327 - ตกลงกันไม่ได้
1638 - ตกลงกันไม่ได้
“กู่ยี่ถ้าเจ้าไม่ให้คำอธิบายที่สมบูรณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ข้าเกรงว่าเราจะไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้” ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งกล่าว
สถานะของเขาอยู่ในระดับสูงโดยมีต้นกำเนิดมาจากตระกูลอันหลาน ก่อนหน้านี้เขาพยายามเจรจากับกู่ยี่ โดยต้องการให้หลานชายของเขาถูกส่งไปที่เตาหยินหยางพร้อมกับฮวง
กู่ยี่ปฏิเสธอย่างหนักแน่นไม่ว่าจะอย่างไรเขาก็ไม่ยอมรับเรื่องนี้ ส่วนชายวัยกลางคนของตระกูลอันหลานก็มีท่าทีแข็งกร้าวเช่นเดียวกัน
ผู้สูงสุดคนอื่นๆล้วนมีการแสดงออกที่แปลกประหลาด พวกเขากำลังเฝ้าดูว่าเหตุการณ์จะดำเนินไปเช่นไร
“ข้าก็ต้องการรับฟังคำอธิบายด้วยเช่นกัน” ผู้เชี่ยวชาญวัยกลางคนอีกคนกล่าว ทุกคนตื่นเต้นเล็กน้อยเพราะนี่คือสิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุดสายเลือดจักรพรรดิแดง
ตอนนี้มีผู้แข็งแกร่งจากตระกูลจักรพรรดิมากกว่าสี่ห้าคนกำลังรุมล้อมกู่ยี่เพื่อขอคำอธิบาย
ผู้สูงสุดหลายคนถอยออกไปด้านหลัง สถานการณ์ตอนนี้ตระกูลกู่ถูกกดดันอย่างหนัก หากไม่ยินยอมตามข้อตกลงของผู้สูงสุดตระกูลจักรพรรดิเหล่านี้ย่อมเกิดความขัดแย้งขึ้น!
โดยปกติแล้วผู้คนจากตระกูลจักรพรรดิย่อมไม่หวาดกลัวตะกูลกู่แม้ว่าตอนนี้ทุกคนจะอยู่ในดินแดนบรรพบุรุษของตระกูลกู่ก็ตาม แต่พวกเขาก็ยังคงแสดงพลังเหมือนเช่นที่เคยทำปกติ
บรรยากาศตอนนี้ตึงเครียดเล็กน้อยไม่มีผู้ใดกล้ากล่าววาจาออกมา
เตาหยินหยางอยู่ใจกลางหุบเขา มันถูกล้อมรอบไปด้วยพลังแห่งความโกลาหลทำให้รูปลักษณ์ของมันไม่ชัดเจน สือฮ่าวกำลังนอนอยู่ข้างในโดยไม่สามารถขยับตัวได้
เห็นได้ชัดว่ากระบวนการปรับแต่งนี้ถูกขัดจังหวะจนต้องหยุดลงชั่วคราว
ดวงตาของผู้คนไม่น้อยเต็มไปด้วยความมึนงง พวกเขาไม่คิดว่าสถานการณ์จะยุ่งเหยิงขนาดนี้ ด้วยคำพูดของผู้คนจากตระกูลจักรพรรดิย่อมเป็นเรื่องยากที่จะมีใครกล้าขัดแย้ง
“เมื่อมีคนจำนวนมากเกินไปก็เป็นเรื่องง่ายที่จะก่อให้เกิดปัญหา” กู่ยี่กล่าวอย่างอับจนปัญญา
คนอื่นๆไม่เข้าใจเจตนาของเขา แต่ผู้คนจากตระกูลจักรพรรดิล้วนเข้าใจดี
คำว่า 'คนจำนวนมากเกินไป' คือพวกเขาพยายามที่จะยึดตำแหน่งโดยต้องการให้ลูกหลานของพวกเขาเข้าสู่เตาหยินหยางได้รับการขัดเกลาด้วยกัน
