บทที่ 84 ลงนามในสัญญา SG
ทันทีหลังจากออกจากห้อง เฟลิกซ์ก็พบกับการแอบมองหรือจ้องมองมาตรง ๆ เขาเพิกเฉยต่อทุกคนและเดินตรงไปที่ลิฟต์
ยิ่งเขาเดินจากไปไกลเท่าไร เสียงนินทาของพวกเขาก็ยิ่งดังขึ้นเรื่อย ๆ จนพวกเขาพูดออกมาดัง ๆ เมื่อเขาเข้าไปในลิฟต์
“มีใครรู้ชื่อเขาบ้าง” ชายผมสีฉูดฉาดถามกลุ่มคนรอบ ๆ
น่าเสียดายที่ทุกคนส่ายหัวไม่รู้ว่าเฟลิกซ์เป็นใครและมาจากไหน พวกเขาคิดว่าเขาเป็นแขกจากเมืองอื่นของราชอาณาจักร และต้องการใช้เวลาฝึกฝนที่นี่ หรือไม่เขาก็เพิ่งย้ายมาและวางแผนที่จะอยู่ที่นี่เป็นเวลานาน
ข้อสันนิษฐานของพวกเขาอยู่บนพื้นฐานของความจริงที่ว่า เฟลิกซ์เป็นสายเลือดขั้น 1 สูงสุด และสำหรับเขาที่มีความแข็งแกร่งขนาดนี้ แต่ไม่เคยปรากฏตัวในศูนย์ฝึกมาก่อน ทำให้พวกเขาสรุปได้เพียง 2 ข้อนี้เท่านั้น
พวกเขาไม่สนใจว่าเขามาจากไหน และนานแค่ไหนที่เขาวางแผนจะอยู่บนชั้นของพวกเขา สิ่งเดียวที่สำคัญสำหรับพวกเขาคือการให้เขาเข้าร่วมคลับของพวกเขา เพื่อรับความคุ้มครองพิเศษเมื่อคลับอื่นมาท้าทายพวกเขา
น่าเสียดายที่พวกเขาไม่รู้ว่าเฟลิกซ์ไม่ได้สนใจว่าใครจะเป็นเจ้าของชั้นนี้ ตราบใดที่เขาเอาชนะผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในคลับได้ เขาก็จะรักษาตำแหน่งไว้ได้เสมอโดยไม่ต้องเข้าร่วมการต่อสู้เหล่านั้น
“เฮ้อ ฉันหวังว่านอร่าจะพูดเรื่องดี ๆ เกี่ยวกับคลับของเรา”
“ฮิฮิ ฉันเข้าร่วมคลับนี้เพราะความงามของนอร่า ฉันสงสัยว่าเขาจะปฏิเสธไหมหากเธอรับสมัครเขาอย่างแข็งขัน” ชายหน้าตาบึกบึนที่มีกระดูกยาวแหลมคมยื่นออกมาจากข้อศอก ตอบด้วยความมั่นใจ
"นายก็ด้วยเหรอมินตี้??!! ฉันคิดว่าฉันเป็นคนเดียวที่เข้าร่วมเพราะนอร่า" มีคนอุทานด้วยความประหลาดใจภายในกลุ่ม
“ห๊ะ ฉันด้วย ฉันนอนไม่หลับถ้าไม่ได้มาที่คลับอย่างน้อยหนึ่งครั้งเพื่อพบเธอ” ชายร่างสูงมีท่าทางเคลิบเคลิ้ม
"อะแฮ่ม ฉันเข้าร่วมเพราะเมโลดี้" ชายคนหนึ่งซึ่งกำลังถือดัมเบลล์หนัก 100 กิโลกรัมในมือแต่ละข้างกล่าว
“ฉันเพราะเบ็คกี้ อ่า ฉันหวังว่าจะได้คลำบั้นท้ายกระปรี้กระเปร่าของเธอสักครั้ง”
ทันใดนั้น ผู้ชายทุกคนที่อยู่ในกลุ่มก็เริ่มสารภาพเหตุผลที่เข้าร่วมคลับ น่าเศร้าสำหรับพวกเขาที่ไม่มีใครเข้าตาสาว ๆ เลย
สาว ๆ ออกจากห้องซ้อมสาธารณะและกลับเข้าไปในห้องของพวกเธอ ไม่อยากทำให้หูของตัวเองสกปรกเพราะพวกไร้ยางอายพวกนั้นอีกต่อไป
ขณะที่ผู้ชายกำลังคุยกันเสียงดังด้วยใบหน้าเลอะเทอะ ก็มีเสียงแข็ง ๆ ดังขึ้นขัดจังหวะพวกเขา “พวกนายไม่ได้เข้าร่วมคลับเพราะความแข็งแกร่งของฉันเหรอ?”
