ตอนที่แล้วเกิดใหม่เป็นลิโป้ ตอนที่ 1
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเกิดใหม่เป็นลิโป้ ตอนที่ 3

เกิดใหม่เป็นลิโป้ ตอนที่ 2


เกิดใหม่เป็นลิโป้ ตอนที่ 2

ลิซกหน้าเจื่อนพลางหัวเราะแห้ง "เฟิ่งเสียนล้อเล่นแล้ว ข้ามาเพื่อเยี่ยมเยียนสหายเก่าเฟิ่งเสียนก็เท่านั้น หรือว่าเฟิ่งเสียนสนใจพูดคุยถึงเรื่องบ้านเมือง?"

"หรือว่าเว่ยกงมีแผนการรบอันยอดเยี่ยมมาเสนอ?" ลิโป้ถาม

"เหอเหอ วันนี้พวกเราถือว่าไต่ถามสารทุกข์สุกดิบประสาสหายเถอะ เรื่องที่จะกล่าวก็ถือเป็นเรื่องส่วนตัว เพียงเป็นเรื่องส่วนตัวเท่านั้น" ลิซกยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน

'เหอะ เด็กน้อย เข้ามาเลย ฉันรู้อยู่แล้วว่าในน้ำเต้าของนายขายยาอะไร' ลิโป้คิดขึ้นในใจ

ยามคนแก่เฒ่า พวกเขามักจะหยิบยกความหลังขึ้นมาสนทนา หรืออาจะเป็นเรื่องของคนในครอบครัว เครือญาติ เมื่อสหายเก่าสองคนมาพบเจอกันอีกครั้ง พวกเขาย่อมต้องท้าวความถึงวัยเยาว์

"สง่าราศีของเฟิ่งเสียนดุจมังกรและพยัคฆ์โจนทะยาน ในอนาคตท่านต้องประสบความสำเร็จเป็นแน่" ลิซกกล่าวพลางบังเกิดความรู้สึกคลางแคลงใจต่อลิโป้ที่นั่งอยู่เบื้องหน้า ตอนที่ได้พบกันเมื่อหลายปีก่อน ลิโป้ไม่ได้มีนิสัยเคร่งขรึมเช่นนี้ หรือจะเป็นเพราะได้รับการอบรมจากเต๊งหงวน?

"ยังเทียบกับเว่ยกงไม่ได้หรอก" ลิโป้กล่าวถ่อมตัว

เมื่อเห็นว่ารอบด้านไม่มีใครอื่นแล้ว ลิซกก็กล่าวกระซิบ "ไม่ปิดบังเฟิ่งเสียน ข้ามาที่นี่เพราะได้รับมอบหมายจากใต้เท้าไท่ซือ ใต้เท้าท่านหวังว่าเฟิ่งเสียนจะสามารถลืมเลือนบุญคุณความแค้นและช่วยฟื้นฟูราชวงศ์ฮั่นให้เฟื่องฟูอีกครา หากว่าเฟิ่งเสียนเข้าร่วมกับท่านไท่ซือ ท่านจะได้รับการใช้สอยอย่างแน่นอน"

"ลูกปัดทองคำเหล่านี้เป็นความตั้งใจของท่านไท่ซือ ขอเพียงเฟิ่งเสียนเข้าร่วมกับท่านไท่ซือ ยศถาบรรดาศักดิ์และความมั่งคั่งย่อมไม่หนีไปไหน เมื่อเร็วๆนี้ท่านไท่ซือเพิ่งได้รับอาชาชื่อว่า เซ็กเธาว์(กระต่ายแดง) มา นี่เป็นยอดอาชาที่วันหนึ่งสามารถวิ่งได้พันลี้ ขอเพียงเฟิ่งเสียนตอบตกลง ทั้งหมดนี้ล้วนประคองมอบให้เฟิ่งเสียน"

"โอ ไม่ทราบว่าตอนนี้ยอดอาชานั่นอยู่ที่ไหนแล้ว?" ลิโป้เหลือบมองหีบสองใบที่มีลูกปัดทองคำบรรจุไว้เต็มใบซึ่งผู้ติดตามของลิซกยกเข้ามาคราหนึ่ง

"ยอดอาชาตัวนั้นเวลานี้อยู่ที่ค่ายของท่านไท่ซือ เวลานี้ฟ้ามืดค่ำแล้วจึงไม่สะดวก แต่ขอเพียงเฟิ่งเสียนรับปากว่าจะเข้าร่วมกับท่านไท่ซือ ม้าเซ็กเธาว์จะถูกส่งมาที่นี่ในวันพรุ่ง" ลิซกกล่าวพลางจ้องตาลิโป้

