337 - เผ่าพันธุ์มนุษย์
1647 - เผ่าพันธุ์มนุษย์
สือฮ่าวเข้าใจรายละเอียดได้อย่างรวดเร็ว
สิ่งที่เรียกว่าพิธีชงชานั้นเป็นงานเลี้ยงน้ำชาเพื่อให้บุคคลรุ่นเยาว์ได้รู้แจ้งในเต๋า
ในโลกนี้มียาเซียนชนิดหนึ่งซึ่งมีความพิเศษและมีค่าอย่างไม่น่าเชื่อ มันคือต้นชาสารพัดเต๋า!
ยาเซียนที่กลายเป็นต้นไม้แทบจะปรากฏอยู่แค่ในตำนานเท่านั้น ยิ่งกว่านั้นนี่คือต้นชาที่สามารถช่วยให้รู้แจ้งในเต๋าได้
สิ่งนี้น่าอัศจรรย์แค่ไหนเมื่อมันเจริญเติบโตขึ้นมันจะสร้างประโยชน์มหาศาลต่อสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรนี้
เมื่อใดก็ตามที่สามารถเลือกใบชาได้มันจะกลายเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่สำหรับโลกใบนี้เสมอ!
ในเวลานั้นผู้แข็งแกร่งรุ่นเยาว์จำนวนมากจะไปชุมนุมอยู่ใต้ต้นชาสารพัดเต๋า และเพลิดเพลินกับการดื่มชาในขณะที่สนทนาแลกเปลี่ยนเต๋าไปด้วย
แน่นอนว่าถ้าใครอยากจะดื่มชาก็ต้องมีคุณสมบัติที่ท้าทายสวรรค์เสียก่อน
ในแต่ละปีมีผู้คนนับล้านมุ่งหน้าไปที่นั่น แต่ในท้ายที่สุดมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มีวาสนาได้ดื่มชาสารพัดเต๋า
เป็นเพราะโดยปกติแล้วต้นไม้โบราณนั้นมีใบน้อยมาก ในช่วงเวลาที่เฟื่องฟูที่สุดก็มีเพียงสามพันใบเท่านั้น
การชิมเพียงครั้งเดียวอาจทำให้คนๆหนึ่งได้รับข้อมูลเชิงลึกซึ่งเป็นคุณค่าที่น่าอัศจรรย์
“ผู้ไม่ดับสูญจะเข้าร่วมหรือเปล่า?”สือฮ่าวถาม
“แม้ว่าจะเป็นการประชุมของผู้ที่เป็นอัจฉริยะเลิศล้ำ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้แข็งแกร่งรุ่นเยาว์เป็นส่วนมาก” ผู้อาวุโสชุดเทาตอบ
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังให้คำแนะนำมากมายโดยบอกเขาว่าผู้ชนะจะได้รับใบชาสารพัดเต๋ามากขึ้น ซึ่งหมายความว่าพวกเขาจะได้รับการรู้แจ้งอย่างต่อเนื่อง
ในอดีตมีผู้คนที่ดื่มชาสารพัดเต๋าเพียงหนึ่งถ้วย ในที่สุดเขาก็บรรลุเต๋าอันยิ่งใหญ่ทะลวงจากอาณาจักรผู้สูงสุดและกลายเป็นผู้ไม่ดับสูญจนสร้างความตกตะลึงให้กับทุกคน
ในพิธีชงชาทุกครั้งก็จะมีใครบางคนฝ่าทะลุอาณาจักรบ่มเพาะหลังจากที่บรรลุความรู้แจ้งอยู่เสมอ!
“น่าสนใจ!” สือฮ่าวพยักหน้า เขาไม่ลังเลแม้แต่น้อยและมุ่งหน้าไปที่นั่นทันที
ยอดเขาสารพัดเต๋าเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกใบนี้!
ทั้งหมดเป็นเพราะต้นชาสารพัดเต๋าเติบโตที่นี่ นี่คือยาเซียนโบราณที่น่าตกตะลึงของโลกซึ่งมีค่าเหนือจินตนาการ
เมื่อใดก็ตามที่ใบชาสุกงอมก็จะมีการชุมนุมอัจฉริยะเกิดขึ้นทันที
สือฮ่าวมาถึงใต้ภูเขาสารพัดเต๋า ภูเขาลูกนี้ใหญ่โตอย่างน่าเหลือเชื่อ มันตลบอบอวลไปด้วยหมอกเซียนรวมไปถึงพลังแห่งความโกลาหล
เขาเห็นสิ่งมีชีวิตมากมายทันทีที่มาถึงเชิงเขา
“อย่าทำร้ายย่าของข้าอูววว…” ที่เชิงเขาได้ยินเสียงร้องไห้สะอื้นเบาๆมีเด็กหญิงตัวเล็กๆอายุสี่ห้าขวบยืนอยู่ตรงหน้าหญิงชราคนหนึ่ง นางพยายามกางแขนปกป้องไม่ให้ใครทำร้ายหญิงชราคนนั้น
“สำหรับทาสที่กระทำความผิดย่อมสมควรตาย หลังจากหลายปีผ่านไปแม้แต่ดินแดนเก้าสวรรค์ก็ยังเอาตัวไม่รอด พวกเจ้ายังกล้าทำตัวหยิ่งผยองอีกหรือ? น่าขัน!”
