ตอนที่แล้วตอนที่ 339 : ดวงตาของฉันผ่านโลกมามากจริงๆ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 341 : เดี๋ยวนะ ใครคือสามีของเธอ?

ตอนที่ 340 : ถ้าจะให้พูดถึงคนหล่อก็มีแต่เจียงเฉินเท่านั้นแหละที่สมควรได้รับมัน!


กำลังโหลดไฟล์

ตอนที่ 340 : ถ้าจะให้พูดถึงคนหล่อก็มีแต่เจียงเฉินเท่านั้นแหละที่สมควรได้รับมัน!

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป…..

เจียงเฉินก็ขับรถมาที่ชุมชนหูกวงซีจุน

เจียงเฉินจอดรถ Mercedes Benz G500 เอาไว้ที่นอกประตูชุมชน และเขาก็มองไปที่ประตูชุมชนจากระยะที่ห่างออกไปเพียงสิบเมตรเท่านั้น และเขาก็เห็นเฉินฮุ่ยที่กำลังยืนอยู่ที่ป้อมยามได้อย่างชัดเจน

“คุณป้าใกล้ถึงหรือยังครับ?”

“เกือบจะถึงแล้ว”

หลังจากนั้นไม่นานเฉินก็เห็นคุณป้าลงมาจากรถ

“คุณป้า ผมเห็นคุณแล้ว ทางนี้ครับตรงรถ Mercedes Benz สีดำ”

“ห๊ะ Mercedes Benz?”

และหลังจากนั้นเจียงเฉินก็พาป้าขึ้นรถของตัวเองด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสับสน

“พ่อหนุ่ม นี่รถของนายหรอ?”

“ใช่ครับ”

คุณป้าตกตะลึง

อะไรกัน!

ผู้ชายคนนี้รวยขนาดนั้นเลยหรอ?

ทั้งๆที่เขาเป็นคนทำธุระ?

สิ่งนี้ทำให้ความคิดเดิมของเธอที่มีต่อคนทำธุระนั้นเปลี่ยนไปทันที

เจียงเฉินเริ่มอธิบายแผนของวันนี้ “คุณป้าครับ มันเป็นแบบนี้ ผมคิดว่าลูกชายของคนติดผู้หญิงคนนี้มากเกินไป ดังนั้นผมก็เลยหาสาวสวยอีกหนึ่งมา แต่ผมจะใช้วิธีที่ใช้พิษสู้พิษตอนนี้เรามารอเพื่อนของผมอีกคนหนึ่งก่อน(สาวชาเขียวหลิวหลาน) ผมจะให้เธอเข้าหาลูกชายของคุณ.....”

คุณป้าส่ายหัว “ไม่มีทางหรอก ป้าเคยแนะนำให้ลูกชายของป้ารู้จักกับผู้หญิงไปหลายคนแล้ว แต่เขาก็ยังคงหมกมุ่นอยู่กับผู้หญิงคนนั้นอยู่”

เจียงเฉินยิ้มออกมา “นั่นก็คงเป็นเพราะว่าระดับของพวกเธอยังคงไม่สูงพอ”

คุณป้างุนงง “ระดับอะไรหรอ?”

เจียงเฉินยิ้มและไม่พูดอะไรออกมา

ในเวลานี้เอง ก็มีรถมาเซราติขับเข้ามาแล้วหยุดอยู่ที่หน้าประตู

แล้วสาวสวย 80 คะแนนก็ลงมาจากรถ!

หลิวหลาน!

เมื่อเธอลงมาจากรถเธอก็เดินไปที่ประตูชุมชนด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงาม

ท่วงท่าที่ดูสง่างาม กระโปรงยาว ผมยาวสลวยใบหน้าที่ถูกแต่งแบบบางๆ ผิวที่ขาวมากๆ

แม่เจ้า!!

ต้องยอมรับเลยว่าหลิวหลานคนนี้เป็นสุดยอดเจ้าแม่ชาเขียวจริงๆ!

