ตอนที่ 1 เกิดใหม่
ตอนที่ 1 เกิดใหม่
“โทรเรียกรถพยาบาลเร็ว...”
“ไม่น่าเลย โดนชนไปเต็ม ๆ เลย”
“เฮ้...คนขับไม่เป็นอะไร แต่รีบไปดูชายหนุ่มคนนั้นเร็วเข้า”
“บาดเจ็บหนักมาเลือดออกเต็มเลย”
“คุณอย่าพึ่งตายนะอดทนหน่อยสิ...เฮ้ย บ้าเอ๊ยเขาเลือดไหลเยอะมาก”
ท่ามกลางสายฝนที่กระหน่ำลงมาเสียงร้องเรียกจากกลุ่มคนแปลกหน้าดังอย่างต่อเนื่อง สถานที่นี้คือกลางสี่แยกบริเวณทางข้ามม้าลายจุดหนึ่ง ห่างกันไม่ไกลมีรถบรรทุกหกล้อที่ขนตุ๊กตาไก่สีเหลืองมาได้ชนเข้ากับเสาสัญญาณทางม้าลายจอดดับสนิทอยู่
ด้านหน้าของรถบรรทุกพังเสียหายยับเยิน มีรอยสีแดงติดเปลี่ยน ซึ่งมาจากเลือดสีแดงและกำลังถูกน้ำฝนชะล้างออกไป คนขับรถบรรทุกเปิดประตูที่พังออกมา ก่อนที่แววตาจะเต็มไปด้วยความตกใจ
บนพื้นที่รอบ ๆ มีตุ๊กตายางไก่สีเหลืองตกหล่นอยู่เกลื่อนพื้น เวลามีคนไปเหยียบพวกมันก็จะร้องเสียงดังโอ๊ก..อ๊าก... ชวนเอาฮาเป็นอย่างมาก
บริเวณนั้น ผู้คนต่างพากันหยุดมองดู บ้างก็ยกมือถือขึ้นมาถ่าย บ้างก็ยกมือปิดปากปิดตาและพากันชี้นิ้วชี้มือไปมา ขณะที่หลายคนช่วยกันเคลียร์ถนนและหยุดรถคันอื่น ๆ เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุทับซ้อนกันเกิดขึ้น
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ได้อยู่ในสายตาของเด็กหนุ่มที่ตอนนี้กำลังนอนแน่นิ่งไม่อาจจะขยับตัวได้ เลือดไหลออกจากทั้งใบหน้า ศีรษะและตัว แขนขาของเขานั้นบิดผิดรูปจนน่าตกใจ เลือดที่ไหลออกมานั้นกำลังรวมกับน้ำฝนที่ตกลงมาท่วมขังที่พื้นถนน เนื่องจากท่อระบายน้ำนั้นระบายน้ำฝนไม่ทัน ทำให้มันกลายเป็นสีแดงขุ่น ๆ ราวกับแอ่งเลือด
ชายหนุ่มมองไปรอบตัวพยายามตั้งสติคิดว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ความชาจากร่างกายทำให้ทุกอย่างนั้นเหมือนจะช้าไปหมดทั้งความคิดและการรับความรู้สึก
‘เราโดนรถชนอย่างนั้นเหรอ...คงจะเป็นอย่างนั้นสินะ’
‘ว่าแต่ดันมาโดนรถบรรทุกแบบนั้นชนซะได้ ทำไมมีคนข้ามทางม้าลายถึงไม่หยุดรถละ ปกติเขาต้องหยุดกันไม่ใช่เหรอ’
‘เฮ้อ...ไอ้เสียงตุ๊กตาไก่ที่ร้อง โอ๊ก!...อ๊าก!...อยู่นั้น ได้โปรดเถอะอย่าไปเหยียบพวกมันได้ไหม เห็นใจคนเจ็บบ้างสิ’
‘ถึงจะอยากพูดแบบนี้ แต่เราไม่มีแรงพูดอะไรเลย’
‘อยากจะขยับตัวจัง...หนาวมาก อาจจะเพราะน้ำฝนหรือเปล่า’
‘เลือดเข้าตาอีก บ้าจริงหนังตาหนักมาก อย่าหลับนะ ตกลงเราบาดเจ็บหนักใช่ไหม แบบนี้อาจจะตายได้นะเว้ย อย่าหลับนะตัวเรา’
‘บ้าจริง ฉันยังไม่อยากจะตายสัก....หน่อย...’
