340 - คนที่ไม่มีกระดูกสันหลัง
1650 - คนที่ไม่มีกระดูกสันหลัง
ในความคิดของสือฮ่าวสิ่งที่เลวร้ายที่สุดก็แค่ตาย นั่นคือเหตุผลที่ตอนนี้เขาไม่ได้สนใจอะไรมากนักไม่รู้สึกหวาดกลัวใดๆต่อเผ่าพันธุ์เหล่านี้
จะอย่างไรซะความตายก็เปรียบเป็นเหมือนการกลับสู่มาตุภูมิเท่านั้น
ในสถานที่แห่งนี้กลายเป็นเงียบสงบ คำว่า 'ไสหัวไป' ของ ฮวงทำให้ทุกคนที่อยู่ใกล้ๆต่างตกใจ
นี่มันจะหยิ่งผยองเกินไปแล้ว! แม้กระทั่งผู้ยิ่งใหญ่อาณาจักรปลดปล่อยตนเองสนทนาด้วย ก็ยังถูกเขาตอกหน้าหงาย
“บังอาจ! เจ้ากล้าตะโกนใส่หน้านายน้อยของข้าอย่างนี้หรือ!” มีคนผู้หนึ่งตะโกนออกมาจากด้านหลังของชายที่สวมชุดสีน้ำเงิน ที่น่าแปลกใจก็คือเขาเป็นมนุษย์!
เห็นได้ชัดว่ามนุษย์คนนี้เป็นทาสของชายเสื้อคลุมสีน้ำเงิน
สือฮ่าวมองอย่างเย็นชา สายตาของเขาทำให้ชายหนุ่มเผ่าพันธุ์มนุษย์ตกใจจนเหงื่อแตก
“เจ้าช่างบังอาจจนถึงขีดสุดจริงๆ แม้ว่าจะมาถึงยอดเขาสารพัดเต๋าของเราแล้วก็ตาม! อย่าคิดว่าจะไม่มีใครกล้าลงมือต่อเจ้าเพียงเพราะคำสั่งของผู้ไม่ดับสูญ!” ชายชุดน้ำเงินกล่าวอย่างเย็นชา
เขาแข็งแกร่งมากไม่เช่นนั้นเขาคงไม่กล้าเป็นคนแรกที่กระโดดออกมาขวางทางสือฮ่าว
“หนึ่งในสิบอันดับสุดท้ายของตระกูลราชา?”
บางคนร้องออกมาด้วยความตกใจ ในตอนแรกทุกคนมองไปที่ชายชุดน้ำเงินรู้สึกว่าเขาดูคุ้นเคยเล็กน้อย หลังจากนั้นไม่นานทุกคนก็ตระหนักได้ว่าเขาเป็นใคร
ชายคนนี้ดูเหมือนจะอายุสามสิบกว่าเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงเขาคืออันดับสิบของราชาสวรรค์รุ่นก่อน
“เจ้าจะลองก็ได้ ข้าไม่เคยเห็นว่าคำสั่งพวกนั้นเป็นเรื่องสำคัญแม้แต่น้อย!” สือฮ่าวตอบอย่างใจเย็น
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ใบหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปเผยให้เห็นความโกรธแค้น
สิ่งมีชีวิตระดับผู้ไม่ดับสูญนับได้ว่าเป็นบุคคลที่อยู่ในระดับสูงสุดของโลกใบนี้
คำสั่งของพวกเขาถือเป็นประกาศิตที่แม้แต่ผู้คนของตระกูลจักรพรรดิบางส่วนก็ยังต้องปฏิบัติตาม
อย่างไรก็ตามตอนนี้เด็กหนุ่มคนหนึ่งกลับแสดงท่าทีดูหมิ่นเหยียดหยามคำสั่งของสิ่งมีชีวิตเหล่านั้น
สิ่งที่สือฮ่าวพูดคือความจริงเขาไม่รู้สึกว่าตัวเองมีอิสรภาพแม้แต่น้อย
ไม่ช้าก็เร็วเขาจะตกอยู่ในเงื้อมมือของจักรพรรดิผู้ไม่ดับสูญและจุดจบของเขาจะต้องน่าสังเวชอย่างยิ่ง
นั่นเป็นเหตุผลที่เขากล้าที่จะลงมือกับทุกคนที่ปฏิบัติตัวให้เขาไม่พอใจ !