“คุณป้าครับ เธอมาแล้ว!”

เจียงเฉินชี้ไปที่สาวชาเขียวหลิวหลาน

“นั่นคือเพื่อนที่ผมบอก ระดับของเธอสูงมาก เรามารอดูกันดีกว่าครับ....”

“นี่ ผู้หญิงคนนี้ไม่เลวเลยนะ แถมเธอยังขับรถมาเซราตีด้วยเธอคงจะเป็นเศรษฐีนีใช่ไหม?” คุณป้าพูดออกมาด้วยความประหลาดใจ

เจียงเฉินหัวเราะออกมา “ไม่ใช่หรอกครับ รถคันนั้นผมให้เธอยืนเอง”

เพราะถึงยังไงซะการที่เจียงเฉินยอมลงทุนทำแบบนี้มันก็พอเขาต้องการรางวัลจากระบบเพราะถ้าหากมันไม่มีโอกาศได้รั้งหมดจากระบบเลยมีหรือที่เขาจะให้คนอื่นรถได้ง่ายๆแบบนี้?

คุณป้าตกตะลึงอีกครั้ง มีรถหรูมากกว่าหนึ่งคันงั้นหรอ ดูเหมือนว่าพ่อหนุ่มคนนี้จะมีภูมิหลังครอบครัวที่ดีไม่น้อยเลย และการที่เข้ามาทำงานทำธุระมันก็ทำให้เห็นได้ชัดว่าเขานั้นมีนิสัยที่ดีมาก นี่คือชายหนุ่มที่ดุแบบสุดๆ! ฉันจะต้องแนะนำผู้หญิงให้เขา แต่หลังจากคิดเรื่องนี้อยู่พักนึงเธอก็พบว่าเธอนั้นมีญาติหรือหลานสาวที่คู่ควรกับเจียงเฉินเลย สุดท้ายเธอก็เลยต้องยกเลิกความคิดนี้ไป

“คุณป้าครับ ได้เวลาแล้ว!”

เจียงเฉินพูดออกมา

ในเวลานี้หลิวหลานก็เดินบิดเอวของเธอไปที่หน้าประตูชุมชน

ยามหลายคนต่างพากันตกตะลึงเมื่อเห็นเธอ

“ว้าว เทพธิดา!”

“สวยมาก!”

“ยังสาวอยู่ด้วย!”

เฉินฮุ่ยหันไปมองหลิวหลาน ดวงตาของเขาเป็นประกาย เธอสามารถเทียบได้กับเทพธิดาของเขาเลย!

“สวัสดีสุดหล่อ ช่วยเปิดประตูให้ฉันหน่อยได้ไหมฉันลืมเอาการ์ดมา”

หลิวหลานชี้ที่เฉินฮุ่ยและพูดออกมา

ตุบ ตุบ ตุบ~~

หัวใจของเฉินฮุ่ยเต้นเร็วขึ้นหลายเท่า

เขาไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะได้รอยยิ้มจากเทพธิดาแบบนี้มาก่อนเขารู้สึกตื่นเต้นมาก

“ไม่สิ ฉันมีผู้หญิงที่ฉันชอบอยู่แล้ว ฉันจะหลงไปกับผู้หญิงคนอื่นได้ยังไง!”

“ถ้าฉันหลงไปเธอคงจะต้องเสียใจแน่!”

เมื่อคิดได้แบบนี้ เฉินฮุ่ยก็รู้สึกราวกับถูกน้ำเย็นสาดใส่ ความกระตือรือร้นของเขาลดลงทันที

และในเวลานี้เอง....

“อ๊ะ~~~”

หลิวหลานที่ก้าวเดินไปสองก้าวอยู่ๆก็ล้มลงและตัวของเธอก็พุ่งไปหาเฉินฮุ่ย

น้ำตาซึมออกมา

ดูมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก

ในตอนนี้หัวใจของเฉินฮุ่ยถูกล่อลวงอีกครั้ง

เฉินฮุ่ยรีบพยุงเธอขึ้นมาและพูดด้วยความเป็นห่วงว่า “เกิดอะไรขึ้นครับ คุณเจ็บหรือเปล่า?”

