513 - ภาพวาดภูเขาแม่น้ำ
513 - ภาพวาดภูเขาแม่น้ำ
หลี่รุ่ยเป็นอัจฉริยะที่โดดเด่น แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ยงคงกระพันเหมือนบุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงแต่เขาก็มีความสามารถอย่างยิ่ง และเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงในรุ่นของเขา
นับตั้งแต่เขาเข้ามาในโลก เขาได้พบกับความพ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่างแรกเขาถูกบดขยี้โดยยอดฝีมือที่ไม่มีใครเทียบ เซี่ยจี้โหยว และเมื่อเร็วๆนี้เขาถูกไล่ล่าโดยผังป๋อจนเกือบจะตายอย่างอนาจ
ไม่ใช่ว่าเขาไม่แข็งแกร่งพอ หากเขาไม่มีพรสวรรค์อันยิ่งใหญ่เขาจะไม่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นหนึ่งในบุตรศักดิ์สิทธิ์สำรองอย่างแน่นอน
เขาฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บในตำหนักหิมะนิรันดร์กาลได้สองสามวันแล้ว หลังจากหายดีเขาก็เริ่มคิดถึงการกลับสู่นิกายของตัวเอง
หลังจากที่เขาบินออกจากภูเขาได้ไกลกว่าพันลี้ เขาก็สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ มีคนกำลังตามเขาอยู่ และดูเหมือนว่าคนผู้นั้นจะไม่กลัวถึงผลที่ตามมาเลยเพราะเขาไม่ได้ปิดบังตัวเองด้วยซ้ำ
เขาขยับร่างกายแล้วมองย้อนกลับไป เมื่อเขาเห็นผังป๋อที่มีผมสีดำโบกสะบัดอยู่บนท้องฟ้าราวกับเทพมาร ใบหน้าเขาก็เปลี่ยนสีไปในทันใด
หลี่รุ่ยหันหลังและพยายามหลบหนี แต่มีใครบางคนขวางทางอยู่ข้างหน้า เย่ฟ่านยืนถือแส้ศักดิ์สิทธิ์ ขณะที่ตู้เฟยถือหม้ออสูรกลืนสวรรค์
นอกจากนี้ยังมีสุนัขสีดำตัวใหญ่วิ่งอยู่บนท้องฟ้าอย่างมีความสุข
"เจ้า"
หลี่รุ่ยหน้าเปลี่ยนสี แค่ผังป๋อก็เพียงพอที่จะฆ่าเขาได้ ด้วยผู้ช่วยที่ทรงพลังเช่นนี้ หัวใจของเขาจึงจมดิ่งลงอย่างสมบูรณ์
เย่ฟ่านเยาะเย้ยแล้วกล่าวว่า “ไม่ใช่ว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของพวกเจ้าชอบทำงานร่วมกันในการไล่ล่าผู้คนหรือ วันนี้ข้าอยากจะลองวิธีของพวกเจ้าบ้าง”
“ร่างเซียนพิการ เจ้ากล้าที่จะต่อสู้กับข้าเพียงลำพังหรือไม่?” หลี่รุ่ยพยายามท้าทายเย่ฟ่านโดยมองหาโอกาสที่จะทะลวงออกจากวงล้อม
“เมื่อเจ้ากล้าส่งยอดฝีมือมาไล่ล่าข้าทำไมเจ้าไม่สู้คนเดียวดูล่ะ ตอนนี้ข้าก็แค่ลอกเลียนวิธีการของพวกเจ้าเท่านั้น” เย่ฟ่านสืบเท้าเดินไปข้างหน้าโดยไม่ลังเลในขณะที่ตู้เฟยก็ติดตามเขาไปอย่างกระชั้นชิด
ผังป๋อหยุดพวกเขาไม่ให้ออกมาข้างหน้าและพูดว่า
"เด็กน้อยนี่เป็นเหยื่อของข้า ข้าจะจัดการเขาเอง"
หลี่รุ่ยโกรธจัด บุตรศักดิ์สิทธิ์สำรองของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งแสงโชติช่วงถูกดูหมิ่นเหยียดหยามเช่นนี้จะให้เขาทนรับได้อย่างไร
หลี่รุ่ยระเบิดพลังศักดิ์สิทธิ์แห่งความโกลาหลทำให้ลานน้ำแข็งสั่นสะเทือน และแสงศักดิ์สิทธิ์พี่ออกมาจากร่างกายของเขาท่วมท้นสวรรค์และปฐพี
ทักษะแสงศักดิ์สิทธิ์ของคัมภีร์ความโกลาหลแห่งจักรวาลของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงสามารถชำระล้างสวรรค์และปฐพีถือได้ว่าเป็นวิชาธาตุไฟที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนรกร้างตะวันออก
นอกจากนี้ทักษะการป้องกันของพวกเขาก็น่าทึ่งมาก มันมีทักษะศักดิ์สิทธิ์เพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้นที่สามารถต่อสู้กับทักษะชนิดนี้
"เก้ากระบวนท่าสังหารจักรพรรดิอสูร!"