...
‘เอ๊ะ...รู้สึกตัวแล้ว แสดงว่าเรายังไม่ตาย ดูแล้วคงไม่เจ็บหนักสินะ’
‘มืดมาก แต่รู้สึกดีจัง ใช่ห้องในโรงพยาบาลใช่หรือเปล่า’
‘โอ๊ะ...แสง...นี่ แสบตาชะมัดเลย’
‘ทำไมถึงมีผู้หญิงมาจ้องมองเราแบบนั้นกัน’
‘ถึงใบหน้าจะมอมแมม มีเหงื่อและเปื้อนฝุ่นไปหน่อย แต่เธอก็สวยมากจริง ๆ’
‘เฮ้ คุณผู้หญิงครับถึงจะสวย แต่อย่าเอามาจับหน้ากันแบบนี้สิ’
‘ว่าแต่ เธอสวยจัง อยากจะลองจับหน้านั้นดูจัง’
เขายกมือขึ้นมาพยายามจะจับไปที่หญิงสาวด้านหน้า แต่แล้วในตอนนั้นเองเขาก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น
‘เฮ้ย!!! ทำไม!.........มือ มือฉันถึงกลายเป็นมือเด็กทารกไปได้กัน! เนี่ย...!!’
เขาเหมือนจะพึ่งตระหนักถึงบางสิ่ง สายตามองไปรอบข้างอย่างตกใจ สถานที่นี้ไม่ใช่โรงพยาบาล แต่เป็นตึกร้างเก่า ๆ มีกองไฟอย่าง่าย ๆ ก่อขึ้นมาพอให้ความอบอุ่น นอกจากนั้นยังมีตะเกียงไฟสว่างอยู่ด้วย
เขากำลังถูกอุ้มโดยหญิงสาวสวยหน้าตาดีที่เหงื่อท่วมไปทั้งตัว เธอมองมาที่เขาด้วยสายตาที่รักและห่วงใย เมื่อเห็นว่าเขานั้นพยายามยื่นมือไปจับใบหน้าของเธอ หญิงสาวก็ยิ้มออกมาพร้อมกับน้ำตา เพราะคิดว่าอาจจะเกิดปัญหากับเด็กก็ได้เนื่องจากเขาไม่ยอมร้องออกมา
เธอยื่นหน้าเข้ามาให้เขาสัมผัสด้วยกลัวว่าเขาจะเจ็บ
“ลูกแม่...ในที่สุดเราก็ได้เจอกันแล้ว” หญิงสาวสัมผัสใบหน้าเขาอย่างอ่อนโยน
ทารกในอ้อมกอดของเธอมองไปด้านหน้าด้วยดวงตาที่สงบนิ่ง ไม่มีเสียงร้องหรืออะไรออกมา มือแข็งค้างอยู่แบบนั้น เพราะตอนนี้เขากำลังช็อกกับสิ่งที่เกิดขึ้น
‘ฉันกลายเป็นเด็กทารกไปซะแล้ว!!!’
...
หลังจากตั้งสติได้ เขาก็เริ่มคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
‘ความทรงจำสุดท้ายคือโดนรถบรรทุกชนไม่ใช่อย่างนั้นเหรอ แล้วทำไมถึงมาอยู่ในร่างเด็กทารกได้กัน’
‘บ้าเอ๊ย...อย่าบอกนะว่ามันเหมือนกับการ์ตูนและในนิยาย ที่บอกว่า รถบรรทุกคืออุปกรณ์ส่งไปต่างโลก ไม่สิฉันจะบอกว่าต่างโลกไม่ได้ ที่นี่อาจจะเป็นสถานที่ด้อยพัฒนาในโลกที่ไหนสักแห่งก็ได้’
‘ถ้าอย่างนั้นตอนนี้เราก็สรุปได้อย่างหนึ่งสินะ หลังจากเดินรถบรรทุกชน ฉันก็มาเกิดใหม่ในร่างของเด็กทารก’
‘นี่มันจะน่าเหลือเชื่อไปแล้วนะเว้ยเฮ้ย!’