“เจ็บ~”

หลิวหลานเอามือเธอปิดไปที่ข้อเท้าของเธอ แสดงท่าทีที่ดูอ่อนแอและน่าสงสารออกมาเพื่อกระตุ้นความอยากปกป้องหญิงสาวของเฉินฮุ่ย

.......

เจียงเฉินที่แอบดูอยู่จากระยะไกลก็ยกนิ้วให้ “ยอดเยี่ยมมาก!”

คุณป้าตกตะลึง “พระเจ้า! สาวน้อยคนนี้… เธอกำลังแสดงอยู่จริงๆเหรอ?”

เจียงเฉินพยักหน้า “ใช่ครับ มันเป็นแผน”

“สุดยอดเกินไปแล้ว….”

เธอนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะใช้คำใดในการอธิบายวิธีการของหลิวหลาน แต่สิ่งหนึ่งที่เธอนั้นรู้ได้ทันทีคือเฉินฮุ่ยลูกชายของเธอนั้นจะต้องตกหลุมพรางของสาวน้อยคนนี้อย่างแน่นอน!

.....

ในเวลานี้เฉินฮุ่ยนั้นได้ตัดสินใจไปแล้ว

แต่ในเวลานี้หลินหลานก็แสดงความไว้วางใจและแสดงความรู้สึกดีที่มีต่อเขา “ขอบคุณนะ นายเป็นคนดีจริงๆ”

เฉินฮุ่ยในเวลานี้ก็รู้สึกราวกับหัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้นจนแทบจะระเบิด

หลิวหลานหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมา “มาแอดวีแชทกันหน่อยไหม ถ้าเย็นนี้ฉันมีเวลาฉันจะชวนไปทานอาหารเย็นด้วย~~.

เฉินฮุ่ยรีบหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมา “ได้ครับ ได้ครับ~~”

หลิวหลานแอบยิ้มเบาๆ

ติดกับแล้ว!

เจ้าลิงโง่!

….

ในรถเจียงเฉินที่เห็นว่าพวกเขาทั้งสองคนหยิบโทรศัพท์ออกมาก็คาดว่าพวกเขาคงเริ่มแอดวีแชทกันแล้ว

ติดกับแล้ว!

แผนการขั้นแรกสำเร็จ!

ดังนั้นหลังจากที่หลิวหลานได้รับวีแชทของอีกฝ่ายสำเร็จเธอก็หยุดทุกอย่างเอาไว้ก่อน

ทางด้านเจียงเฉินก็ยังคงทำธุระต่อไป

........

ในอีกด้านหนึ่ง…..

ผู้พิพากษาขยะซูอ้ายฉิงและชูเสี่ยวเมิ่งก็กำลังคุยกันอยู่

ใช่แล้ว

ซูอ้ายฉิงกับชูเสี่ยวเมิ่งพวกเธอทั้งสองนั้นเป็นเพื่อนสนิทกัน

ซูอ้ายฉิงและชูเสี่ยวเมิ่งพวกเธอทั้งสองนั้นต่างเป็นเทพธิดาที่มีนิสัยขี้เล่น

แต่ความแตกต่างนั้นก็มีอยู่นั้นก็คือหลังจากที่ชูเสี่ยวเมิ่งได้ตกหลุมรักจียงเฉินแล้วเธอก็เชื่อฟังเจียงเฉินมาก แต่เธอก็ไม่เคยไปไนท์คลับอีกเลยเพราะเธอรู้ว่าเจียงเฉินนั้นไม่ชอบผู้หญิงที่ไปไนท์คลับ

แต่ซูอ้ายฉิงนั้นเนื่องจากพ่อของเธอนั้นนอกใจแม่ของเธอ มันจึงทำให้เธอนั้นไม่ชอบผู้ชายและคิดว่าผู้ชายทั้งโลกนั้นก็เหมือนกันหมด

เพื่อนสนิทสาวสองคนคุยโทรศัพท์กัน

การคุยของพวกเธอนั้นดูมีชีวิตชีวามาก

“เสี่ยวเมิ่ง ฉันเพิ่งถูกรังแกมา!”