"ไม่คุยเรื่องนี้แล้ว หากไม่ใมช่เพราะเห็นแก่ว่าเป็นคนบ้านเกิดเดียวกันล่ะก็ ป่านนี้ข้าคงจัดการท่านและส่งตัวให้ใต้เท้าชื่อฉือตัดสินไปแล้ว" ลิโป้กล่าวอย่างเคร่งขรึม แม้ในใจจะรู้สึกเสียดายต่อม้าเซ็กเธาว์ไม่น้อย

"ขอบอกกล่าวเฟิ่งเสียนสักคำ นกดีต้องรู้จักเลือกกิ่งไม้เกาะ คนฉลาดต้องรู้จักเลือกนาย เต๊งหงวนผู้นี้คงอยู่ได้อีกไม่นาน ขอเฟิ่งเสียนพิจารณาให้ดี" ลิซกพลันรู้สึกกังวล ก่อนที่เขาจะมาที่นี่ เขาได้รับคำสั่งทางทหารมาแล้ว หากว่ากลับค่ายไปมือเปล่า เขาคงไม่พ้นถูกลงโทษเป็นแน่

"เหอเหอ หากว่าเว่ยกงไม่อาจรั้งอยู่กับโจรเฒ่าตั๋งโต๊ะ เช่นนั้นใยจึงไม่ย้ายมาอยู่ปิงโจวเล่า" ลิโป้ลุกขึ้นหันหลังให้ลิซก

"เฮ้อ เฟิ่งเสียน ข้าขอตัว" ลิซกถอนหายใจก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากกระโจม กระนั้นคำพูดของลิโป้ยังทำให้เขารู้สึกอบอุ่นใจไม่น้อย

'น่าเสียดายที่ไม่ได้เห็นม้าเซ็กเธาว์ ตั๋งโต๊ะผู้นี้ไม่ใช่คนโง่ รู้จักเลือกซื้อใจคนจริงๆ' ลิโป้ทอดถอนอยู่ในใจ

........................

"เรียนไท่ซือ ลิโป้ผู้นี้ไม่รู้จักดีชั่ว เขาไม่ต้องการเข้าร่วมกับใต้เท้า อีกทั้งยังกล่าวอีกว่า...." ที่จวนของตั๋งโต๊ะ ลิซกกล่าวรายงานด้วยความอับจน

"ฮึ่ม รอจนข้าผู้เป็นไท่ซือตีหักทัพปิงโจวจนกระเจิดกระเจิงก่อนเถอะ ข้าจะฉีกเจ้าลิโป้ผู้นี้เป็นชิ้นๆเพื่อระบายโทสะ!" ตั๋งโต๊ะประกาศกร้าว "เจ้าเองก็โง่เขลานัก ไม่เพียงไม่อาจเกลี้ยมกล่อมลิโป้ให้ยอมจำนวน ยังเสียลูกปัดทองคำไปถึงสองหีบ เจ้าจะให้ข้าทำอย่างไร หากไม่ใช่เพราะเหวินโยว[1]กล่าวเกลี้ยมกล่อมไว้ ตอนนี้แม้แต่ม้าเซ็กเธาว์ก็คงเสียไปด้วยแล้ว"

[1 ชื่อรองของลิยู]

"ขอท่านไท่ซือโปรดอภัยให้ผู้น้อยด้วย แม้ว่าผู้น้อยจะทำงานล้มเหลว แต่กองทัพปิงโจวไม่มีวันชนะแน่นอน ผู้น้อยพบว่าลิโป้ได้รับบาดเจ็บ การเคลื่อนไหวของเขามีปัญหาอยู่บ้าง" ลิซกรีบกล่าวรายงานสิ่งที่ค้นพบ

"ลิโป้ได้รับบาดเจ็บ?" ตั๋งโต๊ะหัวเราะก่อนจะกล่าวว่า "ดี ดี นับเป็นโอกาสสวรรค์ประทานโดยแท้ เมื่อไม่มีลิโป้ ข้าอยากจะรู้นักว่าเด็กน้อยเต๊งหงวนจะสามารถต้านทานข้าผู้เป็นไท่ซือได้นานเพียงไร"

"ท่านไท่ซือ กำลังพลชั้นยอดและอาชาของปิงโจวหาได้ด้อยกว่าเราสักเท่าใด ขอใต้เท้าโปรดระวัง" ลิยูกล่าวเตือนสติ

"ฮึ่ม เมื่อไม่มีลิโป้เข้าร่วม ทหารของปิงโจวยังมีอะไรน่ากังวล เจ้ารอดูเถอะ ดูว่าไท่ซือผู้นี้จะบดขยี้ทัพศัตรูอย่างไรในวันพรุ่ง!" ตั๋งโต๊ะกล่าวอย่างเหยียดหยาม