ใบหน้าของเด็กหนุ่มคนหนึ่งฉายแววความโหดเหี้ยมออกมา เขายกเท้าขึ้นพร้อมกับเตะออกไปอย่างรุนแรง
อารมณ์ของสือฮ่าวปะทุขึ้นด้วยความโกรธ เจ้าหนูคนนี้โหดเหี้ยมมากถึงขนาดกล้าเตะเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง
เด็กหญิงตัวเล็กๆอายุแค่สี่หรือห้าขวบ เดิมทีนางค่อนข้างน่ารักแต่ตอนนี้ใบหน้าเล็กๆของนางเต็มไปด้วยความกลัว ดวงตากลมโตมีน้ำตาทะลักออกมา ร่างของนางถูกเตะไปทับร่างของหญิงชรา
นางกำลังร้องไห้แต่มือเล็กๆของนางยังกางออกมาเพื่อปกป้องหญิงชราคนนั้นโดยไม่ยอมให้ใครทำอันตราย
ชายหนุ่มไม่ได้แสดงความเมตตาใดๆ เท้าข้างนั้นก้าวลงไปหาคู่ย่าหลานดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความดุร้าย
ถ้าพวกนางถูกเตะอีกครั้งเด็กน้อยคนนั้นจะมีชีวิตรอดได้อย่างไร?
ในขณะเดียวกันหญิงชราคนนั้นดูเหมือนจะเป็นเพียงหญิงชราธรรมดาเท่านั้น และตอนนี้นางได้รับบาดเจ็บสาหัสยอมไม่สามารถเอาตัวรอดได้
“อย่าทำร้ายนาง!” หญิงชราที่มีเลือดไหลออกจากปากไม่หยุดยังคงตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาใช้ร่างกายของตัวเองเพื่อปกป้องเด็กหญิงตัวเล็กๆ
"ท่านย่า!" เด็กหญิงตัวน้อยร้องไห้เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เท้าของชายหนุ่มคนนั้นกำลังจะเหยียบลงบนตัวของพวกนาง
เปง!
ชายหนุ่มคนนั้นบินออกไปอย่างรวดเร็ว เสียงกระดูกแตกหักดังออกมาจากร่างกายของเขาไม่หยุด หลังจากที่กระแทกกับพื้นอย่างรุนแรงเขาก็กระอักเลือดออกมากองใหญ่
"ใครเตะข้า?!" เขาคำรามออกมาด้วยความโกรธ
แม้จะไม่สามารถมองเห็นด้วยตาของตัวเองแต่เขาก็รู้ว่าการโจมตีเมื่อครู่ต้องมาจากเท้าแน่นอน
เดิมทีเท้าของเขากำลังจะเหยียบลงไปที่เด็กหญิงคนนั้น แต่สุดท้ายเขากลับถูกใครบางคนเตะออกไปแทน นี่เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดจริงๆ
“มนุษย์ลูกหลานของเก้าสวรรค์ เจ้า…กล้าทำให้ข้าอับอายงั้นหรือ!”
เมื่อเขาเห็นสือฮ่าวและแน่ใจว่านี่เป็นมนุษย์เขาก็ปะทุขึ้นด้วยความโกรธพร้อมกับตะโกนออกมา“เจ้าเป็นคนรับใช้ของใคร?”
เป็นเพราะในความคิดของเขาลูกหลานของเก้าสวรรค์ล้วนเป็นทาสของตระกูลต่างๆ พวกเขาไม่เคยมีอิสระในตัวเอง
“การลงมือของเจ้าไม่เลวทรามไปหน่อยหรือ?” สือฮ่าวยืนอยู่ที่นั่นและมองไปที่ชายหนุ่มด้วยสายตาเหยียดหยาม
“มันเกี่ยวข้องอะไรกับเจ้า? นี่คือทาสของข้า ถ้าข้าอยากจะฆ่าข้าก็จะฆ่า ข้าอยากจะทำอะไรก็ได้ตามที่ข้าต้องการ เจ้าเป็นแค่มนุษย์แต่ยังกล้าทำตัวบังอาจต่อหน้าข้าอีกหรือ!” ชายหนุ่มที่อยู่บนพื้นตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
ในทันใดนั้นเขาก็กระโจนขึ้นและมองไปที่สือฮ่าวอย่างเย็นชา เป็นเพราะแม้ว่าการเตะครั้งนี้จะสร้างความเจ็บปวดอย่างมาก แต่ สือฮ่าวก็ไม่ได้ตั้งใจจะสังหารเขาตั้งแต่แรก
ผู้คนมากมายต่างมองมาในทิศทางนี้
“นายน้อยเกิดอะไรขึ้น?” หลังจากนั้นก็มีชายชราคนคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่ามีบางคนที่ร้องด้วยความตกใจเพราะสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นจำฮวงได้ในทันที
เปง!