ทันทีที่ซูอ้ายฉิงคิดถึงเรื่องของเจียงเฉินมันก็ทำให้เธอโกรธ “ฉันจะต้องแก้แค้นให้ได้!”

“หืม?”

ดวงตาของชูเสี่ยวเมิ่งเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ “บนโลกใบนี้ยังมีผู้ชายที่กล้ายั่วยุเธออยู่ด้วย?”

ชูเสี่ยวเมิ่งนั้นรู้จักซูอ้ายฉิงดี

เพื่อนสาวซูอ้ายฉิงคนนี้เย็นชามาก!

“ฮึ่ม! มี!”

ซูอ้ายฉิงพูดออกมาด้วยความโกรธ “ก่อนหน้านี้ฉันไปทำงานเป็นผู้พิพากษาขยะและฉันก็ได้เจอกับผู้ชายคนนึง~~”

หลังจากนั้นเธอก็เราเรื่องที่เธอนั้นได้พบกับเจียงเฉินและถูกเจียงเฉินจัดการ

แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความพ่ายแพ้ครั้งนั้นมันน่าเศร้าเกินไป มันทำให้ความภาคภูมิใจของซูอ้ายฉิงต้องพังทลาย เธอรู้สึกอับอายมากเมื่อนึกถึงชื่อของเจียงเฉิน

“ฮ่าๆๆๆ~~”

ชูเสี่ยวเมิ่งยิ้มและหัวเราะออกมา

เธอนะคิดไม่ถึงเลยว่าเพื่อนสาวผู้เย่อหยิ่งของเธออย่างซูอ้ายฉิงจะมีช่วงเวลาแบบนี้ด้วย

เธอนั้นเคยแต่ได้ยินจากซูอ้ายฉิงว่าเธอนั้นจัดการกับพวกผู้ชายยังไง แต่เธอไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อน

“เธอจะหัวเราะออกมาทำไม?”

ซูอ้ายฉิงรู้สึกไม่มีความสุข “ทำไมต้องหัวเหราะเยาะฉันด้วย เมื่อก่อนเทอก้อคอยยืนอยู่เคียงข้างฉันแล้วไม่สนใจผู้ชายเลย หรือว่าเธอจะ…..”

สายตาของซูอ้ายฉิงเปลี่ยนไป “เป็นไปได้ไหมชูเสี่ยวเมิ่งของฉันกำลังเปลี่ยนใจไปอยู่ฝั่งพวกผู้ชายหรือว่าอาจจะกำลังตกหลุมรักใครบางคนอยู่?”

ชูเสี่ยวเมิ่งอ้าปากค้าง

คิดไม่ถึงเลยว่าซูอ้ายฉิงจะสัมผัสถึงความผิดปกติได้เร็วขนาดนี้

แต่ทันทีที่นึกถึงเจียงเฉินหัวใจของชูเสี่ยวเมิ่งก็พองโต

สามีของฉันหล่อมาก!

แม้ว่าเจียงเฉินจะไม่ได้เป็นแฟนกับเธอจริงๆแต่การปล่อยให้ซูอ้ายฉิงรู้เรื่องนี้ก็คงไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่

“ที่ไหนกัน?”

ชูเสี่ยวเมิ่งส่ายหัว “ฉันไม่มีสักหน่อย ผู้ชายอะไร? แค่กๆ(ยกเว้ยไว้สักคนก็แล้วกัน)”

“ก็แค่นั้นแหละ”

ซูอ้ายฉิงภูมิใจ “ผู้ชายทุกคนมันก็เหมือนกับหมูนั่นแหละ! ไร้ความสามารถ!”

