89 - แมลงสาบปีศาจ
89 - แมลงสาบปีศาจ
"หนึ่ง...สิบ...ร้อย..."
หลี่ไหลฟู่ขยายภาพและนับอย่างระมัดระวัง มันมีเลข 0 มากเกินไปเขาจึงกลัวว่าจะนับผิด แต่หลังจากที่นับกลับไปกลับมาหลายสิบครั้ง ในที่สุดเขาก็นอนอย่างหมดเรี่ยวแรงอยู่บนเก้าอี้
"หนึ่งร้อยล้าน!"
เขาจ้องมองตัวเลขด้วยจิตใจที่สั่นสะท้าน
“ไอ้สาระเลวไร้ยางอายคนไหนกล้ามอบเงินให้โรงพยาบาลจิตเวชถึงขนาดนี้?”
หลี่ไหลฟู่ไม่สามารถยอมรับสถานการณ์ดังกล่าวได้ และมันก็ทำให้เขารู้สึกแย่เป็นอย่างมาก
หลี่ไหลฟู่ที่แสดงตัวมาตลอดว่าเป็นคนที่มีความเมตตา ความยุติธรรม ความเอาใจใส่ กำลังจะเสียสติเพราะความอิจฉา
ทำไมเขาถึงได้รับเงินสนับสนุน 100 ล้านหยวนทุกปี ในขณะที่ฉันไม่ได้อะไรเลย?
หลี่ไหลฟู่กำหมัดและทุบโต๊ะอย่างแรง ใบหน้าของเขาแดงก่ำด้วยความโกรธ และเขาเกือบจะหมดสติจากความอิจฉา
จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและส่งข้อความหาผอ.ฮ่าว
“พี่ฮ่าว สุดที่รัก”
หลี่ไหลฟู่ไม่ได้คิดจะขอคืนดี แต่สิ่งที่เขาพ่ายแพ้ก็คือเงิน และผอ.ฮ่าวมีเงินมากมายจนเขายอมทิ้งศักดิ์ศรีทั้งหมด ต่อให้เรียกเจ้าแก่ฮ่าวเหรินว่าลุงเขาก็ยินดีที่จะทำ
“ทำไมพี่ถึงได้รับเงินบริจาคมากถึงขนาดนั้น”
ในเวลาไม่นานผอ.ฮ่าวก็ตอบกลับมา
[ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชชิงซานฮ่าวเหริน: อย่าเพิ่งพูดถึงเงินบริจาครายปี 100 ล้านเลย แค่เงินสด 5 ล้านที่อยู่ตรงหน้าก็รบกวนสมาธิของฉันมากพอแล้ว นายรู้จักร้านเฟอร์นิเจอร์ไม้พยุงจากประเทศไทยดีๆหน่อยไหม ฉันตั้งใจจะเปลี่ยนเครื่องใช้สำนักงานพอดี? 】
เมื่อเห็นคำตอบนี้หลี่ไหลฟู่ก็กัดฟัน ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความโกรธอย่างถึงที่สุด
………………
ภายในรถลีมูซีน
ผู้คุ้มกันมองไปที่หลินฟ่านและเหล่าจางอย่างระมัดระวัง
นายน้อยจะรู้ได้อย่างไรว่าพวกเขาเป็นคนป่วยทางจิต
มีบางอย่างผิดปกติกับรอยยิ้มของพวกเขา มันเหมือนกับรอยยิ้มที่ฆาตกรต่อเนื่องมักจะแสดงออกมา
พวกเขาล้วนเป็นบอดี้การ์ดมืออาชีพ และพวกเขามีความเชี่ยวชาญในด้านนี้เป็นพิเศษ
คนพวกนี้ล้วนเป็นทหารรับจ้างมาหลายปี หากพวกเขาถอดเสื้อผ้าออกก็จะเห็นรอยแผลจากทั้งมีดและกระสุนที่พวกเขาได้รับจากการฆ่าศัตรู
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นพวกเขาก็ยังรู้สึกเวลาเป็นอย่างมากเมื่อมองเห็นรอยยิ้มของหลินฟ่าน
