519 - เดิมพันที่น่ากลัว
519 - เดิมพันที่น่ากลัว
"กู่เฟิง เจ้ากลับมาแล้ว"
เมื่อพวกเขาเดินเข้าสู่ตำหนักเซียนร้านอาหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเมือง เหยาเยว่กงก็เดินเข้ามาด้วยเสียงหัวเราะและกล่าวว่า
"ข้าได้ยินมาว่าเจ้ามาถึงเมืองศักดิ์สิทธิ์แล้ว ข้าคิดว่าพี่หลี่คงพาเจ้ามาที่นี่อย่างแน่นอน ข้าจึงได้จองโต๊ะรอพวกเจ้าทั้งสอง"
“ขอบคุณพี่เยว่กง วันนี้พวกเราไม่เมาไม่เลิกรา” ทั้งสองตกลงด้วยรอยยิ้ม
ในชั้นบนของภัตตาคารมียอดฝีมือรุ่นเยาว์หลายคนอยู่ที่นี่ ทั้งพวกที่มาจากราชวงศ์เซี่ยของภาคกลางและลูกหลานของมหาอำนาจกลุ่มอื่น
“ศัตรูมักจะพบกันบนเส้นทางคับแคบจริงๆ” หลี่เหอซุยพึมพำ
“มีอะไรเหรอ?” เย่ฟานถาม
“เจ้าพวกนั้นมาที่นี่ก็เพราะเจ้า ก่อนหน้านี้เจ้าสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ให้กับเมืองศักดิ์สิทธิ์ มันกระตุ้นความสนใจของทายาทจากตระกูลขุนนางโบราณที่ศึกษาศิลปะต้นกำเนิดเป็นการเฉพาะ เมื่อมาถึงเมืองศักดิ์สิทธิ์พวกเขาก็เริ่มประกาศท้าทายเจ้าทันที”
ครั้งล่าสุดที่เย่ฟานทำการเดิมพันอันน่าทึ่งและเอาชนะทั่วป๋าฉาง คราวนี้ไม่เพียงแต่ตระกูลทั่วป้าจะส่งยอดฝีมือในด้านศิลปะต้นกำเนิดของพวกเขามาเท่านั้น แม้แต่ตระกูลขุนนางโบราณอื่นก็ยังมีคนมาร่วมสนุกมากมาย
เย่ฟานแทนที่จะตกใจกลับรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก ครั้งนี้เขาต้องการต้นกำเนิดกว่าสิบล้านจิน มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่เขาจะสะสมทั้งหมดจากลานพนันหินของดินแดนศักดิ์สิทธิ์
หากเขาเต็มไปด้วยความโลภและลงมือจัดการลานพนันหินของดินแดนศักดิ์สิทธิ์รุนแรงเกินไป เขาเชื่อว่าในตอนที่เขาออกจากเมืองศักดิ์สิทธิ์จะต้องมีผู้สูงสุดไล่ล่าเขาอย่างสุดกำลังแน่นอน
เมื่อมีผู้คนมากมายคิดจะเดิมพันครั้งใหญ่กับเขามันจึงทำให้เขาเกิดความรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
คนพวกนี้รนหาที่ด้วยตัวเอง อีกทั้งพวกเขายังเป็นยอดฝีมือรุ่นเยาว์ที่ไม่ได้มีความแข็งแกร่งเหมือนเช่นบุตรศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย
ซึ่งต่อให้เกิดเรื่องขึ้น สุดท้ายตัวเขาก็สามารถจัดการปัญหาทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย
“ข้าคาดหวังให้พวกเขามีมากกว่านี้สักสิบเท่า แต่ต้องขอบอกไว้ก่อนว่าถ้าไม่มีต้นกำเนิดล้านจินอยู่ในมือก็อย่าหวังจะมีโอกาสเดิมพันกับข้า”
ในขณะที่พวกเขากำลังดื่มสุราอย่างสนุกสนานเขามีหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาและกล่าวว่า
"คุณชายทั้งสาม ก่อนหน้านี้องค์ชายเซี่ยได้ข่าวว่าพวกท่านกำลังหาความสำราญอยู่ที่นี่องค์ชายเซี่ยจึงให้ข้ามาบอกพวกคุณชายว่าอย่าเพิ่งเลิกงานเลี้ยงเร็วเกินไป องค์ชายจะรีบมาที่นี่ให้เร็วที่สุด"
“ไม่ต้องห่วง เราจะอยู่ที่นี่อีกนาน” เย่ฟานพยักหน้า
องค์ชายของราชวงศ์ต้าเซี่ยเป็นหนึ่งในชนชั้นสูงของโลก พวกเขามีหุ้นอยู่ในภัตตาคารแห่งนี้บางส่วน มันเป็นธรรมดาที่พวกเขาจะรู้ว่าเย่ฟานมาถึงเมืองศักดิ์สิทธิ์แล้ว
ไม่นานหลังจากนั้น เด็กสาวอีกคนก็เดินเข้ามาแสดงความเคารพพวกเขาและกล่าวว่า
“คุณชายทุกท่าน แขกที่อยู่ในตำหนักหยกเขียวหนึ่งต้องการเชิญพวกท่านไปสนทนา”
“ตำหนักหยกเขียว?”