“ไม่เป็นไรเรามีการเตรียมการบางอย่างอยู่แล้ว” ผู้เชี่ยวชาญวัยกลางคนลูกหลานของจักรพรรดิแดงกล่าวด้วยรอยยิ้ม เขาเป็นคนที่มาจากตระกูลจักรพรรดิซึ่งมีการแสดงออกอย่างแข็งกร้าวเสมอ
"อย่างนั้นก็เชิญตามมาทางนี้!" กู่ยี่หรี่ตาลงและเชิญชวนให้ผู้สูงสุดตระกูลจักรพรรดิเหล่านั้นมาที่ด้านข้างเพื่อสนทนารายละเอียดบางอย่าง
เห็นได้ชัดว่าเขาต้องประนีประนอมและทุกฝ่ายจำเป็นต้องได้รับประโยชน์ ไม่เช่นนั้นสถานการณ์จะไม่สามารถดำเนินต่อไปได้
“เตาหยินหยางนี่คือสมบัติล้ำค่าที่ไม่มีใครเทียบได้! ข้าสามารถอนุญาตให้ลูกหลานของพี่น้องทุกคนมีเข้าร่วม แต่สมบัติสวรรค์ต้องถูกเพิ่มเข้ามาอย่างมากมายมหาศาลไม่เช่นนั้นรังแต่จะเป็นการทำร้ายพวกเขา”
นี่เป็นคำพูดของกู่ยี่ ข้อเรียกร้องของเขาไม่ได้ถือว่าเกินเลยไป
ในตอนนี้เขาไม่ได้ปฏิเสธ แต่กดดันผู้คนจากตระกูลจักรพรรดิให้ค้นหาสมบัติสวรรค์มาเพิ่มเติม หลังจากโต้เถียงกันอีกครั้งในท้ายที่สุดทั้งสองฝ่ายก็พยักหน้าถือว่าได้ข้อสรุปร่วมกัน
ตระกูลจักรพรรดินั้นมีสถานะสูงส่ง การจะค้นหาวัสดุชั้นสวรรค์สำหรับตระกูลอื่นอาจถือว่ายากลำบาก แต่ในคลังสมบัติของพวกเขาย่อมมีของพวกนี้ไม่น้อย
เตาหยินหยางลอยอยู่กลางอากาศเด้งขึ้นเด้งลง สือฮ่าวนอนอยู่ข้างในมานานมากแล้ว นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรจำนวนมากกลิ้งไปมาอยู่ข้างกายเขา
“เราจะไปเอาสมบัติสวรรค์” ทายาทของอันหลานกล่าว
หลังจากนั้นก็มีแสงหลากสีหลายเส้นพุ่งออกไปจากดินแดนบรรพบุรุษของตระกูลกู่
ดวงตาของผู้สูงสุดคนอื่นเต็มไปด้วยความมึนงง พวกเขากำลังจะทำอะไร? ตอนนี้มีวัตถุศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากวางอยู่ในเตาปรุงยาแล้ว ทำไมพวกเขาถึงต้องเอามาเพิ่มอีก?
แน่นอนว่าสิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุดคนอื่นควรทราบเบื้องหลังเรื่องนี้ดี แต่น่าเสียดายที่นอกเหนือจากตระกูลจักรพรรดิแล้ว คนอื่นๆ ไม่มีทางต่อกรกับตะกูลกู่ได้
ในวันเดียวกันเด็กหนุ่มหลายคนก็มาถึงดินแดนโบราณของตระกูลกู่ พวกเขาติดตามผู้อาวุโสของตระกูลมาที่นี่
แน่นอนว่ายังมีสมบัติสวรรค์ที่น่าตกใจมากับพวกเขาด้วย!
อวี่อวี้ อู๋คุน ฉิงคุน ทั้งสามคนล้วนอยู่ที่นี่ นอกจากพวกเขาแล้วยังมีผู้เชี่ยวชาญรุ่นเยาว์อีกสามคนซึ่งมาจากตระกูลจักรพรรดิทั้งหมด
หกจักรพรรดิหนุ่ม!
