322- หงส์เพลิงโลหิตที่ร่วงหล่น
1633 - หงส์เพลิงโลหิตที่ร่วงหล่น
“ตอนนั้นหากเจ้าไม่ห้ามไว้ข้าคิดจะจับตัวมันมารีดเลือดออกมาให้หมดด้วยซ้ำ!” หนึ่งในนั้นพูดด้วยอารมณ์โมโห
“ สถานที่แห่งนั้นเป็นถ้ำเสือวังมังกรที่แท้จริงเราไม่รู้ว่าหงส์เพลิงโลหิตในระดับผู้อมตะยังคงมีชีวิตอยู่หรือไม่
หากเราลงมืออย่างประมาทแม้ว่าจะถูกสังหารไปก็ไม่มีผู้ใดสามารถแก้แค้นให้ได้อย่างแน่นอน!”ผู้สูงสุดตระกูลจักรพรรดิกล่าวอย่างจริงจัง
ระหว่างทางพวกเขาทุกคนสงสัยว่าแก่นแท้แห่งดินแดนสวรรค์ได้เหือดแห้งไปแล้ว บางทีอาจมีเพียงหงส์เพลิงโลหิตตัวเดียวเท่านั้นที่ยังคงอยู่
“รีบกันเถอะไม่มีเวลามาคิดเรื่องไร้สาระอีกแล้ว” หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็รีบไปที่แท่นบูชาอมตอีกครั้ง
ในเวลาเพียงไม่กี่วันอาการของสือฮ่าวก็ดีขึ้นมาก วิญญาณดั้งเดิมของเขาไม่ได้มืดสลัวอีกต่อไป
“การพาเขาไปที่นั่นตอนนี้อาจจะยังเร็วอยู่สักหน่อย อาการบาดเจ็บของวิญญาณดั้งเดิมของเขายังไม่ฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์” ผู้สูงสุดตระกูลจักรพรรดิกล่าวด้วยความเป็นห่วง
สือฮ่าวภายในโลงศพไม่ขยับตัวไม่ได้น้อย แต่ศีรษะของเขายังคงดูดซับแสงสีทองเข้าสู่ร่างกายอยู่เสมอ
แน่นอนว่าทั้งหมดนี้คือการกระทำของวิญญาณดั้งเดิมไม่ใช่ร่างกายที่แท้จริงของเขา
ในสถานที่แห่งนี้การบ่มเพาะร่างกายปกติไม่ได้มีประโยชน์มากไปกว่าที่อื่น
“รออีกสักหน่อยเถอะ หลังจากวิญญาณดั้งเดิมของเขาแข็งแรงมากพอแล้วเราจะมุ่งหน้าไปยังดินแดนเพลิงสวรรค์อีกครั้ง”
สองวันต่อมาสิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุดเหล่านั้นก็ได้นำโลงศพแก้วไปยังดินแดนเพลิงสวรรค์ เป็นเพราะพวกเขากลัวว่าหงส์เพลิงโลหิตจะบิดพริ้วสัญญา
แต่ที่แท่นบูชาอมตะแห่งนี้พวกเขาสามารถกลับมาได้ตลอดเวลา ความสำคัญของเรื่องราวเกี่ยวกับสถานที่จึงถูกแบ่งออกมาอย่างชัดเจน
“ฮวงถ้าเจ้าหายเป็นปกติแล้วข้าจะสังหารเจ้าอย่างแน่นอน!” ชายหนุ่มชุดแดงยังคงจ้องมาที่โลงศพด้วยสายตาเย็นชา
เขาเป็นลูกหลานของจักรพรรดิแดงชื่อฉีเมิ่งหง ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งในอัจฉริยะที่แข็งแกร่งที่สุดในรุ่นปัจจุบันของตระกูลจักรพรรดิ
ฉีปู้ที่ถูกจับโดยเมิ่งเทียนเจิ้งเมื่อไม่นานมานี้เป็นญาติสนิทของเขาเอง เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกอับอายเป็นอย่างมากและต้องการที่จะชำระความอัปยศให้ได้
นั่นคือเหตุผลที่เขาต้องการโอกาสในการแก้แค้นอยู่เสมอ เมื่อเขารู้ถึงความสัมพันธ์ของฮวงกับเมิ่งเทียนเจิ้ง เขาก็ยิ่งต้องการที่จะฆ่าฮวงให้ได้
สิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุดหลายคน นำโลงศพแก้วมาถึงด้านหน้าดินแดนเพลิงสวรรค์ก่อนจะหยุดลง
"หลายคนต้องการให้ฮวงตาย ในขณะที่เรากำลังประสบปัญหามากมายเพื่อช่วยชีวิตเขา นี่มันไร้สาระจริงๆ!” ใครบางคนพูดพร้อมกับถอนหายใจ
ฮวงเป็นศัตรูของฝั่งนี้ แต่คนเหล่านี้กลับทุ่มเทอย่างแสนสาหัสเพื่อช่วยให้เขาฟื้นตัว เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาคิดถึงเรื่องนี้พวกเขาทั้งหมดก็รู้สึกไม่สบายใจ
“ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของตระกูลกู่ที่ทำตัวเลวทรามเกินไป!” มีคนพูดด้วยความไม่พอใจ มิฉะนั้นสิ่งต่างๆจะลงเอยเช่นนี้ได้อย่างไร?
