดใจอย่างแท้จริง
ลู่อี้ชิงยังคนพูดต่อ “ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้นได้เหมือนกันนะ จำช่างไม้ในเมืองของเราได้ไหม?”
“จำได้ค่ะ! เขาดูคล้ายกับดารามากเสียจนคนคิดว่าพวกเขาเป็นฝาแฝด” เจียงเหยาหัวเราะคิกคัก “เขาไปทำงานในเมือง ทุกคนต่างไล่ตามเขา เพราะคิดว่าเขาเป็นดารา”
เจียงเหยาได้ยินจากช่างไม้และได้เห็นเขากับตาของเธอเองมาก่อน เขาดูคล้ายกับดาราภาพยนตร์และถามพ่อกับแม่เขาว่า เขามีพี่หรือน้องชายที่หายสาบสูญไปหรือไม่ หลังจากที่ได้ดูหนังเรื่องนั้น
“คุณเจียงแต่งงานแล้วเหรอครับ?” เฉิงจินหยางตระหนักว่าเจียงเหยาพูดถึงสามีของเธอ และมองดูเธอด้วยความประหลาดใจ
“คุณดูอายุยังไม่ถึงยี่สิบเลยนะครับ!”
___
ตอนที่ 558 การบีบบังคับ
“ฉันอายุสิบเก้าปีค่ะ” เจียงเหยายิ้ม “ฉันแต่งงานเมื่อปีที่แล้ว คิดว่าสามีคงจะกลัวว่าผู้หญิงดี ๆ อย่างฉันจะถูกแย่งไป นั่นแหละสามีที่เขารีบค่ะ”
เธออธิบายอย่างตลกขบขัน แม้แต่เฉินหวงจิ้งก็หัวเราะออกมา เมื่อได้ยินที่เธอเล่า
เฉิงจินหยางเลิกคิ้วและมองไปที่ลู่อี้ชิง “แล้วคุณล่ะครับ แต่งงานแล้วหรือยัง”
ลู่อี้ชิงถูกจ้องมองพร้อมด้วยคำถามของเฉิงจินหยาง เธอจึงได้สติกลับมา และตอบไปว่า “ค่ะ”
และพูดเสริมหลังจากหยุดไปครู่หนึ่งว่า “แต่ ฉันหย่าแล้ว”
เจียงเหยามองไปที่เฉิงจินหยางซึ่งกำลังยิ้มอย่างลึกลับและเหลือบมองหวงเฉินจิ้ง เมื่อเขาถามคำถามลู่อี้ชิง
“ยังดูสาวอยู่เลยนะครับ! ผมนี่ดูไม่ออกเลย” เฉิงจินหยางหัวเราะคิกคัก จากนั้นเขาก็หาข้อแก้ตัวและจากไปอย่างรวดเร็ว
“ผมต้องขอโทษแทนเพื่อนผมด้วยนะครับ เขาเติบโตในต่างประเทศ ค่านิยมต่าง ๆ ก็อาจจะแตกต่างกับเราอยู่หน่อย ๆ ขอโทษที่เขาเอาแต่ถามไม่หยุดหย่อนนะครับ” หวงเฉิงจิ้งคร่ำครวญถึงการกระทำที่ไร้ความรับผิดชอบของเพื่อนรักของเขาที่ได้จากไป ทิ้งให้เขาต้องชำระทุกอย่างเพียงลำพัง
แต่เพราะเฉิงจินหยางได้เปิดเผยตำตอบที่หวงเฉิงจิ้งต้องการทราบ เลยทำให้เขาในตอนนี้ติดค้างเพื่อนรักคนนี้
หวงเฉิงจิ้งแอบเหลืองมองไปที่ลู่อี้ชิง ใบหน้าของหญิงสาวไม่ได้ทรยศต่อความรู้สึกของเจ้าของเลย ก่อนที่จะนำหญิงสาวทั้งสองเข้าไปในห้องจัดเลี้ยง
ตามที่หวงเฉิงจิ้งคาดไว้ ผู้หญิงในวัยเดียวกับลู่อี้ชิงที่มายังเมืองหนานเจียงเพียงลำพังโดยไม่มีข้อจำกัดทางครอบครัว ก็คงจะหนี้ไม่พบสถานะหย่าร้างหรือเป็นม่าย
ในตอนแรกเขาคิดว่าเธอสูญเสียสามีไปแล้ว แม้ว่าการหย่าร้างจะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ผู้หญิงจำนวนมากก็ยังขาดความกล้าที่จะทำเช่นนั้นเพราะมักจะถูกสังคมตีตราในเชิงลบ
นอกจากนี้ มีผู้หญิงจำนวนไม่มากนักที่หลังหย่าร้างสามารถมีชีวิตที่ไร้กังวลได้
....