หลี่เหอซุยเย้ยหยัน คนพวกนั้นคือกลุ่มคนที่เป็นลูกหลานของตระกูลขุนนางโบราณซึ่งคิดจะเดิมพันกับพวกเขานั่นเอง
“จริงๆแล้วพวกเขา”สั่ง“ให้เราไปที่นั่น ไม่ใช่”เชิญ“ข้าเข้าใจถูกหรือไม่?”
เย่ฟานถามหญิงสาวด้วยรอยยิ้ม เขารู้ว่านี่เป็นเจตนาของคนกลุ่มนั้นและหญิงสาวคนนี้ก็ดูอึดอัดเล็กน้อยที่ได้รับคำสั่งให้มาเรียกตัวพวกเขา
"ใช่."
หญิงสาวพยักหน้า รู้สึกโล่งใจเล็กน้อยที่เย่ฟานเข้าใจสถานการณ์ของนาง
ในสถานที่แห่งนี้มักจะมีผู้ยิ่งใหญ่มากมายที่แวะเวียนเข้ามาใช้บริการ แต่ก็มีไม่บ่อยนักที่ลูกค้าจะสร้างความลำบากใจให้กับพวกนางที่เป็นสาวใช้
“บอกพวกมันว่าเราไม่ว่าง!” หลี่เหอซุยกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“บ่าวทราบแล้ว...” หญิงสาวรับคำอย่างแผ่วเบา
หลังจากที่หญิงสาวถอยออกไปไม่นาน ก็มีเด็กหนุ่มหลายคนเดินเข้ามาในตำหนักหยกม่วงที่พวกเขากำลังดื่มสุราอยู่ คนพวกนั้นมีสีหน้าโกรธเกรี้ยวและเห็นได้ชัดว่าต้องการมาที่นี่เพื่อหาเรื่อง
เย่ฟานกับหลี่เหอซุยไม่สนใจคนพวกนั้นและยังคงดื่มสุราด้วยความสบายใจเช่นเดิม
"ไอ้สาระเลวน้อยอยู่ที่นี่"
เย่ฟานพบว่าคนกลุ่มนั้นกำลังชี้นิ้วมาทางเขา
“พวกเจ้าหยิ่งผยองมากเกินไป เจ้าคิดว่าการชนะเดิมพันเล็กๆน้อยนั่นก็เพียงพอที่จะให้เจ้าเป็นปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์แล้วหรือ” ชายหนุ่มที่เดินเข้ามาในตำหนักหยกม่วงเป็นคนแรกที่เยาะเย้ยขึ้น
เย่ฟานเงยหน้ามองพวกเขาแล้วพูดว่า
“เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงมาร่ำร้องในขณะที่ข้ากำลังดื่มสุรา บิดาเจ้าไม่สอนมารยาทให้เลยหรือ?”
หลี่เหอซุยก็วางตะเกียบลง หลังจากเหลือบมองเด็กหนุ่มกลุ่มนั้นอยู่ชั่วขณะเขาก็กล่าวว่า
“เจ้าเป็นใคร อย่ามารบกวนการสนทนาของพวกเราไม่อย่างนั้นบิดาจะตบพวกเจ้าให้ตาย”
“เจ้าไม่รู้ว่าเราเป็นใคร ข้ารอเจ้ามาที่นี่เกือบเดือนแล้ว ไม่คิดว่าเจ้าจะหดหัวอยู่ในกระดองนานถึงขนาดนี้” อีกคนเย้ยหยัน
“ที่แท้ก็พวกเจ้าเองเหรอ”
หลี่เหอซุยเหลือบมองพวกเขาอย่างไม่ใส่ใจ หลังจากดื่มสุราคำใหญ่เขาจึงระบายลมหายใจและกล่าวว่า
“ข้าได้ยินผู้คนพูดคุยกันว่าพวกเจ้าคิดจะเหยียบย่ำเราพี่น้องด้วยศิลปะต้นกำเนิด พวกเจ้ามีคุณสมบัตินั้นหรือ?”