“อะ...อาย...เอี้ย..” เด็กทารกในอ้อมกอดของหญิงสาวขยับปากเบา ๆ ก่อนส่งเสียงเล็กน้อยออกมา แต่ไม่ว่าจะพยายามอย่างไร เขาก็ยังไม่อาจจะส่งเสียงเป็นคำพูดได้
‘เฮ้อ...ก็นั้นสินะ เราพึ่งเกิดมาก็คงจะยังพูดไม่ได้ ช่างมันเถอะ เอ๊ะ! แล้วนั้นเธอจะทำอะไรนะ!’
หญิงสาวก้มมองด้วยรอยยิ้ม เมื่อเห็นว่าทารกในอ้อมกอดของเธอก็ยังส่งเสียงร้องออกมา
“ลูกแม่ หิวแล้วอย่างนั้นเหรอ รอสักครู่นะ” หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงเหนื่อย ๆ ก่อนจับไปที่หน้าอกของตนเองเปิดผ้าออก ก่อนจะอุ้มเขาเข้ามาใกล้หน้าอกข้างขวา
‘เฮ้ย ๆ นี่คิดจะทำอะไร พระเจ้า! หน้าอกของสาวสวย...หนุ่มซิงอย่างฉันดันมายังมาเห็นสาวสวยเปิดหน้าอกแบบนี้มัน...’
‘บ้าจริง ลืมไปได้ยังไง ฉันตอนนี้คือเด็กทารกและเป็นลูกของเธอ อย่าบอกนะว่าเธอจะป้อนนม’
‘เอายังไงดี แบบนี้จะว่าน่าอายก็ได้ฉันคือชายอายุ 26 ในร่างเด็กทารก แถมเธอยังเป็นแค่หญิงสาวที่อายุ 20ปลาย ๆ เท่านั้น ถ้านับตามจริงอายุไม่ห่างกันมากด้วยซ้ำ แต่จะให้ต่อต้านก็ทำไม่ได้ด้วยสิ’
‘เอาวะ ยังไงก็ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติก็แล้วกัน’
‘สัมผัสนี่มัน เฮ้อการดื่มนมสินะ...’
“ต่อไปนี้ลูกคือ ลูอิส แกริค บุตรชายของบารอนไรแลนด์ แกริคและลูกของข้าแอนเดรีย แกริค” หญิงสาวมองดูเด็กทารกในอ้อมกอดที่กำลังดูดนมอย่างสบายใจ
‘ดูเหมือนฉันจะมีชื่อว่า "ลูอิส" สินะ แต่เดียวก่อน บุตรชายของบารอนไรแลนด์ ประเทศไหนกันที่ยังมียศขุนนางอยู่ ภาษาก็ฟังยากมาก เอ๊ะ! ทำไมถึงรู้สึกง่วงได้ละเนี่ย… หรืออาจจะเพราะฉันเป็นเด็กทารกกัน บ้าจริงง่วงมาก...’