ในฐานะเจ้าภาพของงานในคืนนี้ หวงเฉิงจิ้งต้องให้ความบันเทิงแก่แขกคนอื่น ๆ เจียงเหยาและลู่อี้ชิงต่างเป็นจุดสนใจของคนอื่น ๆ ภายในงานเลี้ยง
อาจเพราะพวกเธอเป็นคนหน้าใหม่ในเมืองนี้ ผู้คนในสังคมมากมายในเมืองหนานเจียงไม่คุ้นเคยกับเจียงเหยา
ห้องจัดเลี้ยงเป็นภาพที่ตระการตาสำหรับเจียงเหยา ห้องถูกตกแต่งอย่างหรูหราและแวววาว เธอรู้เพียงว่างานกาล่าเปิดงานในคืนนี้ถือเป็นงานที่ยิ่งใหญ่สำหรับบริษัทฟินิกซ์ทอง
บริษัทฟินิกซ์ทอง ในตอนแรกเจียงเหยาคิดว่ามันเป็นชื่อที่เป็นตัวแทนของความหวังและแรงบันดาลใจของบริษัทของหวงเฉิงจิ้งเสียอีกอีก เธอเพิ่งรู้ในตอนนี้นี่เองว่าคำว่า ‘ทองคำ’ เป็นตัวแทนของเฉิงจินหยาง ในขณะที่คำว่า ‘ฟินิกซ์’ ให้ความหมายแทนหวงเฉิงจิ้ง
“พี่คะ พี่ใช้เวลาสองสามวันอยู่ที่เมืองหนานเจียงแล้วใช่ไหมละคะ พี่มีแผนยังไงต่อคะ” เจียงเหยาส่งแชมเปญแก้วหนึ่งให้กับลู่อี้ชิง ขณะที่ตัวเธอจิบน้ำผลไม้หนึ่งแก้ว “ก่อนหน้านี้พี่คิดจะหางานที่ ทำไมพี่ไม่คิดจะลองเสี่ยงโชคที่นี่เมืองนี้ดูล่ะคะ”
“ฉันก็คิดเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน” ลู่อี้ชิงเขย่าแชมเปญเบา ๆ ในมือของเธอ และจ้องมองไปที่หวงเฉิงจิ้ง ซึ่งยืนอยู่ไม่ไกลและพูดว่า “คุณหวงเสนอตำแหน่งงานในบริษัทฟินิกซ์ทองให้กับฉันล่ะ ฉันบอกเขาว่าฉันขอคิดดูก่อน และยังไม่ได้ให้คำตอบแก่เขาเลย”
เจียงเหยาเกือบจะสำลักน้ำผลไม้ในปากของเธอ
“คุณหวงนี่ช่างทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ เสียกระไร! เขากล้าดียังไงคิดจะพรากพี่ไปจากฉัน” เจียงเหยาวางแก้วในมือไว้ข้าง ๆ และเกาะแขนของลู่อี้ชิง “พี่อย่ายอมนะ! ชายแก่นั่นต้องมีแผนอะไรบางอย่างกับพี่เป็นแน่”