191-192
1/10
Ep.191
“นายจะทำยังไงต่อ?” เพื่อต้องการทำลายบรรยากาศแปลกๆนี้ อันหยุนหลานหันไปมองโสมกลายพันธุ์ แล้วเปลี่ยนหัวข้อแทน
“ก็จะทำอะไรได้อีก” ฉู่เซวียนยิ้ม เงาโลหิตในมือวูบไหวเป็นริ้วอันงดงาม “แน่นอนว่าต้องทำอาหาร”
ว่าจบ ฉู่เซวียนยังหยิบผ้ากันเปื้อนออกจากพื้นที่ระบบ และสวมมันลงในร่างกาย แสดงให้เห็นว่าเขากำลังจะเอาจริง
อันหยุนหลานตะลึงเล็กน้อย เหม่อมองฉู่เซวียนที่เวลานี้กลายเป็นพ่อครัวไปซะแล้ว เธอได้แต่ขยี้ตาด้วยความเหลือเชื่อ ก่อนถามหยั่งเชิงว่า “นี่นายทำอาหารได้จริงๆหรอ?”
“เหอ เหอ เธอไม่เคยได้ยินหรอ ว่าผู้ใช้พลังระดับสูงที่ทำอาหารไม่เป็น ไม่นับเป็นทหารที่ดี” ฉู่เซวียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
อันหยุนหลาน “??”
มองไปยังสีหน้าสับสนของ อันหยุนหลาน ฉู่เซวียนหัวเราะทันที
เห็นภาพนี้ อันหยุนหลานค่อยรู้ตัว ว่าฉู่เซวียนพึ่งหลอกเธอ เธอมองค้อนเขาด้วยสายตาที่ทั้งโกรธทั้งอาย
อย่างไรก็ตาม หลังจากเห็นเงาโลหิตกำลังเตรียมหั่นโสมกลายพันธุ์ อันหยุนหลานก็สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ ไม่พูดออกมากวนสมาธิเขาอีก
อีกด้านหนึ่ง
ฉู่เซวียนเตรียมตัวพร้อมแล้ว เขาครุ่นคิดเล็กน้อยว่าจะเอามันไปทำอะไรดี
โสมในประวัติศาสตร์จีน คือสมุนไพรที่ถูกใช้เป็นยาบำรุงเสมอมา และขนาดของโสมกลายพันธุ์นี้ค่อนข้างใหญ่ ฉู่เซวียนจึงตัดสินใจใช้มันทำเป็นอาหารบำรุงกำลัง
เมื่อได้ข้อสรุปแบบนี้ ฉู่เซวียนไม่ลังเลอีกต่อไป เงาโลหิตตัดโสมที่มีขนาดเท่าหัวมนุษย์ออกทันที
ในคราเดียว เมื่อเนื้อโสมถูกกรีด กลิ่นหอมอันรุนแรงพลันฟุ้งกระจาย ทุกคนรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าพลังงานลึกล้ำบางอย่างที่กักเก็บอยู่ข้างในกำลังทะลักออกมา
ฉู่เซวียนกวาดมือทันที ใส่ส่วนที่ยังไม่ใช้ลงในพื้นที่ระบบ เพราะเขาเคยทดสอบมาแล้ว ว่าช่วงเวลาในพื้นที่ระบบเหมือนจะหยุดนิ่ง
กล่าวคือ ไม่ว่าจะใส่อะไรลงไป ก็จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อยยามนำมันออกมา
จากนั้น ฉู่เซวียนลองนึกทบทวนดู ก่อนนำขวดเครื่องเทศบางชนิดออกมาเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังมีเนื้อเซิร์กเลเวล 5 , ข้าว และส่วนผสมต่างๆอีกมากมาย
ได้เห็นเทคนิคความชำนาญของฉู่เซวียน อันหยุนหลานอดเผยอปากขึ้นเล็กน้อยไม่ได้
ตอนแรกเธอคิดว่า ฉู่เซวียนล้อเล่นเรื่องทำอาหาร เพราะท้ายที่สุดแล้ว ในโลกหายนะใบนี้ จะมีผู้ใช้พลังคนไหนมามัวสนใจเรื่องทำอาหารอีก?