สือฮ่าวเตะชายหนุ่มคนนั้นบินออกไปอีกครั้งก่อนที่เขาจะทันได้พูดอะไรออกมา
นี่ไม่เหมือนกับการเตะครั้งแรก หน้าอกของเขามีกระดูกหลายชิ้นที่ถูกเตะจนแหลกละเอียด เขากรีดร้องอย่างน่าสังเวชพร้อมกับกระอักเลือดออกมาไม่หยุด
“เจ้าเป็นใครถึงกล้าทำร้ายข้า!” ชายหนุ่มคนนั้นกัดฟันตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
“สหายน้อยรีบหนีไปซะ!” หญิงชราที่อยู่บนพื้นตะโกนให้สือฮ่าวหนีไป เพราะกลัวว่าเขาจะนำหายนะมาสู่ตัวเอง
“เผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่มีอะไรมากไปกว่าทาส แต่เจ้ากล้าที่จะลงมือทำร้ายข้า! ไม่ว่าเจ้าจะเป็นทาสของผู้ใดวันนี้คือวันตายของเจ้า!” ชายหนุ่มคนนั้นยังพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ใบหน้าของเด็กหญิงคนนั้นซีดเผือดด้วยความหวาดกลัว น้ำตาของนางทะลักออกมาพร้อมกับตะโกนว่า“พี่ใหญ่ท่านรีบหนีเถอะ”
ในบริเวณนี้มีคนจำนวนไม่น้อยที่รู้จักสือฮ่าว พวกเขาส่งเสียงอุทานด้วยความตื่นตระหนกก่อนจะพูดคุยกันเบาๆ
“ฮวงก็มาที่นี่ด้วยหรือ!”
“ฆ่าเขา!” ชายหนุ่มคำรามดวงตาแดงก่ำ
“นายน้อยเขาคือฮวง!” คนรับใช้เหล่านั่นรีบกระซิบที่ข้างหูชายหนุ่มเบาๆ
“ฮวงอะไร? รีบฆ่ามันเร็วๆ?!” ก่อนที่จะได้พูดอะไรต่อ ชายหนุ่มคนนั้นก็ตระหนักขึ้นได้
สีแดงในดวงตาของเขาหายไปอย่างรวดเร็ว แม้ว่าความโกรธของเขาจะไม่หายไป แต่เมื่อเขามองไปที่สือฮ่าวเขารู้สึกหมดหนทางเล็กน้อย
ชายหนุ่มคนนี้อารมณ์เสียสุดๆ ประการแรกความแข็งแกร่งของเขานั้นด้อยกว่าฮวงอย่างแน่นอน ยิ่งกว่านั้นหากเขาให้ผู้รับใช้ลงมือก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความผิดจนถึงขั้นล้างตระกูลจากราชองการอมตะได้
“ฮวงแม้ว่าเจ้าจะแข็งแกร่ง แต่เรื่องที่ข้าทำไม่เกี่ยวข้องกับเจ้าแม้แต่น้อย? นั่นคือทาสของตระกูลข้า ไม่ว่าข้าจะทำอะไรก็ไม่เกี่ยวกับเจ้าทั้งนั้น!” ชายหนุ่มกล่าวด้วยความโกรธ เขามาจากตระกูลราชาดังนั้นเขาจึงมีความหยิ่งผยองไม่น้อย
ย่าและหลานตกตะลึงทันที เพราะจากคำพูดเหล่านี้พวกนางตระหนักได้ว่าฮวงนั้นมีความแข็งแกร่งมากแค่ไหน แม้แต่นายน้อยของตระกูลราชาก็ยังมีความหวาดกลัวต่อเขา
“พี่ใหญ่โปรดช่วยพวกเราด้วย!” เด็กหญิงตัวเล็กๆกล่าวทั้งน้ำตา
สือฮ่าวพยักหน้าโดยไม่ได้ถามว่าทำไม เป็นเพราะเขาสามารถคาดเดาสถานการณ์ของพวกนางได้โดยไม่ต้องคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้
ในฐานะลูกหลานของเก้าสวรรค์ชีวิตของพวกนางต้องน่าสังเวชอย่างยิ่ง
“ฮวงเจ้ามีสิทธิอะไรในการจัดการกับทาสของข้า” ชายหนุ่มกล่าวอย่างเย็นชา
“นายน้อยลืมไปเถอะ ก็แค่ทาสสองคนอย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่เลย” ที่ด้านข้างของเขามีคนรับใช้ชราคนหนึ่งกระซิบเบาๆ
ชายหนุ่มเพียงคิดหาทางลงให้กับตัวเองเท่านั้น เป็นเพราะเขาเองก็รู้สึกหวาดกลัวต่อฮวงไม่น้อย มีข่าวลืออยู่เสมอว่าหากใครกล้ายั่วยุฮวงก็จะถูกฆ่าทันที
สือฮ่าวเดินขึ้นไปบนเขาโดยมีสองย่าหลานตามไปติดๆ สิ่งนี้ทำให้เขาได้แต่ถอนหายใจ
นี่เป็นเพียงการช่วยเหลือพวกนางชั่วคราวเท่านั้น ไม่สามารถปลดปล่อยพวกนางจากความโชคร้ายได้อย่างแท้จริง