สุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ (SDFW)-ตอนที่ 71
ตอนที่ 71 การเมืองในสำนักงาน
ในที่สุดลุคก็ขจัดปัญหาทั้งหมดของเขา หลังจากนั้นเขาก็จะได้มีความสุขกับการพักผ่อนเป็นเวลาสามวันอย่างสงบสุข โดยที่ไม่มีใครรบกวนเขาอย่างแน่นอนตลอดระยะเวลาสามวันต่อจากนี้
เป็นเพราะว่าเจ้าหน้าที่ FBI ปลอมๆ สองคนนั้นได้ให้ลุคลงนามในสัญญาว่าห้ามเปิดเผยข้อมูลที่ได้คุยกันกับพวกเขาเพิ่มอีกหนึ่งฉบับ ลุคจึงคาดเดาได้ว่า SHIELD ต้องการที่จะเข้ามามีส่วนในจัดการเรื่องนี้อย่างแน่นอน
และด้วยการที่ SHIELD เข้ามามีส่วนร่วมในเรื่องนี้นั้น ไม่ว่า FBI และตำรวจก็ไม่อาจจะตรวจสอบลุคได้อีก
เพราะหากพวก FBI หรือตำรวจต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมจากลุค พวกเขาจะต้องไปคุยและขอข้อมูลจาก SHIELD เท่านั้น
และแน่นอนว่าพวกเขาต้องหาหน่วย 17 ของ FBI ที่เวสล์อ้างถึง ให้เจอก่อนหล่ะนะ เพราะหน่วยที่ว่านี้ ไม่มีแม้แต่สำนักงานด้วยซ้ำ
แต่ถึงอย่างนั้นโธมัสก็ไม่เคยเรียกลุคกับเซลิน่ามาถามเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้เลย และพวกลุคเองก็ไม่เข้าไปรายงานกับโธมัสด้วยเช่นกัน ลุคกับเซลิน่าก็แค่ทำงานตามปกติต่อไปราวกับไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
ใบหน้าของบร็อคดูบิดเบี้ยวทันทีเมื่อเห็นลุคและเซลิน่า
บร็อคไม่สามารถปิดบังความโกรธของเขาได้ หรืออันที่จริงแล้วอาจจะเพราะว่าเขาจงใจที่จะแสดงออกมาว่าเขาโกรธเกี่ยวกับเรื่องนี้
บร็อคทำหน้าไม่พอใจพร้อมกับโยนแฟ้มคดีให้ลุคและเดินผ่านเขาไป
ลุคกับเซลิน่าไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไร ราวกับว่าพวกเขาไม่ได้สังเกตเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโมโหของบร็อค
ระหว่างที่ลุคกับเซลิน่าเดินเข้าไปที่โต๊ะทำงานของพวกเขาก็ไม่มีใครทักทายพวกเขาอีกเลย
เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ทุกคนในแผนกสัมผัสได้ถึงความโกรธที่บร็อคมีให้กับลุคและเซลิน่า ซึ่งคนอื่นๆ ในแผนกไม่อยากทำให้เจ้านายไม่พอใจด้วยการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เด็กใหม่สองคนที่พวกเขาแทบไม่รู้จักเลย
แต่กระนั้นลุคและเซลิน่าก็ไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ เซลิน่ากระซิบกับลุคด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาว่า “นายพูดถูกเลย ผู้ชายคนนั้นใจแคบจริงๆ”