ก่อนที่พวกเขาจะทันได้พูดอะไรต่อ สิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ก็พุ่งออกมาจากภายในดินแดนเพลิงสวรรค์ มันยังคงเป็นหงส์เพลิงโลหิตจากครั้งที่แล้ว
แม้ว่าสือฮ่าวจะไม่สามารถขยับตัวได้ แต่ความจริงสติของเขายังคงดีอยู่ เขาจ้องมองไปที่สิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ในดินแดนโบราณ
นี่คือหงส์เพลิงโลหิตที่ร่วงหล่น? แม้ว่ามันจะอยู่ท่ามกลางเปลวไฟแต่ทำไมสายตาของมันจึงทำให้ผู้คนรู้สึกหนาวสั่นสะท้าน?
"มากับข้า!"
ร่างยักษ์เคลื่อนไหวได้เร็วมาก เมื่อมันขยับปีกท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ก็แตกออกจากกัน พร้อมกับปรากฏเปลวไฟเผาผลาญทุกทิศทุกทาง
ผู้สูงสุดทั้งหลายไม่รอช้ารีบตามมันไปอย่างรวดเร็ว
อุณหภูมิของเปลวไฟนี้สูงเกินไปจริงๆ ถ้าเป็นคนธรรมดาคงละลายไปนานแล้ว
ในช่วงเวลานั้นพวกเขาบินมาด้วยระยะทางมากกว่าแปดร้อยลี้ก่อนจะมาถึงก่อนหน้าผาโบราณแห่งหนึ่ง หน้าผาโบราณที่สูงตระหง่านเทียบเท่ากับท้องฟ้า
เช่นเดียวกับข้างนอก ที่นี่ไม่มีแม้แต่ต้นหญ้าที่สามารถงอกเงยขึ้นมา มิหนำซ้ำยังมีเปลวไฟเผาไหม้อยู่ทุกหนทุกแห่ง
เมื่อตรวจสอบอย่างใกล้ชิดจะเห็นได้ว่า หน้าผามีรูปร่างเป็นวงแหวนล้อมรอบแกนกลางของดินแดนที่ถูกปิดผนึกนี้ ทำให้คนนอกไม่สามารถก้าวเข้ามาที่นี่ได้
แสงไฟที่ลุกโชนอยู่ภายในนั้นน่ากลัวเป็นอย่างมาก ยิ่งกว่ามันยังเป็นสีแดงสดที่ผสานไปด้วยกับแสงสีดำให้ความรู้สึกสะท้านหวั่นไหวในจิตใจของทุกคนที่มองเห็น
“เราไม่สามารถเข้าไปได้!” ผู้สูงสุดตระกูลจักรพรรดิเอ่ยขึ้นมาเพราะพวกเขาสัมผัสได้ถึงรัศมีพลังของสิ่งมีชีวิตอมตะที่อยู่ด้านหลังของหน้าผานี้ ซึ่งทำให้พวกเขาหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
“มันคือที่นี่ หากเขามีชะตากรรมร่วมกันเขาสามารถนำเลือดหงส์เพลิงออกไปได้ด้วยตัวเอง ถ้าเขาทำไม่ได้ก็ต้องกลับไปมือเปล่า” หงส์เพลิงโลหิตกล่าวอย่างเย็นชา
หน้าผาขนาดใหญ่นี้เป็นเหมือนเขื่อนกั้นแม่น้ำที่ปิดบังทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ด้านหน้า
ในขณะเดียวกันบนหน้าผาก็มีหม้อใบเล็กๆแขวนอยู่มากมาย ทำให้เกิดบรรยากาศลี้ลับอย่างยิ่ง
“โลหิตหงส์เพลิง!”
ดวงตาของผู้สูงสุดทุกคนเป็นประกายสดใส นี่ไม่ได้มีแค่หนึ่งหรือสองหม้อ แต่ยังมีมากถึงยี่สิบกว่าหม้อ
นอกจากนี้ภาชนะเหล่านี้ทั้งหมดยังโปร่งใส เลือดที่อยู่ข้างในมองเห็นได้ พวกมันมีรัศมีที่สามารถทำให้โลกนี้มันสะเทือนได้อย่างชัดเจน
“โอกาสอยู่ที่นี่แล้ว ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะนำมันออกไปได้หรือไม่” หงส์เพลิงโลหิตกล่าว ก่อนที่จะหดร่างกายขนาดใหญ่ของมันลงมาเหลือประมาณสามจ้างเท่านั้น
ภายในเปลวเพลิงที่อยู่บนหน้าผาภาชนะบรรจุโลหิตทั้งยี่สิบกว่าชิ้นล้วนส่องแสงสดใส ถึงแม้จะดูเรียบง่ายและเก่าแก่แต่นี่ไม่ใช่สิ่งประดิษฐ์ธรรมดาทั่วไป พวกมันล้วนผ่านกาลเวลาอันยาวนานอย่างไม่รู้จบ?