"พวกเรามีคุณสมบัติหรือไม่พวกเจ้าจะได้เห็นเอง"
เด็กหนุ่มกลุ่มนี้ค่อนข้างเย่อหยิ่ง อย่างน้อยๆลักษณะของพวกเขาก็เทียบไม่ได้กับทัวป๋าฉาง เย่ฟานจึงไม่คิดว่าคนเหล่านี้จะมีคุณสมบัติต่อสู้กับเขาตั้งแต่แรก
"เจ้าพวกแมลงวันที่น่ารำคาญ รีบไสหัวไปให้พ้นไม่อย่างนั้นบิดาจะเรียกคนมาขับไล่พวกเจ้าออกไป" หลี่เหอซุยโบกมือเหมือนไล่แมลงวัน
“ตกลง ตกลง ตกลง ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปเจอกันที่ลานพนันหินของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้เลย ข้าอยากจะรู้นักว่าเจ้ามีความสามารถมากแค่ไหน”
“พวกเจ้าเป็นใคร? แค่หมาแมวกลุ่มหนึ่งที่คิดจะต่อสู้กับข้า แล้วข้าต้องตอบสนองต่อความต้องการของพวกเจ้าหรือ?” เย่ฟานหยิบขนมขึ้นมาใส่ปากและกล่าวต่อไปว่า
"ถ้าพวกเจ้าคิดจะเดิมพันกับข้าพวกเจ้าก็ไปเตรียมต้นกำเนิดมา ข้าจะเดิมพันด้วยต้นกำเนิดบริสุทธิ์ครั้งละหนึ่งล้านจินเท่านั้น!"
หลายคนกลัวจนตัวแข็ง เดิมพันด้วยต้นกำเนิดบริสุทธิ์ครั้งละหนึ่งล้านจิน ต่อให้เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่มีความกล้าที่จะเดิมพันถึงขนาดนั้น!
ทุกคนที่อยู่ที่นี่ไม่เคยได้ยินเรื่องราวที่น่ากลัวขนาดนี้มาก่อน
“พวกเจ้ากล้ามาตะโกนอยู่ต่อหน้าข้าแสดงว่าพวกเจ้าก็ต้องมีภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่ไม่น้อย หรือต้นกำเนิดแค่หนึ่งล้านจินบรรพบุรุษของเจ้าก็ไม่มีให้!” เย่ฟานพูดอย่างเย็นชา
"เจ้ามีต้นกำเนิดล้านจินหรือเปล่าถึงได้พูดจาโอหังขนาดนี้!"
เด็กหนุ่มคนหนึ่งรู้สึกไม่ยินยอมและคิดว่าพวกเย่ฟานกำลังพูดจาไร้สาระ
“เจ้ารู้จักเราจริงๆหรือไม่? หากพวกเจ้าไม่รู้จักเราเจ้าก็ไปถามใครในเมืองศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ว่ากู่เฟิงมีต้นกำเนิดหนึ่งล้านจินอยู่ในมือหรือเปล่า?” หลี่เหอซุยหัวเราะ
เด็กหนุ่มทั้งหลายที่ยืนอยู่ทางเข้าศาลาเงียบสนิท มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่พวกเขาจะหาต้นกำเนิดออกมาเดิมพันถึงหนึ่งล้านจิน
ดังนั้นสถานการณ์ของพวกเขาจึงกลืนไม่เข้าคายไม่ออกและทำได้เพียงยืนอย่างเก้ๆกังๆโดยไม่สามารถทำอะไรได้
“พวกเจ้าเป็นลูกหลานของตระกูลขุนนางโบราณมิใช่หรือ? ผู้อาวุโสของพวกเจ้าก็ควรจะอยู่ที่เมืองศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน รีบกลับไปขอต้นกำเนิดจากผู้อาวุโสของพวกเจ้าจะดีกว่า หากไม่มีปัญญาก็อย่ามายั่วโมโหข้าที่นี่!”
ถัดจากพวกเขาเด็กสาวที่ทำหน้าที่รินสุรารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ตัวเลขนี้มันน่าเหลือเชื่อเกินไป มันเป็นสิ่งที่พวกนางไม่สามารถจินตนาการถึงต่อให้ใช้เวลาทั้งชีวิตก็ตาม