ลุคเปิดดูแฟ้มคดีอย่างใจเย็น “เขาก็แค่โชคร้ายหน่ะ ไอ้แผนการเตะตัดขาเล็กๆ น้อยๆ ของเขามันง่ายเกินไปหน่อย”
หลังจากอ่านแฟ้มคดีอยู่ครู่หนึ่ง ลุคก็โยนมันกลับบนโต๊ะแล้วเอนหลังพิงเก้าอี้ “ตอนนี้เขาพัฒนาขึ้นมาบ้างแล้วหล่ะ และเลือกที่จะให้เราทำคดีเล็ก ๆ แทน”
เซลิน่าอ่านไฟล์สักครู่และเข้าใจ “คดีคนหายงั้นหรอ ก็นะมันจะแปลกอะไรหากเราไม่พบหลักฐานอะไรเลย แม้ว่าจะสืบสวนมาทั้งชีวิต หรือสุดท้ายแล้วที่จริงแล้วเราอาจสืบทราบว่าผู้หญิงคนนี้ตั้งใจหนีออกมาเองเพราะถูกครอบครัวทำร้ายก็ได้”
ลุคพยักหน้า "แหง่อยู่แล้ว ไปกันเถอะ ยังไงนี่ก็คืองานอยู่ดี นอกจากนี้ถือซะว่านี่เป็นโอกาสที่เราจะทำคุ้นเคยกับย่านนี้ และผมไม่คิดว่าบร็อคจะสามารถหยุดเราได้นานนักหรอก”
เนื่องจากว่าลุคและเซลิน่ายังเพิ่งเข้ามาใหม่ที่นี่ พวกเขาจึงต้องรับมอบหมายงานจากบร็อคเท่านั้น
แต่ทว่าเมื่อพวกเขาสร้างคอนเนคชั่นของตัวเองได้เมื่อไร งานก็จะไปหาพวกเขาโดยตรง
พวกนักสืบหลายคนในกองปราบปรามอาชญากรรมเวลาออกพื้นที่สืบสวนพวกเขาได้ทิ้งนามบัตรกับพยานที่เกี่ยวข้องในพื้น
และเมื่อคนเหล่านั้นมีปัญหา พวกเขาก็จะเข้ามาติดนักสืบตามนามบัตรเพื่อขอความช่วยเหลือเอง และนักสืบก็จะได้คดีเหล่านั้นไปโดยปริยาย
หากนักสืบสามารถพัฒนาคอนเนคชั่นของพวกเขาได้ พวกเขาก็จะสามารถใช้สอบสวนและไขคดีต่างๆ โดยไม่ยากนักจากข้อมูลที่ได้รับมาจากเส้นทางแบบนี้
บร็อคสามารถมอบหมายให้ใครคนไหนดูแลคดีใดก็ได้ หากว่าเขารู้ว่าเรื่องนั้นๆ เกี่ยวกับอะไร อย่างไรก็ตาม บร็อคไม่สามารถทำแบบนั้นได้ตลอด
ใครเป็นคนได้รับแจ้งคดีก็ต้องรับผิดชอบคดีนั้น นี่เป็นกฎที่ไม่ต้องบอกแต่ทุกคนก็ปฏิบัติตาม
กฎนี้จะถูกมองข้ามก็ต่อเมื่อนักสืบคนที่รับเรื่องไม่สามารถแก้ไขคดีได้ หรือระหว่างที่เขากำลังดำเนินงานอยู่เขาได้สร้างปัญหาตามมามากเลย
ถึงยังไงลุคยังเป็นเด็กใหม่สำหรับที่นี่ เขาไม่รีบร้อนที่จะมองหาคดีด้วยตัวเขาเอง
การที่จะใช้เวลาสองสามเดือนเพื่อทำความคุ้นเคยกับสถานที่ของที่นี่นั้นไม่ใช้เรื่องเลวร้ายอะไรเลย
เวลาผ่านไปสามวันหลังจากได้คดีมา ลุคไม่มีความคืบหน้าในคดีคนหายนี้เลย
ลุคได้ถามเพื่อนบ้านและเพื่อนร่วมงานของหญิงสาวที่หายตัวไป แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติอะไร
ส่วนสามีของเธอก็ไม่มีอะไรน่าสงสัยเช่นกัน คดีนี้ถึงทางตันแล้ว
เซลิน่าค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ลุคไม่ได้กังวลอะไร
ในระหว่างที่พวกเขากำลังสืบสวนคดีนี้ พวกเขาก็มองหาสถานที่ที่พวกเขาจะสามารถฝึกซ้อมได้