“ถึงแม้ว่าเขาจะหล่อมาก แต่ครั้งหน้าที่ฉันเจอเขาฉันจะไม่ปล่อยเขาไปแน่!”

ซูอ้ายฉิงตัดสินใจที่จะแก้แค้นเจียงเฉิน

(เธอนั้นคงจะลืมไปแล้วว่าเธอนั้นเพิ่งจะเปลี่ยนพื้นหลังหน้าจอให้เป็นรูปของเจียงเฉินไป)

ถ้าจะให้พูดถึงคนหล่อก็มีแต่เจียงเฉินเท่านั้นแหละที่สมควรได้รับมัน! เพราะไม่ว่าจะโกรธแค่ไหนแต่ทันทีที่ได้เห็นรูปของเจียงเฉินเธอก็อดไม่ได้ที่จะเลียหน้าจอ

และเธอนั้นก็เปลี่ยนภาพพื้นหลังมือถือไปสามรอบแล้ว!

โทรศัพท์ : จะใช้งานฉันหนักไปถึงไหน!?

“ใช่แล้ว!”

ซูอ้ายฉิงพูดออกมา “แบรนด์ของฉัน [ซูเลิฟ] กำลังจะจัดงานที่แกลอรี่ลาฟาเยตต์ด้วยนะ!”

“โอ้ จริงหรอ!? ยินดีด้วยนะ!”

ชูเสี่ยวเมิ่งรู้ว่าซูอ้ายฉิงนั้นเป็นผู้หญิงที่เก่งมาก

พรสวรรค์ของเธอนั้นไม่ใช่เพียงแค่การจัดการกับพวกผู้ชายเจ้าชู้

แต่ที่จริงงานผู้พิพากษาขยะนั้นเป็นเพียงแค่งานอดิเรกของซูอ้ายฉิงเท่านั้น

งานหลักของเธอนั่นก็คือ~~

การบริหารแบรนด์ยอดนิยม [ซูเลิฟ] ของเธอ!

“ขอบคุณนะ”

ซูอ้ายฉิงพยักหน้าและพูดต่อ “แต่ตอนนี้ฉันยังไม่มีนายแบบ เธอพอจะแนะนำให้ฉันหน่อยได้ไหม?”

“อะไรนะ นายแบบงั้นหรอ?”

ชูเสี่ยวเมิ่งพูดอย่างไม่เข้าใจ “อ้ายฉิง เธอก็สวยไม่ใช่หรอ แล้วทำไมเธอถึงต้องเอาคนอื่นมาเป็นนายแบบด้วยล่ะ?”

“ถ้าเป็นเรื่องนางแบบฉันคงไม่ถามหรอก”

ซูอ้ายฉิงพูดต่อ “แต่ที่ฉันต้องการคือนายแบบ”

" เดี๋ยวนะ!”

จู่ๆชูเสี่ยวเมิ่งก็นึกข่าวลือก่อนหน้านี้ขึ้นมาได้ “ไม่ใช่ว่าเธอมีดาราหนุ่มอย่างจูหวู่หวางที่กำลังไล่ตามเธออยู่ไม่ใช่หรอ จูหวู่หวางคนนี้มีแฟนคลับอยู่ทั่วประเทศ เขาก็หล่อไม่น้อยเลยนะทำไมเธอไม่เชิญเขามาเป็นนายแบบของแบรนด์เธอล่ะ บางทีเค้าอาจจะไม่คิดเงินเธอเลยก็ได้นะ!”

เมื่อพูดถึงจูหวู่หวางใบหน้าของซูอ้ายฉิงก็ดูมืดมนลงทันที เธอแค่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชา “ฮึ่ม! เขางั้นเหรอ!?”

“แม้ว่าเขาจะไล่ตามฉันแต่ฉันไม่สนใจเขาหรอก!”