อย่างไรก็ตาม หลังจากได้เห็นฝีมือที่ฉู่เซวียนแสดงออกมา ในที่สุดอันหยุนหลานก็ต้องยอมรับ
ต่อมา ฉู่เซวียนหยิบหม้อตุ๋นขนาดใหญ่ใบหนึ่งออกจากพื้นที่ระบบ วางปัง! กระแทกลงกับพื้น
เมื่อเห็นว่าฉู่เซวียนกำลังจะเริ่มปรุงอาหารแล้ว หลังอานกับอี้อี้ก็วิ่งเข้ามาล้อมหน้าล้อมหลังเขาเหมือนกับฉลามที่ได้กลิ่นคาวเลือด
เห็นแค่เพียงน้ำลายไหลย้อยลงจากปากหลังอาน จับจ้องฉู่เซวียนไม่วางตา ปากเอ่ยร้องตลอดเวลา “เจ้าหนู เร็วเข้าสิ เรารอไม่ไหวแล้ว!”
แม้อี้อี้จะไม่พูดอะไร แต่สภาพของเธอแทบไม่ต่างจากหลังอานมากนัก ใบหน้าน้อยๆเต็มไปด้วยความคาดหวัง
เห็นภาพนี้ อันหยุนหลานเผยสีหน้างงงวยออกมา มันก็มันก็แค่อาหารจานนึงไม่ใช่หรอ? ทำไมต้องตั้งตารอถึงขนาดนั้น?
“ทำไมทุกคนถึงทำแบบนั้นล่ะ?” อันหยุนหลานถามด้วยความขบขัน
ได้ยินแบบนั้น หลังอานชำเลืองมองไปยังอันหยุนหลานด้วยสายตาดูแคลน ส่งเสียงฮึ่มๆว่า “เหอ เหอ เอาไว้รอเจ้าได้ชิมมันก่อนเถอะ แล้วจะรู้เองว่าทำไม ”
พอได้ฟัง ใจของอันหยุนหลานถูกกระตุ้นอย่างแรง เธอเริ่มตั้งตารอเหมือนคนอื่นๆ เกิดความคาดหวังขึ้นมา ว่าอาหารประเภทใดกันหนอที่สามารถทำให้ผู้แข็งแกร่งเช่นหลังอานกับอี้อี้ถึงกับต้องแสดงปฏิกิริยาเช่นนี้ออกมา
2/10
Ep.192
เป็นผู้ชายที่ลึกลับอะไรอย่างนี้!
มองไปยังสีหน้าจริงจังของฉู่เซวียน อันหยุนหลานเกิดความคิดนี้ขึ้นในใจ
ยังไงก็ตาม หลังจากจัดการส่วนผสมต่างๆอย่างชำนาญแล้ว จู่ๆ ฉู่เซวียนกลับหยุดมือ
เห็นแบบนี้ หลังอานรีบถามขึ้นทันที “เจ้าหนู ทำไมไม่ทำต่อเล่า?”
ฉู่เซวียนยักไหล่ เอ่ยว่า “ก็อยากทำอยู่ แต่จะทำได้ยังไงถ้าไม่มีไฟ?”
ฉู่เซวียนเตรียมพร้อมทุกอย่างแล้ว เหลือแค่กองไฟเท่านั้นที่ยังขาดไป
หลังอานพอได้ยิน ดวงตามันสว่างไสวขึ้นทันใด กระดิกหางด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย “ที่แท้ก็เรื่องง่ายๆแค่นี้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า มาๆๆ เราราชาจะช่วยเจ้าเอง”
“นายจะช่วย?” ได้ยินแบบนั้น สีหน้าของฉู่เซวียนฉายชัดว่าไม่น่าไว้ใจขึ้นมา เอ่ยถามอย่างระแวง
เห็นปฏิกิริยาที่อีกฝ่ายแสดงออกมา หลังอานพึมพำด้วยความไม่พอใจ “เจ้าหนู ท่าทีแบบนั้นหมายความว่ายังไงกัน ไม่เชื่อเราราชางั้นหรือ?”
