342- ชาสารพัดเต๋า
1652 - ชาสารพัดเต๋า
คำพูดของสือฮ่าวฟังดูเหมือนทุกอย่างจะง่ายไปหมด แต่เมื่อมันเข้าหูของทุกคนก็ทำให้ใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง!
ก่อนหน้านี้พวกเขาทั้งสองได้รับการขัดเกลาในเตาหยินหยางเดียวกันแต่ไม่ได้มีความรู้สึกดีๆต่อกันแม้แต่น้อย ฉีเมิ่งหงยังคงมีความเป็นปรปักษ์ต้องการที่จะฆ่าฮวงอยู่ตลอดเวลา!
ในขณะนี้พวกเขาได้พบกันอีกครั้งบนภูเขาสารพัดเต๋าในที่สุดฉีเมิ่งหงก็มีโอกาสที่จะได้ลงมือสักที ลูกหลานของจักรพรรดิแดงมีจิตใจที่เย็นชาเลือดเย็น สิ่งมีชีวิตอื่นๆมักจะหวาดกลัวพวกเขาอยู่เสมอ
ในเวลานี้จู่ๆลมพายุก็พัดเข้ามาระหว่างทั้งสอง ทำให้พื้นที่ว่างด้านหน้าของพวกเขาเกิดรอยแตกของมิติพร้อมกับมีสายฟ้าฟาดออกมา
ก่อนที่พวกเขาจะได้ลงมือสนามประลองก็ถูกทำลายไปก่อนแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ผู้ฝึกตนคนอื่นๆสั่นสะท้านจากภายใน
ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงตอนนี้ฉีเมิ่งหงไม่ได้ขยับออกจากกอหญ้าสีเขียวที่เขานั่งทับอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว ความมั่นใจในตัวเองของเขานับว่าเหนือล้ำเกินจะกล่าวจริงๆ
ดวงตาของเขาเป็นสีแดงก่ำ แดงเหมือนกับทับทิม แดงเฉกเช่นดวงอาทิตย์สีเลือดที่น่ากลัว
ผมยาวของเขากระจัดกระจายมีลักษณะองอาจกล้าหาญเกินกว่าจะมีใครเทียบ เมื่อเขานั่งอยู่ที่พื้นความสงบของเขาเปรียบเสมือนขุนเขาลูกใหญ่ที่ไม่มีผู้ใดสามารถสั่นคลอนได้!
ฉีเมิ่งหงมีเป็นผู้ทรงพลังที่สามารถดูหมิ่นสิ่งมีชีวิตรุ่นเดียวกันทั้งหมด!
สือฮ่าวเดินไปข้างหน้าฝีเท้าของเขาเบามากราวกับว่าเขากำลังเดินเล่นในสวนหลังบ้าน อย่างไรก็ตามภูเขาทั้งลูกก็เริ่มสั่นสะเทือนคล้ายกับจะพังทลายได้ตลอดเวลา
นี่คือพลังอันยิ่งใหญ่ที่ไร้รูปแบบ!
ด้วยพลังประเภทนี้มันเหมือนกับการเคลื่อนย้ายเต๋าอันยิ่งใหญ่ลงมาใช้ประโยชน์และทำให้เขาสามารถควบคุมปฐพีได้
ฮ่อง!
ทันใดนั้นบนท้องฟ้าขนาดใหญ่ก็มีรอยแตกลามออกไปเรื่อยๆ จนทุกคนที่นี่สามารถมองเห็นจักรวาลอันกว้างใหญ่ที่ด้านนอกได้อย่างชัดเจน
“หยุด! หากพวกเจ้าต้องการที่จะต่อสู้กันก็ให้ลงจากเขาไปเดี๋ยวนี้ อย่ามาสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นที่นี่”
มีใครบางคนตะโกนออกมา เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ดูแลปกป้องต้นชาสารพัดเต๋า ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้นยังมีผู้อาวุโสอีกหลายคนซึ่งนั่งอยู่ใต้ต้นชา พวกเขาพร้อมที่จะโยนพวกเขาทั้งคู่ลงจากยอดเขาทันที
เป็นเพราะต้นไม้นี้มีความสำคัญเกินไป จึงมีผู้อาวุโสระดับผู้สูงสุดมากมายถูกส่งมาเฝ้าที่นี่เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใดมาขโมยใบชาได้
โดยปกติแล้วฉีเมิ่งหงซึ่งมักจะหยิ่งทะนงตัวและไม่ให้ความสนใจกับผู้ใด แต่ตอนนี้เขากลับทำตัวสงบเสงี่ยมไม่กล้าละวาดออกมา
หากพวกเขาลงมือต่อสู้กันก็จะทำให้เกิดผลกระทบต่อต้นไม้เซียนต้นนี้ ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่เหล่าผู้อาวุโสหลายคนที่นี่จะไม่ยินยอมให้เกิดการต่อสู้กันขึ้น
ฉีเมิ่งหงยังคงนั่งอยู่ที่เดิมเมื่อเขามองไปที่สือฮ่าวเขาก็เผยรอยยิ้มเย็นๆที่มุมปาก ไอสังหารของเขาไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้พูดอะไรอีก
“ฮวงขอให้สนุกกับช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตเจ้า ไม่เช่นนั้นเจ้าจะไม่มีโอกาสอีกต่อไป”
คนรับใช้ที่อยู่ด้านข้างของฉีเมิ่งหงกล่าว เขาเป็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีรอยยิ้มอ่อนโยนเหมือนแสงแดดยามเช้า
เด็กคนนี้เป็นเพียงแค่ทาสเท่านั้นแต่กลับเข้าใจว่าตัวเองมีสถานะเทียบเท่ากับสือฮ่าว
สือฮ่าวขมวดคิ้วเขารู้สึกรังเกียจชายคนนี้เพราะว่านี่ก็เป็นมนุษย์อีกคนหนึ่ง แต่เขากลับรู้สึกมีความสุขอย่างแท้จริงในสถานะของตนเองที่เป็นอยู่
ลักษณะภาวะจำยอม!