ซูอ้ายฉิงส่ายหัวอย่างเย็นชา

ซูอ้ายฉิงนั้นมาจากครอบครัวที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ตั้งแต่คนรุ่นปู่ย่าตายายของเธอนั้นพวกเขาต่างก็มีรากฐานที่ฝังแน่นอยู่ในเมืองหลวงและเป็นตระกูลชั้นสูงอยู่ในเมืองหลวงมานาน

ที่ใจกลางเมืองหลวงมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงอย่าง-แกลอรี่ลาฟาเยตต์!

และข้างๆห้างสรรพสินค้าแห่งนั้นก็มีลานขนาดใหญ่อยู่!

และลานขนาดใหญ่นั้นก็ถูกสร้างโดยคุณยายของซูอ้ายฉิง!

แค่นี้ก็น่ากลัวมากแล้ว!

แถมพ่อและลุงของซูอ้ายฉิงก็เป็นยักษ์ใหญ่ที่มีเส้นสายอยู่ทั่วเมืองหลวง

พ่อของเธอนั้นเป็นซีอีโอของบริษัทรัฐวิสาหกิจและลุงของเธอนั้นก็เป็นรองประธานธนาคารขนาดใหญ่

และเธอนั้นก็มีการศึกษาที่ดีมาก ในตอนที่เธอสำเร็จการศึกษาปริญญาโทจากต่างประเทศลำดับของเธอนั้นก็อยู่หนึ่งในสิบของรุ่นเลยทีเดียว

หลังจากที่เธอกลับมาประเทศจีน เธอนั้นก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วบนโลกอินเทอร์เน็ตและกลายเป็นหนึ่งในห้าสิบหญิงสาวที่โด่งดังบนโลกอินเทอร์เน็ต!

และซูอ้ายฉิงก็อย่างได้ก่อตั้งแบรนด์ส่วนตัวของเธอ “ซูเลิฟ” ด้วยภูมิหลังทางครอบครัวที่แข็งแกร่งและความสามารถส่วนตัวของเธอ แบรนด์ของเธอนั้นจึงกลายเป็นที่ว่านิยมไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็วและกลายเป็นแบรนด์แฟชั่นที่มีรูปแบบที่ไม่ซ้ำใคร

แต่ทั้งหมดนี้ก็ยังไม่ใช่เหตุผลหลักที่ทำให้เธอนั้นมีชื่อเสียง!

ในปีนั้นก็มีศิลปินผู้ชายคนหนึ่งที่มีชื่อเสียงมากเขามีชื่อว่าจูหวู่หวางเขามีแฟนคลับผู้หญิงเป็นจำนวนนับไม่ถ้วนอยู่ทั่วประเทศ

และหลังจากที่เขานั้นได้พบกับซูอ้ายฉิง

และพบว่าภูมิหลังทางครอบครัวของซูอ้ายฉิงนั้นยอดเยี่ยมมาก~

มันก็ทำให้เขาคิดว่าหากเขาได้มีแฟนสาวที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ เขาก็คงจะมีเงินไหลมาเทมาอย่างต่อเนื่อง…..

และหลังจากนั้นเขาก็เริ่มไล่ตามซูอ้ายฉิงอย่างบ้าคลั่ง

ซูอ้ายฉิงเองก็ไม่ได้มีความรู้สึกให้กับจูหวู่หวาง เพราะก่อนหน้านี้พ่อของเธอนั้นได้ละทิ้งแม่ของเธออย่างเย็นชา ทำให้เธอนั้นคอยระแวดระวังผู้ชายอยู่ตลอด

และแน่นอนว่าครอบครัวของเธอนั้นก็จะต้องเป็นห่วงเธอ

เมื่อเห็นว่าตั้งแต่ที่เธอนั้นจบการศึกษามาและกลับมาที่ประเทศจีนถึงสองปีแล้ว เธอก็ไม่เคยพูดถึงแฟนหนุ่มแม้แต่ครั้งเดียวจึงทำให้ครอบครัวของเธอเริ่มจริงจังและกังวลกับเรื่องนี้

แม้แต่คุณยายของเธอก็คอยแอบถามเธออยู่เสมอว่า “รสนิยมทางเพศของหลานผิดปกติรึเปล่า? หรือว่ามีปัญหาอะไรไหม? หรือว่าหลานชอบผู้หญิง?”