“ก็ได้ เชื่อก็เชื่อ งั้นมาลองดูกัน” ฉู่เซวียนหัวเราะซ้ำๆ
เอาจริงๆเขาก็ชักอยากจะเห็นเหมือนกัน เพราะเขาพึ่งรู้ว่าพลังรบของหลังอานแข็งแกร่งกว่าที่คิดมาก อีกทั้งยังว่องไวอย่างน่าเหลือเชื่อ อยากจะเห็นจริงๆว่ามันจะความสามารถอะไรอีก ดังนั้น เมื่อมันอยากแสดงฝีมือ ฉู่เซวียนก็พร้อมสนอง
“ตกลง” หลังอานพยักหน้า จากนั้นเอ่ยเตือน “เจ้าหนู ถอยออกไปหน่อย เดี๋ยวโดนลูกหลงเข้าจะไม่ดี อ้อ พวกเจ้าสองคนด้วย”
ได้ยินคำนี้ ฉู่เซวียนและคนอื่นๆ พากันถอยออกมาหลายก้าวทันที
ฟู่วววว!
เห็นแค่เพียงดวงตาของหลังอานกลายเป็นแข็งทื่อ มันสูดหายใจเข้าอย่างช้าๆ จากนั้นพ่นลมหายใจออกอย่างแรง
ในคราเดียว เปลวเพลิงสีม่วงเข้มพลันกวาดออกมาราวกับมังกรพ่นไฟ
ชั่วพริบตากวาดไปถึงหม้อตุ๋น ภายใต้การแผดเผาของเปลวไฟนี้ อากาศโดยรอบคล้ายดูบิดเบี้ยวเล็กน้อย ทุกท่านสามารถจินตนาการถึงอุณหภูมิของมันได้
เห็นภาพนี้ ลางสังหรณ์ไม่ดีผุดขึ้นในใจฉู่เซวียน
บรึ้มมมม!
เป็นอย่างที่คาดไว้ วินาทีถัดมา พร้อมกับเสียงดังก้อง จุดที่เปลวไฟม่วงเข้มพุ่งลงไปเกิดการระเบิดอย่างกะทันหัน
เห็นภาพนี้ ฉู่เซวียนได้แต่ยกมือขึ้นกุมขมับ
ไม่ต่างจากที่คิด เขาไม่น่าไว้ใจให้หลังอานทำเลย
“ทำไมนายไม่ปรับไฟให้มันน้อยๆหน่อย ดูที่นายทำตอนนี้สิ!” ฉู่เซวียนกล่าวอย่างหมดหนทาง
เห็นแค่เพียงหม้อตุ๋นที่หลังจากสัมผัสเปลวไฟม่วงเข้ม เวลานี้ถูกหลอมเหลวกลายเป็นแอ่งโลหะใสที่กำลังส่งเสียงฟู่ ฟู่ออกมา
และจุดที่มันตั้งอยู่ เวลานี้ยุบตัวลงเป็นปล่องขนาดใหญ่ที่มีรัศมีหลายเมตร ตรงขอบปล่องแดงฉาน เห็นได้ชัดว่าถูกปกคลุมไว้ด้วยอุณหภูมิสูง
อันหยุนหลานกับอี้อี้มองหลังอานด้วยสายตาชืดชา เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจที่มันทำให้ทุกอย่างยุ่งเหยิง
ส่วนหลังอานแม้ปกติมันจะหน้าหนามาก แต่ครั้งนี้ยังอดอายไม่ได้ เพราะยังไงซะ ตอนแรกเป็นมันที่เอ่ยปากอย่างมั่นใจ
สิ่งต่อมาที่มันทำคือหัวเราะกลบเกลื่อน เอ่ยว่า “อะแฮ่ม ก็แค่ผิดพลาดทางเทคนิคเล็กน้อย ขอลองอีกสักครั้ง เชื่อได้เลยว่าครั้งนี้ต้องควบคุมกำลังไฟได้”
“ครั้งสุดท้ายนะ” ฉู่เซวียนถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
ก่อนหน้านี้ในหม้อตุ๋น โชคดีที่มันมีแต่น้ำเปล่า ยังไม่ได้ใส่ส่วนผสมอื่นๆลงไป
ตอนนี้พอมาลองคิดดู ถือว่าฉู่เซวียนมีไหวพริบไม่เลว
ต่อมา ฉู่เซวียนเอาหม้อตุ๋นใบใหม่ออกจากพื้นที่ระบบ จากนั้นใส่น้ำแล้ววางลงบนพื้น ขณะเดียวกันไม่ลืมเตือนซ้ำๆ “หลังอาน จำไว้ให้ดี คราวนี้อย่าใช้ไฟแรงอีก ฉันเหลือใบนี้ใบสุดท้ายแล้วนะ”
“เชื่อมือได้เลย” หน้าสุนัขของมันเต็มไปด้วยท่าทีจริงจัง