วันรุ่งขึ้น ตั๋งโต๊ะสั่งเคลื่อนกองกำลังชั้นยอดจำนวนสองหมื่นนายออกจากเมืองไปทำศึก โดยตั๋งโต๊ะจะนำทัพด้วยตัวเอง

แนวธงโบกสะบัดพัดพลิ้ว เสียงกลองศึกรัวกระหน่ำ เสียงดาบหอกดังกระทบ เสียงกลองดังกังวาน เครื่องแต่งกายไพล่พลสีสันสดใส ทำให้ผู้คนรู้สึกเลือดลมพลุ่งพล่าน ที่แนวหลังของกองทัพ ลิโป้เพิ่งเคยได้เห็นฉากสงครามโบราณของจริงเป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้เพียงเคยเห็นผ่านตาจากในหนัง ในละคร เมื่อเทียบกับฉากที่เบื้องหน้านี้แล้ว ภาพจากภาพยนตร์และละครพลันกลายเป็นเป็นเหมือนการละเล่นของเด็กไป

"ข้าคือแม่ทัพแห่งทัพเสเหลียง ฮัวหยง ผู้ใดกล้าสู้กับข้า?" ฮัวหยงถือดาบยาวยืนอย่างองอาจระหว่างกลางของสองทัพก่อนจะตะโกนท้าทาย

"ผู้ใดจะอาสาออกไป?" เต๊งหงวนหันกลับไปมองเหล่าแม่ทัพนายกองทางด้านหลัง ในใจรู้สึกทุกข์ใจอยู่บ้าง เสียดายที่ลิโป้ได้รับบาดเจ็บ มิเช่นนั้นคงไม่ต้องกังวลเรื่องขุนศึก

การดวลระหว่างแม่ทัพก่อนรบพุ่งกันนั้นเป็นการกระตุ้นขวัญกำลังใจของไพร่พลได้เป็นอย่างดี อย่างที่กล่าวกันว่าแม่ทัพกล้าคือศูนย์รวมจิตใจของไพร่พล หากว่าแม่ทัพนั้นขลาดเขลา แม่ทัพนั้นยังจะคาดหวังให้เหล่าไพร่พลหลั่งเลือดทำศึกได้อีกหรือ?

เมื่อผ่านไปสักพักแล้วยังไม่มีผู้ใดตอบรับคำท้า เตียวเลี้ยวก็หยิบหอกลุกขึ้นยืน "ผู้น้อยขออาสาออกไปตัดหัวฮัวหยงเองขอรับ"

"อืม ลั่นกลองศึกปลุกกำลังขวัญ!" เต๊งหงวนกล่าวด้วยความยินดี

ขณะที่การประลองดำเนินไป หัวใจของเตียวเลี้ยวก็กระตุบวูบ พละกำลังของฮัวหยงนั้นแข็งแรงกว่าตัวเขามากนัก ทำให้แขนของเขาเริ่มรู้สึกชาด้านแล้ว ตอนนี้เขาได้แต่อาศัยการรับมืออย่างรอบคอบเพื่อรับมือกับฮัวหยง แม้ว่าเตียวเลี้ยวจะเป็นขุนศึกมีชื่อเหมือนกัน หากแต่เมื่อต้องมาประลองกับฮัวหยงที่กำลังอยู่ในช่วงที่รุง่โรจน์ที่สุดแล้ว เตียวเลี้ยวก็ยังเป็นรองอยู่ไม่น้อย

ดาบและหอกตรงเข้าปะทะกันและแยกออก ฝุ่นผงม้วนพัดฟุ้งกระจาย เตียวเลี้ยวรู้สึกได้ว่ากำลังแขนของตนเริ่มอ่อนโทรมลง หากแต่ฮัวหยงยิ่งลงมือก็ยิ่งดุดัน หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไปตนอาจจบชีวิตใต้คมดาบของฮัวหยงแล้ว

"ตาย!" ฮัวหยงคำรามพลางใช้กำลังทั้งหมดฟันดาบเข้าใส่เตียวเลี้ยว

เตียวเลี้ยวได้แต่กัดฟันรับท่าโจมตีของฮัวหยงไว้ ปากของเขากระอักพ่นโลหิตฟูฟ่องออกมา แขนของเขาชาด้านและไม่เหลือกำลังเหวี่ยงอาวุธอีกแล้ว เตียวเลี้ยวกระตุ้นม้าพร้อมดึงบังเหียนหันหัวม้าวิ่งกลับค่ายฝ่ายตนทันที

"จะหนีไปไหน?" ฮัวหยงห้อม้าตามหลังมา คิดฉวยโอกาสตอนที่ลิโป้ไม่สามารถลงสู้ศึกสร้างชื่อตัวเองให้ลือลั่น เช่นนั้นแล้วยังจะปล่อยขุนศึกฝ่ายศัตรูไปหรือ?