คำสองคำนี้ปรากฏขึ้นในจิตใจของสือฮ่าว อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้พูดอะไรอีก ถ้าเขาทะเลาะกับคนรับใช้นั่นจะทำให้สถานะของตัวเองต่ำลงเท่านั้น
“เฮ้เฮ้ฮวงข้ารู้ว่าเจ้าค่อนข้างจะแข็งแกร่ง แต่อย่าได้สำคัญตัวผิดไปข้าขอแนะนำให้เจ้ารีบคุกเข่าขออภัยซะ หากนายน้อยของข้ารู้สึกพอใจดี ก็ไม่แน่ว่าสถานการณ์อันเลวร้ายของเจ้าอาจจะหมดไปก็ได้” มนุษย์คนนั้นยังคงจ้อไม่หยุด
ที่ด้านหลังของฉีเมิ่งหงเป็นทหารรับใช้เจ็ดแปดคน พวกเขาไม่ใช่สิ่งมีชีวิตรูปร่างมนุษย์แต่เป็นสัตว์ร้ายชนิดหนึ่งซึ่งสือฮ่าวไม่ทราบว่าคือสิ่งใด
ดวงตาของพวกเขามีความมุ่งมั่น ปรารถนาที่จะลงมือจัดการกับสือฮ่าว ขอเพียงฉีเมิ่งหงอนุญาตเท่านั้น
ดวงตาของสือฮ่าวกลายเป็นเย็นชา แม้แต่คนใช้ของฉีเมิ่งหงก็ยังกล้าปีนขึ้นมาบนศีรษะเขา แสดงให้เห็นถึงความหยิ่งผยองของเจ้านายพวกมัน
“เฮอะ!” สือฮ่าวแค่นเสียงออกมาเบาๆ แต่มันเป็นเหมือนกับสายฟ้าฟาดเข้าใส่ร่างกายของทาสมนุษย์คนนั้น ทำให้วิญญาณดั้งเดิมของเขาหลุดออกจากร่างมีลักษณะไม่มั่นคงพร้อมที่จะสูญสลายได้ทุกเมื่อ
ฉีเมิ่งหงจ้องไปที่สือฮ่าวด้วยสายตาที่เย็นชาราวกับสายฟ้า แสงสีแดงแผ่ขยายออกไปทางด้านหลังเขาช่วยให้ทาสคนนั้นต่อต้านอันตรายในครั้งนี้
เมื่อทุกคนเห็นฉากนี้พวกเขาสูดลมหายใจเข้าไปอย่างหนาวเหน็บ ฮวงเป็นผู้ที่ทรงพลังอย่างแท้จริง เขาสามารถกำจัดศัตรูในอาณาจักรแยกตนเองได้โดยไม่ต้องลงมือด้วยซ้ำ
“เหลือเวลาอีกไม่มากแล้วเตรียมตัวเลือกใบชา!” ผู้อาวุโสคนหนึ่งกล่าวออกมา สีหน้าของหลายคนกลายเป็นแช่มชื่น พวกเขารอคอยโอกาสนี้มานานแล้ว
การเผชิญหน้าของสือฮ่าวและฉีเมิ่งหงถูกขัดจังหวะไม่สามารถดำเนินต่อไป พวกเขาจึงหันเหความสนใจของตนเองไปที่ต้นชา
ผู้คนมากมายที่อยู่บริเวณนี้ต่างลุกขึ้นยืน พวกเขาเก็บอาวุธวิเศษรวมไปถึงสิ่งประดิษฐ์ล้ำค่าของตัวเองไว้พร้อมกับทำตัวสงบเสงี่ยมรอคอยการแจกจ่ายน้ำชา
ต้นไม้โบราณมีขนาดใหญ่และหนาราวกับมังกรกำลังนอนขดตัวอยู่ที่ยอดเขา มันมีกิ่งก้านสาขามากมาย แต่ใบที่อยู่บนต้นของมันกลับเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ
แม้ว่ามันจะมีกิ่งก้านนับล้านแต่ไม่ใช่ว่าทุกกิ่งจะมีใบ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อมองในระยะใกล้ก็จะเห็นได้ว่ามันไม่ได้มีความงดงามมากนัก
อย่างไรก็ตามต้นไม้ต้นนี้ไม่ได้ขาดความมีชีวิตชีวาอย่างแน่นอนเพราะมันปลดปล่อยพลังชีวิตที่อุดมสมบูรณ์ออกมาอย่างสม่ำเสมอ
