เกิดใหม่เป็นลิโป้ ตอนที่ 9
เกิดใหม่เป็นลิโป้ ตอนที่ 9
"ฆ่า ผู้ใดจับเป็นซุนเกี๋ยนได้ ข้าจะให้ทองคำร้อยชั่งและเลื่อนยศเป็นแม่ทัพ!" ฮัวหยงตะโกนปลุกขวัญ
ภายใต้รางวัลที่ล่อตาล่อใจ ในทัพย่อมปรากฏนักรบกล้า ฉับพลันทหารทัพเสเหลียงก็สู้รบอย่างกระตือรือร้น นี่เป็นโอกาสที่จะกระโจนขึ้นฟ้าในก้าวเดียว
สถานการณ์ในสนามรบเข้าสู่ภาวะชะงักงันอีกครั้ง ซุนเกี๋ยนเก่งกล้า ทัพเสเหลียงเองก็เป็นยอดทหาร ดังนั้นจึงกลายเป็นการรบติดพัน
"เด็ดหัวข้าศึก บุก!!" ลิโป้ที่เพิ่งมาถึง เมื่อเห็นว่าซุนเกี๋ยนกำลังตกอยู่ในอันตราย เขาก็ควบม้าตรงเข้าหาฮัวหยงพลางตะโกน "ฮัวหยง มอบชีวิตมา!"
"ลิโป้!" ฮัวหยงใจหายวาบ เขารีบปัดทวนของโจเมาทิ้งก่อนจะหันหัวม้าหนีไปทางทัพเสเหลียง หากถามว่าเขาเกรงกลัวผู้ใดที่สุดในทัพพันธมิตร คำตอบย่อมต้องเป็นลิโป้ที่เบื้องหน้านี้ ลิโป้เป็นขุนศึกไร้ต้าน ขนาดแม่ทัพจากทัพเสเหลียงสามคนเข้าไปกลุ้มรุมยังสู้รบได้อย่างปลอดโปร่ง
ฮัวหยงซึ่งเป็นผู้นำทัพเสเหลียงมาในครั้งพลันชักม้าหนี ไม่ยอมรับคำท้าจากลิโป้ ตัวเขาเคยเกือบตายใต้ทวนของลิโป้มาแล้ว และเขาก็กระจ่างแจ้งดีว่าฝีมือของเขาและลิโป้นั้นอยู่คนละชั้นกัน ดังนั้นทุกคราที่พบเห็นลิโป้ เขาก็ราวกับพบเห็นผีสาง เป็นต้องชักม้าหนีไปเสียทุกครั้ง
"บุก!!" เห็นฮัวหยงหนีไปอย่างขี้ขลาด ลิโป้ก็ชูทวนกรีดนภา นำทัพม้าสองพันบุกเข่นฆ่าใส่ทัพเสเหลียงราวพยัคฆ์ลงจากเขา ทหารม้าแห่งปิงโจวเองก็เป็นยอดทหารม้า ควบคู่ไปกับสภาวะที่มีเปรียบกว่า พวกเขาก็เข่นฆ่าจนทัพเสเหลียงแตกสานซ่านเซ็น
ฮัวหยงเมื่อเห็นว่าทัพม้าของตนล้มตายอย่างหนักใต้ฝีมือของลิโป้ เขาก็จำต้องสั่งไพร่พลให้หลบหนี การสูญเสียกองทหารม้านั้นถือเป็นเรื่องใหญ่ และแม้แต่กองทัพของตั๋งโต๊ะเองก็มีทหารม้าอยู่ไม่มาก
"ขอบคุณแม่ทัพลิที่ช่วยชีวิตข้าไว้ ก่อนหน้านี้ข้ากลับใช้จิตใจของคนต่ำช้ามาวัดจิตใจของวิญญูชน ขอแม่ทัพลิโปรดอภัยให้ข้าด้วย" ซุนเกี๋ยนที่สู้จนหลั่งเลือดชโลมร่างรีบกุมมือกล่าวขอบคุณ
"แม่ทัพซุนอย่าได้เห็นข้าเป็นคนอื่นคนไกลไป ทั้งท่านและข้าต่างก็เป็นพันธมิตรร่วมรบ พวกเราย่อมต้องช่วยเหลือกันต่อสู้กับศัตรู" จากนั้นลิโป้ก็หันไปตะโกนออกคำสั่งกับทัพม้าที่ด้านหลัง "ติดตามแม่ทัพผู้นี้ไล่ล่าศัตรู!"