เผ่าพันธุ์หงส์เพลิงโลหิตกำลังพยายามทำอะไร? ทำไมพวกมันถึงเก็บเลือดไว้ที่นี่?
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเลือดนี้มีค่ามากแค่ไหน แม้แต่ภาชนะที่ใช้บรรจุพวกมันก็เพียงพอที่จะทำให้โลกภายนอกคลุ้มคลั่ง นี่เป็นเลือดที่ไม่มีวันตายเพียงพอสำหรับคนที่จะอาบและสัมผัสกับการเกิดใหม่!
“ที่ด้านหลังของหินผาคือดินแดนบรรพบุรุษของพวกเรา บรรพบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของข้าทำหน้าที่ดูแลอยู่เขาไม่อนุญาตให้ใครล่วงล้ำไม่เช่นนั้นจะถูกสังหารทันที” หงส์เพลิงโลหิตกล่าวตักเตือนผู้สูงสุดเหล่านั้นที่กำลังแสดงความโลภออกมาทางสายตา
ต่อให้มันไม่พูดออกมาก็ไม่มีใครกล้าที่จะบุกเข้าไปอย่างแน่นอน ทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างสัมผัสได้ถึงรัศมีพลังของสิ่งมีชีวิตระดับผู้อมตะ นี่ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาสามารถต่อต้านใด
ในอดีตเมื่อหงส์เพลิงโลหิตบินมาที่ฝั่งนี้หลังจากสงครามครั้งใหญ่ของทั้งสองฝ่าย ในที่สุดพวกมันก็เข้ามาอาศัยอยู่ที่นี่
มีสิ่งมีชีวิตมากมายต่างแห่กันมาที่นี่เพื่อแสดงความเป็นมิตรต่อเผ่าพันธุ์ที่ทรงพลังนี้
ไม่เว้นแม้แต่จักรพรรดิผู้ไม่ดับสูญ ซึ่งทำให้สถานะของตระกูลนี้ยิ่งใหญ่เกรียงไกรอย่างที่ตระกูลราชาศัพท์คนอื่นไม่สามารถเทียบได้
ในตอนที่เผ่าพันธุ์หงส์เพลิงโลหิตเข้ามาที่ฝั่งนี้เป็นครั้งแรกพวกมันไม่สามารถปฏิเสธตระกูลต่างๆได้โดยง่าย พวกมันจึงใช้เลือดแก่นแท้ของพวกมันมาแขวนไว้ที่นี่เพื่อให้ผู้ที่มีวาสนาสามารถนำพวกมันกลับไป
“ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถนำมันกลับไปได้ เฉพาะผู้ที่มีวาสนาเท่านั้น”
เมื่อพวกเขาได้ยินหงส์เพลิงโลหิตอธิบายอย่างไร้อารมณ์ ผู้สูงสุดทั้งหลายต่างก็ตกตะลึง
โลหิตของหงส์เพลิงโลหิตมีการกลายพันธุ์มานานแล้ว มันไม่ได้บริสุทธิ์เหมือนกับโลหิตของหงส์เพลิงอีกต่อไป สำหรับบางเผ่าพันธุ์มันเป็นของวิเศษสุดล้ำค่าที่ไม่มีใครเทียบได้ แต่สำหรับบางคนมันอาจมีพิษร้ายแรง
ผู้ที่มาที่นี่เพื่อขอโลหิตจำเป็นต้องสัมผัสหม้อบนหน้าผาเพื่อที่จะรู้ว่าพวกเขามีชะตากรรมร่วมกันหรือไม่
มิฉะนั้นหากพวกมันมอบโลหิตออกมาให้โดยตรง แต่คนเหล่านั้นไม่สามารถใช้มันได้นั่นจะเป็นการสิ้นเปลืองอย่างมาก
สือฮ่าวไม่สามารถขยับได้ในตอนนี้ดังนั้นผู้สูงสุดคนหนึ่งจึงใช้ญาณวิเศษในการยกโลงศพของเขาขึ้นไป
“หลังจากหลายปีผ่านไปยังมีเลือดหงส์เพลิงที่ยังไม่ถูกนำออกไปอีกหรือ?” แม้แต่สิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดก็ยังเผยให้เห็นถึงความประหลาดใจ
เห็นได้ชัดว่าเลือดที่แท้จริงของหงส์เพลิงโลหิตมีปัญหาไม่เหมาะกับทุกคนอย่างที่คาดไว้ อาจกล่าวได้ว่ามีเพียงบางคนเท่านั้นที่สามารถใช้ได้
มิฉะนั้นเลือดอันมีค่านี้จะถูกทิ้งไว้ข้างหลังได้อย่างไร?!
ถ้าเป็นหงส์เพลิงทั่วไปก็คงไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน ไม่ว่าจะอย่างไรพวกมันก็คือวิหคศักดิ์สิทธิ์!
ในขณะเดียวกันหงส์เพลิงโลหิตเต็มไปด้วยความเลวทราม จิตใจของพวกมันถูกปนเปื้อนด้วยไอสังหาร ซึ่งทำให้แม้แต่โลหิตของพวกมันก็ปล่อยมีปัญหาไปด้วย