เมื่อทุกคนเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นต่างก็รู้สึกอิจฉาอย่างช่วยไม่ได้ โดยเฉพาะผู้แข็งแกร่งรุ่นเยาว์ทั้งหลาย
เฮ่อจื่อหมิงก็อยู่ในกลุ่มนี้เช่นกัน เขามองไปที่คนทั้งหกแล้วถอนหายใจเบาๆ แม้ว่าเฮ่ออู่ซวงบรรพบุรุษของเขาจะมีอำนาจมาก แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ไม่ได้เป็นจักรพรรดิผู้ไม่ดับสูญ
ด้วยความแข็งแกร่งเพียงครึ่งก้าวสู่ราชาอมตะย่อมไม่เพียงพอที่จะต่อรองกับตระกูลกู่ที่มีบรรพบุรุษอยู่ในระดับครึ่งก้าวสู่ราชาอมตะเช่นกัน
เฮ่อจื่อหมิงเชื่อว่าเขามีความแข็งแกร่งมากกว่าทายาทของตระกูลจักรพรรดิเหล่านี้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามผลประโยชน์ในส่วนนี้เขากลับไม่สามารถมีส่วนร่วมได้ แม้ว่าผู้อาวุโสจากตระกูลของเขาจะออกหน้าต่อรองแล้วก็ตาม
ในความเป็นจริงคนที่รู้สึกเสียใจไม่ใช่แค่เขา แต่ยังมีคนอื่นๆอีกมากมาย
หลังจากนั้นไม่นานผู้บ่มเพาะมากมายก็ทราบเรื่องที่เกิดในดินแดนบรรพบุรุษของตระกูลกู่
“เตาหยินหยางดูเหมือนจะเป็นร่างเดียว แต่จริงๆแล้วมันแบ่งออกเป็นหยินและหยางสองเตา เมื่อฮวงถูกวางไว้ในเตาหยางเด็กหนุ่มจากตระกูลจักรพรรดิคนอื่นๆจะอยู่ในเตาหยินคว้าโชคตามธรรมชาติด้วยเช่นกัน”
เมื่อข่าวเหล่านี้แพร่สะพัดออกไปทุกคนจะสงบสติอารมณ์ได้อย่างไร?
ดินแดนบรรพบุรุษของตระกูลกู่เต็มไปด้วยผู้คนผู้เชี่ยวชาญมากหน้าหลายตา พวกเขาเฝ้ามองเตาหยินหยางด้วยความปรารถนา แต่ไม่สามารถทำอะไรได้
อู๋คุน อวี่อวี้ และฉิงคุนเข้ามาในเตาเป็นกลุ่มแรก พวกเขาครอบครองตำแหน่งที่ดีที่สุดที่อยู่ด้านตรงข้ามกับสือฮ่าว
จากนั้นชายสองคนและหญิงหนึ่งคนจากตระกูลจักรพรรดิก็ตามเข้ามา พวกเขาคือผู้ที่โดดเด่นที่สุดในบรรดาคนรุ่นหลังของตระกูลจักรพรรดิเช่นกัน
“นั่นคือฉีเมิ่งหง!”
มีคนจำฉีเมิ่งหงได้จากทั้งสามคนที่เข้ามาในภายหลัง ว่ากันว่าเขาคือผู้ที่แข็งแกร่งมากที่สุดในบรรดาทายาทของตระกูลจักรพรรดิทั้งหลายในรุ่นนี้
“สามารถพูดได้แค่ว่าพวกเขามีความโชคดีเท่านั้นที่เกิดมามีอาณาจักรบ่มเพาะใกล้เคียงกันกับฮวง ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไม่มีทางได้รับโชควาสนาครั้งนี้อย่างแน่นอน” เด็กหนุ่มบางคนที่อยู่ข้างนอกกล่าวด้วยความไม่ยินยอมพร้อมใจ
ตอนนี้มีบางคนที่เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น
จักรพรรดิหนุ่มทั้งหกทั้งหมดที่เข้าไป ล้วนมีอาณาจักรการบ่มเพาะเท่ากันทั้งหมด นั่นจึงเป็นเรื่องเหมาะสมที่พวกเขาจะถูกหลอมกลั่นพร้อมกัน
“นั่นมันดอกบัวพ้นภัยพิบัติ!”
