195-196
5/10
Ep.195
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้อันหยุนหลานตื่นตกใจมากที่สุดไม่ใช่รสชาติอันโอชะของมัน เซอร์ไพรส์ของจริงตามมาทีหลัง
พลังทางจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์พลันระเบิดจากปากเธอ แม้เพียงครู่เดียว แต่ผลกระทบทางจิตของเธอกลับได้รับการฟื้นฟูจนหายดี กระทั่งพลังจิตของเธอก็ยังเพิ่มสูงขึ้นจนสามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจน
จากนั้น ข้างในจิตสำนึกของอันหยุนหลานคล้ายปรากฏความรู้แจ้งบางอย่างขึ้น ราวกับว่าเธอได้เข้าถึงบางสิ่งบางอย่างที่แสนลึกล้ำ
อันหยุนหลานค่อยๆหลับตาลง ซึมซับความรู้สึกนี้อย่างเงียบๆ
มองไปยัง อันหยุนหลานที่คล้ายจมอยู่ในห้วงภวังค์ ฉู่เซวียนยิ้ม เอ่ยว่า “รอไม่ไหวแล้วใช่ไหม มาเริ่มกันเลย”
“โบร๊ว~ ในที่สุดก็ถึงตาเราซักที!” หลังอานพูด แหงนหน้าหอนขึ้นฟ้า ขดตัวเตรียมกระโจนใส่หม้อตุ๋นทันที
อย่างไรก็ตาม ด้วยสายตาที่เฉียบคมและมือที่ว่องไวของฉู่เซวียน เขาเลยสามารถดึงมันออกมาได้ทัน
ตัวเขาและอี้อี้ยังไม่ได้กินเลย ขืนปล่อยให้หลังอานกระโจนใส่มัน เกรงว่าอาหารคงไม่เหลือมาถึงพวกเขา
“เจ้าหนู ทำไมห้ามเราราชา!” รู้สึกได้ว่าร่างที่กำลังจะพุ่งไปข้างหน้าถูกฉู่เซวียนคว้าไว้ หลังอานหันหัวกลับมามองด้วยความไม่พอใจ
ฉู่เซวียนกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “นายเป็นสัตว์กลายพันธุ์ระดับสูงนะ เวลากินจะไม่มีมารยาทหน่อยหรอ?”
มารยาท? ได้ยินคำนี้ ความสงสัยผุดขึ้นบนใบหน้าของหลังอาน
นับแต่มันเปลี่ยนเป็นสัตว์กลายพันธุ์และสามารถเปิดภูมิปัญญาได้ มันก็ใช้ชีวิตโดยการดื่มเลือดกินเนื้อมาโดยตลอด แล้วจะทราบได้อย่างไรว่าสิ่งนี้หมายความว่ายังไง
เห็นหลังอานจมอยู่ในห้วงความคิด อีกด้านหนึ่ง ฉู่เซวียนหันไปตักโจ๊กเพิ่มอีกสองชาม
อี้อี้รับหนึ่งในนั้นมา กล่าวด้วยรอยยิ้ม “มารยาทที่ว่าก็คือการกินกับชามข้าว!”
หลังอานพอได้ยินในที่สุดก็ได้สติกลับมาอีกครั้ง มองไปยังโจ๊กสีขาวที่เหลืออยู่เกือบครึ่งในหม้อ สุดท้ายมันก็เลือกประนีประนอม
“ก็ได้ ก็ได้ แค่มารยาทใช่ไหม เราราชาจะลองมีมารยาทดูซักครั้ง” หลังอานกล่าวอย่างไม่เต็มใจ
“ดีมาก เอ้านี่ส่วนของนาย” ฉู่เซวียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! งั้นเราราชาไม่เกรงใจแล้วนะ” หลังอานกล่าว
“ฮี่ ฮี่ ฉันจะก็กินแล้วเหมือนกัน” อี้อี้ยิ้มแย้ม
แล้วโจ๊กก็เข้าปากทั้งสอง พริบตานั้นรสชาติอันโอชะสัมผัสลิ้นของทั้งคู่ทันที
และวินาทีถัดมา พลังงานอันบริสุทธิ์จากข้างในโจ๊กสีขาวก็ระเบิดออก
บรึ้มมม!