ผังป๋อตะโกน ในทันใดนั้นความว่างเปล่าก็เริ่มบิดเบี้ยวก่อนที่ความมืดจะกลืนกินแสงศักดิ์สิทธิ์ของหลี่รุ่ยเข้าไปอย่างรวดเร็ว
แสงสีเงินสองดวงลอดผ่านช่องว่างและทะลุผ่านร่างของหลี่รุ่ยทำให้เกิดรูเลือดขนาดเท่ากำปั้นสองรูอยู่ที่หน้าอกของหลี่รุ่ย
หลี่รุ่ยมีสถานะเป็นถึงศักดิ์สิทธิ์สำรองของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วง
แน่นอนว่าเขาไม่ถึงกับพ่ายแพ้อย่างรวดเร็วขนาดนั้น ในตอนนี้เขาส่งเสียงคำรามด้วยความโกรธพร้อมกับคายเจดีย์เล็กๆออกมาจากปาก
เจดีย์เล็กๆสีทองขยายใหญ่ขึ้นภายในเวลาเสี้ยวลมหายใจก่อนที่มันจะกดเข้าหาผังป๋อ
ผังป๋อไม่ได้แสดงความกลัวแม้แต่น้อย ลำแสงสีเงินสองเส้นของเขาเจาะสวรรค์เข้าหาเจดีย์โบราณตรงๆโดยไม่หลบเลี่ยง
ปัง!
สมบัติอันหนักอึ้งนี้ถูกเจาะทะลวงเป็นรูขนาดใหญ่ ความแข็งแกร่งของพลังจากผังป๋อนั้นแม้แต่พวกเย่ฟ่านก็ยังตกใจไม่น้อย
“ทักษะศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ ข้าไม่เคยเห็นจริงๆ!” ตู้เฟยพูดไม่ออก
"คัมภีร์โบราณที่ถ่ายทอดโดยจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ของเผ่าพันธุ์อสูรและทักษะอันศักดิ์สิทธิ์ในนั้นก็น่ากลัวเช่นกัน" ไฟในดวงตาของสุนัขสีดำตัวใหญ่นั้นลุกโชน
หลี่รุ่ยตกใจอย่างยิ่ง ทักษะศักดิ์สิทธิ์ของอีกฝ่ายนั้นทรงพลังมากจนทำให้เขารู้สึกสิ้นหวังอย่างแท้จริง
เขากรีดร้องด้วยความกลัวและหันหลังหนี ไม่ว่าหน้าตาหรือศักดิ์ศรี ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนไม่สำคัญอะไรทั้งสิ้น คู่ต่อสู้เช่นนี้หากกล้าต่อต้านจะมีเพียงความตายเท่านั้นที่รออยู่
“เก้ากระบวนท่าของจักรพรรดิอสูร!”
ผังป๋อตะโกนอย่างเย็นชาและลำแสงสีเงินสองเส้นก็บินเข้าหาหลี่รุ่ยที่กำลังหลบหนี
"อา..."
หลี่รุ่ยร้องลั่นเกิดรูเลือดขนาดใหญ่อีกสองรูในร่างกายของเขา
เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและจะต้องตายอยู่ที่นี่อย่างไม่ต้องสงสัย
หลี่รุ่ยกัดฟัน หว่างคิ้วทั้งสองข้างมีแสงสว่างวาบขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เขาต้องการใช้ทักษะแสงศักดิ์สิทธิ์ขั้นสุดยอดเพื่อเผาตัวเองให้ตายไปพร้อมกับคู่ต่อสู้
แต่ผังป๋อไม่ได้ให้โอกาสเขา พลังศักดิ์สิทธิ์ของเทพอสูรถูกเผาผลาญอย่างรุนแรงในขณะที่ผังป๋อกระแทกฝ่ามือบดขยี้ศีรษะของหลี่รุ่ยจากระยะไกล
"ปัง!"