“ฮวงเจ้าแข็งแกร่งจริงๆ แต่การฆ่าลูกเขยของจักรพรรดิโดยไม่มีสาเหตุหรือเหตุผลใดๆนั้น ถือเป็นอาชญากรรมที่ยิ่งใหญ่ เจ้าต้องมีจุดจบที่เลวร้ายอย่างยิ่ง” ชายชุดน้ำเงินกล่าวอย่างเย็นชา
“ฆ่าโดยไม่มีเหตุผลหรือ? เจ้าจะคิดอย่างนั้นก็ได้” สือฮ่าวยังคงสงบนิ่งไม่รู้สึกถึงความกดดันใดๆ
“เจ้าต้องการโต้แย้งเรื่องนี้หรือไม่?” ชายชุดน้ำเงินถามอย่างเย็นชา
“มีอะไรจะต้องโต้แย้ง? หากข้าไม่พอใจใครข้าก็จะฆ่ามันเรื่องก็มีเท่านี้!” สือฮ่าวให้คำตอบอย่างตรงไปตรงมา น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชาทำให้ผู้รับฟังรู้สึกถึงอันตราย
“การทำให้ตระกูลจักรพรรดิขุ่นเคืองเป็นการกระทำที่โง่เขลาอย่างยิ่ง เจ้ากำลังแสวงหาความตายให้กับตัวเอง!” ชายชุดน้ำเงินกล่าวอย่างเย็นชา
จากนั้นเขากล่าวว่า“ เจ้าควรคิดให้ดี หากเจ้าต้องการที่จะเข้าร่วมกับพวกเรา?
“ไม่ว่าใครก็ตามที่ปฏิบัติกับมนุษย์ในฐานะอาหารก็จะกลายเป็นศัตรูกับข้าชั่วนิรันดร์ ลูกเขยของตระกูลจักรพรรดิคนนั้นก็คือตัวอย่างที่ดีที่สุด!” สือฮ่าวคำรามเสียงดังเป็นการข่มขู่อย่างแท้จริง
สิ่งมีชีวิตทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างก็ตกตะลึง ฮวงคนนี้ค่อนข้างกล้าหาญจริงๆ หลังจากสังหารบุตรเขยของตะกูลจักรพรรดิแล้วเขาก็ยังไม่แสดงท่าทีสำนึกผิดใดๆออกมา
คนรับใช้ที่เป็นมนุษย์ซึ่งอยู่เบื้องหลังชายชุดคลุมสีน้ำเงินพูดขึ้นอีกครั้ง
เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นผู้ช่วยที่ได้รับความไว้วางใจของชายเสื้อคลุมสีน้ำเงิน ไม่เช่นนั้นต่อให้เขากล้ากว่านี้ก็ไม่มีทางที่จะกล่าวคำพูดใดๆออกมา
“ บังอาจ! เจ้ายังไม่รู้ความผิดของตัวเองอีกหรือ? แม้ว่าลูกเขยของตระกูลจักรพรรดิจะแสดงความเป็นศัตรูกับเจ้า
แต่เขาก็ยังไม่ได้ลงมืออะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้นก็แค่เด็กไม่กี่คนเจ้าถึงกับทำให้เป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้? ตอนนี้เจ้าควรคุกเข่ารอการจับกุมเพื่อให้ตระกูลจักรพรรดิลงโทษ!”
ดวงตาของสือฮ่าวกลายเป็นเย็นชาเป็นครั้งแรกโดยจ้องมองไปที่คนรับใช้ที่อยู่ด้านหลังชายที่สวมชุดสีน้ำเงิน เขาเป็นมนุษย์ แท้ๆแต่กลับกล้ากล่าววาจาเหล่านี้ออกมา
* “มนุษย์ถือกำเนิดมาจากมนุษย์ ปีศาจเกิดมาจากปีศาจ แล้วเจ้าเกิดมาจากเศษสวะตนใด! ถึงไม่ได้มองว่าตัวเองเป็นมนุษย์!” สือฮ่าวตำหนิ ตอนนี้เขารู้สึกรำคาญนิดหน่อยจริงๆ
ถ้ามันเป็นสิ่งมีชีวิตของอีกฝ่ายที่พูดเรื่องนี้กับสือฮ่าว เขาก็ไม่มีความจำเป็นต้องใส่ใจอะไรเลย
อย่างไรก็ตามคนรับใช้คนนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นมนุษย์ แต่เขาไม่ได้มองสิ่งต่างๆจากมุมมองของมนุษย์ แต่กลับคิดในมุมมองของสิ่งมีชีวิตต่างมิติแทน
สือฮ่าวย่อมไม่ถกเถียงกับสิ่งมีชีวิตต่างมิติในเรื่องนี้ เพราะไม่ว่าอย่างไรพวกมันก็ไม่ใช่มนุษย์ แต่คนผู้นี้เป็นมนุษย์ชัดๆ สือฮ่าวพบว่ามันยากมากที่จะเข้าใจความคิดที่อยู่ในสมองของเขา
“เจ้าคิดว่าข้าพูดผิด?” คนรับใช้คนนั้นตะโกนออกไป เขาเป็นเพียงเด็กหนุ่มคนหนึ่ง
ตอนนี้เขาซ่อนตัวอยู่หลังชายเสื้อคลุมสีน้ำเงินด้วยความมั่นใจว่าฮวงต้องไม่สามารถทำอันตรายก็ได้