ร่างของอี้อี้กับหลังอานสั่นสะท้าน สัมผัสได้ถึงพลังจิตที่เพิ่มขึ้นหลายเปอร์เซ็นต์ การแสดงออกบนใบหน้าของทั้งสองเผยถึงความตื่นตกใจ
“พลังจิตของเราราชาเพิ่มขึ้นมาก!” หลังอานร้องอุทาน
“ใช่ ใช่” อี้อี้พยักหน้าซ้ำๆ กล่าวว่า “ของฉันก็เหมือนกัน!”
เอฟเฟกต์ที่ช่วยเพิ่มพลังจิตถึง 3% สำหรับผู้ที่มีเลเวลต่ำอาจรู้สึกไม่ค่อยมีประโยชน์อะไร ยังไงก็ตาม สำหรับผู้แข็งแกร่งอย่างอี้อี้และหลังอานแล้ว 3% ที่ว่านี้มหาศาลมาก
อย่างไรก็ตาม ฉู่เซวียนที่เฝ้ามองอยู่พบว่า นอกจากพลังจิตที่เพิ่มสูงขึ้นแล้ว ทั้งสองไม่มีปฏิกิริยาใดๆอีก ชัดเจนว่าไม่ได้รับอบิลิตี้พลังจิตใหม่ นี่ทำให้เขาอดผิดหวังเล็กน้อยไม่ได้ ดูเหมือนว่าโชคในครั้งนี้จะตกอยู่กับอันหยุนหลานเพียงคนเดียว
“เจ้าหนู เจ้าทำสิ่งนี้ได้อย่างไร?” หลังอานอดไม่ไหว หันไปถาม ฉู่เซวียน
ใบหน้าของฉู่เซวียนผุดรอยยิ้มลึกลับสื่อความหมายประมาณว่า ‘นี่เป็นความลับของฉัน ไม่บอกนายหรอก!’
6/10
Ep.196
หลังอานพอจะเดาได้ว่า ฉู่เซวียนต้องการจะพูดอะไร ทันใดนั้นมันกล่าวอย่างเกียจคร้านว่า “จิ๊ ไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูด เราราชาแค่อยากรู้ก็เท่านั้น ...”
ฉู่เซวียนเห็นภาพนี้ ใบหน้าเขาอดยกยิ้มขึ้นมาไม่ได้ หันมาตักส่วนแบ่งของตัวเอง
หลังจากนี้ ไม่มีใครพูดคุยกันอีก ได้ยินเพียงแต่เสียงอึก อึก จากการกลืนซุปลงคอเท่านั้น
กลิ่นหอมนี้ฟุ้งกระจายไปทั่ว สัตว์กลายพันธุ์นับไม่ถ้วนล้วนได้กลิ่น อย่างไรก็ตาม ด้วยแรงกดดันของหลังอานกับอี้อี้ ทำให้พวกมันไม่กล้าเข้ามา ได้แต่เดินเตร่อยู่รอบนอกเท่านั้น
สุดท้าย อีกไม่กี่นาทีต่อมา พวกฉู่เซวียนก็กินโจ๊กกันเกือบหมด
ณ ขณะนี้ อันหยุนหลานที่ยืนนิ่งอยู่ข้างๆในที่สุดก็เริ่มขยับตัว
บรึ้มมมม!