หลี่รุ่ยตกลงมาจากท้องฟ้าและกระแทกแผ่นน้ำแข็งจนพื้นที่บริเวณนั้นกลายเป็นสีแดงฉานโดยไม่มีผู้ใดทราบชะตากรรม
“พี่ผังแข็งแกร่งมาก การได้เป็นสหายของเจ้าไม่รู้ว่าเป็นโชควาสนากว่าการเป็นศัตรูกับเจ้ามากแค่ไหน!” ตู้เฟยสูดลมหายใจเข้าไปอย่างหนาวเหน็บ
“ข้าฝึกฝนสำเร็จเพียงสามกระบวนท่าแรกของเก้ากระบวนท่าสังหารจักรพรรดิอสูร นี่เป็นทักษะศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งที่สุดของข้า ถ้าเขายังหนีไปได้ข้าก็หมดปัญญาที่จะไล่ตามเขาแล้ว”
“เจ้าถ่อมตัวเกินไปแล้ว ไม่ว่าใครก็ตามที่สามารถรอดชีวิตจากทักษะศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะกวาดล้างยอดฝีมือระดับเดียวกันทั้งหมด” ตู้เฟยอุทาน
หลังจากที่พวกเขากลับมายืนบนพื้นอีกครั้ง จักรพรรดิดำก็เหยียดอุ้งเท้าใหญ่ดึงหลี่รุ่ยเข้ามาอย่างกระตือรือร้น
"สัตว์เลี้ยงมนุษย์ของข้า"
เมื่อได้ยินสองคำนี้หลายคนก็ตกตะลึงเล็กน้อย
“เจ้าเด็กนี่ยังไม่ตายอีกเหรอ เราจะทำอย่างไรกับเขา?” ตู้เฟยถาม
“ปิดผนึกต่อไป ในอนาคตเขาจะกลายเป็นแรงงานที่แข็งแกร่งกว่าคนอื่น” เย่ฟ่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม
"กลุ่มนักขุดของเราเริ่มยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยแล้วๆ" ตู้เฟยส่งเสียงหัวเราะอย่างสบายใจ
สี่วันต่อมา เย่ฟ่าน, ผังป๋อ, ตู้เฟยและสุนัขสีดำตัวใหญ่ก็จัดวางกำลังดักซุ่มโจมตีผู้บ่มเพาะหญิงของคฤหาสน์ม่วงอีกครั้ง
ผู้บ่มเพาะหญิงของคฤหาสน์ม่วงนั้นอายุไม่มากนัก นางอายุประมาณยี่สิบปี นางสวมชุดยาวสีม่วงและยืนอยู่บนท้องฟ้ามองดูพวกเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย
เย่ฟ่านรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย หญิงสาวคนนี้มีพลังเกินกว่าหลี่รุ่ยที่พวกเขาจู่โจมเมื่อไม่กี่วันก่อนหลายเท่า นี่เป็นคนระดับเดียวกันกับบุตรศักดิ์สิทธิ์แสงโชติช่วงอย่างไม่ต้องสงสัย
“เทพธิดาคฤหาสน์ม่วง ข้ายังไม่ได้ถามชื่อเจ้าเลย”
“จื่อเซี่ย” เสียงขอหญิงสาวแห่งคฤหาสน์ม่วงสงบและไม่สั่นคลอน
"เจ้าไม่คิดจะเข้าสู่ขั้นสี่สุดขั้วแล้วหรือถึงตั้งตัวเป็นศัตรูกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด รีบปล่อยพี่น้องของข้าออกมาแล้วข้าจะถือว่าพวกเราไม่เคยมีความแค้นต่อกัน"
เย่ฟ่านรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เทพธิดาจื่อเซี่ยนั้นไม่ธรรมดา จริงๆ บางทีการปรากฏตัวของนางในวันนี้อาจจะเป็นการเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีแล้วก็ได้
“อันที่จริงข้าไม่ต้องการเป็นศัตรูกับเจ้า แต่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดส่งศิษย์มากมายมาตามล่าข้า มันทำให้ข้ายากที่จะสงบใจได้จริงๆ”
“ดังนั้นเจ้าจึงตั้งใจจะฆ่าข้าที่นี่” จื่อเซี่ยยังคงสงบนิ่งและไม่ได้แสดงความโกรธแค้นอะไร
เย่ฟ่านยิ้มและกล่าวว่า
"แน่นอนว่าพวกเราไม่มีทางทำอะไรไร้มารยาทถึงขนาดนั้น พวกเราเพียงต้องการเชิญเทพธิดาจื่อเซี่ยร่วมทางสักระยะหนึ่ง พวกเราขอสาบานว่าจะให้เกียรติเจ้าอย่างแน่นอน"
“เจ้าคิดจะจับข้าเป็นตัวประกันเหรอ? ก็เอาสิ” เสียงของจื่อเซี่ย ยังคงสงบแต่มันแฝงไปด้วยไอสังหารเล็กน้อย
ในขณะนั้น ผังป๋อ ตู้เฟยและสุนัขสีดำตัวใหญ่ก็เริ่มปิดล้อมสถานที่อย่างรวดเร็ว
"เทพธิดาจื่อเซี่ยพวกเราต้องขอเสียมารยาทแล้ว" ตู้เฟยถอนหายใจ
"ชั้วะ"
แต่ในขณะที่พวกเขากำลังวางค่ายกลเพื่อดักจับจื่อเซี่ย จู่ๆภาพวาดขนาดใหญ่ก็ครอบลงมาจากท้องฟ้า กลิ่นอายเอ๋าอันทรงพลังของมันปิดผนึกรอบทิศทางอย่างแน่นหนา
"ภาพวาดภูเขาแม่น้ำ!"
ในตาของตู้เฟยหดตัวและเขากระโดดลงไปในหม้ออสูรกลืนสวรรค์ของตัวเองโดยไม่ดังเลย
“ระวัง ภาพวาดนี้เกี่ยวโยงกับกฎสวรรค์และปฐพี มันเป็นอาวุธทรงอำนาจของคฤหาสน์ม่วง !”
ในม้วนภาพ ภูเขาอันและแม่น้ำนั้นยิ่งใหญ่นั้นสง่างาม เมื่อผสมผสานกับความงามของเทพธิดาจื่อเซี่ยในชุดสีม่วงมันกลับกลายเป็นความลี้ลับที่น่ากลัวอย่างถึงที่สุด