520 - กลุ่มชายชราที่น่ากลัว
520 - กลุ่มชายชราที่น่ากลัว
ข่าวเรื่องการเดิมพันนี้ทำให้แขกหลายคนในตำหนักเซียนต่างตกตะลึงเป็นอย่างมาก ต้นกำเนิดบริสุทธิ์หนึ่งล้านจินไม่ใช่สิ่งที่ผู้ยิ่งใหญ่รุ่นเยาว์จะสามารถพูดออกจากปากได้
ไม่ไกลนักมีคนผ่านไปมาหลายคนที่มองเห็นเย่ฟาน พวกเขาจึงรีบเยาะเย้ยขึ้นว่า
“ข้าก็นึกว่าเป็นใคร ปรากฎว่าเป็นเจ้าเด็กสองคนที่ไม่รู้จักความสูงใหญ่ของสวรรค์และปฐพี ช่างหยิ่งผยองนัก!”
เย่ฟานกระพริบตาและพบว่าคนที่กล่าวคำพูดนี้คือผู้อาวุโสสูงสุดของวังห้าธาตุ แพะอ้วนตัวใหญ่ของพวกเขานั่นเอง
"ตัวเจ้ายังเหลือต้นกำเนิดอีกมากเท่าไหร่ พวกเราสามารถเดิมพันในครั้งเดียวได้"
หลี่เหอซุยก็ไม่แสดงความอ่อนข้อ ในตัวเขามีอาวุธวิเศษที่สามารถจัดการกับผู้สูงสุดระดับต่ำได้และเขาต้องการใช้มันอย่างเต็มที่แล้ว
“พวกเจ้ารู้จักคำว่าผู้อาวุโสหรือไม่” ใบหน้าของหลี่ยี่ซุยมืดครึ้มลง
"คนอย่างเจ้าก็คิดจะเป็นผู้อาวุโส?!"
เย่ฟ่านและหลี่เหอซุยกล่าวพร้อมกัน
เดิมพันนี้เป็นโอกาสครั้งสุดท้ายของพวกเขา หลังจากวันนี้ชื่อเสียงของเย่ฟ่านจะเพิ่มมากขึ้นหลายสิบเท่าและมันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครเดิมพันกับพวกเขาอีก
“เด็กน้อย พวกเจ้าโอหังเกินไปแล้ว!”
“เจ้าคิดจะใช้ความแก่ชรามารังแกเราอย่างนั้นหรือ เจ้าสามารถเข้ามาได้ตลอดเวลา!” ทั้งสองไม่ได้แสดงความกลัวแม้แต่น้อย
ในขณะนี้ องค์ชายเซี่ยแห่งเซียะและแม่ชีน้อยชุดขาวตัวน้อยมาถึง และเซี่ยอี้หมิงก็หัวเราะเสียงดังตั้งแต่ที่เดินเข้ามาในตำหนัก
"พี่กู่เฟิง ในที่สุดเจ้าก็กลับมาแล้ว”
เย่ฟานรู้สึกประหลาดใจเมื่อพบว่าอสูรตัวน้อยสีทองก็ปรากฏตัวขึ้นเช่นกัน มันติดอยู่ที่ไหล่ของแม่ชีชุดขาวตัวน้อย และโบกมืออย่างโกรธเคือง
“การเดิมพันของเจ้าจะทำให้สวรรค์สั่นสะเทือนอีกครั้ง? หนึ่งล้านต้นกำเนิดก็เพียงพอแล้วที่จะเขย่าภาคเหนือทั้งหมด!” เหยาเยว่กงหัวเราะและเดินเข้ามา
"มีความกล้าจริงๆ!"
