90 - ทำลายล้างทั้งกลุ่ม
90 - ทำลายล้างทั้งกลุ่ม
แมลงสาบปีศาจนั้นทรงพลังเกินไป การเคลื่อนไหวของมันรวดเร็วจนแม้กระทั่งดวงตายอดฝีมือระดับสูงยังไม่สามารถมองเห็น
“ระดับ 7 หรือระดับ 8?”
นี่คือสิ่งที่อยู่ในใจของหวังลู่ เขาไม่คิดว่าการวิ่งหนีเขาจะเป็นสิ่งที่น่าอับอายแม้แต่น้อย สิ่งมีชีวิตทรงพลังที่เกินระดับ 6 มันเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถต่อต้านได้อย่างแน่นอน
เขาเสียใจเป็นอย่างมากที่มาที่นี่ เขาคิดเรื่องนี้อยู่นานและในที่สุดก็ตัดสินใจมาเพื่อที่จะคว้าผลงานครั้งใหญ่
แต่สุดท้ายมันกลับกลายเป็นหายนะครั้งใหญ่สำหรับเขาแทน
ในตอนนั้นเขาหันกลับไปมองเพื่อนร่วมทีมอีก 2 คนและเห็นพวกเขาดวงตาเบิกกว้างด้วยความกลัว เพื่อนร่วมทีมหญิงพยายามพูดอะไรบางอย่างและเขาคิดว่าน่าจะเป็นคำว่า
อันตราย!
มันหมายความว่าฉันตกอยู่ในอันตรายหรือไม่?
พัฟ!
เสียงแตกหักของกระดูกดังขึ้น มีอะไรบางอย่างแทงทะลุหน้าอกของเขาและมันฉีกกระดูกซี่โครงของเขาให้แหลกเป็นชิ้นๆ
หวังลู่มองดูหน้าอกของตัวเองอย่างช้าๆ เขามองเห็นแขนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อทะลวงเข้ามาในหน้าอกของเขา
หลังจากนั้นปีศาจแมลงสาบก็ดึงหัวใจของเขาออกไปโดยตรงโดยที่หัวใจของเขายังเต้นอยู่นี้!
หวังลู่ทรุดตัวลงกับพื้น ดวงตาของเขาค่อยๆปิดลง เขาพยายามขยับริมฝีปากก่อนจะส่งเสียงคำรามด้วยความสิ้นหวัง
"รีบ…หนีไป!"
ยอดฝีมือจากวิทยาลัยพุทธและวิทยาลัยเหมาซานเสียชีวิตไปแล้ว คู่ต่อสู้ที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะสามารถต้านทานได้ และทั้งสองคนที่เหลือก็หวาดกลัวอย่างถึงที่สุด
สองคนที่เหลืออยู่นี้ไม่ใช่ว่าจะเป็นคนที่อ่อนแอ พวกเขาเป็นถึงยอดฝีมือระดับสูงของแผนกพิเศษ
ชายที่จบการศึกษาจากวิทยาลัยลัทธิเต๋ามีอายุห้าสิบห้าปีในปีนี้ ด้วยความแข็งแกร่งระดับที่หกขั้นสูง เขาถือได้ว่ามีลุ้นตำแหน่งผู้อำนวยการแผนกพิเศษต่อจากชายตาเดียวด้วยซ้ำ
เขาเป็นชายวัยกลางคนที่มีจิตใจดีและเป็นที่รักของรุ่นน้องในที่ทำงาน ในความเป็นจริงเขามีหลานชายที่น่ารักคนหนึ่งอยู่ที่บ้านอีกด้วย
ในตอนนี้เขาหยิบกระบี่เหล็กออกมาถือไว้ในมือและหันไปกล่าวกับหญิงสาวที่ด้านข้างว่า
“สาวน้อย ถ้าเธอรอดไปได้ช่วยบอกลูกชายของฉันด้วยว่าฉันรักเขา บอกหลานชายของฉันว่าให้ตั้งใจเรียนและอย่าคิดจะเป็นมือปราบแบบพวกเราเด็ดขาด”
ใบหน้าของโจวเสี่ยวเซียวซีดขาว เธอพูดด้วยความตกใจ: “พี่สวีคุณคิดจะทำอะไร”
ชายวัยกลางคนหัวเราะแล้วพูดว่า "ฉันพอใจแล้ว ครึ่งชีวิตที่ผ่านมาฉันได้เจออะไรมามาก ในที่สุดวันนี้ฉันก็จะได้ไปพบกับภรรยาที่เสียชีวิตเมื่อ 30 ปีที่แล้วสักที
เธอยังเด็กมาก เธอไม่เข้าใจความเบื่อหน่อยของคนวัยชราแบบฉันหรอก หลังจากนี้วิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ หากเธอมีชีวิตรอดอย่าลืมคำสั่งเสียของฉัน”
"ฮะๆ"
พูดจบเขาก็ควงกระบี่เหล็กพุ่งเข้าหาแมลงสาบปีศาจโดยปราศจากความกลัว
เขาเคาะเท้าบนพื้นและส่งเสียงไล่คาถาดังกึกก้อง
“หนึ่งก้าวคือเปลวไฟ สองก้าวคือสายน้ำ สามก้าวคือสายฟ้า ขออัญเชิญกฎแห่งไฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสวรรค์และปฐพี”
สิ่งที่เขาร่ายคือคาถาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด "คำสาปสามหลุม" ของวิทยาลัยลัทธิเต๋า
นี่เป็นแนวทางที่ยึดถือกันมาหลายร้อยปีของลัทธิเต๋า พวกเขาเชื่อว่านี่คือคาถาที่ใช้กำจัดปีศาจร้ายได้ดีที่สุด
ปัง!