ซูอ้ายฉิงที่ถูกถามแบบนั้นก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี~~

เรื่องทั้งหมดนี้มันเกี่ยวกันยังไง?

“ถ้าหลานไม่ได้ชอบผู้หญิงงั้นก็ลองคบกับพ่อดาราหนุ่มคนนั้นก็ดีนะ”

สุดท้ายคุณยายของเธอก็ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด

ภายใต้แรงกดดันจากครอบครัวซูอ้ายฉิงก็ทำอะไรไม่ถูกจนสุดท้ายเธอก็ไม่ได้ตัดสินใจอะไรและกลับไปต่อว่าจูหวู่หวางอย่างเลือดเย็น

ในตอนนี้เธอนั้นก็ต้องพบกับทางตันเพราะเธอนั้นไม่สามารถปฏิเสธได้

แต่ใครจะรู้จูหวู่หวางคนนี้กลับใช้โอกาสนี้ในการประกาศกับคนไปทั่ว!

จู่หวู่หวางคนนี้เริ่มประกาศความสัมพันธ์ของเขากับซูอ้ายฉิงบนเว่ยป๋อของตัวเอง

ทำให้เกิดกระแสกับแฟนคลับของเขาเป็นวงกว้าง

เรื่องนี้มันทำให้ซูอันฉิงนั้นรู้สึกรังเกียจเขามาก

เธอนั้นไม่เคยคิดที่จะคบกับอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย แต่เขากลับประกาศให้โลกรู้ว่าซูอ้ายฉิงนั้นเป็นแฟนของเขา!

และหลังจากนั้นซูอ้ายฉิงก็ฉีกหน้าของเขาบนเว่ยป๋อของเธอและต่อว่าเขาที่ทำลายชื่อเสียงของเธอ

และจูหวู่หวางคนนี้ก็รับมือได้ดีไม่น้อยเลย เขาประกาศขอโทษออกมาทันทีว่า “ผมต้องขอโทษซูอ้ายฉิงจริงๆ พอผมเองก็คิดไม่ถึงว่าเธอนั้นจะไม่เห็นด้วยจริงทั้งๆที่ผมได้ตามเธอมาขนาดนี้ และผมก็เป็นคนที่ให้เกียรติผู้หญิงเสมอดังนั้นผมจะรออย่างอดทน ผมจะรอให้เธอมาเลือกผมและผมจะพยายามทำให้ความรู้สึกผมนั้นส่งถึงเธอให้ได้......”

จะให้สรุปง่ายๆก็คือจูหวู่หวางนั้นยอมรับการปฏิเสธของซูอ้ายฉิง แต่ว่ามันไม่ได้ทำให้เขานั้นเสียชื่อเสียงแต่กลับทำให้เขานั้นมีชื่อเสียงมากขึ้นไปอีกและหลายๆคนนั้นคิดว่าจูหวู่หวางกับซูอ้ายฉิงนั้นก็ดูเหมาะสมกันดี

สิ่งนี้ยิ่งทำให้ซูอ้ายฉิงรู้สึกรำคาญและรังเกียจมากขึ้นไปอีก

แต่อย่างไรก็ตาม ในยุคที่อินเตอร์เน็ตนั้นสามารถเข้าถึงได้ทุกคนการที่จะอธิบายเรื่องแบบนี้มันชัดเจนมันยากมาก

ซูอ้ายฉิงแค่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชา “เธอรู้ไหมว่าเจ้าจูหวู่หวางนั่นคอยกวนใจฉันอยู่ตลอดเวลาให้ฉันโมโหอยู่ตลอด เธอก็น่าจะรู้ดีว่าฉันเกลียดเขามากแค่ไหนแล้วฉันจะไปเชิญเขามาเป็นนายแบบได้ยังไง?”