ลมหายใจของเขานั้นค่อยแผ่วเบาลง ราวกับกำลังหลับสนิทไปพร้อมกับกินนมไปด้วย เขาไม่อาจจะต้านทานความง่วงนอนของร่างเด็กทารกนี้ได้เลยแม้แต่น้อย ก่อนที่ดวงตาจะค่อย ๆ ปิดลง
ตอนนั้นเองก็มีชายชราเดินเข้ามาหาหญิงสาวสวย ก่อนจะกล่าวว่า “นายหญิงแอนเดรีย พวกเราต้องรีบออกไปจากที่นี่แล้ว”
“เกิดอะไรขึ้น?” แอนเดรียถามพ่อบ้านชราเฟรดด้วยเสียงบางเบา ส่วนหนึ่งเพราะความเหนื่อยล้าและอีกส่วนนั้นเพราะกลัวจะทำให้ทารกในอ้อมกอดตื่น
“ดูเหมือนกลิ่นเลือดจะล่อพวกมันมาที่นี่ เราควรตะรีบไปก่อนจะโดนล้อม” พ่อบ้านชราเฟรดพูดด้วยน้ำเสียงเคารพ สายตาของเขานั้นก้มต่ำไม่ได้มองนายหญิงแอนเดรียที่ให้นมทารกตรง ๆ
“อืม” แอนเดรียพยักหน้ารับด้วยสีหน้าที่จริงจัง แม้จะรู้ว่าในช่วงเวลาตอนกลางคืนนั้น ด้านนอกจะอันตรายเป็นอย่างมาก แต่การอยู่ที่นี่โดยที่มีกลิ่นเลือดล่อพวกมันมาที่นี่ อีกไม่นานพวกมันคงตามมาเจออย่างแน่นอน
...
‘หืม เกิดอะไรขึ้น ทำไมรู้สึกเหมือนว่าฉันกำลังเคลื่อนที่อยู่เลย’ ลูอิสที่เหมือนจะโดนปลุกให้ตื่นขึ้นมากำลังมองไปรอบตัวด้วยความสนใจ ก่อนจะพบว่าตอนนี้ตัวเขากำลังเคลื่อนที่อยู่
ถ้าจะพูดให้ถูกต้องคือ กำลังโดนแอนเดรียอุ้มและเธอก็วิ่งอย่างสุดกำลัง สีหน้านั้นซีดเล็กน้อย แต่แววตานั้นกลับเต็มไปด้วยความกลัวจนดูน่าสงสาร ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังกอดเขาไว้แน่น
‘เกิดอะไรขึ้นกัน สะเทือนจนมึนหัวเลย...เธอวิ่งอยู่เหรอ หืม...หนีอะไรหรือเปล่า’ ลูอิสกะพริบตามองไปที่ใบหน้าของหญิงสาวด้วยดวงตาที่ใส่แป๋วของเด็กทารก และแฝงความสงสัยไว้ส่วนหนึ่ง
“นายหญิงระวังด้านหน้า” พ่อบ้านชราเฟรดตะโกนเตือนหญิงสาว ก่อนที่เธอจะหยุดและรีบหลบในทันที
ขณะเดียวกันตอนนั้นเองก็มีบางสิ่งที่รูปร่างเหมือนมนุษย์ที่ร่างกายเน่าเปื่อยวิ่งเข้าใส่เธอ โชคยังดีที่หญิงสาวนั้นหลบออกไปรออยู่ก่อนแล้ว ทำให้มันพลาดเป้าไป ก่อนจะกลิ้งล้มไปกับพื้นกระแทกกับกำแพงของซากตึกแถวนั้นด้วยสภาพน่าสมเพช
‘เฮ้ย ๆ นั้นมันตัวบ้าอะไรกัน เหม็นมาก...บ้าน่านี่มัน!!’ เขาที่อยู่ในอ้อมกอดหญิงสาวมองไปที่สิ่งมีชีวิตปริศนาที่กำลังลุกขึ้นมายืนอย่างช้า ๆ ก่อนที่แสงจากตะเกียงไฟจะสาดส่องโดนหน้าของมัน ทำให้เห็นสภาพเน่าเปื่อยได้อย่างชัดเจน ลูอิสอุทานด้วยความตกใจในใจ เพราะภาพที่เห็นนั้นมันน่าเหลือเชื่อมาก
‘ซอมบี้....!!!’
‘โลกนี้มีซอมบี้ ถ้าอย่างนั้นนี่ก็คือต่างโลกจริง ๆ แต่อย่าบอกนะว่าที่นี่คือโลกที่เต็มไปด้วยเจ้าตัวแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นมันคือยุคล่มสลายสินะ’
‘นี่มันจะซวยเกินไปแล้ว ฉันมาเกิดใหม่เป็นเด็กทารกในโลกล่มสลายเนี่ยนะ’
...