เมื่อได้เห็นฉากต่อสู้กันของทัพม้าสองฝ่าย ในใจซุนเกี๋ยนก็มีความปรารถนาที่จัดสร้างทัพม้าขึ้นมา ในการบุกค่ายครั้งนี้ หากไม่ใช่เพราะถูกทัพม้าเสเหลียงบุกตีอย่างไม่ทันตั้งตัว กองทัพของเขาก็คงไม่พ่ายแพ้อย่างอนาถถึงเพียงนี้
ทัพม้าสองฝ่ายพุ่งเข้าโรมรันกัน ซุนเกี๋ยนรีบรวบรวมคนและม้าที่เหลือรอดบุกตามหลังทัพปิงโจวไป
หลังจากไล่ตามตีได้สักพัก โจเส็งก็ควบม้านำกำลังเข้ามารายงานต่อลิโป้ "ทัพเราล้มตายไปหนึ่งร้อยสามสิบคน บาดเจ็บอีกกว่าสี่ร้อย และทัพข้าศึกถูกสังหารไปอย่างน้อยสามร้อยคนขอรับ!"
ลิโป้รู้สึกปวดใจ "รวบรวมศพพี่น้องของเรากลับมา พวกเขาจะต้องได้รับการบรรจุฝัง ทหารที่เสียชีวิตจะต้องได้รับการชดเชย"
"ขอรับ" โจเส็งกุมมือรับคำ เขารู้สึกพึงพอใจต่อความสำเร็จของทัพปิงโจวในครั้งนี้ยิ่ง ทัพม้าเสเหลียงของตั๋งโต๊ะมีชื่อเลื่องลือไปทั่วแผ่นดิน กระนั้นทัพม้าของปิงโจวยังสามารถสังหารข้าศึกได้มากกว่าเป็นเท่าตัว นี่นับเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ที่ควรค่าแก่การกล่าวขวัญ
"ไพร่พลของแม่ทัพลินับเป็นนักรบกล้ายอดอาชาจริงๆ แม้แต่ทัพม้าเหล็กแห่งเสเหลียงยังถูกตีแตกพ่าย" ซุนเกี๋ยนกล่าวชื่นชมด้วยความอิจฉา
"แม่ทัพซุนถูกอุบายของคนต่ำช้าเล่นงาน มิเช่นนั้นฮัวหยงคงไม่อาจทำอย่างไรท่านได้" ลิโป้กล่าวตอบ
"อ้วนสุดผู้นี้ชั่วร้ายเลวทราม ถึงกับตัดหญ้าเสบียงฝ่ายเดียวกัน นำความพ่ายแพ้มาสู่ทัพข้า ครั้งนี้เมื่อข้ากลับไป ข้าต้องเข้าไปขอคำอธิบายจากเขาแน่" ซุนเกี๋ยนกัดฟันแน่น
"แม่ทัพซุน เป็นไปได้หรือไม่ว่าก่อนหน้านี้ท่านเคยไปล่วงเกินอ้วนสุดไว้ที่ใด?" ลิโป้ถามขึ้น
"เป็นไปไม่ได้" ซุนเกี๋ยนกล่าวเสียงเรียบ
"โอ เช่นนั้นก็แปลกแล้ว"
ซุนเกี๋ยนตกตะลึง เขารีบคิดใคร่ครวญหาสาเหตุที่เป็นไปได้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้บาดหมางกับอ้วนสุด แต่ดินแดนของเขาอยู่ติดกับดินแดนของอ้วนสุด เป็นไปได้หรือไม่ว่าอ้วนสุดคิดจะยืมมือของตั๋งโต๊ะมาทอนกำลังของเขา?