นี่คือต้นไม้เซียนซึ่งนับได้ว่าเป็นพืชที่ล้ำค่ามากที่สุดในโลกใบนี้
“หนึ่งสอง…” บางคนนับแล้วก็ส่งเสียงโห่ร้อง
เป็นเพราะเมื่อนับอย่างถี่ถ้วนก็จะเห็นได้ว่ามีใบไม้สามพันใบพอดี ซึ่งสอดคล้องกันกับกฎแห่งธรรมชาติ
“สามพันฮ่าๆ นี่มันยอดเยี่ยมเกินไปแล้วทุกคนจะได้รับคนละใบอย่างแน่นอน!” หลายคนหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข
เป็นเพราะไม่รู้ว่าจะผ่านไปอีกกี่ปีก่อนที่ต้นชาสารพัดเต๋าจะสามารถเก็บเกี่ยวอีกครั้ง ระยะเวลาของมันกำหนดได้ไม่แน่นอนเป็นเพราะว่าบางครั้งก็หลายร้อยปีบางครั้งก็หลายพันปีกว่าจะวนมาอีกรอบ
โดยปกติแล้วใบชาต้นนี้จะงอกเงยออกมาไม่มากนักเมื่อพันปีที่แล้วมันเพียงงอกออกมาแค่สามร้อยใบ ใบที่งอกออกมามากถึงสามพันใบทุกคนเคยได้ยินแค่ในตำนานเท่านั้น
“เฮ้อ! ปีนี้มันงอกออกมาถึงสามพันใบ แปลว่าพิธีชงชาครั้งต่อไปจะต้องรออีกหลายพันปี!” มีหลายคนที่ถอนหายใจออกมาเพราะไม่รู้ว่าพวกเขาจะมีชีวิตยืนยาวถึงพิธีชงชาในครั้งต่อไปหรือไม่
หลังจากที่ใบของมันถูกเด็ดออกมาต้นไม้ต้นนี้ก็จะงอกใบใหม่ขึ้นมาทันที เพียงแต่ว่าระยะเวลาการเติบโตของมันจะใช้เวลานานหลายชั่วอายุคน
“เครื่องบูชา!”
ก่อนการเก็บเกี่ยวก็จะมีพิธีถวายเครื่องบูชา เมื่อทุกอย่างจบลงอาวุโสคนนั้นก็จะชี้ให้ใครบางคนออกไปเลือกใบชา
เจิ้ง!
แสงเย็นริบหรี่ปรากฏออกมาพร้อมกับใบไม้ที่มีรัศมีของกระบี่ เมื่อคนผู้นั้นใช้มือสัมผัส ใบไม้ก็ปลดปล่อยเสียงคำรามของกระบี่ออกมา
ใบไม้นั้นยาวและละเอียดราวกับกระบี่ของเทพสงครามมันลอยออกจากมือของเขาขึ้นไปบนอากาศ
แดง!
เสียงกระดิ่งลากยาวดังออกมา ใบไม้อีกใบเปล่งประกายสีเหลืองนวลราวกับระฆังใบใหญ่ที่ถูกตี
ยิ่งไปกว่านั้นรูปลักษณ์ของมันนั้นพิเศษสุดๆไม่แบนเหมือนกับใบไม้ทั่วไป แต่มันห่อตัวเองเข้ามีลักษณะคล้ายกับกระดิ่งใบเล็กๆ!
หวู่!
ทันใดนั้นก็มีแสงไฟลุกโชนขึ้นสู่ท้องฟ้า นี่คือใบไม้สีแดงที่มีลักษณะไม่แตกต่างจากเตาหลอมมากนัก ตอนนี้มันกำลังปลดปล่อยเปลวไฟอันร้อนแรงออกมาแผดเผาท้องฟ้าจนแดงฉาน
หลายคนที่เพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรกต่างก็ตกตะลึงไม่เว้นแม้แต่สือฮ่าว เด็กหนุ่มสาวคนอื่นๆก็ประหลาดใจมากเช่นกัน
เพราะแม้ว่าพวกเขาจะเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นมันด้วยตาของตัวเอง เพราะว่าพิธีชงชาครั้งก่อนหน้านี้ผ่านมาแล้วหลายร้อยปีนั่นเอง