ใบหน้าของทุกคนกลายเป็นสีดำทันที หลังจากเห็นหัวหน้ายักษ์เงียบของพวกเขาหักข้อนิ้วขณะยืนอยู่ข้างทางเข้า เห็นได้ชัดว่าเขากำลังปิดกั้นเส้นทางหลบหนีของพวกเขา
“เฮ้อ พวกนายมันไร้ศีลธรรมและน่ารังเกียจจริง ๆ ทำไมพูดถึงพี่สาวน้องสาวของเราแบบนี้”
ชายผมขาวส่ายหัวด้วยความผิดหวัง ขยับเข้าไปเข้าใกล้หัวหน้า พยายามยืนข้างเขาเหมือนสุนัขที่ซื่อสัตย์
น่าเสียดายที่แผนของเขาผิดพลาด มือของยักษ์จับหัวของเขาและยกเขาขึ้นจากพื้นอย่างง่ายดาย
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ!!! กระโหลกผมจะถูกหัวหน้าบีบแตกแล้ว วางลง!!” เขาร้องอย่างเจ็บปวดขณะที่มือของเขาพยายามเอาหัวออกจากมือของหัวหน้า น่าเศร้าที่ความแข็งแกร่งของเขาไม่สามารถขยับแม้แต่นิ้วเดียวของหัวหน้าได้
“นายคิดว่าฉันโง่เหรอ ลิโอริโอ? ฉันเฝ้ามองนายมาตั้งแต่แรก เห็นนายคุยโวโอ้อวดเสียงดังว่าจะแตะก้นเบ็คกี้ นี่กล้าพูดจาเลอะเทอะกับพี่น้องตัวเองแล้วเหรอ?” หัวหน้ายกลิโอริโอขึ้นจนพวกเขาเผชิญหน้ากันและยิ้มอย่างอบอุ่นให้เขา "งั้นนายก็ให้ฉันได้มีอะไรไว้คุยโวภายหลังด้วยแล้วกัน"
เขาเหวี่ยงลิโอริโอที่หัวเหมือนลูกกระสุนปืนใหญ่ไปทางหน้าต่างที่เปิดอยู่โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า!!
"อ๊าาาาาาาาา!!!!"
ทุกคนรู้สึกหนาวกระดูกสันหลังอย่างกะทันหัน ขณะที่พวกเขาฟังเสียงกรีดร้องของลิโอริโอที่ร่วงจากชั้น 22
ปัก!
ร่าง ๆ หนึ่งร่วงลงบนโฮเวอร์คาร์ขับผ่านมา ทำให้กระจกด้านหน้าพังเละ และทำให้คนขับซึ่งกำลังคุยกับภรรยาผ่านสร้อยข้อมือตกใจ
"เสียงกระทบเนื้อนั่นอะไรน่ะที่รัก! คุณนอกใจฉันใน UVR อีกแล้วเหรอ??!! แล้วยังกล้ารับสายฉันตอนที่ทำอะไรแบบนั้นอีก!! ออกจากระบบเดี๋ยวนี้!!"
ภรรยาที่รู้สึกไม่ปลอดภัยเชื่อมโยงเสียงเนื้อบดกับเสียงลามกอนาจารในใจของเธอในทันที ตลอดทั้งสัปดาห์ ชายผู้น่าสงสารคนนี้ถูกทารุนเพราะการคุยโวที่หยาบคายของลิโอริโอ
ด้วยความทุกข์ใจ เขาทำได้เพียงพยายามปลอบภรรยาด้วยใบหน้าเปื้อนน้ำตาต่อความอยุติธรรมนี้
....