ลูกไฟลูกใหญ่ตกลงมาจากท้องฟ้าราวกับอุกกาบาต มันกระแทกเข้าใส่ร่างกายของแมลงสาปปีศาจอย่างรุนแรง
แต่ความจริงของโลกใบนี้โหดร้ายเป็นอย่างมาก
แมลงสาปปีศาจเพียงสะบัดแขนเบาๆลูกไฟขนาดใหญ่ก็ถูกกระแทกเข้าหาชายวัยกลางคนอย่างดุดัน
บูม!
“พี่สวี...”
โจวเสี่ยวเซียวตะโกนเสียงดัง
"รีบหนีไป!"
ชายวัยกลางคนส่งเสียงกรีดร้อง ไฟลุกท่วมร่างกายของเขาในขณะที่เขากระโดดเข้าหาแมลงสาบปีศาจโดยปราศจากความกลัว
พัฟ!
กระดูกซี่โครงของชายวัยกลางคนถูกบดขยี้โดยกำปั้นอันแข็งแกร่งของแมลงสาบปีศาจ
เขาถูกกระแทกให้กระเด็นออกไปหลายสิบเมตร และเมื่อสัมผัสพื้นร่างกายของเขายังกระเด็นกระดอนไปหลายรอบ
ดวงตาของโจวเสี่ยวเซียวเป็นสีแดงก่ำ และเธอก็วิ่งหนีด้วยน้ำตา
แมลงสาปปีศาจก้มลงหยิบกระบี่เหล็กของชายวัยกลางคนขึ้นมาดูด้วยรอยยิ้ม ตั้งแต่ต้นจนจบมันไม่ได้ส่งเสียงอะไรเลย
"ทำไมหน้าตาของแกถึงได้อุบาทว์ขนาดนี้"
แม้ว่าเขากำลังจะตายแต่ชายวัยกลางคนยังคงพยายามยื้อเวลาให้กับรุ่นน้องของเขา
“ฮ่าๆๆ”
ในที่สุดแมลงสาปปีศาจก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ มันเดินไปข้างๆชายวัยกลางคนและกระทืบศีรษะของเขาให้แหลกละเอียดในครั้งเดียว
...
โจวเสี่ยวเซียววิ่งเร็วมาก เธอรีดเร้นพละกำลังทั้งหมดเพื่อใช้ในการวิ่ง
เมื่อนึกถึงเพื่อนร่วมทีมของเธอที่ตายไปต่อหน้าต่อตา น้ำตาของเธอก็ไหลลงมาอย่างช่วยไม่ได้ เธอไม่กลัวความตาย แต่เธอจะไม่ยอมให้การเสียสละของเพื่อนร่วมทีมต้องจบลงอย่างเปล่าประโยชน์
ในขณะที่วิ่งเธอหันกลับไปมองข้างหลังและเห็นว่าไม่มีสิ่งใดตามมา เธอจึงผ่อนความเร็วลงเล็กน้อย
"มันปล่อยฉันไปเหรอ?"
ในขณะที่เธอสงสัยอยู่นั้นเธอก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่เย็นยะเยือก เมื่อเธอดึงสายตากลับมาเธอก็รู้สึกสิ้นหวังอย่างถึงที่สุด
“แกมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง!”