การฝึกยิงปืนนั้นไม่มีปัญหา เพราะสถานีตำรวจผูกขาดกับสนามยิงปืน และค่าใช้จ่ายก็ถูกมากด้วยเช่นกัน
ในที่สุดลุคก็พบสถานที่ที่มีห้องส่วนตัวใช้สำหรับฝึกยิวยิตสู
การค้นหาสถานที่เช่นนี้ในสถานีตำรวจนั้นง่ายมากจากบันทึกการใช้สถานที่ของตำรวจ อย่างไรก็ตาม พวกเขาต้องตรวจสอบสภาพแวดล้อมและราคาด้วยตนเอง
พวกเขาพบชมรมศิลปะการต่อสู้ใกล้ๆ กับสถานีตำรวจ ซึ่งมีเจ้าของเป็นชายวัยกลางคนชาวจีน
ลุคไม่สนใจเรื่องนั้น เขาแค่อยากเช่าห้องในคลับ
คลับมีห้องว่างเยอะมาก และแน่นอนว่าเจ้าของก็ไม่ปฏิเสธ
อันที่จริงเซลิน่าอาจเป็นปัจจัยร่วมด้วย
เซลิน่ามีความมั่นใจมากว่าการเจรจาแบบนี้ยังไงเธอก็ทำได้ดีกว่าลุค เจ้าของผู้เป็นชายวัยกลางคนจะไม่ปฏิเสธโอกาสที่จะพูดคุยกับสาวสวยอย่างเธอไม่มีทางแน่นอน
หลังจากที่ตกลงกันได้แล้ว ทั้งสองคนก็ทำงานกันในตอนกลางวันและออกกำลังกายกันหลังเลิกงาน
ตอนนี้เซลิน่ามีที่ไว้ระบายความโกรธแล้ว เซลิน่าก็จะไม่ฝืนทนเหมือนเมื่อก่อน
ทุกครั้งที่บร็อคให้คดีใหม่กับพวกเขา บร็อคก็จะติเตียนพวกเขาที่ไม่ได้ทำงานหนักพอในคดีคนหาย
ลุคต้องแอบดึงเซลิน่าอยู่หลายครั้งเพื่อไม่ให้เธอทำอะไรที่ไม่ควร
ลุคไม่สนใจเรื่องนี้แม้แต่น้อย
ยิ่งกว่านั้น ทั้งบร็อคและพวกเขาก็ไม่สามารถพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้กลางออฟฟิศได้
เพราะถ้าบร็อคกล้าพูดแบบนี้กลางออฟฟิศ ทุกคนในแผนกกองปราบอาชญากรรมก็จะกลายร่างเป็นขยะสดทันที เพราะคดีทั้งหมดที่ยังกองพะเนินอยู่ไม่คลี่คลายเป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปีด้วยซ้ำ
ลุคเพียงแค่ชมการแสดงของบร็อคแล้วทิ้งแฟ้มคดีใหม่ที่ทำเสร็จแล้วไว้ให้บร็อคแล้วออกห้องไป
แต่ทว่าลุคไม่ได้บอกลาอย่างสุภาพเหมือนเมื่อก่อน เขาพียงแค่ลากเซลิน่าออกไป
บร็อคขมวดคิ้วอย่างเคร่งขรึม แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
เพราะลุคและเซลิน่ามีโธมัสหนุนหลังพวกเขาอยู่และพวกเขามีส่วนทำให้เกิดคดีใหญ่แบบนี้ในพื้นที่ บร็อคมีวิธีไม่มากที่จะใช้ปราบปรามพวกเขา
เพราะเมื่อไม่กี่วันก่อน โธมัสเพิ่งจะเรียกเขาไปพบและตะโกนด่าใส่เขา ว่าเขาเป็นคนงี่เง่าหัวหมู
.
.
.
B_R : ปุกาศ ปุกาศ !!!!!!!!!
กลับมาแล้ววววววววว นะครับผู้อ่านทั้งหลาย
ถึงจะช้าแต่ก็จะพยายามเร่งให้ได้อ่านกันไวๆ นะครับ
.
.
เรามีเพจแล้วน้าเข้าไป Follow กดถูกใจ พูดคุย ติดตามข่าวสารกันได้น้า ….
https://www.facebook.com/สุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ-SDFW-105519611538127