เต๊งหงวนเมื่อเห็นฉากนี้ก็รีบออกคำสั่งให้ไพล่พลเข้าช่วยเหลือเตียวเลี้ยว ขณะที่สายตาที่มองดูฮัวหยงเริ่มทอแวววิตกกังวลอย่างหนัก

เมื่อเห็นว่าฮัวหยงเป็นฝ่ายได้ชัย ตั๋งโต๊ะก็รีบออกคำสั่งให้กองทัพบุกจู่โจมตามสภาวะ เสียงกีบเท้าม้าดังกระหึ่มใต้แผ่นฟ้า ก่อเกิดเป็นฝุ่นผงปลิวคละคลุ้งทั่วสนามรบ ฮัวหยงชูดาบนำทัพเสเหลียงมุ่งเข้าหาทัพฝ่ายปิงโจว ไม่ว่าควบม้าผ่านไปที่ใดล้วนไม่มีทหารต้านทานติด ทัพม้าเสเหลียงที่ด้านหลังตามติดประดุจเงา ทั้งหมดยกชูหอกพุ่งทิ่มแทงไพล่พลทัพปิงโจวล้มลง

กองทัพเสเหลียงที่ติดตามตั๋งโต๊ะเข้าเมืองหลวงล้วนแต่เป็นทหารชั้นยอด พวกเขาไล่สังหารทัพปิงโจวที่เริ่มถอยอย่างมั่นคง เมื่อเต๊งหงวนเห็นว่าสถานการณ์โน้มเอียงไปทางฝ่ายศัตรู เขาก็รีบสั่งให้แม่ทัพและเหล่าไพร่พลตั้งขบวนรบ

"ฆ่า จับเป็นเต๊งหงวน!" ฮัวหยงตะโกนปลุกปลอบกำลังขวัญ เมื่อสังเกตเห็นธงประจำตัวของเต๊งหงวนก็นำทัพม้าเข่นฆ่าไปทางนั้น

ตั๋งโต๊ะทำศึกมาแล้วหลายครั้งครา แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขานำทัพม้าเข้าตีทัพปิงโจว ยามเมื่อทัพม้าสามารถตีขบวนรบของทัพปิงโจวจนแตก เมื่อนั้นชัยชนะก็จะอยู่ในกำมือของเขาแล้ว

ลิโป้ที่อยู่ด้านหลังของกองทัพรู้สึกไร้ซึ่งกำลัง เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนเพียงคนเดียวจะสามารถพลิกเปลี่ยนได้ สนามรบอันโหดร้ายจะเป็นเครื่องทดสอบการสู้รบอย่างมีประสิทธิภาพของเหล่าทหาร แม้ว่าก่อนการต่อสู้ แม่ทัพที่คุมทัพจะสามารถปลุกปลอบกำลังขวัญของไพร่พลได้ระดับหนึ่ง แต่เมื่อสองทัพเข้ารบพุ่งกันแล้วก็ยากจะส่งผลอีก แม่ทัพเพียงคนเดียวไม่สามารถเข่นฆ่าทหารข้าศึกจำนวนหลายพัน

กองทัพปิงโจวเองก็สมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นกองกำลังชั้นยอด ภายใต้การพุ่งบุกเข้ามาของทหารม้าเสเหลียง ไม่ช้าพวกทหารปิงโจวก็เริ่มที่จะตั้งหลักได้ อย่างไรก็ตาม ลิยูที่มองประเมินสถานการณ์อยู่ก็คอยออกคำชี้แนะ ดังนั้นกองทัพเสเหลียงจึงเริ่มยึดกุมความได้เปรียบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

"ถอยกลับเข้าค่าย!" โกซุ่นชักดาบออกมาพลางตะโกนเสียงดัง

"โอว" ไพร่พลชั้นยอดกว่าแปดร้อยนายขานรับอย่างพร้อมเพรียง

"ฆ่า!" โกซุ่นที่อยู่ใจกลางขบวนรบ ยกชี้ดาบไปทางฮัวหยง

ขณะที่ทั้งสองเผชิญพบกัน ฮัวหยงก็รู้สึกว่าตนเองได้พบเจอกับคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อ แม้ไพร่พลที่เบื้องหน้านี้จะดูเหมือนเป็นไพร่ราบทหารเลวธรรมดา แต่การสอดประสานระหว่างพวกเขากลับสอดรับกันได้เป็นอย่างดี แม้จะสังหารไปได้หลายคน ตัวเขาก็จะได้รับบาดเจ็บเช่นกัน

"ฆ่า!" ฮัวหยงกวัดแกว่งดาบยาวบุกเข้าต่อสู้กับค่ายกลของโกซุ่น