ที่ด้านหน้าของเธอไม่ถึง 20 เมตร แมลงสาบยืนกอดอกและมองเธอด้วยรอยยิ้มเหมือนเช่นที่มันทำมาโดยตลอด
ขาของโจวเสี่ยวเซียวเริ่มสั่นและหัวใจของเธอก็เต็มไปด้วยความกลัว
เธอต้องการที่จะต่อต้าน แต่เธอไม่รู้ว่าจะต้านทานอย่างไร ตอนที่พวกเธออยู่ด้วยกันทั้งสี่คนพวกเธอก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมันตั้งแต่แรก ตอนนี้เธออยู่ที่นี่คนเดียวการดิ้นรนของเธอจะมีประโยชน์มากแค่ไหน?
เธอจบการศึกษาจากวิทยาลัยแพทย์ และฝีมือที่แท้จริงของเธอก็สูงกว่าระดับค่าเฉลี่ยเล็กน้อยเท่านั้น
ซ่า!
สิ่งชั่วร้ายปรากฏขึ้นต่อหน้าโจวเสี่ยวเซียว แม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่สูงถึง 175 เซนติเมตร แต่เมื่อเทียบกับความสูง 2 เมตรของแมลงสาบปีศาจ เธอก็เหมือนเด็กตัวเล็กๆในทันที
ลมหายใจของโจวเสี่ยวเซียวเร่งรีบ สุดท้ายเธอคำรามด้วยความโกรธและกระแทกกำปั้นด้วยพลังทั้งหมดที่มีเข้าหาเจ้าปีศาจร้ายที่อยู่ตรงหน้า
คร่อก!
คอของโจวเสี่ยวเซียวถูกบิดเป็นเกลียวในขณะที่ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและความเสียใจ
หลังฆ่าทุกคนแล้ว แมลงสาบปีศาจก็หันไปมองเมืองเอี๋ยนไห่ซึ่งอยู่ในระยะไกลด้วยรอยยิ้ม
………………..
“KO!”
“ว้าว คุณแข็งแกร่งมาก”
เฉียนเสี่ยวเป่าค่อนข้างรู้สึกอึดอัดที่ต้องแกล้งแพ้ให้กับหลินฟ่านมาหลายตา แต่คนทั้งสองเป็นเพื่อนของเขา การที่เพื่อนของเขารู้สึกยินดีมันก็ทำให้เขาสนุกอยู่บ้างเล็กน้อย
"ฉันพอแล้ว" หลินฟ่านกล่าว
เหล่าจางกระโดดเข้ามาด้วยความตื่นเต้นและพูดว่า
"หลินฟ่านให้ผมเล่นอีกหน่อย"
เฉียนเสี่ยวเป่ามองไปที่เหล่าจางและคิดในใจว่า
ฉันแพ้เขาโดยตั้งใจ สำหรับคุณ ฉันจะใช้วิธีการที่โหดที่สุดเพื่อสอนบทเรียนให้กับคุณเอง
หลินฟ่านยืนอยู่ข้างหลังอย่างอารมณ์ดี เขารู้สึกว่าเขาเป็นคนที่มีพรสวรรค์ในการเล่นเกม
เสี่ยวเป่าบอกว่าเขาแข็งแกร่งมาก บางทีหากเขาฝึกฝนอีกหน่อยเขาอาจจะกลายเป็นคนที่เล่นเกมเก่งที่สุดในโลกก็ได้!
อย่างรวดเร็ว.
รอยยิ้มที่คาดหวังของเหล่าจางหายไปแล้ว ตอนนี้ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวคล้ายกับว่าจะร้องไห้ได้ตลอดเวลา
หลังจากเล่นเกมจนหนำใจแล้วพวกเขาก็ต้องการไปเล่นที่อื่น เจ้าของร้านก็ยืนรอแสดงความเคารพอยู่ด้านนอกประตูร้านพร้อมกับพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่ะ
"ผมเป็นเจ้าของร้านเกมมาหลายสิบปีแล้ว คอมโบที่นายน้อยใช้เมื่อสักครู่นี้เป็นสิ่งที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ผมพึ่งรู้ว่าคอมโบแบบนี้ก็มีในเกมด้วย มันเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อจริงๆ?"
ในชีวิตคนเราอาจมีบางครั้งที่ทำผิดพลาด แต่สำหรับคำชมนั้นต่อให้มันเป็นความผิดพลาดผู้ที่ถูกชื่นชมก็ยังรู้สึกยินดีเสมอ
แม้ว่าคำประจบสอพลอจะเป็นเรื่องที่น่าอายและไร้ศักดิ์ศรี แต่เมื่อมันทำให้เขาได้รับเงิน เจ้าของร้านก็ไม่รังเกียจที่จะผายลมออกมาอย่างต่อเนื่อง