ผู้คุ้มกันที่นั่งอยู่ด้านหน้าหลินฟ่านก้มศีรษะลง
นายน้อยรู้วิธีเล่นจริงๆ แม้กระทั่งคนป่วยทางจิตก็ยังพามาเป็นเพื่อนเล่นได้
ที่ Game Center
"พวกเรามาเล่นเกมต่อจากครั้งที่แล้วกันเถอะ"
เฉียนเสี่ยวเป่าชอบเล่นเกม คราวที่แล้วหลินฟ่านชกเครื่องเกมอย่างรุนแรงทำให้เขาตกใจมากจนต้องแกล้งแพ้ไปหลายรอบ
แต่นั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญ
สิ่งสำคัญคือเขารู้แล้วว่าการอยู่กับคนป่วยจิตเวชทั้งสองนี้เป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่เขาไม่เคยพบเจอ หลินฟ่านและเหล่าจางไม่ได้มองว่าเขาเป็นนายน้อยผู้สูงศักดิ์ แต่มองว่าเขาเป็นเพื่อนจริงๆ
"ยินดีต้อนรับนายน้อย"
เจ้าของร้านเกมคุกเข่าทักทายเฉียนเสี่ยวเป่าด้วยรอยยิ้มราวกับดอกไม้ที่เบ่งบาน
หลังจากนั้นเขาเดินนำเฉียนเสี่ยวเป่าไปข้างหน้าก่อนจะใช้แขนเสื้อของตัวเองเช็ดเก้าอี้และเลื่อนมันไปหาเฉียนเสี่ยวเป่าด้วยความนอบน้อม
"เชิญนายน้อยนั่งครับ"
เทพเจ้าแห่งความมั่งคั่งอยู่ที่นี่
ครั้งที่แล้วที่นายน้อยคนนี้มาที่ร้าน รายรับที่เขาได้ในครั้งเดียวยังมากกว่ากำไรตลอดทั้งปีของเขาด้วยซ้ำ
เจ้าของร้านมีปฏิสัมพันธ์ที่ยอดเยี่ยมเมื่อเห็นว่าเทพเจ้าแห่งโชคลาภมาเยือน เขาก็หยิบๆบางอย่างออกมาจากลิ้นชักและปิดไว้ที่หน้าร้านอย่างรวดเร็ว
【ปิดร้านชั่วคราว ที่ด้านในมีลูกค้า VIP ห้ามรบกวน】
“นายน้อยครับนี่คือค้อน ถ้าคุณคิดว่าเครื่องเล่นไหนเล่นไม่สนุกคุณก็สามารถทุบทิ้งได้เลย ยิ่งนายน้อยทุบมากเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น ตราบใดที่ทำให้นายน้อยมีความสุขมันก็จะเป็นความสุขของผมด้วย”
เฉียนเสี่ยวเป่าโบกมือ ผู้คุ้มกันก็หยิบเงินออกมาจำนวนหนึ่งและส่งให้เจ้าของร้าน
เมื่อเห็นแบบนั้นเจ้าของร้านเกมกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุขพร้อมกับยกยอเฉียนเสี่ยวเป่าหนักขึ้น
จนกระทั่งเฉียนเสี่ยวเป่าโบกมือด้วยความรำคาญเจ้าของร้านเกมจึงถอยออกไป
แต่ถึงจะถูกไล่ออกจากห้องไปแล้วเจ้าของร้านยังคงแสดงบทบาทไม่หยุด เขาแจกจ่ายบุหรี่ไปยังบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่นอกห้องด้วยความนอบน้อมๆ
หลังจากนั้นเขาก็เดินถอยหลังและออกไปยืนอยู่ด้านหน้าประตูร้านด้วยความยินดี
เขารอคอยลูกค้ากลุ่มนี้มาหลายวันแล้ว ในที่สุดพวกเขาก็กลับมาอีกครั้ง
…………….