เมื่อเห็นว่าสู้ไม่ได้แล้ว ฮัวหยงก็รีบรวบรวมคนและม้ากลับไปที่ด่านและเขียนรายงานต่อตั๋งโต๊ะ ในนั้นบรรยายว่าเขาเอาชนะทัพซุนเกี๋ยนได้แล้ว ทว่าลิโป้นำทัพมาช่วยไว้ได้ทัน
คำกระตุ้นเตือนของลิโป้ยังทำให้ซุนเกี๋ยนฉุกใจคิด ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้เขาจะแสดงความสามารถเกินหน้าเกินตาไป ทำให้หลายคนรู้สึกขัดตา
ซุนเกี๋ยนเดินเคียงคู่ไปกับลิโป้เข้าสู่ค่ายของทัพพันธมิตรด้วยใบหน้าเขียวคล้ำ ก่อนที่อ้วนเสี้ยวที่นั่งอยู่บนตำแหน่งของผู้นำจะลุกขึ้นกล่าวปลอบโยน ซุนเกี๋ยนก็ชี้หน้าอ้วนสุดพลางด่าทอออกมา "อ้วนกงลู่! กองกำลังสองหมื่นของแม่ทัพผู้นี้ต้องบาดเจ็บล้มตายกว่าครึ่งก็เพราะเจ้า ไฉนจึงไม่จัดส่งเสบียงมา? หากวันนี้ไม่มีคำอธิบายต่อข้าล่ะก็ ฮึ่ม"
"เหวินไถโปรดระงับโทสะ โปรดระงับโทสะก่อน ข้าได้ยินมาว่ากองทัพของเหวินไถถูกฮัวหยงตีแตกพ่ายเมื่อคืน ดังนั้นข้าว่าท่านควรจะกลับไปพักผ่อนที่ค่ายก่อนเถอะ" อ้วนเสี้ยวรีบกล่าวเกลี้ยกล่อม
เรื่องนี้ไม่กล่าวถึงก็ดีไป แต่เมื่อถูกหยิบยกขึ้นมาก็เหมือนกับราดนำมันลงบนกองไฟ ซุนเกี๋ยนพลันเดือดดาลยิ่งกว่าเดิม "หากไม่ใช่เพราะเด็กน้อยอ้วนสุดไม่ยอมจัดส่งเสบียงมาให้ มีหรือทัพของข้าจะพ่ายแพ้อเนจอนาถถึงเพียงนี้!"
"ซุนเหวินไถ เจ้าพ่ายแพ้ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้า?" อ้วนสุดลุกขึ้นแค่นเสียง
"แม่ทัพอ้วน แม่ทัพซุนขาดแคลนหญ้าเสบียง ทั้งยังส่งคนมาเร่งรัดแล้วหลายต่อหลายหน ไฉนจึงไม่ส่งเสบียงไปให้?" ลิโป้จ้องหน้าอ้วนสุดก่อนจะถามเสียงเย็น
"เพ้ย แล้วเจ้าเกี่ยวอะไรด้วย?" ซุนเกี๋ยนเป็นแม่ทัพเหี้ยมหาญ มีฉายานามว่าพยัคฆ์แห่งกังตั๋ง ชื่อเสียงเลื่องลือตั้งแต่ช่วงปราบโจรโพกผ้าเหลือง ทั้งยังมีฝีมือยุทธ์สูงเยี่ยม อ้วนสุดย่อมเกรงกลัวซุนเกี๋ยน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะหวาดกลัวลิโป้ ดังนั้นเมื่อเปิดปากได้ก็หันไปตะคอกใส่ลิโป้ทันที
"เด็กน้อยอ้วนสุด มีดีเพียงฝีปาก เก่งจริงทำไมไม่นำทัพบุกโจมตีตั๋งโต๊ะเล่า?" ลิโป้ดวงตาแข็งกร้าว จิตใจพลุ่งพล่านด้วยโทสะ อย่างไรเสียร่างกายนี้ก็ยังเป็นร่างกายไร้เทียมทานแห่งยุค อ้วนสุดกลับดูถูกดูแคลนซ้ำแล้วซ้ำเล่า อีกทั้งอ้วนสุดยังเป็นคนจิตใจหยาบช้า ปัดแข้งปัดขาฝ่ายเดียวกัน
โจเส็งและโกซุ่นที่ยืนอยู่ซ้ายขวาของลิโป้ตาก็จ้องอ้วนสุดเขม็ง
มองดูลิโป้ที่เดือดดาล ชุดเกราะแม่ทัพยังมีโลหิตแห้งกรังติดอยู่ อ้วนสุดก็เม้มปาก แม้ในใจจะรู้สึกกลัวขึ้นมาบ้างแล้ว กระนั้นเขาก็ยังคงดื้อด้าน "เจ้านับเป็นตัวอะไร เจ้าเมืองแม่ทัพพูดคุยกัน มีที่ใดให้เจ้าสอดปาก?"