ในสำนักงานบริหาร SG เฟลิกซ์รออยู่ในห้องรับรองอย่างอดทน
ไม่กี่นาทีต่อมา เขาถูกเรียกเร็วกว่าที่คิด ซึ่งหมายความว่าบลัดไลน์เนอร์ที่อยู่ในห้องอ่านและลงนามในสัญญาเร็วกว่าระยะเวลาที่คาดการณ์ไว้
เฟลิกซ์เดินไปที่ลิฟต์อย่างไม่เร่งรีบและกดปุ่มเลข 4
เมื่อขึ้นมาถึงที่หมาย เขาก็เคาะห้องที่ 3 ทางด้านขวาของเขา
"เชิญเข้ามาครับ" เสียงชายสูงอายุตอบรับการเคาะของเขา
เฟลิกซ์เปิดประตูอย่างแผ่วเบา ไม่กล้าไร้มารยาทต่อหน้าเจ้าหน้าที่ของ SGA
แม้ว่านี่จะเป็นเพียงสาขาย่อยในอาณาจักรมนุษย์ แต่เฟลิกซ์ก็ยังคงต้องแสดงทัศนคติที่ถูกต้องเมื่อต้องรับมือกับใครบางคนในแวดวงการปกครองของ SGA ไม่ว่าจะเป็นภายนอกหรือภายใน เพราะเกรงว่าเขาจะถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าเกมด้วยเหตุผลไร้สาระบางอย่าง
“สวัสดีครับ ผมมาที่นี่เพื่อเซ็นสัญญาเข้าร่วมเกม” เฟลิกซ์ก้มหัวเล็กน้อยและพูดจุดประสงค์ของเขาทันที
“เชิญนั่งก่อนครับ” ชายสูงวัยกล่าวอย่างอบอุ่นหลังจากได้เห็นท่าทีที่เคารพของเฟลิกซ์
"ขอบคุณครับ" เฟลิกซ์นั่งลงและรอให้ผู้สูงอายุมอบสัญญให้เขา
"นี่ครับ"
เจ้าหน้าที่ส่งสัญญาโฮโลแกรมหนา ๆ ให้เขา ซึ่งต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการอ่านอย่างถูกต้อง จากนั้นเขาก็เสริมว่า "คุณสามารถถามผมเกี่ยวกับสิ่งที่คุณไม่เข้าใจได้"
เฟลิกซ์ขอบคุณเขาสำหรับข้อเสนอ แต่เขาไม่ได้สนใจแม้แต่จะดูสัญญา เขาเพียงขอให้ราชินี AI เปรียบเทียบสัญญานี้กับสัญญาสาธารณะของ SGA ในฐานข้อมูล
หลังจากนั้นเขาก็ได้รับการยืนยันว่าทุกอย่างเหมือนกันทุกประการ ดังนั้นเขาจึงเซ็นชื่อโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขาเชื่อคำตัดสินของราชินี AI มากกว่าตัวเอง
เจ้าหน้าที่เปิดปากเล็กน้อย อยากจะพูดอะไรบางอย่างหลังจากเห็นอาการของเฟลิกซ์ แต่เขาปิดปากและคิดกับตัวเองว่า 'วิธีนี้ดีกว่าที่จะเสียเวลา 6 ชั่วโมงอธิบายเรื่องเดิมซ้ำอีกครั้ง'
"ยินดีต้อนรับสู่ Supremacy Games นะพ่อหนุ่ม" เขายืนขึ้นด้วยรอยยิ้มใจดีของผู้สูงอายุ และยื่นมือให้เฟลิกซ์
"ขอบคุณครับ"
เฟลิกซ์จับมือเขาด้วยรอยยิ้มและออกจากห้องไป โดยไม่เสียเวลาของผู้อาวุโสด้วยการประจบสอพลเขาออย่างไม่จำเป็นเหมือนพวกบลัดไลน์เนอร์ส่วนใหญ่ก่อนหน้า
คนส่วนใหญ่เชื่อเสมอว่าเจ้าหน้าที่ของ SGA สามารถช่วยพวกเขาได้เล็กน้อยในระหว่างเกม น่าเสียดายที่ไม่มีใครสามารถยื่นมือเข้าไปได้เกมได้ยกเว้นราชินีที่เป็นกลาง
การให้สินบนเจ้าหน้าที่อย่างเป็นทางการของ SGA เป็นเพียงการให้เงินและของขวัญฟรีแก่พวกเขา พวกเขาจะไม่ปฏิเสธมัน
“ขอให้โชคดีในเกม เพราะคุณจะต้องการโชคอย่างมาก” ชาแก่พึมพำเบา ๆ ขณะมองดูประตูปิดลง จากนั้นเขาก็เรียกพนักงานต้อนรับเพื่อส่งการนัดหมายครั้งต่อไป
น่าสงสัยว่าเขาขอให้บลัดไลนเนอร์ที่ออกจากห้องเขาโชคดีทุกคนหรือไม่
....
เฟลิกซ์ไม่กลับไปบ้านหรือศูนย์ฝึกหลังจากออกจากที่ทำงาน แต่เขาไปที่ตัวแทนจำหน่ายรถโฮเวอร์คาร์เพื่อซื้อรถให้ตัวเอง เนื่องจากมันเป็นเรื่องน่าละอายที่ไม่มีรถในโรงรถทั้งที่เขาเป็นเจ้าของบ้านในวงในของเมืองหลวง นอกจากนี้ เขาเริ่มรู้สึกรำคาญเมื่อต้องนั่งโฮเวอร์แค็บทุกครั้งที่เขาต้องการจะไปที่ไหนสักแห่ง
ดังนั้น เฟลิกซ์จึงใช้เวลาครึ่งชั่วโมงในการค้นหาและทดสอบรถแต่ละคันที่มีสไตล์และราคาแตกต่างกัน
ในที่สุดเขาก็ซื้อโฮเวอร์คาร์สีดำเรียบหรู มันไม่ได้ราคาถูก แต่มันมอบความสบายและทุกสิ่งที่จำเป็นโดยไม่ถูกใครดูถูก เพราะสิ่งสุดท้ายที่เขาต้องการคือให้พวกลูกเศรษฐีมาทำลายค่ำคืนของเขากับนอร่าด้วยการดูถูกรถของเขา
หลังจากทดลองขับรอบเมืองเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง ทักษะการขับขี่ที่ขึ้นสนิมของเขาก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งทักษะการขับที่ดุเดือดจากชาติที่แล้วของเขากลับมาอีกครั้ง
หลังจากสนุกพอแล้วเขาก็หยุดและกลับบ้านเพื่อจัดการตัวเองในตอนเย็น
...