พื้นที่รกร้างนอกเมืองเอี๋ยนไห่
ร่างหลายร่างเคลื่อนผ่านภูเขาและป่าไม้ ชายสามคนและหญิงหนึ่งคน พวกเขาเป็นสมาชิกของทีมลาดตระเวนของแผนกพิเศษ งานนี้ง่ายมาก นั่นคือการหาที่รวมตัวของสิ่งชั่วร้าย
เรื่องนี้เริ่มต้นตั้งแต่เหตุการณ์โจมตีครั้งใหญ่ในภูเขาไท่ซาน มีสิ่งชั่วร้ายมากมายหลุดออกจากประตูมิติที่อยู่บนภูเขาและกระจัดกระจายไปทั่วประเทศ
ตอนนี้แผนกพิเศษค่อนข้างมั่นใจแล้วว่าฐานทัพใหญ่ของสิ่งมีชีวิตชั่วร้ายอยู่ที่ชานเมืองเอี๋ยนไห่
พวกเขาจึงส่งยอดฝีมือที่มีระดับสูงออกไปยืนยันข่าวนี้
“หวังลู่โชคดีที่มีคุณมาด้วย ไม่อย่างนั้นพวกเราไม่มีทางหาที่นี่พบ” หญิงร่างเพรียวกล่าวอย่างแผ่วเบา
เธอเป็นคนที่แข็งแกร่งจากวิทยาลัยแพทย์ แม้ว่าเธอจะเป็นหมอของทีมแต่เธอก็มีความสามารถในการต่อสู้ที่ดี
หวังลู่ยิ้มสดใสและกล่าวว่า “โชคดีที่ฉันมีความรู้สึกไวโดยธรรมชาติ ไม่อย่างนั้นพวกเราคงต้องหาที่นี่อีกนานจริงๆ”
แต่ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปในทันที
มีใครบางคนมายืนอยู่ใกล้ๆโดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว
คนคนนี้มีรูปร่างเหมือนมนุษย์แต่ไม่ใช่มนุษย์อย่างแน่นอน
ลำตัวของมันเป็นสีน้ำตาลทั้งตัว กล้ามเนื้อมีกระดองแข็งปกคลุมบางส่วน มันมีใบหน้าที่ค่อนข้างหล่อเหลาและมีหนวดของแมลงสาบที่อยู่บนศีรษะคู่หนึ่ง
คนคนนี้มีลักษณะเหมือนลูกครึ่งมนุษย์และแมลงสาบเป็นอย่างมาก
แมลงสาบปีศาจ!
แมลงสาบปีศาจจ้องมองพวกเขาด้วยรอยยิ้มโดยไม่พูดอะไร
“นี่มันตัวอะไร” หวังลู่ถาม
เพื่อนร่วมทีมต่างส่ายหน้า พวกเขาไม่เคยเห็นสิ่งชั่วร้ายแบบนี้มาก่อน พวกเขารู้เพียงว่าสิ่งมีชีวิตชั่วร้ายที่แทบจะวิวัฒนาการเป็นมนุษย์นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตชั่วร้ายที่มีระดับสูงจนน่าเหลือเชื่ออย่างแน่นอน
ชายที่จบจากวิทยาลัยพุทธกล่าวว่า
"มันจะเป็นอะไรก็ช่าง เดี๋ยวฉันจะตัดหัวของมันกลับไปแลกผลงาน"
พัฟ!
แต่ก่อนที่เขาจะมีโอกาสพูดอะไรมากกว่านั้น สมองของเขาก็กระจายไปทั่วพื้นโดยที่สามคนที่เหลือมองไม่เห็นความเคลื่อนไหวของแมลงสาบปีศาจด้วยซ้ำ
เงียบ!
ฉากนั้นเงียบมาก
ยอดฝีมือทั้งสามคนในแผนกพิเศษร่างกายแข็งค้างด้วยความตกใจ การเคลื่อนไหวของแมลงสาบปีศาจมันเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถจินตนาการถึง
"วิ่ง!"