“โอ้”

ชูเสี่ยวเมิ่งพยักหน้า

เพราะแม้แต่ชุเสี่ยวเมิ่งเองก็เคยได้ยินถึงชื่อเสียงของจูหวู่หวางและเธอนั่นก็พอรู้มาว่าเขานั้นเจ้าชู้ไม่น้อยเลย

“ว่าแต่เธอพอจะรู้จักคนที่เหมาะมาเป็นนายแบบให้ฉันไหม?”

ซูอ้ายฉิงพูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “ฉันเองก็ได้ยินมาว่าจะเจ้าจูหวู่หวางผู้ชายที่ฉันปฏิเสธมาโดยตลอดยังคงวางแผนเข้าหาฉันอยู่และยิ่งครั้งนี้แบรนด์ซูเลิฟของฉันจะจัดงานที่ลาฟาเยตต์ด้วย แถมฉันยังได้ยินข่าวลืออีกว่าเขานั้นต้องการที่จะทำอะไรบางอย่าง ดังนั้นฉันจะไม่แปลกใจเลยถ้าเกิดเขามาปรากฏตัวอยู่ที่งานเพื่อสร้างกระแสข่าวปลอมๆว่าฉันกำลังคบกับเขาอยู่!”

เมื่อได้ยินว่าจูหวู่หวางนั้นทำอำไรเอาไว้ ชูเสี่ยวเมิ่งก็ผงะและเข้าใจทันทีเลยว่าทำไมซูอ้ายฉิงถึงเกลียดเขามากขนาดนี้ ดังนั้นการจะพิจารณาให้เขามาเป็นนายแบบให้กับแบรนด์ก็คงปัดตกไปได้เลย

“แต่ว่าในวงการบันเทิงก็มีหนุ่มหล่อดาราดังอยู่อีกมากมายไม่ใช่หรอ?”

ชูเสี่ยวเมิ่งเสนอ “ถ้าตราบใดที่บริษัทของเธอมีเงินมากพอมันก็คงไม่มีปัญหาไม่ใช่รึไง?”

“ทำอย่างนั้นไม่ได้”

ซูอ้ายฉิงพูดออกมาอย่างหดหู่ “เจ้าบ้าจูหวู่หวางนั่นเป็นหนึ่งในศิลปินชายที่ดังที่สุดในประเทศจีน แถมยังส่งพลังไม่น้อยเลยเขามีเส้นสายอยู่มากมาย แต่ก่อนหน้านี้เขาก็ได้ปล่อยข่าวลือออกมาว่าถ้าเกิดใครกล้าเข้ามายุ่งเรื่องนี้และเข้ามาเป็น นายแบบให้กับแบรนด์ซูเลิฟของฉันพวกเขาจะต้องรับผิดชอบกับผลที่จะตามมา ดังนั้นตอนที่ฉันไปหานายแบบตามบริษัทต่างๆ ก็ไม่มีซักบริษัทเลยที่จะตอบตกลงเพราะพวกเขาไม่มีใครกล้าที่จะทำให้จูหวู่หวางขุ่นเคือง”

“???”

ชูเสี่ยวเมิ่ง “เขาทำได้ขนาดนี้เลยหรอ?”

“ใช่”

ซูอ้ายฉิงพูดออกมาอย่างหดหู่ “และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมฉันถึงหานายแบบไม่ได้สักที เพราะตอนนี้คนที่ฉันต้องการคือคนที่ไม่อยู่ในวงการบันเทิงและที่สำคัญเขาจะต้องหล่อ! แล้วจะต้องมีเอกลักษณ์มากพอที่จะสามารถเป็นนายแบบให้กับแบรนด์ซูเลิฟได้”

“นี่~~”

“หล่อ! มีเอกลักษณ์! ไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง?”

ชูเสี่ยวเมิ่งนึกถึงเจียงเฉินทันที

ถ้าจะถามว่าใครหล่อที่สุด?

ก็คงจะแน่นอนว่าเป็นเจียงเฉิน!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด