ต่างโลกกับเทพบริหาร ตอนที่ 219 เดินเกมส์
ตอนที่ 219 เดินเกมส์
“ทำได้ดีมาก ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะสามารถอดทนแล้วรอให้พวกมันเข้ามาใกล้จะสร้างความเสียหายให้พวกมันขนาดนั้นได้”
ผมกล่าวชมดัสด้านหน้าที่เดินทางกลับมาทันที เพราะสิ่งที่มันทำเอาไว้เรียกได้ว่าดีมากที่สามารถทำตามคำสั่งแล้วจัดการกำลังรบของพวกมันลดไปขนาดนั้น ตอนนี้พวกที่อยู่ในป้อมต่างต้องกำลังร้อนรนกันใหญ่แล้วแน่นอนกับเรื่องที่เกิดขึ้น
“ครับท่าน!”
ดัสตอบพร้อมก้มหน้าลงเล็กน้อย ตอนแรกคิดว่ามันจะมาพูดคุยว่าตัวเองเก่งสะอีก แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน “แล้วท่านจะทำยังไงกับพวกมันต่อครับ?”
“รอ”
“รอ?”
“ถูกต้อง ตอนนี้เราทำเพียงแค่รอเท่านั้นไม่ต้องทำอะไร ตามการคาดการณ์ที่ข้าได้คิดเอาไว้ไม่เกินคืนนี้พวกมันต้องเดินทางออกจากป้อมแน่นอน และเราก็สามารถเข้าไปได้โดยไม่ต้องเสียกำลังทหาร …หรืออีกอย่างก็คือพวกมันต้องบุกเข้ามาเต็มกำลังแน่นอนเพราะจากที่ดูผู้นำป้อมที่จะไม่รอบคอบแต่ก็ไม่ได้โง่ พวกมันไม่มีทางอยู่รอให้เราถล่มปืนใหญ่พลังเวทย์ใส่แน่”
“อย่างนี้นี่เอง…”
ดัสพยักหน้าขึ้นลงแบบสีหน้าแปลกใจ สีหน้าแบบนั้นมันหมายความว่ายังไง เรื่องแค่นี้อย่าบอกนะว่าแกคิดไม่ได้ ไม่น่าสอนเรื่องสงครามให้เลย
“แต่ว่าถ้าพวกมันหนีเราไปละครับ ถ้ามันหนีมันก็เอาข้าวของออกไปมากมายร่วมถึงอาหารด้วย ถ้าพวกเราบุกตอนนี้มันจะกลายเป็นการตัดกำลังรบพวกมันไม่ดีกว่าเหรอครับ เพราะข้าคิดว่ามันต้องถอยไปรวมกับทัพหลักแน่”
“ไม่จำเป็น”
“….” ? ดัสทำหน้าสงสัยหลังจากที่ผมตอบไป ก็จริงอยู่ว่าถ้าปล่อยพวกมันเอาไว้พวกมันจะสามารถเอาของออกไปได้ แต่ว่าก็อย่างที่บอกไปผู้นำของพวกมันถึงไม่รอบคอบแต่ก็ไม่ได้โง่ ถ้ามันคิดหนีมันก็หนีไปแบบที่จะทำให้ตัวเองรอดมากที่สุดโดยทิ้งทหารเอาไว้แน่นอน เพราะแบบนี้ผมเลยบอกออกไปว่าไม่จำเป็น
“เรื่องบุกเดี๋ยวเจ้าก็เข้าใจเอง ตอนนี้เจ้าช่วยรีบเดินทางกลับไปยังเมืองทาเลสด้วยเพราะข้าเป็นห่วงองค์หญิง”
“ท่านหมายความว่ายังไงครับ?”
ดัสทำสีหน้าตื่นระหว่างถาม เรื่องที่ผมกำลังเป็นกังวลอยู่ตอนนี้มันอธิบายเป็นคำพูดออกมาไม่ได้หรอก เพราะมันยังไม่แน่นอน แต่ว่าถ้าพวกตระกูลโอโบนอดเคลื่อนไหวเพียงแค่เมคัสกับเวโรนิก้าไม่มีทางหยุดพวกมันได้แน่นอน อีกอย่าง ตอนนี้การบุกมหาจักรวรรดิก็ราบรื่นแค่ผมนำทัพคนเดียวก็พอแล้ว การให้ความสำคัญเรื่องหลังบ้านระหว่างทำสงครามกับพวกปีศาจจำเป็นกว่า
แต่ถึงยังไฝตอนนี้จะเล่าให้ดัสฟังทั้งหมดเลยก็ไม่ได้ เพราะงั้นตอบส่งๆ ไปก่อนดีกว่าเพราะรอบตัวของเราตอนนี้มีทหารมากเกินไป ไม่รู้ว่าใครเป็นสายสืบอยู่บ้างเพราะตระกูลโอโบนอดนั้นมีอำนาจมาก การจะส่งคนเข้ามาในกองทัพเรามันไม่ได้ยากอะไรเลย
“ตอนนี้เจ้าอย่าพึ่งถามอะไร เอาไว้ไปถามองค์หญิงที่เมืองก็พอ เดี๋ยวเธอจะเล่าทุกอย่างให้เจ้าฟังเอง”
“คะ ครับ”
“งั้นก็ออกเดินทางได้เลย เอาทหารกลับไปด้วยสองหมื่นคน”
“ตอนนี้เลยเหรอครับ!!!”
ดัสตะโกนเสียงดั่นลั่นแบบคนตกใจมากๆ ก็ตอนนี้สิ! แกจะรออะไรอีกละ
“อืม!”
ผมพยักหน้าขึ้นลงพร้อมเสียงออกรำคาญกลับไป จากนั้นดัสก็พยักหน้าแล้วเดินไปออกไปทันที เอาละเท่านี้ก็รอแต่เวลาแค่นั้น อยากรู้จริงๆ ว่ามันจะเลือกเดินเกมส์แบบไหน หึหึ!
ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาเย็นอ่อนๆ คาดว่าอีกไม่เกินสองชั่วโมงก็น่าจะได้รู้ผลว่ามันจะเลือกทางไหน จะสู้แล้วตาย หรือจะหนีแล้วเสียศักดิ์ศรี! แต่ในเมื่อมันไม่ใช่คนโง่มันต้องเลือกทางที่สองถ้ามันไม่โง่ละนะ
…
….
…..
สามชั่วโมงต่อมา
ณ ห้องควบคุมรถไฟ
หลังจากที่ไปอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายผมก็มารอคำตอบที่ห้องควบคุมส่วนหน้าของรถไฟทันที เพราะตรงนี้เป็นจุดที่ดีที่สุดในการรู้คำตอบ ถ้ามันออกมาจากป้อมก็แปลว่าพวกมันต้องการสู้ หรือถ้าพวกมันยอมแพ้ธงสีขาวก็โดนชูขึ้นมา เรียกได้ว่าจุดตรงนี้เป็นจุดสังเกตการณ์ที่ดีมาก
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ท่านไมล์ครับมีการติดต่อมาจากองค์ชายซิคแน็คครับ…!”
เสียงเคาะประตูดังขึ้น จากนั้นก็ตามด้วยน้ำเสียงของทหารที่ฟังแล้วเป็นกังวลเอามากๆ เรื่องนี้ยังไม่จบเรื่องใหม่มาอีกแล้วหรือไง ชิ!
“เข้ามา”
ใบหน้าของทหารที่เดินเข้ามาตอนนี้เต็มไปด้วยความหนักใจแบบน้ำเสียงที่พูดออกมาเมื่อกี้ไม่มีผิด ท่าทางแบบนั้นต้องเกิดเรื่องอะไรแน่ นี่มันขยันหาปัญหามาให้จริงๆ รู้งี้เรียกเก็บเงินพวกมันสัก 2,000 ล้านเหรียญทองสะก็ดี
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น ซิคแน็คติดต่ออะไรมา”
“คะ คือว่า…”
ทหารอ้ำอึ้งเหมือนกับว่าไม่อยากพูดออกมา มันพูดออกมายากขนาดนั้นเลยหรือไง ถ้าแกไม่อยากมารายงานก็ไม่ต้องมารายงานตั้งแต่แรกสิ
“มีเรื่องอะไรรีบพูดมา!”
“เมื่อครู่มีองค์ชายซิคแน็คติดต่อมาว่า …จักรวรรดิที่แท้จริงโดนยึดเรียบร้อยแล้วครับ”
“โดนยึด!!!”
นี่มันหมายความว่ายังไง จักรวรรดิที่แท้จริงมันโดนยึดได้ยัง ไม่สิ! หรือว่า… “เป็นฝีมือของพวกปีศาจใช่ไหม?”
“ครับ…”
แบบที่คิดเอาไว้จริงๆ แต่พวกมันจะไม่บุกเร็วไปหน่อยหรือไงแบบนี้ชักเริ่มไม่ดีแล้วสะ-
“ยังมีอีกเรื่องที่น่าตกใจที่องค์ชายซิคแน็คบอกมาด้วยครับ”
“เรื่องอะไรอีก?”