ใครบางคนร้องออกมาด้วยความตกใจ นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่ตระกูลจักรพรรดิก็โยนของวิเศษสุดล้ำค่าเข้าไปด้านในแล้ว ดอกบัวศักดิ์สิทธิ์นั้นส่องแสงสีทองพร่างพราวพร้อมกับปลดปล่อยกลิ่นหอมฟุ้งกระจาย
จากนั้นชายวัยกลางคนจากสายเลือดของซือถูก็โยนวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่หายากกว่าเข้าไปข้างใน ไม่เพียงแต่จะมียาเซียนเท่านั้น แต่ยังมีวัสดุแร่หายากอีกด้วย
“สวรรค์นั่นคือหินโลหิตราชา!” มีคนตะโกนออกมา ทุกคนมึนงงอย่างสิ้นเชิง
คนที่มาจากสายเลือดซือถูโยนหินสีแดงเข้มลงไปในหม้อ ตอนแรกมันเป็นสีแดงสดจากนั้นมันก็เปล่งประกายห้าสีพร้อมกับปลดปล่อยรัศมีของจักรพรรดิผู้ไม่ดับสูญออกมา
สิ่งนี้ทำให้ทุกคนตกใจเป็นอย่างมาก พวกเขาจำได้ว่านี่คือสมบัติประจำตัวของบรรพบุรุษโบราณซือถูนั่นเอง
“สวรรค์นั่นคือผลไม้หมื่นปี!” อีกคนร้องลั่นด้วยความตื่นตระหนก เป็นเพราะภายในเตาหยินหยางมีผลไม้สองสามอย่างเพิ่มเข้ามาโดยผู้สูงสุดสายเลือดจักรพรรดิแดง
ผลไม้พวกนี้มีความสามารถในการต่อชีวิตของผู้ที่กำลังสิ้นสุดอายุขัยออกไปได้นับหมื่นปี
จักรพรรดิหนุ่มทั้งหกนั่งอยู่ข้างในโดยไม่ขยับตัว พวกเขารอให้ตราประทับเต๋าอันยิ่งใหญ่พุ่งลงมาจากท้องฟ้านั่นจะเป็นเวลาเริ่มการขัดเกลาตัวเอง
สภาพของพวกเขาดูดีกว่าสือฮ่าวมาก เพราะสือฮ่าวกำลังนอนแน่นิ่งไม่สามารถขยับตัวอาการบาดเจ็บของเขาในครั้งนี้รุนแรงมากเกินไป
ก่อนที่เตาหยินหยางจะถูกปิดผนึกชายหนุ่มอีกคนก็เดินเข้าไปในเตาหลอม
"นี่คือใคร? เขาเทียบเท่ากับจักรพรรดิหนุ่มทั้งหกหรือ?”
“นั่นคือกู่หงของตะกูลกู่ซึ่งเป็นหลานชายคนเดียวของกู่ยี่ บางทีพรสวรรค์ของเขาอาจมากกว่าทายาทตระกูลจักรพรรดิด้วยซ้ำ!” ใครบางคนกล่าวด้วยเสียงต่ำ
กู่หงไม่ได้มีรูปร่างหล่อเหลางามสง่ามากนัก เขาเดินเข้าไปในเตาหยินหยางด้วยความสงบไม่มีความหยิ่งผยองแม้แต่น้อย
กวงดัง!
ฝาเตาถูกปิดสนิทไม่มีใครสามารถเข้าไปได้อีกแล้วในตอนนี้
“เริ่มได้แล้ว!”
ในเวลาเดียวกันกู่ยี่ก็ส่งเสียงตะโกนเบาๆ
หลังจากนั้นเปลวไฟเซียนที่อยู่ด้านล่างของหุบเขาก็พุ่งขึ้นมากลืนกินหม้อหยินหยางเข้าไปข้างใน ความร้อนที่แผ่ออกมาด้านนอกไม่มีผู้ใดสามารถทนได้
ผู้คนจำนวนมากที่มุงดูอยู่ต่างก็รีบลนลานออกไปนอกหุบเขาอย่างรวดเร็ว
นี่คือหุบเขาแห่งเปลวไฟซึ่งถูกใช้ในการหลอมยาด้วยหม้อหยินหยางโดยเฉพาะ
“นี่คืออะไรกันแน่”
แม้ว่าหลายคนจะเดาไปแล้ว แต่ก็ยังมีบางคนที่สับสนเป็นเพราะพวกเขาเพิ่งมาถึงที่นี่
“พวกเจ้าเพิ่งมาจึงยังไม่รู้อะไร หลังจากนี้ผู้คนจากดินแดนของเราจะต้องได้รับความทุกข์ทรมานอีกมาก เพราะว่าฮวงจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม!”
(ในฝั่งเก้าสวรรค์จะเรียกสิ่งมีชีวิตระดับอาณาจักรแห่งความเป็นอมตะว่าผู้อมตะหรือเซียน ในฝั่งต่างมิติจะเรียกว่าผู้ไม่ดับสูญ แต่ในระดับสูงกว่านั้นจะใช้คำเดียวกันว่าราชาอมตะทั้งสองฝั่ง เพียงแต่ว่าหลังจากได้รับชัยชนะในสงครามเซียนโบราณครั้งสุดท้ายในฝั่งต่างมิติได้สถาปนาตัวเองเป็นจักรพรรดิผู้ไม่ดับสูญให้มีสถานะสูงกว่าราชาอมตะ แต่ในความเป็นจริงระดับการบ่มเพาะของพวกเขาคือราชาอมตะเหมือนเดิม )