ในวังอื่น ๆ ผู้อาวุโสบางคนได้ยินการเคลื่อนไหวที่นี่และต่างก็ประหลาดใจ
“พี่กู่เฟิงจะสร้างเรื่องสะเทือนภาคเหนืออีกครั้งแล้วหรือ” มีเสียงหัวเราะเบา ๆ และ อันเหมียวอี้ผู้งดงามก็ปรากฏขึ้นในตำหนักเซียนด้วย
การโต้เถียงภายในภัตตาคารอันยิ่งใหญ่นี้ทำให้ผู้สูงสุดมากมายปรากฏตัวขึ้น แม้ว่าเราลูกหลานของตระกูลขุนนางโบราณพวกนี้จะมีความแข็งแกร่ง แต่ผู้อาวุโสเหล่านั้นกลับคาดหวังในตัวเย่ฟ่านมากกว่า
องค์ชายเซี่ยเดินเข้ามาใกล้และหัวเราะ
“พี่กู่หายไปนานกว่าหนึ่งเดือน เมื่อใดก็ตามที่ข้าเข้าและออกจากลานพนันหิน ข้าจะคิดถึงเจ้าอยู่เสมอ”
เย่ฟานยิ้มและยืนขึ้น เขาถือจอกสุราเดินเดินเข้าหาเซี่ยอี้หมิงโดยไม่สนใจหลี่ยี่ซุยและลูกหลานของตระกูลขุนนางโบราณแม้แต่น้อย
หลี่เหอซุยข้อสั่งการให้ผู้จัดการภัตตาคารนำสุราอาหารเข้ามาใหม่ เหยาเยว่กงและคนอื่นก็นั่งลงร่วมรับประทานอาหารโดยถือว่าลูกหลานของตระกูลขุนนางโบราณเหล่านั้นเป็นอากาศธาตุ
"ฮึ!" หนึ่งในนั้นแค่นเสียงอย่างเย็นชา
หลี่ยี่ซุยก็ก้าวไปข้างหน้าและกล่าวว่า
"ชายชราคนนี้ไม่ต้องการเป็นผู้ใหญ่รังแกเด็ก แต่พวกเจ้าที่เป็นเด็กรุ่นหลังทั้งสองขาดความเคารพมากเกินไป วันนี้ข้าจะลงโทษพวกเจ้าแทนบรรพบุรุษของพวกเจ้าเอง"
“ปีศาจเฒ่า เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครถึงกล้าจะมาสั่งสอนข้า เจ้าแม่กลัวว่าปู่ของข้าจะตบเจ้าตายเหรอ?” หลี่เหอซุยไม่แสดงความหวาดกลัวแม้แต่น้อย เขาหันไปมองหลี่ยี่ซุยอีกครั้งก่อนจะแค่นเสียงว่า
"ยังไม่รีบไสหัวไปอีก!"
หลี่ยี่ซุยไม่สามารถทนรับต่อท่าทีเช่นนี้ได้ เขาตะโกนด้วยความโกรธและตั้งใจจะตบพวกเย่ฟานให้ตายด้วยฝ่ามือเดียว
องค์ชายต้าเซี่ยที่เห็นเช่นนั้นก็ส่งเสียงเย็นชาขึ้นว่า
"ผู้อาวุโสต่อให้พวกเราทำผิดมันก็ไม่ถึงรอบของเจ้าที่จะมาสั่งสอนเรา?"
เหยาเยว่กงก็วางจอกสุราลงเช่นกัน
"ท่านผู้เฒ่า สถานที่แห่งนี้ไม่อนุญาตให้ทำการต่อสู้กันท่านก็น่าจะรู้ดี"
“พวกเขาดูหมิ่นผู้อาวุโสหลี่ก่อน พวกเจ้าจะให้ผู้อาวุโสหลี่อดกลั้นได้อย่างไร” ทายาทของตระกูลขุนนางโบราณเหล่านั้นตะโกนด้วยความไม่พอใจ
เย่ฟานไม่ได้พูดอะไรมาก เขาเพียงแค่โบกมือให้กับหญิงสาวที่รออยู่ด้านนอกและกล่าวว่า
“ไล่คนพวกนี้ออกไป”
“เจ้า”
หลี่ยี่ซุยและทายาทของตระกูลขุนนางชั้นสูงเหล่านั้นไม่พอใจเป็นอย่างมาก
"เรียนนายท่าน ได้โปรดออกไปจากที่นี่ ภัตาคารของเรามีกฎว่าห้ามรบกวนลูกค้าท่านอื่น ขอให้ทุกท่านทำตามกฎนี้ด้วย " เด็กสาวหลายคนก้าวไปข้างหน้าด้วยท่าทางเคร่งขรึม
“ฮึ่ม!”
หลี่ยี่สุ่ยโบกแขนเสื้อใบหน้ามืดมนแล้วหันหลังเดินจากไป แม้ว่าเขาจะต้องการตบเย่ฟานให้ตาย แต่เขาก็ต้องกลั้นเอาไว้ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังของภัตตาคารแห่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่วังห้าธาตุของเขาจะตอแยได้
"ฮ่าฮ่า ... " หลี่เหอซุยหัวเราะเสียงดัง
"หากพวกเจ้ายังคิดเดิมพันกับเราก็ไปหาต้นกำเนิด 1 ล้านจินมา" เย่ฟานกล่าวสำทับ
"พวกเจ้ารอก่อนเถอะ!"