พายุพลังจิตกวาดฮือออกจากร่างอันหยุนหลาน อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ไม่มีผลกระทบต่อ พวกฉู่เซวียน ทั้งหมดเฝ้ามองด้วยความสนอกสนใจ
“จุ๊ จุ๊ จุ๊ ดูเหมือนว่านังหนูนั่นจะได้ประโยชน์ไปไม่น้อยเลย” หลังอานเดาะลิ้น
“ใช่” อี้อี้พยักหน้าของเธอ เอ่ยต่อว่า “พลังรบในตอนนี้ของพี่สาวอันน่าจะขึ้นมาเป็นเลเวล 5 ขั้นกลางแล้ว ถือว่าเร็วมากจริงๆ”
ระหว่างการสนทนาของหลังอานกับอี้อี้ ในที่สุดอันหยุนหลานก็ค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ แสงระยิบระยับสะท้อนจากในดวงตาเธอ
จากนั้น อันหยุนหลานสูดหายใจลึก หันมามองหน้าทุกคน กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “โชคดีจริงๆ ฉันตัดผ่านได้สำเร็จแล้ว แถมยังได้รับอบิลิตี้ใหม่ด้วย!”
ฉู่เซวียนกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ดูเหมือนเธอจะได้รับอบิลิตี้พลังจิตท่าใหม่ ว่าแต่มันเป็นท่าอะไรกัน? ลองโชว์ให้ฉันดูหน่อยสิ”
“ได้เลย” อันหยุนหลานพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
ได้ยินแบบนั้น หลังอานกับอี้อี้ก็เริ่มสนใจขึ้นมาบ้างเช่นกัน ทั้งสองตั้งหน้าตั้งตารอดูเธอ
เห็นแค่เพียงดวงตาของอันหยุนหลานหรี่แคบลงเล็กน้อย พลังจิตอันลึกล้ำเล็ดลอดออกจากร่างเธอในคราเดียว
ต่อมา พลังจิตเหล่านั้นลอยล่องไปยังร่างของฉู่เซวียนอย่างช้าๆ
เห็นภาพนี้ ฉู่เซวียนเผลอเปิดใช้งานภูมิคุ้มกันทางจิตโดยไม่รู้ตัว ยังไงก็ตาม อันหยุนหลานได้เอ่ยออกมา “อย่าขัดขืน พลังนี้ไม่เป็นอันตรายต่อนาย”
เสียงของอันหยุนหลานดังขึ้น ขณะเดียวกันพลังจิตที่ราวกับสายน้ำไหลซึมเข้าไปในตัวฉู่เซวียน
จากนั้น ฉู่เซวียนรู้สึกราวกับว่ามีการเชื่อมโยงพิเศษระหว่างจิตใจของเขากับอันหยุนหลาน
‘ฮี่ ฮี่ นายได้ยินฉันไหม?’
ในตอนนั้นเอง เสียงที่ฟังดูซุกซนของหญิงสาวดังขึ้นในใจฉู่เซวียน
ฉู่เซวียนหันขวับไปมองอันหยุนหลาน และพบว่าฝ่ายหลังขยิบตาให้เขา
‘นี่น่ะหรออบิลิตี้ใหม่ของเธอ ใช้ได้นี่นา!’ ฉู่เซวียนตอบในใจเช่นกัน
อีกด้านหนึ่ง หลังอานเห็นแค่ว่าฉู่เซวียนกับอันหยุนหลานเพียงมองหน้ากันอย่างเงียบๆ ก็เกิดความสงสัยขึ้นมา “เฮ้ พวกเจ้าสองคนทำอะไรกันอยู่? บอกหน่อยสิว่าพลังที่นังหนูได้รับคืออะไร?”
อันหยุนหลานพอได้ยินก็เอ่ยปากพูด “เป็นความสามารถทางจิตที่เชื่อมโยงจิตใจกับคนอื่น และถ้าเชื่อมโยงกับใคร ฉันก็จะสามารถพูดคุยกับเขาผ่านโลกแห่งจิตสำนึกได้ แต่เหมือนว่านี่จะเป็นแค่ส่วนน้อยของมันเท่านั้น ฉันเรียกมันว่า จิตเชื่อมโยง”
“จิตเชื่อมโยง? ฟังดูเป็นพลังที่ค่อนข้างน่าสนใจดี” หลังอานพอได้ยิน ก็พยักหน้าแล้วถามต่อ “อ้อจริงสิ แล้วมันใช้เชื่อมจิตกับใครได้บ้าง มีข้อจำกัดอะไรไหม?”