"ข้านำไพร่พลและม้าเข่นฆ่าศัตรูอยู่ที่แนวหน้า มันสมควรแล้วหรือที่เจ้าจะกักตุนเสบียงไม่ยอมส่งออก หากไม่สั่งสอนเจ้าเสียบ้าง เจ้าก็คงไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ!" ลิโป้ที่โมโหพลันก้าวขึ้นหน้าก่อนจะยกเท้าถีบอ้วนสุดจนถอยไปห้าหกก้าวและหงายหลังล้มลง หากไม่ใช่เพราะซุนเกี๋ยนรีบฉุดดึงเขาไว้ เกรงว่าอ้วนสุดในเวลานี้คงถูกเตะจนตายคาเท้าไปแล้ว
"อ่อก" อ้วนสุดโมโหจนกระอักเลือด "ลิโป้เจ้าคนชั้นต่ำ กลับกล้าทำร้ายข้า ทหาร! ฆ่าเจ้าผู้นี้ให้กับข้า"
ยูสิดที่อยู่ด้านหลังของอ้วนสุดพลันชักกระบี่แทงใส่ลิโป้ โจเส็งแค่นเสียงเย็นพลางชักกระบี่ต้านรับไว้ โกซุ่นรีบก้าวออกมาขวางอยู่ด้านหน้าของลิโป้ บรรยากาศภายในกระโจมพลันเปลี่ยนเป็นตึงเครียด
เหล่าเจ้าเมืองที่อยู่ภายในกระโจมตกตะลึงเล็กน้อย ทั้งหมดต่างก็เป็นแม่ทัพบู๊ขุนนางบุ๋นของราชสำนัก จะมาต่อยตีกันเช่นอันธพาลร้านถิ่นเช่นนี้ได้อย่างไร?
"ดี ทุบตีได้ประเสริฐ" เตียวหุยหัวเราะชอบใจ อ้วนสุดถูกถีบจนหงายคะมำ นี่เป็นฉากที่น่าชมดูยิ่ง
"น้องสามเงียบ" เล่าปี่ถลึงตาใส่เตียวหุยพลางดุเบาๆ
"แม่ทัพลิ แม่ทัพอ้วน โปรดหยุดมือด้วย" เมื่อเห็นสถานการณ์ชักจะไปกันใหญ่ เหล่าเจ้าเมืองก็ออกมาเกลี้ยมกล่อม อย่างไรเสียอ้วนสุดก็ยังเป็นคนของสกุลอ้วน
"เจ้าอันธพาล!" อ้วนสุดรู้สึกเสียหน้า ดังนั้นจึงชี้หน้าด่าทอลิโป้ไม่หยุด
"ดี แม่ทัพผู้นี้จะให้เจ้าได้รู้จักว่าอันธพาลนั้นเป็นอย่างไร!" ลิโป้เงื้อหมัดขึ้น
มองเห็นท่าทางที่แข็งกร้าวของลิโป้แล้ว ทั้งหมดก็มั่นใจว่าหมัดนี้ของลิโป้จะต้องต่อยอ้วนสุดจนตายแน่
อ้วนเสี้ยวแค่นเสียง "หยุดมือ ทั้งหมดล้วนหยุดมือให้ข้า ต่อยตีกันไปมาแล้วได้อะไร กงลู่ ทำไมเจ้าไม่จัดส่งเสบียงให้เหวินไถ?" ความประทับใจของเขาที่มีต่อลิโป้พลันลดลง อย่างไรเสียลิโป้ก็ยังมีตำแหน่งต่ำกว่า ไม่สมควรลงมือต่อขุนนางบุ๋น
"เรื่องนี้เป็นเพราะพลสอดแนมของข้ารายงานว่ามีทหารของตั๋งโต๊ะขวางกั้นอยู่บนเส้นทาง จึงเป็นเหตุให้จัดส่งเสบียงล่าช้า แม่ทัพผู้นี้จับพลสอดแนมนั้นตัดหัวสำเร็จโทษไปแล้ว" อ้วนสุดรู้ตัวว่าเป็นฝ่ายผิด ดังนั้นจึงกล่าวเสียงเบา