ลูกหลานของตระกูลขุนนางโบราณมองย้อนกลับมาก่อนจะสะบัดแขนเสื้อและจากไปเช่นกัน
"วันนี้ดื่มให้เต็มที่!" หลี่เหอซุยยกจอกขึ้นดื่มเพื่อแสดงความเคารพต่อทุกคน
“เจ้าหนูน้อยอย่าโกรธเลย”
แม่ชีน้อยพยายามหลอกล่อให้หนอนไหมสวรรค์สงบสติอารมณ์ลง เพราะตอนนี้มันกำลังจ้องมองเย่ฟานด้วยความโกรธ
“เจ้าตัวเล็กมันก็แค่ต้นกำเนิดสวรรค์ไม่ใช่เหรอ เจ้าจะโมโหอะไรมากมาย?” เย่ฟานยิ้มและยื่นมือไปคว้ามัน
"วู้!"
อสูรน้อยสีทองรีบบินไปซ่อนตัวที่ด้านหลังของแม่ชีชุดขาว ดวงตากลมโตของมันจ้องมองไปที่เย่ฟานด้วยความไม่พอใจ แต่การกระทำของมันกลับทำให้ผู้คนที่อยู่บนโต๊ะหัวเราะออกมาแทน
“เมื่อข้ากลับมาข้าเห็นหนอนไหมสวรรค์นอกเมือง เกิดอะไรขึ้น?” เย่ฟานถามด้วยรอยยิ้ม
“พวกเราต้องตามหามันอยู่ทุกวัน นี่เป็นเรื่องที่น่าเบื่อจริงๆ” “แม่ชีดีดหน้าผากของหนอนไหมสวรรค์แล้วพูดว่า
“เสี่ยวไฉเจ้าต้องเชื่อฟังมากกว่านี้”
เมื่องานเลี้ยงกำลังจะสิ้นสุดลงก็มีใครบางคนตอบรับการเดิมพันของเย่ฟาน และการเดิมพันครั้งนี้จะเป็นต้นกำเนิดบริสุทธิ์ 1.5 ล้านจิน!
หลังจากที่งานเลี้ยงเลิกพวกเขาก็เดินออกจากตำหนักเซียนพร้อมกับชายชราหลายคนที่มองพวกเขาด้วยสายตาเย็นชา ชายชรากลุ่มนี้ทุกคนล้วนแต่มีฝามือสีทองที่แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก
“เป็นยังไงบ้าง?” หลี่เหอซุยถาม
เย่ฟานกล่าวว่า "ปัญหาใหญ่มาก คนชราเหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นยอดฝีมือระดับสูงในด้านศิลปะต้นกำเนิด บางทีดวงตาของพวกเขาอาจมีวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ด้วยซ้ำ”
"แล้วเจ้าจะทำยังไง ให้ข้าจัดการพวกมันก่อนหรือไม่?” หลี่เหอซุยขมวดคิ้ว
“ดวงตาสวรรค์ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเปิดขึ้น หวังว่าพวกเขาคงยังไม่มีมัน” เย่ฟานพึมพำกับตัวเอง
"ในเมืองศักดิ์สิทธิ์นี้มีพยัคฆ์และมังกรซุ่มซ่อนอยู่มากมาย ถ้าไม่ระวังให้ดีพวกเราอาจต้องจบชีวิตลงโดยไม่รู้ตัว"
องค์ชายเซี่ยตักเตือนอย่างจริงจัง
“คนแก่เหล่านี้ไม่ใช่บุคคลระดับธรรมดา หากเจ้าเอาชนะพวกเขาได้ ตัวตนของปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์ของเจ้าจะต้องถูกเปิดเผยอย่างแน่นอน” หลี่เหอซุยส่งเสียงอย่างลับๆ
“กลับไปก่อน นี่เป็นแผนการครั้งใหญ่พวกเราไม่สามารถผิดพลาดได้” เย่ฟานตอบกลับ
หลังจากนั้นพวกเขาก็ขอแยกทางจากองค์ชายเซี่ยและคนอื่นๆ