10 นาทีต่อมา
เฟลิกซ์ฮัมเพลงอย่างมีความสุขในห้องอาบน้ำ เห็นได้ชัดว่าเขาอารมณ์ดี ในที่สุดเขาก็จะได้บรรเทาความปรารถนาที่กัดกินเขาตั้งแต่ที่เกิดใหม่
ความจริงมันไม่ใช่ว่าเขาทำไม่ได้ แต่เป็นเพราะแอสน่าสามารถอ่านความทรงจำของเขาได้ เขาเลยมั่นใจว่าเธอจะย่างเขาทั้งเป็นหลังจากที่รู้
พูดถึงมาร มารก็มา
แอสน่าที่ใช้เวลาส่วนใหญ่นอนหลับตื่นขึ้นมาด้วยเสียงฮัมเพลงอันไพเราะของเขา เธอได้กลิ่นความสุขของเขาราวกับปลาฉลามหิวโหยที่ได้กลิ่นเลือดจากที่ไกลออกไป เขาจะมีความสุขได้อย่างไรเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอ? ประสาท!
“โอ้ เฟลิกซ์ที่รักของฉันกำลังจะไปออกเดทโดยไม่ปลุกฉัน” เธอขมวดคิ้ว “ทำไมนายไม่ปลุกฉันเมื่อมีงานสนุก ๆ แบบนี้ล่ะ”
หลังจากได้ยินเสียงต้องสาปของเธอ เฟลิกซ์ก็หยุดฮัมเพลงทันที เขาอ้าปากแต่ไม่รู้จะตอบสนองการหยอกล้อของเธออย่างไร สิ่งเดียวที่เขารู้สึกได้จากการอาบน้ำอุ่น คือความหนาวเหน็บที่หนาวราวกับกำลังยืนอยู่บนยอดเขาโดยไม่ใส่เสื้อผ้า
เขารู้ว่าค่ำคืนของเขากำลังจะถูกทำลาย
แอสน่าหัวเราะคิกคักหลังจากเห็นใบหน้าซีดเผือกของเฟลิกซ์ ที่ราวกับว่าเขาเพิ่งได้ยินข่าวที่บีบหัวใจที่สุดในชีวิต "ทำไมนายถึงอารมณ์เสีย? ฉันก็อยากเห็นวิธีที่มนุษย์ทำนะ"
“ฉันทำไม่ได้เหรอ?” เธอถามพลางขมวดคิ้ว
“แอสน่า เธออ่านความทรงจำของฉันได้ ฉันทำมันผู้หญิงหลายร้อยคน เธอสามารถรับชมได้มากเท่าที่เธอต้องการ” เขาถามด้วยหน้าตาที่น่าสงสารเหมือนสุนัขจรจัด “คืนนี้ปล่อยฉันไว้คนเดียวเถอะ คนสวย ได้โปรด?”
เขาเลิกวางมาดเพื่ออ้อนวอนแอสน่า
เฟลิกซ์กลั้นหายใจ หวังว่าแอสน่าจะไม่อารมณ์เสียและยอมรับคำขอของเขา น่าเสียดายที่มันไม่เกิดขึ้น ตราบใดที่เธอยังติดอยู่ในจิตสำนึกของเขา โหมดผู้หญิงเลวของเธอก็จะเปิดอยู่เสมอ
“ไม่! ฉันอยากดูรายการสด ใครจะไปรู้ ฉันอาจช่วยนายทำให้เธอพอใจได้” แอสน่าปฏิเสธข้อเสนอของเขาด้วยรอยยิ้มขี้เล่น
"อีเวร!!!" เฟลิกซ์ได้แต่ร้องไห้ออกมาด้วยความสิ้นหวัง หลังจากตระหนักว่ามือที่สามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาลนั้นอยู่ภายในตัวเขา
และเธอก็เต็มใจที่จะทำลายค่ำคืนของเขากับนอร่า
---------------------