“ ผู้ที่เห็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ของข้าเป็นอาหารจะต้องเป็นศัตรูคู่อาฆาตกับข้าไปตลอดกาล การฆ่าฟันระหว่างพวกเราเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ในขณะเดียวกันคนอย่างเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องมีชีวิตอยู่อีกต่อไป ในเมื่อเจ้าไม่ได้ถือว่าตัวเองเป็นมนุษย์ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็เป็นศัตรูกับข้า!” สือฮ่าวตะโกนเสียงดังพร้อมกับลงมืออย่างรวดเร็ว
“เจ้ากล้า? ให้ข้าดูหน่อยว่าเจ้าแข็งแกร่งมากแค่ไหน!” ชายชุดน้ำเงินตะโกน
เขาลงมือขัดขวางสือฮ่าว ทั้งร่างของเขาเปล่งประกายด้วยแสงสีฟ้า นอกจากนี้ร่างกายของเขายังถูกล้อมรอบไปด้วยพลังแห่งความโกลาหลเนื้อหนังของเขาแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ
ทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างจิตใจสั่นสะท้าน ผู้ยิ่งใหญ่ของตระกูลราชาคนนี้ไม่ได้ลงมือมาหลายร้อยปี แท้ที่จริงแล้วความแข็งแกร่งของเขากลับพัฒนามาถึงขนาดนี้แล้ว
พวกเขาทุกคนรู้ดีว่าฮวงนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน แต่พวกเขาก็มั่นใจในตัวชายที่สวมเสื้อคลุมสีน้ำเงินเช่นกัน
เป็นเพราะเมื่อไม่นานมานี้สือฮ่าวได้ต่อสู้กับราชาสวรรค์รุ่นใหม่โดยเขาต้องใช้ความพยายามเล็กน้อยกว่าที่จะได้รับชัยชนะ
ในขณะเดียวกันชายเสื้อคลุมสีน้ำเงินคนนี้มีการฝึกฝนมานานหลายร้อยปีดังนั้นเขาควรจะสามารถปราบฮวงได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาเห็นพลังแห่งความโกลาหลที่ถูกปลดปล่อยออกมาทุกคนก็ยิ่งมีความมั่นใจ
ควรทราบว่าพลังแห่งความโกลาหลนั้นมีความเกี่ยวข้องกับความเป็นอมตะ
หากไม่สามารถเข้าใกล้อาณาจักรผู้สูงสุดได้แล้วล่ะก็ ผู้ยิ่งใหญ่อาณาจักรปลดปล่อยตนเองย่อมไม่มีทางที่จะดูดซับพลังนี้เข้าสู่ร่างกายได้
แน่นอนว่าทั้งสองลงมือด้วยญาณวิเศษระดับเทพเจ้า แรงปะทะของพวกเขาที่กระจายออกมาถึงกับทำให้ท้องฟ้าแยกออกเป็น สองส่วน
“สมกับเป็นหนึ่งในสิบผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่ในอดีต แม้กระทั่งต่อสู้กับฮวงได้อย่างสูสี!” มีคนกล่าวด้วยความตื่นเต้น
แม้ว่าเขาจะยกย่องชายเสื้อคลุมสีน้ำเงิน แต่เห็นได้ชัดว่าความแข็งแกร่งของฮวงในสายตาของเขานั้นยิ่งใหญ่เพียงใด
ปู!
อย่างไรก็ตามหลังจากห้าสิบกระบวนท่าผ่านไปท้องฟ้าก็แดงฉานถูกย้อมด้วยประกายโลหิต
สือฮ่าวทำลายพลังแห่งความโกลาหลที่ถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกับฉีกร่างของชายเสื้อคลุมม่วงออกเป็นสองส่วนก่อนจะบดขยี้วิญญาณดั้งเดิมของเขาอย่างง่ายดาย!
"อะไร? หนึ่งในสิบผู้เชี่ยวชาญผู้ยิ่งใหญ่ในอดีตกลับถูกฆ่าตายง่ายๆเช่นนี้?!”
ผู้คนมากมายต่างหวาดผวา
ปู!
ในเวลาเดียวกันสือฮ่าวก็ก้าวไปข้างหน้า เท้าของเขาเหมือนภูเขาลูกเล็กๆบดขยี้ทาสมนุษย์คนนั้นลงไป กลายเป็นกองเลือดเล็กๆกองหนึ่ง
จากนั้นเขาก็ก้าวเดินขึ้นไปสู่ยอดเขาสารพัดเต๋าราวกับว่าไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
นี่เป็นถึงหนึ่งในสิบของผู้เชี่ยวชาญของตระกูลราชา! หลังจากหลายร้อยปีผ่านไประดับการฝึกฝนของเขาก้าวหน้าอย่างมากมาถึงอาณาจักรปลดปล่อยตนเองขั้นสูงสุดแล้ว!
อย่างไรก็ตามเขายังคงถูกฆ่าตายง่ายๆ มันทำให้ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ต้องเข้าใจว่าชายในชุดคลุมสีน้ำเงินนั้นแข็งแกร่งกว่าราชันย์บู๊และคนอื่นๆหลายสิบเท่า อย่างไรก็ตามเมื่อเผชิญหน้ากับฮวงเขาก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงความตายได้
*(เป็นการเล่นคำในภาษาจีน=แปลว่าความดีเกิดจากความดีความชั่วเกิดจากความชั่ว)